สวัสดีค่ะ คือเราจะมาระบายปัญหาภายในบ้านตัวเองค่ะ คือแม่เราเค้ามีแฟนใหม่ค่ะนั่นก็คือพ่อเลี้ยง เขาคบกันตั้งแต่เราอายุประมาณ8ขวบแล้วค่ะ ตอนนี้เรา15ปีแล้ว ตอนแรกๆเราไม่ได้มีปัญหาอะไรมากค่ะ เราใช้ชีวิตตามปกติมองโลกในแง่ดีตามประสาเด็กคนนึง ซึ่งพอเวลาผ่านๆไปก็มีทะเลาะกันบ้างค่ะ มีช่วงที่เราชอบซุ่มซ่ามทำของพัง ก็เลยโดนพ่อกับแม่ด่าทำร้ายจิตใจบ่อยมากค่ะ ตอนนั้นจำได้ว่าร้องไห้ทุกวันเลยค่ะ ทรมานมาก ตอนนั้นอายุประมาณ10-11 ปีค่ะ ส่วนแม่ก็มีทะเลาะกับพ่อบ้างค่ะ ตอนที่เค้าทะเลาะกันแม่ก็จะชอบมาบ่นให้เราฟังค่ะ แล้วก็พาลด่าเราไปด้วย ยกตัวอย่างเค้าด่าพ่อเลี้ยงว่า ชอบก่อแต่ปัญหาวุ่นวาย น่ารำคาญชิบ*าย เราที่นั่งฟังอยู่ก็ไม่อะไรค่ะ เราก็แค่มองหน้าแม่สื่อว่าเรากำลังฟังอยู่ แล้วพอแม่สบตาเรา แม่ก็ด่าเราเลยค่ะ แบบ ก็เหมือนกันนั่นแหละ สร้างแต่ปัญหาวุ่นวายกันทั้งสองตัวเลย เราที่ได้ยินก็แบบ น้อยใจค่ะด้วยความเป็นเด็ก แบบทำไมแม่ต้องพูดคำหยาบใส่เราด้วย คือตอนเด็กๆเรารักแม่มากค่ะ เราพูดบอกว่ารักแม่ได้แบบธรรมดาเลยค่ะ แต่พอเรารู้สึกคาดหวังกับแม่มากไปแล้วพอแม่ไม่เป็นไปอย่างที่เราหวัง เราก็เลยเสียใจมากเลยค่ะ ยกตัวอย่างเราคิดว่าถ้าแม่กลับมาเราน่าจะได้คุยเรื่องสนุกๆกันแล้วก็ได้นอนกอดกันแน่เลย แต่พอแม่กลับมาถึง เราจำได้แค่ว่าแม่ก็จะชอบด่าเราด้วยถ้อยคำแรงๆค่ะ แม่ชอบทำร้ายความรู้สึกเราด้วยคำพูดบ่อยมาก นานๆทีจะตีเราสองสามครั้งค่ะ ตีเราแรงๆ แต่เราก็ไม่รู้สึกเจ็บหรอกนะคะ ที่เจ็บปวดก็คือคำพูดของแม่ที่ด่าเราว่าภาระนั่นแหละค่ะ ด่าเราว่าเป็นตัวเงินตัวเงินทอง ทำประโยชน์อะไรไม่ได้เลย เราทรมานกับคำพูดแม่มากค่ะตอนนั้น เรานอนร้องไห้ไม่ค่อยเข้าใจเลยค่ะว่าเราผิดอะไรขนาดนั้น แต่ความจริงหลังจากเราคิดย้อนไปตอนนั้นเราก็เข้าใจอยู่ค่ะว่าเราทำอะไรผิด คือเราชอบตื้อเวลาแม่เรียกค่ะ เราชอบพูดคำว่าเดี๋ยว เพราะว่าเราติดเกมมากค่ะ แม่ไม่ค่อยมีเวลาให้เรา เราเลยเล่นแต่เกม พอแม่ใช้งานเวลาเราเล่นเกมอยู่เราเลยตื้อบ่อยมากค่ะ แม่ก็เลยด่าเราค่ะ ความทรงจำในวัยเด็กของเรามันมีแต่ตอนที่แม่ด่าเราค่ะ มีแต่คำพูดที่ทำร้ายความรู้สึก ตอนที่แม่เข้าข้างพ่อเลี้ยงแล้วรุมด่าเรา ตอนนั้นเราเสียใจที่สุดแล้วค่ะ มันเหมือนกับว่าเราไม่ได้มีอะไรอยู่ในชีวิตแล้วค่ะ เพราะเวลาร้องไห้เราก็จะนึกถึงแม่ตลอด ไปไหนเราก็คิดถึงแม่ เครียดอะไรเราก็นึกถึงแม่ แต่พอแม่เข้าข้างพ่อเลี้ยงแล้วด่าเราแบบนั้นคือเราเจ็บปวดใจมากเลยค่ะ เหมือนแม่ไม่ได้อยู่ข้างเราอีกต่อไป พวกเขาด่าเราบ่อยมากค่ะ แต่คำพูดที่เราจำไม่ลืมเลยคือ จะร้องไห้อะไรนักหนา อย่ามาสำออยหน่อยเลย หยุดร้องไห้เดี๋ยวนี้ พ่อเลี้ยงเป็นคนพูดค่ะ หลังจากประโยคนั้นเราก็เริ่มตั้งคำถามกับตัวเองแล้วค่ะ ว่าทำไมถึงได้เอาแต่ร้องไห้ ทำไมถึงได้ร้องไห้ตลอดตอนพ่อกับแม่ด่า หรือว่าเราจะสำออยจริงๆ ตั้งแต่นั้นเราก็เริ่มเก็บความรู้สึกแล้วค่ะ รู้สึกอะไรก็ไม่ค่อยพูด เพราะไม่อยากให้ใครมาบอกว่าเราสำออยทั้งๆที่ความรู้สึกของเรามันเป็นความรู้สึกจริงๆ เราเป็นเด็กเก็บกดมากค่ะ ตอนนั้น แต่เพราะว่าเรายังมีเพื่อนที่โรงเรียนอยู่ค่ะ เลยไม่ค่อยเครียดมาก ตอนนั้นเหมือนกับว่า ไปโรงเรียนก็คือไปพักผ่อนน่ะค่ะ ส่วนกลับมาบ้านก็คือกลับมาหานรก เราก็เริ่มไม่ชอบแม่ตัวเองแล้วค่ะตอนนั้น เริ่มมีความรู้สึกจะเกลียดแม่ค่ะ แต่ตอนเรียนมันมีวิชาจริยะศึกษาอยู่ค่ะ เราก็เลยได้เรียนเรื่องกรรม แล้วก็เลยกลัวบาปค่ะ ตอนนั้นเชื่ออะไรง่ายค่ะ เลยคิดว่าถ้าเกลียดแม่ต้องตกนรกแน่เลย ก็เลยพยายามจะเฉยๆกับแม่ค่ะ คือถ้าเราไม่รักแม่แต่เราก็ไม่เกลียดแม่แบบนี้ดีกว่า แต่ความรู้สึกโกรธมันก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆค่ะ จนเราปลงกับแม่ไปแล้วค่ะ เราบอกตัวเองเลยว่า ถ้าแม่มาบอกขอโทษเราในอนาคต ถึงแม้ว่าเราจะให้อภัยแม่ แต่เราก็จะไม่มีวันบอกว่ารักแม่อีกเด็ดขาด เราจะดูแลแม่ทุกอย่าง แต่เราจะไม่รักแม่เราอีกแล้ว ถึงแม่จะโกรธเกลียดเราต่อไปนี้ก็ไม่เป็นไร เพราะเราก็ไม่รักแม่เหมือนกัน เราเฉยชากับแม่มากค่ะหลังจากตอนนั้นก็ขึ้นม.1ค่ะ เราก็ไปมีปัญหากับเพื่อนคนนึงค่ะ ซึ่งมีปัญหาได้สองสามวันก็คืนดีกันค่ะ เราเป็นคนไปบอกขอโทษเค้า แต่พอหลังจากนั้นทุกอย่างมันก็ไม่ได้เหมือนเดิมค่ะ เรามีปัญหาในการจับกลุ่มกับเพื่อนค่ะ ด้วยความที่อยู่กับเพื่อนมาตลอด พอได้มาเป็นเศษเหลือตอนจับกลุ่มในห้อง มันก็รู้สึกแย่มากค่ะ เราเริ่มเครียดเรื่องเพื่อน เรื่องครอบครัว เรื่องเรียน ทุกๆอย่างมันตีกันไปหมดจนเราเริ่มมีความคิดอยากฆ่าตัวตายค่ะ เราอยากตายมากแต่ก็ทำไม่ได้ค่ะ เราค้นหาในเน็ตบ่อยมากเลยค่ะ ว่าทำยังไงถึงจะความสุขขึ้นได้ มันแทงใจดำเราตรงที่เค้าบอกว่าถ้าเครียดก็ให้ไปปรึกษาครอบครัวค่ะ แต่ถ้าเราเครียดเรื่องครอบครัวเราก็ไปปรึกษาครอบครัวตัวเองไม่ได้สิคะ ตอนนั้นหยุดเรียนบ่อยมากค่ะ เพราะเครียด เกิดความไม่มั่นใจจนไม่กล้าไปเรียน เริ่มตั้งคำถามกับตัวเองอีกว่าเรียนไปทำไม พอได้คำตอบว่าเรียนเพื่อใบจบม.3 เพื่อที่จะได้หางานทำ เราก็พยายามเรียนค่ะ พยายามปั้นหน้ายิ้มมีความสุขไปเจอเพื่อนที่โรงเรียน แต่ว่าเราเรียนไม่รู้เรื่องเลยค่ะ แต่เพราะความขยันเราก็พยายามส่งงานให้ครบค่ะ เกรดก็ออกมาต่ำกว่าตอนอยู่ประถมมากค่ะ แต่ก็ไม่ได้แย่จนถึงกับดูไม่ได้ พอม.2ช่วงโควิด เค้าให้ปิดเทอมยาวค่ะ เพราะการระบาดของเชื้อโควิด ตอนนั้นเราดีใจมากค่ะที่ไม่ต้องไปเรียน มันเหมือนเราตัดเรื่องเครียดออกไปได้เรื่องนึงค่ะไม่ต้องทนตื่นไปเรียนเพราะปวดหัวจากการร้องไห้เพราะโดนแม่ด่าแล้วค่ะ ตอนนั้นเรามีเพื่อนออนไลน์ด้วยค่ะ เลยเหมือนได้พักฟื้นจากความทรมานค่ะ พอปลายปีเราก็ลบบัญชีเพื่อนออนไลน์ทิ้งค่ะ เพราะเป็นตอนที่เปิดเทอมแล้วค่ะ เราเลยคิดว่าถึงเวลาที่ต้องอยู่กับความเป็นจริงแล้ว คิดว่าพอผ่านมาปีนึงจากม.1 เราก็เลยปรับตัวได้ค่ะ เราเดินคนเดียวนั่งคนเดียวได้โดยไม่ต้องแคร์สายตาคนอื่นแล้วค่ะ ถึงแม้ว่าจะมีเครียดๆบ้างแต่ก็ไม่หนักหนาอะไรมากค่ะ แต่ความคิดฆ่าตัวตายของเรามันก็มีอยู่เรื่อยๆค่ะ มาเป็นหนักตอนม.3 ก็คือปีที่แล้วค่ะ ตอนนั้นก็ได้ปิดเทอมค่ะ แต่เราก็เครียดเรื่องครอบครัวหนักมากค่ะ คิดฆ่าตัวตายแทบทุกวันทุกเดือนค่ะ แต่มันก็เป็นปีที่เราได้ปรับความเข้าใจกับแม่ด้วยค่ะ เรารู้สึกเหมือนได้ยินคำว่าขอโทษครั้งแรกหลังจากที่ได้ทะเลาะกับแม่ค่ะ เราก็ไม่อะไรมากค่ะ เพราะปกติก็โกรธเอง หายเองอยู่แล้วค่ะ พอเราได้คุยกับแม่มากขึ้นเราก็เริ่มมีความหวังที่จะใช้ชีวิตต่อมากขึ้นค่ะ เพราะแม่ชอบคุยเรื่องเรียนว่าจบแล้วจะไปเรียนต่อที่ไหนดี เรียนเสร็จแล้วก็ต่อมหาลัยให้จบนะ ปกติเราไม่ได้คิดเรื่องเรียนเลยค่ะ ในหัวเรามีแต่ว่า คงจะได้ฆ่าตัวตายก่อนเรียนจบล่ะมั้ง แต่พอแม่ได้มาคุยกับเรา เราก็รู้สึกจะดีขึ้นเรื่อยๆค่ะ ถึงจะเรียนไม่รู้เรื่องเหมือนเดิม แต่ไม่ค่อยได้ทะเลาะกับแม่เหมือนแต่ก่อนแล้วค่ะ แต่คราวนี้ก็เหลืออยู่เรื่องนึงก็คือเรื่องพ่อเลี้ยงค่ะ แม่กับเค้าทะเลาะกันบ่อยมากค่ะ แต่เราพูดตามตรงว่าเราไม่ได้สนใจมากค่ะ เพราะแค่ตัวเองก็เครียดจนจะตายอยู่แล้ว แต่เราเห็นภาพนึงกับตาค่ะ คือเค้ามาทะเลาะกันต่อหน้าเราค่ะ แล้วพอด่ากันไปด่ากันมา พ่อเลี้ยงก็เหมือนเถียงไม่ได้ก็เลยถีบหน้าแม่เราค่ะ ตอนนั้นเราตกใจมาก ไม่คิดเลยว่าเค้าจะทำแบบนี้ มันเป็นภาพติดตาเราไปเลยค่ะ เราเริ่มรู้สึกสงสารแม่ขึ้นมาค่ะ เพราะปกติเราเมินเฉยปล่อยให้เค้าทะเลาะกันตลอด เพราะไม่กล้าห้าม เรากลัวเสียงตะคอกของพวกเค้าค่ะ และก็เพราะได้ยินแต่เสียงก็เลยไม่รู้ว่าเค้าทำร้ายร่างกายกันด้วยค่ะ พอเรารู้แบบนั้นเราก็เลยถามแม่ว่า แม่ยังรักเค้าอยู่มั้ย ที่ผ่านๆมาเราไม่เคยถามค่ะ เพราะดูภาพมันทำให้เราเดาได้อยู่แล้วค่ะ เพราะแต่ก่อนหลังจากเค้าทะเลาะกัน ก็กลับมาคืนดีกัน แล้วด่าเราเหมือนเดิมค่ะ เราเลยไม่อยากสนใจว่าเค้าจะเป็นตายร้ายดียังไง แต่พอเป็นตอนนี้เราก็อยากจะช่วยแม่บ้างค่ะ แม่ก็เลยบอกว่าไม่ได้รักมันแล้ว มันอยู่ไปก็ไม่ได้ช่วยอะไรเลย ค่าน้ำค่าไฟก็ไม่เคยจะช่วยจ่าย นานๆ6เดือนครั้งถึงจะช่วยครั้งนึง อยากให้มันออกไปจากชีวิตสักที แม่เราบอกแบบนี้ค่ะ เราก็คิดแบบนี้มาตั้งนานแล้วค่ะ แต่ไม่เคยพูด เราเลยบอกว่าให้เอาเบอร์ย่ามา (แม่พ่อเลี้ยง)ถ้ามีโอกาสหนูจะลองโทรไปขอร้องเค้าให้มาเอามันกลับไปดู แม่ก็ให้เบอร์มาค่ะ เราโทรไปหาเค้าค่ะ แล้วเค้าก็โทรกลับมาบอกขอคุยกับพ่อเลี้ยงหน่อย พอคุยกันเสร็จ ย่าก็บอกว่าอาจได้มารับมันตอนไปตอนสิ้นปีนี้นะ(สิ้นปี64)ตอนนั้นจะโทรมาอีกที แต่พอถึงตอนสิ้นปีจริงๆแม่ก็มาบอกเราว่าไม่ต้องไปรับสายเค้าแล้วนะ แม่จะลองให้โอกาสมันดู คือเค้าช่วยซ่อมประตูรั้วใหแม่ค่ะ แม่เราเลยเปลี่ยนใจ เราเลยโมโหแม่ค่ะ พูดออกไปว่า แม่อยากจะให้โอกาสมันแม่ก็ให้ไปคนเดียวเถอะ หนูไม่มีโอกาสให้มันแล้วล่ะ ที่เราพูดแบบนี้เพราะเค้าชอบพูดดูถูกเราค่ะ เราเลยเกลียดเค้ามาตั้งแต่เด็กแล้ว พอแม่ได้ยินแบบนั้นแม่ก็บอกว่าแค่ว่าอืมค่ะ หลังจากนั้นพอผ่านปีใหม่มาได้ประมาณ4วันเค้าก็ทะเลาะกันอีกค่ะ คราวนี้เราก็ได้ยินแม่บอกว่าเมื่อไหร่จะไปซักจากชีวิตกูสักที เราได้ยินคำนี้มาประมาณสิบๆรอบแล้วค่ะรวมกับของปีที่แล้วด้วย พอเราได้ยินแบบนั้นเราก็โอกาสได้ไปคุยกับแม่ในห้องค่ะ เราเลยถามแม่ไปเลยค่ะว่า แม่อยากให้มันอยู่กับแม่อยู่มั้ย อย่าลังเลอีกนะ หนูขอตรงๆเลย แม่ก็บอกว่าไม่เอาแล้วค่ะ ที่จะให้โอกาสเพราะเห็นทำดีให้ค่ะ แปปๆทำชั่วจะขโมยกุญแจรถแม่เราอีก แม่บอกว่าต้องลุ้นให้มันเบิกเงินที่ธนาคารได้มันบอกว่าถ้าเบิกได้ มันก็จะไป เราก็รอลุ้นตามแม่ค่ะ อยากให้เค้าไปจากชีวิตเราซักที จนถึงคืนนี้ค่ะ เราได้ยินเค้าพึมพำเกี่ยวกับเราประมาณว่ากูไม่กลัวหรอกนะ เป็นแค่เด็กกูจะไปกลัวทำไม ระวังไว้เถอะ เดี๋ยวเถอะ พอได้ยินแบบนั้นเราก็รู้สึกแค้นเหมือนกันค่ะ แต่ก็กลัวเหมือนกัน คือเหมือนเค้าจะฆ่าเราเลยค่ะ เราไม่ได้เวอร์นะคะ เพราะตลอดเวลาที่เค้าอยู่ที่นี่ ถึงแม้ว่าเค้าจะขยันทำงาน แต่ก็แทบไม่เคยให้เงินแม่เราใช้เลย นานๆให้ที ส่วนเราก็ไม่เคยไปขอเงินเค้าสักครั้งค่ะ มีครั้งนึง แค่ครั้งเดียวนะคะ เค้าให้เงินกับยายเราแล้วก็ให้กับเราให้เงินแม่ คนละประมาณ3-4ร้อยค่ะ หลังจากนั้นเขาก็สร้างแต่ความน่ารำคาญ ชอบเปิดเพลงเสียงดังจนเรากับแม่ไม่ได้นอนค่ะ บางครั้งเขาก็จะเสพยาค่ะ แต่ตอนนี้ไม่แน่ใจว่าเลิกแล้วหรือยัง เราถามแม่ว่าทำไมไม่ยอมแจ้งตำรวจจับ แม่บอกว่าไม่อยากไปทำลายชีวิตมันก่อนที่มันจะไป เราก็แบบปวดหัวมากค่ะ ทำไมแม่ต้องคิดแบบนี้ด้วย
วันนี้เราก็นั่งเครียดมากค่ะ กลัวมาก เลยออกจากบ้านไปเติมเงินมาเตรียมไว้แจ้งตำรวจกับแม่พ่อเลี้ยงค่ะ พอเติมเงินเสร็จกลับมาบ้านก็ปวดหัวแล้วก็ร้องไห้ค่ะ จู่ๆก็นึกถึงเรื่องในอดีตที่เราลืมๆไปแล้วขึ้นมาค่ะ เลยอยากมาระบายเรื่องของเราในนี้ค่ะ ถ้าพิมพ์วนไปวนมาก็ขอโทษด้วยนะคะ เราแค่อยากมาระบายเฉยๆค่ะ เก็บไว้คนเดียวเรารู้สึกเราจะเป็นโรคประสาท ถ้าใครอ่านจนจบก็ขอบคุณมากค่ะ แนะนำเราได้แต่อย่าด่าเราเลยนะคะ ขอบคุณค่ะ
ระบายความรู้สึก
วันนี้เราก็นั่งเครียดมากค่ะ กลัวมาก เลยออกจากบ้านไปเติมเงินมาเตรียมไว้แจ้งตำรวจกับแม่พ่อเลี้ยงค่ะ พอเติมเงินเสร็จกลับมาบ้านก็ปวดหัวแล้วก็ร้องไห้ค่ะ จู่ๆก็นึกถึงเรื่องในอดีตที่เราลืมๆไปแล้วขึ้นมาค่ะ เลยอยากมาระบายเรื่องของเราในนี้ค่ะ ถ้าพิมพ์วนไปวนมาก็ขอโทษด้วยนะคะ เราแค่อยากมาระบายเฉยๆค่ะ เก็บไว้คนเดียวเรารู้สึกเราจะเป็นโรคประสาท ถ้าใครอ่านจนจบก็ขอบคุณมากค่ะ แนะนำเราได้แต่อย่าด่าเราเลยนะคะ ขอบคุณค่ะ