เรื่องเล่าที่ 8 : ใครที่เห็น : ระดับความหลอน 4 กะโหลก
เรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้ ขอแทนชื่อผู้เล่าว่า ขม
ด้วยความที่ขมทำงานอยู่ในบริษัทรับทำบัญชี ทำให้ช่วงใกล้สิ้นปี ขมต้องจัดเตรียมทำงบการเงินของแต่ละบริษัทลูกค้า ซึ่งนั่นทำให้แต่ละวันของช่วงนั้นขมจะเลิกงานดึกกว่าปกติ
ในแผนกบัญชี นับรวมขมแล้วมีพนักงานอยู่ทั้งหมดสามคน คือพี่แอน พี่ยาและขมที่เป็นน้องเล็กสุดของแผนก เพราะเป็นบริษัทขนาดเล็ก จำนวนพนักงานจึงมีไม่มาก แผนกบัญชีอยู่ชั้นบนสุดของบริษัท ปกติถ้าไม่ใช่ช่วงปิดงบการเงินแล้ว พนักงานภายในบริษัทจะเลิกงานพร้อมกันตอนห้าโมงเย็น นอกจากแผนกบัญชีแล้ว แผนกอื่นๆ ต่างก็พากันเลิกงานกลับบ้านหมด
วันนั้นขมจำได้ว่ากว่าจะเคลียร์เอกสารต่างๆ เสร็จก็เป็นเวลากว่าสองทุ่ม ขมหันไปมองพี่ๆ ในแผนก เห็นว่าแต่ละคนก็เคลียร์เอกสารกันเสร็จแล้วเหมือนกัน ขมเลยเตรียมตัวกลับบ้านพร้อมพี่ๆ
“พี่ขอไปก่อนนะ จะไปเข้าห้องน้ำ ยากับขมปิดไฟเสร็จรีบตามมานะ” พี่แอนที่จัดการปิดคอมฯเก็บของเสร็จก่อน ลุกขึ้นเดินออกไปเป็นคนแรก ขมและพี่ยารับคำก่อนจะรีบปิดไฟและตามหลังพี่แอนไปติดๆ โดยขมมีหน้าที่ปิดประตูห้องแผนก จังหวะที่พี่ยาเดินออกมาจากห้อง ขมเห็นหลังพี่แอนไวๆ กำลังเดินเข้าห้องน้ำ ประตูห้องน้ำค่อยๆ ปิดลง ขมหันหน้ากลับมาปิดประตูห้องแผนกต่อโดยที่มีพี่ยายืนเล่นโทรศัพท์รอเป็นเพื่อน
ปกติแล้ว เวลาปิดประตูห้องแผนกเสร็จ กุญแจจะต้องเอาไปเก็บไว้ที่ชั้นวางหน้ากระจกในห้องน้ำ แต่เพราะว่าขมเห็นพี่แอนเข้าห้องน้ำอยู่ ขมเลยวางกุญแจไว้ที่กล่องสวิตช์ไฟแทน โดยก่อนที่จะลงไปสแกนนิ้วกลับบ้านข้างล่าง ขมกับพี่ยาก็ยังตะโกนบอกพี่แอนที่ยังเข้าห้องน้ำอยู่ว่า “พี่แอน! ขมกับพี่ยาลงไปก่อนนะ!”
