คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 6
ทิศทางการเปลี่ยนแปลงประเทศที่ดี มันควรจะไปทางไหน
สมาชิกหมายเลข 6805002
... ไปทางความดี
ตอนนี้ผมไม่รู้แล้วว่าอะไรคือความจริงผมจะทำหน้าที่สื่อได้ยังไง ถ้าผมไม่รู้ว่าต้องยึดอะไรเป็นเกณฑ์
สมาชิกหมายเลข 6805002
...ยึดความดีเป็นเกณฑ์ หน้าที่สื่อคือฉายภาพของความดีและความชั่วให้สังคมรับรู้ สอดแทรกคติธรรมความดีเข้าไปนิดนึง
ซึ่งนี่คือสิ่งที่ผมไม่เข้าใจ
สมาชิกหมายเลข 6805002
... เป็นธรรมชาติของวัยรุ่นมักใจร้อน อยากเปลี่ยนแปลงอะไรปุ๊บปั๊บ.. แต่กฏความเป็นจริงของสรรพสิ่งด้านสร้างสรรค์มักต้องใช้เวลาในการปรับปรุงเปลี่ยนแปลง ส่วนการเปลี่ยนแปลงแบบปุ๊บปั๊บเป็นความจริงของด้ายทำลาย..
ตัวอย่างเช่นการจะสร้างบ้านหลังหลัง ต้องใช้เวลาหลายวัน วางแผนวางแปลนไปจนถึงการตบแต่ง.. แต่การทำลายแค่บอมส์เดียวรวมเวลาที่เก็บกวาดซากแค่วันเดียวก็เสร็จละ ... ดังนี้เป็นตัวอย่างให้เห็นความต่างของการสร้างสรรและทำลาย ซึ่งก่อเกิดการเปลี่ยนแปลงเหมือนกันแต่เป็นการเปลี่ยนแปลงเชิงบวก กับการเปลี่ยนแปลงเชิงลบ..
ทัศนคติของคุณเจ้าของกระทู้ คือต้องการเปลี่ยนแปลงไปเชิงลบ ซึ่งไม่เหมาะสมกับเหตุการณ์-สถานที่-และเวลา...นั่นเอง.
ปัจเจกคือต้นไม้ แสงสว่างคือปัญญา..
ต้นไม้จะมีแสงสว่างเป็นที่ยึดเหนี่ยวเสมอๆ..ฉันใด
ปัจเจกก็ควรจะใช้ปัญญาเป็นที่ยึดเหนี่ยว ..ฉันนั้นแล
สมาชิกหมายเลข 6805002
... ไปทางความดี
ตอนนี้ผมไม่รู้แล้วว่าอะไรคือความจริงผมจะทำหน้าที่สื่อได้ยังไง ถ้าผมไม่รู้ว่าต้องยึดอะไรเป็นเกณฑ์
สมาชิกหมายเลข 6805002
...ยึดความดีเป็นเกณฑ์ หน้าที่สื่อคือฉายภาพของความดีและความชั่วให้สังคมรับรู้ สอดแทรกคติธรรมความดีเข้าไปนิดนึง
ซึ่งนี่คือสิ่งที่ผมไม่เข้าใจ
สมาชิกหมายเลข 6805002
... เป็นธรรมชาติของวัยรุ่นมักใจร้อน อยากเปลี่ยนแปลงอะไรปุ๊บปั๊บ.. แต่กฏความเป็นจริงของสรรพสิ่งด้านสร้างสรรค์มักต้องใช้เวลาในการปรับปรุงเปลี่ยนแปลง ส่วนการเปลี่ยนแปลงแบบปุ๊บปั๊บเป็นความจริงของด้ายทำลาย..
ตัวอย่างเช่นการจะสร้างบ้านหลังหลัง ต้องใช้เวลาหลายวัน วางแผนวางแปลนไปจนถึงการตบแต่ง.. แต่การทำลายแค่บอมส์เดียวรวมเวลาที่เก็บกวาดซากแค่วันเดียวก็เสร็จละ ... ดังนี้เป็นตัวอย่างให้เห็นความต่างของการสร้างสรรและทำลาย ซึ่งก่อเกิดการเปลี่ยนแปลงเหมือนกันแต่เป็นการเปลี่ยนแปลงเชิงบวก กับการเปลี่ยนแปลงเชิงลบ..
ทัศนคติของคุณเจ้าของกระทู้ คือต้องการเปลี่ยนแปลงไปเชิงลบ ซึ่งไม่เหมาะสมกับเหตุการณ์-สถานที่-และเวลา...นั่นเอง.
ปัจเจกคือต้นไม้ แสงสว่างคือปัญญา..
ต้นไม้จะมีแสงสว่างเป็นที่ยึดเหนี่ยวเสมอๆ..ฉันใด
ปัจเจกก็ควรจะใช้ปัญญาเป็นที่ยึดเหนี่ยว ..ฉันนั้นแล
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 24
ผมเป็นประชาชนครับ อยู่ข้างประชาชน ไม่จำเป็นต้องเลือกข้าง เพราะคำว่า ประชาธิปไตย หมายถึงการปกครอง โดยประชาชน ชัดเจนไม่ต้องตีความ และบ้านเราตอนนี้ก็เป็นประชาธิปไตยอยู่ครับ มีเลือกตั้ง มีสภา มีฝ่ายค้านที่อภิปรายโจมตีรัฐบาลได้ มีระบบเผด็จการที่ไหนในโลกนี้ที่ปล่อยให้มีการออกมาโจมตีสถาบัน โจมตีรัฐบาล ออกมาสร้างความไม่สะดวกให้ผู้คนได้แทบทุกเทศกาลอย่างในบ้านเราบ้างครับ และถามหน่อย ว่าบรรดาประเทศที่มีชื่อว่า สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนฯ ทั้งหลายน่ะ ประชาชนออกมาทำอะไรได้บ้างครับ มีสิทธิเสรีภาพแค่ไหนครับ ขอตัวอย่างสักสามประเทศก็พอ การที่คนหนุ่มสาวมีความคิดที่จะสร้างสังคมให้ดีขึ้น ประเสริฐครับ เห็นด้วยเต็มร้อย แต่สิ่งที่เห็นกับตาจริงๆ คือการทำลาย อะไรก็ได้ที่เป็นของเดิม มีหลายคนที่ผมคิดว่าน่าจะมีแววเป็นนักสู้ของประชาชน ให้พอได้ชื่นชมบ้าง แต่พอตามดูสักพัก กลายเป็นว่า ที่ทำไปเพราะแรงริษยา เอาอุดมการบังหน้าเพื่อไม่ให้เสียฟอร์ม สุดท้ายกลายเป็นนักเคลื่อนไหวรับจ้าง รวยกันไปหลายคนแล้ว ผมเคยเป็นวัยรุ่นครับ และอยู่ในประเภท ซ้ายจัด แต่ผ่านโลกมาพอสมควร ไม่เห็นว่าจะมีที่ไหนเจริญจากการเปลี่ยนแปลงแบบล้างผลาญทำลายได้สักที่ สุดท้ายกลายเป็นได้เผด็จการกลุ่มใหม่ เลวร้ายกว่ากลุ่มเดิม มีหน้าปกชื่อประชาธิปไตย แต่เนื้อในเผด็จการล้วนๆ ความจริงที่ผมเห็นมา เป็นแบบนี้ครับ
ความคิดเห็นที่ 3
สังคม ไม่ได้มีแตพวกคุณ
ประกอบไปด้วยคนหลากหลาย ทุกระดับชั้น
ความคิดไม่ได้เหมือนพวกคุณ อย่าเหมาว่า เขาจะคิดเหมือนคุณ
การเลือกตั้งเป็นการวัดอย่างหนึ่ง
ถึงแม้ว่าจะไม่ค่อยจะสมบูลย์นัก
แต่ได้แค่นี้
เพราะสังคมไทยประกอบไปด้วยคนหลากหลาย หลายระดับชั้น
ใจเย็นๆ เพราะเราก็กำลังเดินไปข้างหน้า ไม่ได้ถอยหลังตามที่นักการเมืองชั่วบางคนใช้หลอกคน
ประกอบไปด้วยคนหลากหลาย ทุกระดับชั้น
ความคิดไม่ได้เหมือนพวกคุณ อย่าเหมาว่า เขาจะคิดเหมือนคุณ
การเลือกตั้งเป็นการวัดอย่างหนึ่ง
ถึงแม้ว่าจะไม่ค่อยจะสมบูลย์นัก
