แม่กำปอง ณ เชียงใหม่ (ฉบับคนทำงาน)

แม่กำปอง (มีเพียงแค่สองเรา) มีคนเป็นล้านคน 💚
ทริปนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 9 - 12 ธันวาคม 2564 (ถือเป็นทริปส่งท้ายปีและทริปรับลมหนาวของเรา)
การเดินทาง ขาไป: เวียงพิงค์บัส สมบัติทัวร์, ใช้ชีวิตด้วยการเช่ามอเตอไซต์ที่เชียงใหม่, ขากลับ: ไทยไลอ้อนแอร์
ค่าใช้จ่ายตลอดทริปประมาณ 7,000 บาท (เฉลี่ยคนละ 3,500 บาท) *ขึ้นอยู่กับค่าเดินทางและค่ากิน*
เราใช้โครงการเที่ยวด้วยกันเพื่อเช็คอินที่พัก และนำมาหักลดค่าเครื่องบิน (จาก 3,000 ได้เงินคืน 1,200 บาท)
จะพยายามเก็บเกี่ยวรายละเอียดและความทรงจำมาเขียนรีวิวให้ได้มากที่สุด ป.ล. นี่คือรีวิวแรกใน pantip หากผิดพลาดขออภัยด้วยนะคะ ยิ้ม
ขอเกริ่นจุดประสงค์การเขียนก่อนเลย ตั้งใจจะรีวิวเพื่อให้คนที่สนใจหรืออยากไปได้ออกเดินทาง + ชอบเชียงใหม่มาก ไปไม่เคยเบื่อ
พร้อมแล้ว ลุยเลยดีกว่า ! 

-  Day 1 (9/12/64) เดินทางจากหมอชิตถึงเชียงใหม่ รถออก 19.25 น. (เราขอเลิกงานก่อน 2 ชม. เนื่องจากพักที่ศาลายา) --> นอนบนรถ
-  Day 2 (10/12/64) แวะตลาดช้างเผือกเติมพลังมื้อเช้า + ฝากของโรงแรม แล้วขี่มอเตอไซด์ขึ้นแม่กำปอง --> ใช้ชีวิตให้ช้าที่แม่กำปอง นอน 1 คืน
-  Day 3 (11/12/64) เก็บบรรยากาศยามสายแม่กำปอง ขี่มอเตอไซด์กลับและแวะเที่ยวตัวเมือง (วัด+ร้านอาหาร) --> ท่องเมืองเชียงใหม่ นอน 1 คืน
-  Day 4 (12/12/64) กลับแบบไม่อยากกลับ "หมดเวลาแล้วที่ฉันต้องกลับไปทำงาน" --> บินกลับไฟล์ทเช้า 08.10 น.
ตลอดทริปขอขอบคุณบทเพลง เพลงแม่กำปองเพลงชัยเหมี่ยง

Day 1 🎄🎈
เราจองตั๋วและจ่ายเงินผ่านเว็บ สมบัติทัวร์ (หรือโทรติดต่อ 1215)
วันเดินทางขึ้นรถจากศาลายาไปลงหมอชิต ตรงไปที่เคาน์เตอร์สมบัติทัวร์เพื่อรับตั๋วก่อนจะไปหาข้าวกินเพื่อเติมพลัง เพราะกว่าจะได้กินอีกทีคือมื้อดึก
ควรเผื่อเวลาในการไปรับตั๋วด้วยนะคะ เพราะรถออกตรงเวลา ล้อหมุน 19.25 น. เป๊ะ! 
 ...เมื่อขาก้าวขึ้นบนรถ สิ่งแรกที่พูด คือ ว้าว ทุกอย่างใหม่สำหรับเรามาก เพราะเราไม่เคยขึ้นรถทัวร์ที่หรูขนาดนี้ เบาะแคปซูนปรับได้ตามสบาย (ปรับส่วนหลังหรือส่วนขา) มีจอทีวีสำหรับดูหนังฟังเพลงแก้เบื่อ มีปลั๊ก/รูเสียบ USB สำหรับชาร์จแบตโทรศัพท์ มีบริการน้ำดื่ม ผ้าเย็น ผ้าห่ม (ผืนดูบางแต่อุ่นมาก) และมีห้องน้ำที่ไม่มีสายชำระ มีทิชชู่ให้บริการ มีแอร์ในห้องน้ำ ซึ่งเก็บกลิ่นได้ดี ไม่เหม็น ลืมบอกว่าเรานั่งเบาะสุดท้ายติดห้องน้ำและลุกเข้าห้องน้ำบ่อยที่สุดในรถแล้ว กรณีถ้าห้องน้ำส่งกลิ่นให้แจ้งพนักงานได้เลยนะคะ ก่อนที่รถจะออกจะมีพนักงานประจำรถประกาศเพื่อให้คำแนะนำต่าง ๆ สรุปความได้ประมาณว่ารถคันนี้มีคนขับ 2 คนเพื่อสับเปลี่ยนกัน ไม่อนุญาติให้กินอาหารบนรถ เนื่องด้วยสถานการณ์โควิด ขอให้ใส่หน้ากากอนามัยตลอดการเดินทาง กรณีลงระหว่างทางให้แจ้งพนักงาน เมื่อรถออกมาสักพักจะมีพนักงานเดินมาให้แสกนไทยชนะเพื่อเช็คอิน แค่นั้นเลย หลังจากนั้นก็นั่ง นอน หลับ ๆ ตื่น ๆ และแวะกินข้าวที่กำแพงเพชร เวลา 23.35 น. เป็นร้านอาหารประจำของสมบัติทัวร์ ขอบอกว่า อร่อยมากแม่! (แนะนำให้แยกแปรงสีฟัน ยาสีฟัน + อุปกรณ์ล้างหน้าให้หยิบง่าย ๆ เพื่อทำภารกิจส่วนตัวก่อนจะหลับยาวถึงเชียงใหม่) รถจะแวะรับผู้โดยทางแต่ละที่ไม่นานมาก โดยรวมถึงเชียงใหม่ช้ากว่ากำหนดไม่นาน (ในเว็บแจ้งว่าถึง 04.30 น. แต่ความจริงในวันนั้นถึง 04.53 น. ซึ่งคนขับทำเวลาดีมาก) ก่อนลงจากรถจะมีแจกกล่องขนมด้วยนะ
...เมื่อถึงเชียงใหม่เช้ามาก เช้าที่ยังไม่เห็นเดือนเห็นตะวัน ในขณะที่เรานัดรับรถ 08.00 น. อากาศก็หนาวมากเช่นกัน 17-18 องศา ทำอะไรไม่ได้นอกจากรอ เมื่อรอไปเรื่อย ๆ เวลาก็ค่อย ๆ ผ่านพ้นไป จนในที่สุดเดินออกจากบขส.เพื่อไปขึ้นรถแดง "ขึ้นรถแดงๆๆ เพลงน้องชูใจต้องมาแล้วหนึ่ง" บอกคุณลุงคนขับว่าลงที่ตลาดช้างเผือก ราคาคนละ 30 บาท (นั่งแบบแชร์กับคนอื่น) รอจนประมาณคนขึ้นรถ 6-7 คน รถก็ค่อย ๆ ขับออกไป นั่นหมายความว่า การเดินทางของเราที่เชียงใหม่กำลังเริ่มต้นขึ้นแล้ว 💚
เราไปลงที่ตลาดช้างเผือกเพื่อรอรับรถมอเตอไซด์ ซึ่งเช่าไว้กับที่พัก (ขอเก็บรีวิวที่พักไว้คืนที่กลับมานอนในเมือง)
ราคาในการเช่ามอเตอไซด์ของเรา รวม 2 วัน ค่าใช้จ่ายทั้งหมด 384 บาท วันละ 180 บาท + ค่าน้ำมัน 100 บาท (ใช้คูปองเราเที่ยวด้วยกัน โดยจ่ายเต็มราคาไปก่อนและค่อยมาเคลียร์ค่าใช้จ่ายหลังจากเช็คอินเข้าพัก) ราคามัดจำรถอีก 1,600 บาท ใช้เอกสารอย่างเดียว คือ บัตรประชาชนตัวจริง (ก่อนออกเดินทางเราขอถ่ายรูปบัตรประชาชนตัวเองไว้ เผื่อกรณีต้องใช้งานต่าง ๆ) ตอนนี้รถเป็นของเราแล้ว รับบทนักท่องเที่ยวเต็มตัว 😂
"รักชัยเหมี่ยงรักภูเขาที่ริมระเบียง รักเชียงใหม่รักผู้คนที่มีน้ำใจ"
...รถมอเตอไซต์ค่อย ๆ เคลื่อนออกจากตัวเมืองเชียงใหม่อย่างช้า ๆ พร้อมกับแวะเติมน้ำมันรอบแรก ๖๐ บาท เราขี่มอไซด์ไม่เร็วมาก และใช้เส้นทางสันกำแพง / แม่ออน ทางที่ผ่านถ้ำเมืองออน (จำทางไม่ได้จริง ๆ แต่เปิด GPS ได้เลย) เป็นเส้นทางที่ขี่มอไซด์ตรงจากตัวเมืองและขี่ตรงต่อไปเรื่อย ๆ ผ่านถนนใหญ่ ผ่านรถ ผ่านผู้คน ที่สำคัญผ่านธรรมชาติ มองไปมีภูเขา ต้นไม้สีเขียว ๆ ล้อมรอบ เป็นเส้นทางที่ขี่มอไซด์ได้ไม่เบื่อเลย ซึ่งเราสลับกันขี่มอไซด์คนละครึ่งทาง ใช้เวลาประมาณหนึ่งชั่วโมงนิด ๆ ตลอดเส้นทางค่อนข้างราบรื่น แต่ยิ่งสูงยิ่งหนาว (อากาศยิ่งเย็นเมื่อผ่านน้ำตก + เมื่อใกล้ถึงหมู่บ้าน) รวมถึงเมื่อใกล้หมู่บ้านเส้นทางค่อนข้างชัน ทางแคบมาก ๆ ต้องใช้สมาธิ ไม่ประมาท และระมัดระวังพอสมควร โชคดีตอนที่ไปเราเตรียมใจว่าคนจะเยอะ รถจะเยอะ แต่ผิดคาดคนน้อยกว่าที่เราคิด สุดท้ายก็ถึงที่หมายปลอดภัย 😁 ถึงแม่กำปองประมาณ 11.30 น. เช็คอิน เก็บของ พักผ่อน เพื่อเตรียมตัวออกไปเติมพลังและเดินเล่นรอบหมู่บ้าน ...ถึงแม่กำปองในช่วงที่ไฟดับ แต่รอไม่นานไฟก็มา...
"บ้านพักสองตายาย"
จะมีเอกสารให้กรอกข้อมูลตามนโยบายรัฐและหมู่บ้านในวันที่เช็คเอาท์ (ข้อมูลส่วนตัว รายละเอียดการเดินทาง)
...ขอแวะรีวิวที่พัก พี่กำปอและคุณยายใจดีมาก ๆ วันที่เข้าพัก โชคดีว่ามีคนเช็คเอาท์ออกไปก่อนเราจึงได้เข้าพักทันที ผ้าเช็ดตัวแห้งไม่ทันพี่กำปอก็ไปหามาให้และมาพร้อมกับไดร์ฟเป่าผมซึ่งเอามาให้เราในช่วงเย็น หน้าที่พักจะเป็นร้านอาหาร มีไส้อั่ว ไข่ปามและอาหารเหนือ เดินเข้ามาข้างในจะมีห้องพักถ้าจำไม่ผิดประมาณ ๔ ห้อง ทุกห้องวิวข้างหลังติดน้ำตก จะได้ยินเสียงน้ำไหลตลอดเวลาและอากาศหนาวเย็นกว่าในหมู่บ้าน ที่นอนจะดูชื้น ๆ น่าจะเพราะอยู่ติดน้ำตกด้วย โดยรวมประทับใจ แต่คงไม่กลับไปพักที่นี่อีกในช่วงหน้าหนาว เพราะกลางคืนหนาวมาก หนาวจนทรมาน เราใส่เสื้อสามสี่ชั้นก็เอาไม่อยู่ อาจจะเพราะส่วนตัวเป็นคนขี้หนาวด้วย ถ้าใครขี้หนาวแบบเราแนะนำให้พักโซนอื่น (ทรมานจริง ๆ กว่าจะนอนหลับ ไหนจะอากาศที่หนาว ไหนจะไอหนาวจากน้ำตก) = ความคิดเห็นส่วนตัวเรานะ แต่เป็นที่พักที่อยากแนะนำจริง ๆ สักครั้งหนึ่งไปสัมผัสอากาศที่โคตรหนาวววว 
เติมพลังและออกสำรวจหมู่บ้าน "กายพร้อม ใจพร้อม เราทำได้"
...เราจอดมอเตอไซด์ไว้ที่พักและใช้ชีวิตบนแม่กำปองด้วยการเดินทั้งหมดนะคะ เหตุผลเพราะคนนำรถส่วนตัวขึ้นไปเยอะ ไหนจะรถชาวบ้าน ไหนจะประชาชนชาวไทยที่แวะเวียนไปเที่ยว เพื่อความปลอดภัยของทุกคนและตัวเองจึงตัดสินใจ เดิน เดินและเดินเท่านั้น ร้านแรกที่แวะคือ ข้าวซอยกลอยใจตรงข้ามกับร้านลุงปุ๊ด&ป้าเป็ง Coffee ต่อไปเดินย่อยที่วัดแม่กำปอง แวะไหว้พระ เล่นน้ำตก (หมายถึงแค่เอามือแตะน้ำเพราะน้ำเย็นมาก) หลังจากนั้นเดินขึ้นทางที่ชันมาก ๆ เพื่อไประเบียงวิว จิบน้ำเย็น ๆ คนละแก้ว นั่งดูวิวจากมุมสูงและเก็บภาพบรรยากาศ ตลอดเส้นทางมีโฮมสเตย์ บ้านพัก ร้านอาหารของชาวบ้านเยอะแยะมากมายเลย กินได้ไม่อั้น เตรียมเงินในกระเป๋าให้พอ555 ซึ่งในจุดสำคัญก็จะมีคนเยอะพอสมควร แต่ยังมีโมเม้นให้ถ่ายรูปได้สวยงาม = ได้อยู่ที่แปลว่าได้ 😅 แม้จะมีแสงแดดแต่จักแร้ไม่เปียก ด้วยสภาพอากาศที่แม่กำปอง เดินได้สบาย ๆ ชิว ๆ (ใครไม่ชำนาญไม่อยากให้ขับรถขึ้นไปนะคะและจอดรถตามจุดจอดหรือคำแนะนำของหมู่บ้านได้เลย มีรถบริการนำเที่ยว) หลังจากนั้นเดินกลับมาอาบน้ำ พักผ่อนและเตรียมลุยต่อในมื้อเย็น !