“อื้อ!” เสียงพี่แอนดังมาจากในห้องน้ำ ทำให้ขมและพี่ยาพากันลงไปข้างล่าง
ทุกอย่างปกติมาก จนกระทั่ง... ทั้งขมและพี่ยาลงมาถึงชั้นล่างของบริษัท
“ขมกับยาทำไมลงมาช้ากันจังเลย” เสียงร้องทักของพี่แอนทำเอาขมหยุดชะงัก ขมอดที่จะประหลาดใจไม่ได้ ตอนที่เห็นพี่แอนยืนอยู่ชั้นล่างของบริษัทคล้ายกับกำลังรอให้ขมและพี่ยาลงมา
“พี่แอนลงมาตั้งแต่เมื่อไหร่อ่ะ” ขมรีบถามกลับทันที เพราะทางขึ้นลงภายในบริษัทมีเพียงแค่ทางเดียว ซึ่งก็เป็นทางที่ขมและพี่ยาใช้ และก่อนที่จะลงมา ขมก็มั่นใจแล้วว่าพวกตนลงมาก่อนพี่แอนแน่ๆ
“ลงมานานแล้ว” พี่แอนตอบอย่างไม่ใส่ใจพลางสแกนนิ้วออกงาน ขมและพี่ยาแอบมองหน้ากันเงียบๆ ก่อนที่ขมจะแอบเหลือบมองขึ้นไปชั้นบน
“พี่แอนเข้าห้องน้ำแล้วหรอ” พี่ยาถามพี่แอนอีกครั้งราวกับต้องการเช็คให้แน่ใจ
“อือ พี่ลงมาเข้าห้องข้างล่างเนี่ย” คำตอบของพี่แอนทำเอาขมและพี่ยาขนลุก “อ้อ” พี่ยารับคำก่อนจะหันหน้ามามองขมก่อนจะพยักหน้าขึ้นไปชั้นบนเป็นการบอกใบ้ให้ขมขึ้นไปเช็คที่ชั้นบนอีกที
ขมกลืนน้ำลายลงคอ ใจนึงไม่อยากย้อนขึ้นไปชั้นบนอีกแล้ว แต่อีกใจนึงก็อยากเช็คเหมือนกันว่าพี่แอนที่ขมและพี่ยาเห็นเมื่อกี้นี้เป็นใคร
“พวกพี่สแกนนิ้วไปก่อนเลยนะ ขมลืมของ ขอขึ้นไปเอาก่อนแปปนึง” ขมแกล้งทำเป็นลืมของก่อนจะทำใจกล้าย้อนกลับขึ้นไปชั้นบนอีกครั้ง
ระหว่างทางขึ้นชั้น ขมไม่ลืมที่จะเปิดไฟให้สว่างไปทั่วทั้งชั้น แต่เพราะว่าดึกแล้ว บรรยากาศเลยเงียบมาก ขมได้ยินเพียงเสียงเดินของตัวเอง ในใจตอนนี้ขมหวังเพียงอย่างเดียว ขอตัวเองอย่าได้เจอหรือได้เห็นอะไรที่มันผิดธรรมชาติเลย
ทันทีที่ขึ้นมาถึงชั้นแผนกบัญชี สายตาของขมจ้องไปยังห้องน้ำหน้าห้องแผนก เห็นๆ อยู่ว่าตอนนั้นสวิตช์ไฟกดเปิดอยู่ และขมเองก็เห็นคาตาเลยว่าเป็นพี่แอนแน่นอนที่กำลังปิดประตูเพื่อเข้าห้องน้ำ แต่ห้องน้ำในตอนนี้กลับว่างเปล่า ประตูเปิดอ้า และไฟก็ถูกปิดแล้ว ขมนึกถึงกุญแจห้องแผนกที่ตนเอาไปวางไว้บนกล่องสวิตช์ไฟ เลยรีบเดินมาหาที่หน้าห้องน้ำ ปรากฏว่าบนกล่องสวิตช์ไฟไม่มีกุญแจวางอยู่แล้ว ขมตกใจ รีบก้มหากุญแจใหญ่ ลืมคิดถึงเรื่องพี่แอนไปชั่วขณะ เพราะเรื่องกุญแจห้องแผนกหายเป็นเรื่องที่ใหญ่กว่าเรื่องผีหลอกอยู่มาก
ขมหากุญแจหน้าห้องน้ำอยู่นานมาก จนพี่ยาขึ้นมาตาม ขมเลยลองเข้าไปดูในห้องน้ำ ปรากฏว่ากุญแจห้องแผนกถูกวางไว้บนชั้นหน้ากระจกเรียบร้อยแล้ว ขมทั้งรู้สึกโล่งใจที่หากุญแจเจอทั้งรู้สึกขนลุกว่าใครเป็นคนเอากุญแจมาวางไว้ที่เก็บประจำให้
ตึง! ตึง! ตึง!
ที่ชั้นบนสุดของบริษัทไม่มีใครอยู่ แต่ขมกลับได้ยินเสียงคนวิ่ง วินาทีนั้นขมรีบวิ่งลงไปชั้นล่างทันทีโดยไม่รอพี่ยาที่อุตส่าห์ขึ้นมาตาม
เพราะพี่แอนกลับไปก่อน ทำให้ชั้นล่างสุดไม่มีใครอยู่แล้ว ขมรีบวิ่งไปที่เครื่องสแกนนิ้วแล้วรีบสแกนออกงาน พี่ยาที่วิ่งตามหลังกันมาก็รีบสแกนนิ้วออกงานตามทันที ในตอนที่ขมกำลังจะพูดอะไรบ้างอย่างกับพี่ยา เสียงคนวิ่งจากชั้นบนก็ดังตามมาติดๆ คล้ายกับกำลังวิ่งลงมาชั้นล่าง
ขมกับพี่ยามองหน้ากันแล้วรีบวิ่งไปที่ประตูบริษัท ปิดล็อคกุญแจและแยกย้ายกันกลับบ้านทันที
กลับมาถึงหอ ขมยังไม่ลืมที่จะเล่าเรื่องที่เจอนี้ให้กับเพื่อนสนิทฟัง โดยขมอัดเสียงตัวเองส่งไปในแชทไลน์ของเพื่อน ไม่นานหลังส่งเสร็จ เพื่อนสนิทขมก็รีบคอลไลน์มาหาทันที ตอนแรกขมคิดว่าคงจะซักถามขมถึงเหตุการณ์เพิ่มเติม แต่ดันกลายเป็นว่า เพื่อนสนิทบอกให้ขมกดเข้าไปฟังเสียงที่ขมอัดส่งให้เพื่อน ขมสงสัยนิดหน่อย แต่ก็รีบวางสายและกดเข้าไปฟังทันที
ต้นคลิปเสียงของขมยังดังชัดเป็นปกติ แต่ทันทีที่เสียงขมเล่ามาถึงตอนที่เห็นหลังพี่แอนเดินเข้าไปในห้องน้ำและกำลังจะปิดประตูนั้นกลับมีเสียงแทรกขึ้นมาดัง ซู่ซ่าๆ ขมรู้สึกขนลุกทันที แต่ก็ยังคิดว่าอาจเป็นปัญหาที่โทรศัพท์ของขมเองก็ได้ เสียงขมยังคงเล่าต่อไปเรื่อยๆ จนถึงตอนที่เล่าว่าได้ยินเสียงคนวิ่ง ปรากฏว่าในคลิปเสียงที่อัด มีเสียง ตึง! ตึง! ตึง! ดังอยู่ด้วย
ตอนที่อัดเสียง ขมนั่งอยู่บนเตียงนอน เป็นไปไม่ได้ที่เสียงนั้นจะมาจากขมเอง แล้วเสียงมันมาจากที่ไหน....?