บรรยากาศกลางวันว่าประทับใจแล้ว บรรยากาศกลางคืนคือที่สุด 
หลังจากนอนพักผ่อน อาบน้ำเปลี่ยนชุดเรียบร้อยแล้วได้เวลาออกมาเดินเล่นรอบเล่นและเติมพลังอีกครั้งก่อนจะหมดวัน ผู้คนยังคงแวะเวียนกันไปมา ไม่ได้มีทีท่าลดน้อยลง บางคนก็เดินทางกลับ บางคนเพิ่งจะกำลังมาถึง คงเป็นเสน่ห์แม่กำปองตอนกลางคืนที่ต้องมาสัมผัสด้วยตัวเองสักครั้ง เราพลาดไม่ได้ที่จะกินจิ้มจุ่ม + ข้าวกะเพราหมู ไข่ดาว ไม่สามารถปฏิเสธเมนูเหล่านี้ได้จริง ๆ (จำชื่อร้านไม่ได้ แต่อยู่ตรงหัวมุมทางลัดที่จะเดินขึ้นระเบียงวิว ตรงข้ามร้านขายน้ำ ขนมปัง) ถ้าให้พูดถึงบรรยากาศยามย่ำคืน คงเป็นอีกสถานที่ที่เหมาะจะอยู่กับคนที่เรารัก ไม่ว่าจะเป็นครอบครัว เพื่อน แฟน ตัวเอง หรือแม้กระทั่งคนแปลกหน้าที่แวะเวียนมาเจอกัน เป็นช่วงเวลาที่อบอุ่นคล้ายจะโรแมนติก ด้วยแสงไฟ สภาพอากาศ ผู้คนและคงเป็นเอกลักษณ์ของแม่กำปองที่คงอธิบายไม่เท่ากับตาเห็น คงเป็นช่วงเวลาที่ได้ทบทวนตัวเอง ทบทวนเรื่องราวและความทรงจำก่อนจะโบกมือลาจากกัน
คงต้องบอกลาคืนนี้ "ฝันดีพร้อมลมหนาวนะ"
...เช้าสุดท้าย ณ แม่กำปอง หากต้องพูดอะไรถึงที่นี่คงพูดได้ว่า ขอบคุณ ขอบคุณสถานที่ ขอบคุณผู้คน ขอบคุณความทรงจำที่เกิดขึ้น ณ ที่แห่งนี้ แม้อากาศจะหนาวจนเป็นอุปสรรคกับคนขี้หนาวในบางครั้งแต่รู้สึกคุ้มค่า ประทับใจ สำหรับเราแม่กำปองจะเป็นแค่ทางผ่านที่คนแวะเวียนมาเที่ยวก็ได้ เพราะสำหรับบางคนอาจจะไม่มีอะไร หรือเหมาะกับการมานอนค้างคืนสัก 1-2 คืนก็ได้ ขึ้นอยู่กับจุดประสงค์และความต้องการของแต่ละคน แต่สำหรับเราไม่ว่าจะเป็นแบบไหน แม่กำปอง...เป็นสถานที่หนึ่งที่ควรค่าแก่การเดินทางมา ขอบคุณตลอด 1 คืน 2 วันนะ ไว้มีโอกาสจะกลับไปใช้ชีวิตให้ช้าอีกแน่นอน และขอบคุณบทเพลงแม่กำปอง จาก t_047 ทุกอย่างรวมไว้ในเพลงนั้นแล้ว คิดถึงก็แค่เปิดฟัง 💚
ขอรีวิวแม่กำปองเพียงเท่านี้ จะคิดถึงเสมอ รัก.
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่