เช้าวันรุ่งขึ้นขมและพี่ยาไปทำงานกันตามปกติ ถึงจะอยากพูดคุยกันว่าตกลงแล้วคนที่ขมกับพี่ยาเห็นเป็นพี่แอนเดินเข้าห้องน้ำไปเป็นใคร เสียงคนวิ่งเมื่อคืนมาจากไหน แต่ก็ไม่มีใครกล้าพูดถึงเรื่องเมื่อวานขึ้นมาก่อน ได้แต่ปล่อยผ่านไปและไม่พูดถึงมันอีกเลย
- จ บ -
ในความคิดของทุกคนคิดว่าเรื่องนี้ควรให้กี่กะโหลกดีคะ เรื่องนี้เพื่อนเราให้ 4 กะโหลกอีกเช่นเคยค่ะ
นิยายชุด : ผลัดกันเล่า by motamad
เรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้ ขอแทนชื่อผู้เล่าว่า ขม
ด้วยความที่ขมทำงานอยู่ในบริษัทรับทำบัญชี ทำให้ช่วงใกล้สิ้นปี ขมต้องจัดเตรียมทำงบการเงินของแต่ละบริษัทลูกค้า ซึ่งนั่นทำให้แต่ละวันของช่วงนั้นขมจะเลิกงานดึกกว่าปกติ
ในแผนกบัญชี นับรวมขมแล้วมีพนักงานอยู่ทั้งหมดสามคน คือพี่แอน พี่ยาและขมที่เป็นน้องเล็กสุดของแผนก เพราะเป็นบริษัทขนาดเล็ก จำนวนพนักงานจึงมีไม่มาก แผนกบัญชีอยู่ชั้นบนสุดของบริษัท ปกติถ้าไม่ใช่ช่วงปิดงบการเงินแล้ว พนักงานภายในบริษัทจะเลิกงานพร้อมกันตอนห้าโมงเย็น นอกจากแผนกบัญชีแล้ว แผนกอื่นๆ ต่างก็พากันเลิกงานกลับบ้านหมด
วันนั้นขมจำได้ว่ากว่าจะเคลียร์เอกสารต่างๆ เสร็จก็เป็นเวลากว่าสองทุ่ม ขมหันไปมองพี่ๆ ในแผนก เห็นว่าแต่ละคนก็เคลียร์เอกสารกันเสร็จแล้วเหมือนกัน ขมเลยเตรียมตัวกลับบ้านพร้อมพี่ๆ
“พี่ขอไปก่อนนะ จะไปเข้าห้องน้ำ ยากับขมปิดไฟเสร็จรีบตามมานะ” พี่แอนที่จัดการปิดคอมฯเก็บของเสร็จก่อน ลุกขึ้นเดินออกไปเป็นคนแรก ขมและพี่ยารับคำก่อนจะรีบปิดไฟและตามหลังพี่แอนไปติดๆ โดยขมมีหน้าที่ปิดประตูห้องแผนก จังหวะที่พี่ยาเดินออกมาจากห้อง ขมเห็นหลังพี่แอนไวๆ กำลังเดินเข้าห้องน้ำ ประตูห้องน้ำค่อยๆ ปิดลง ขมหันหน้ากลับมาปิดประตูห้องแผนกต่อโดยที่มีพี่ยายืนเล่นโทรศัพท์รอเป็นเพื่อน
ปกติแล้ว เวลาปิดประตูห้องแผนกเสร็จ กุญแจจะต้องเอาไปเก็บไว้ที่ชั้นวางหน้ากระจกในห้องน้ำ แต่เพราะว่าขมเห็นพี่แอนเข้าห้องน้ำอยู่ ขมเลยวางกุญแจไว้ที่กล่องสวิตช์ไฟแทน โดยก่อนที่จะลงไปสแกนนิ้วกลับบ้านข้างล่าง ขมกับพี่ยาก็ยังตะโกนบอกพี่แอนที่ยังเข้าห้องน้ำอยู่ว่า “พี่แอน! ขมกับพี่ยาลงไปก่อนนะ!”
“อื้อ!” เสียงพี่แอนดังมาจากในห้องน้ำ ทำให้ขมและพี่ยาพากันลงไปข้างล่าง
ทุกอย่างปกติมาก จนกระทั่ง... ทั้งขมและพี่ยาลงมาถึงชั้นล่างของบริษัท
“ขมกับยาทำไมลงมาช้ากันจังเลย” เสียงร้องทักของพี่แอนทำเอาขมหยุดชะงัก ขมอดที่จะประหลาดใจไม่ได้ ตอนที่เห็นพี่แอนยืนอยู่ชั้นล่างของบริษัทคล้ายกับกำลังรอให้ขมและพี่ยาลงมา
“พี่แอนลงมาตั้งแต่เมื่อไหร่อ่ะ” ขมรีบถามกลับทันที เพราะทางขึ้นลงภายในบริษัทมีเพียงแค่ทางเดียว ซึ่งก็เป็นทางที่ขมและพี่ยาใช้ และก่อนที่จะลงมา ขมก็มั่นใจแล้วว่าพวกตนลงมาก่อนพี่แอนแน่ๆ
“ลงมานานแล้ว” พี่แอนตอบอย่างไม่ใส่ใจพลางสแกนนิ้วออกงาน ขมและพี่ยาแอบมองหน้ากันเงียบๆ ก่อนที่ขมจะแอบเหลือบมองขึ้นไปชั้นบน
“พี่แอนเข้าห้องน้ำแล้วหรอ” พี่ยาถามพี่แอนอีกครั้งราวกับต้องการเช็คให้แน่ใจ
“อือ พี่ลงมาเข้าห้องข้างล่างเนี่ย” คำตอบของพี่แอนทำเอาขมและพี่ยาขนลุก “อ้อ” พี่ยารับคำก่อนจะหันหน้ามามองขมก่อนจะพยักหน้าขึ้นไปชั้นบนเป็นการบอกใบ้ให้ขมขึ้นไปเช็คที่ชั้นบนอีกที
ขมกลืนน้ำลายลงคอ ใจนึงไม่อยากย้อนขึ้นไปชั้นบนอีกแล้ว แต่อีกใจนึงก็อยากเช็คเหมือนกันว่าพี่แอนที่ขมและพี่ยาเห็นเมื่อกี้นี้เป็นใคร
“พวกพี่สแกนนิ้วไปก่อนเลยนะ ขมลืมของ ขอขึ้นไปเอาก่อนแปปนึง” ขมแกล้งทำเป็นลืมของก่อนจะทำใจกล้าย้อนกลับขึ้นไปชั้นบนอีกครั้ง
ระหว่างทางขึ้นชั้น ขมไม่ลืมที่จะเปิดไฟให้สว่างไปทั่วทั้งชั้น แต่เพราะว่าดึกแล้ว บรรยากาศเลยเงียบมาก ขมได้ยินเพียงเสียงเดินของตัวเอง ในใจตอนนี้ขมหวังเพียงอย่างเดียว ขอตัวเองอย่าได้เจอหรือได้เห็นอะไรที่มันผิดธรรมชาติเลย
ทันทีที่ขึ้นมาถึงชั้นแผนกบัญชี สายตาของขมจ้องไปยังห้องน้ำหน้าห้องแผนก เห็นๆ อยู่ว่าตอนนั้นสวิตช์ไฟกดเปิดอยู่ และขมเองก็เห็นคาตาเลยว่าเป็นพี่แอนแน่นอนที่กำลังปิดประตูเพื่อเข้าห้องน้ำ แต่ห้องน้ำในตอนนี้กลับว่างเปล่า ประตูเปิดอ้า และไฟก็ถูกปิดแล้ว ขมนึกถึงกุญแจห้องแผนกที่ตนเอาไปวางไว้บนกล่องสวิตช์ไฟ เลยรีบเดินมาหาที่หน้าห้องน้ำ ปรากฏว่าบนกล่องสวิตช์ไฟไม่มีกุญแจวางอยู่แล้ว ขมตกใจ รีบก้มหากุญแจใหญ่ ลืมคิดถึงเรื่องพี่แอนไปชั่วขณะ เพราะเรื่องกุญแจห้องแผนกหายเป็นเรื่องที่ใหญ่กว่าเรื่องผีหลอกอยู่มาก
ขมหากุญแจหน้าห้องน้ำอยู่นานมาก จนพี่ยาขึ้นมาตาม ขมเลยลองเข้าไปดูในห้องน้ำ ปรากฏว่ากุญแจห้องแผนกถูกวางไว้บนชั้นหน้ากระจกเรียบร้อยแล้ว ขมทั้งรู้สึกโล่งใจที่หากุญแจเจอทั้งรู้สึกขนลุกว่าใครเป็นคนเอากุญแจมาวางไว้ที่เก็บประจำให้
ตึง! ตึง! ตึง!
ที่ชั้นบนสุดของบริษัทไม่มีใครอยู่ แต่ขมกลับได้ยินเสียงคนวิ่ง วินาทีนั้นขมรีบวิ่งลงไปชั้นล่างทันทีโดยไม่รอพี่ยาที่อุตส่าห์ขึ้นมาตาม
เพราะพี่แอนกลับไปก่อน ทำให้ชั้นล่างสุดไม่มีใครอยู่แล้ว ขมรีบวิ่งไปที่เครื่องสแกนนิ้วแล้วรีบสแกนออกงาน พี่ยาที่วิ่งตามหลังกันมาก็รีบสแกนนิ้วออกงานตามทันที ในตอนที่ขมกำลังจะพูดอะไรบ้างอย่างกับพี่ยา เสียงคนวิ่งจากชั้นบนก็ดังตามมาติดๆ คล้ายกับกำลังวิ่งลงมาชั้นล่าง
ขมกับพี่ยามองหน้ากันแล้วรีบวิ่งไปที่ประตูบริษัท ปิดล็อคกุญแจและแยกย้ายกันกลับบ้านทันที
กลับมาถึงหอ ขมยังไม่ลืมที่จะเล่าเรื่องที่เจอนี้ให้กับเพื่อนสนิทฟัง โดยขมอัดเสียงตัวเองส่งไปในแชทไลน์ของเพื่อน ไม่นานหลังส่งเสร็จ เพื่อนสนิทขมก็รีบคอลไลน์มาหาทันที ตอนแรกขมคิดว่าคงจะซักถามขมถึงเหตุการณ์เพิ่มเติม แต่ดันกลายเป็นว่า เพื่อนสนิทบอกให้ขมกดเข้าไปฟังเสียงที่ขมอัดส่งให้เพื่อน ขมสงสัยนิดหน่อย แต่ก็รีบวางสายและกดเข้าไปฟังทันที
ต้นคลิปเสียงของขมยังดังชัดเป็นปกติ แต่ทันทีที่เสียงขมเล่ามาถึงตอนที่เห็นหลังพี่แอนเดินเข้าไปในห้องน้ำและกำลังจะปิดประตูนั้นกลับมีเสียงแทรกขึ้นมาดัง ซู่ซ่าๆ ขมรู้สึกขนลุกทันที แต่ก็ยังคิดว่าอาจเป็นปัญหาที่โทรศัพท์ของขมเองก็ได้ เสียงขมยังคงเล่าต่อไปเรื่อยๆ จนถึงตอนที่เล่าว่าได้ยินเสียงคนวิ่ง ปรากฏว่าในคลิปเสียงที่อัด มีเสียง ตึง! ตึง! ตึง! ดังอยู่ด้วย
ตอนที่อัดเสียง ขมนั่งอยู่บนเตียงนอน เป็นไปไม่ได้ที่เสียงนั้นจะมาจากขมเอง แล้วเสียงมันมาจากที่ไหน....?
เช้าวันรุ่งขึ้นขมและพี่ยาไปทำงานกันตามปกติ ถึงจะอยากพูดคุยกันว่าตกลงแล้วคนที่ขมกับพี่ยาเห็นเป็นพี่แอนเดินเข้าห้องน้ำไปเป็นใคร เสียงคนวิ่งเมื่อคืนมาจากไหน แต่ก็ไม่มีใครกล้าพูดถึงเรื่องเมื่อวานขึ้นมาก่อน ได้แต่ปล่อยผ่านไปและไม่พูดถึงมันอีกเลย
- จ บ -
ในความคิดของทุกคนคิดว่าเรื่องนี้ควรให้กี่กะโหลกดีคะ เรื่องนี้เพื่อนเราให้ 4 กะโหลกอีกเช่นเคยค่ะ