แต่ได้แค่นี้
เพราะสังคมไทยประกอบไปด้วยคนหลากหลาย หลายระดับชั้น
ใจเย็นๆ เพราะเราก็กำลังเดินไปข้างหน้า ไม่ได้ถอยหลังตามที่นักการเมืองชั่วบางคนใช้หลอกคน
ความคิดเห็นที่ 29
แค่เห็นภาพคนในม็อบถือปืน คามชอบธรรมของม็อบก็หายหมดเกลี้ยงแล้วครับ
ก่อนจะเรียกร้องอะไรตามที่ว่าเป็นสิทธิตามระบบประชาธิปไตย ต้องเริ่มต้นจากการเรียนรู้พื้นฐานของประชาธิปไตยก่อนครับ ว่าในระบบประชาธิปไตยประชาชนมีทั้งสิทธิและหน้าที่ ประชาชนมีสิทธิทำอะไรก็ได้แต่ขณะเดียวกันก็มีหน้าที่ที่จะต้องไม่กระทำผิดกฎหมาย
ก่อนจะเรียกร้องอะไรตามที่ว่าเป็นสิทธิตามระบบประชาธิปไตย ต้องเริ่มต้นจากการเรียนรู้พื้นฐานของประชาธิปไตยก่อนครับ ว่าในระบบประชาธิปไตยประชาชนมีทั้งสิทธิและหน้าที่ ประชาชนมีสิทธิทำอะไรก็ได้แต่ขณะเดียวกันก็มีหน้าที่ที่จะต้องไม่กระทำผิดกฎหมาย
ความคิดเห็นที่ 27
ทำไมคุณถึงคิดว่าสิ่งที่คุณคิดและทำมันเป็นสิ่งที่ถูก แต่คนที่เขาคิดไม่เหมือนคุณและไม่ออกมาทำอะไรแบบคุณและพวกเป็นสิ่งที่ผิดล่ะ
คุณคิดที่จะเปลี่ยนแปลงในสิ่งที่คนอีกมากมายเขาไม่ต้องการเปลี่ยน โดยใช้วิธีบีบบังคับกดดัน พอไม่ได้อย่างใจคุณก็ทุบทำลาย สร้างความเสียหายให้กับบ้านเมืองที่คุณบอกว่ามันไม่ดี ต้องเปลี่ยนแปลง ต้องโน่น ต้องนี่... โดยไม่ได้สนใจเลยว่าคนอื่นเขาคิดเขาเห็นอย่างไร ไม่สนใจว่าคนอื่นเขาจะเดือดร้อน รำคาญใจ แค่คุณคิดเข้าข้างตัวเองว่าสิ่งที่ทำมันถูก หาข้ออ้างมารองรับว่ามันทำได้ และคนอื่นๆจะต้องเสียสละให้กับความต้องการของคุณ
จะเป็นคนรุ่นใหม่หรือรุ่นเก่ามันก็ไม่ได้ชี้วัดถึงระดับของสมองนะครับ อย่านำมากล่าวอ้างเลย มันไม่ใช่หรอก
คุณคิดที่จะเปลี่ยนแปลงในสิ่งที่คนอีกมากมายเขาไม่ต้องการเปลี่ยน โดยใช้วิธีบีบบังคับกดดัน พอไม่ได้อย่างใจคุณก็ทุบทำลาย สร้างความเสียหายให้กับบ้านเมืองที่คุณบอกว่ามันไม่ดี ต้องเปลี่ยนแปลง ต้องโน่น ต้องนี่... โดยไม่ได้สนใจเลยว่าคนอื่นเขาคิดเขาเห็นอย่างไร ไม่สนใจว่าคนอื่นเขาจะเดือดร้อน รำคาญใจ แค่คุณคิดเข้าข้างตัวเองว่าสิ่งที่ทำมันถูก หาข้ออ้างมารองรับว่ามันทำได้ และคนอื่นๆจะต้องเสียสละให้กับความต้องการของคุณ
จะเป็นคนรุ่นใหม่หรือรุ่นเก่ามันก็ไม่ได้ชี้วัดถึงระดับของสมองนะครับ อย่านำมากล่าวอ้างเลย มันไม่ใช่หรอก
แสดงความคิดเห็น
ถ้าการไปร่วมม็อบ 3 นิ้วมันเป็นทางที่ผิด งั้นทางที่ถูกมันคืออะไรครับ?
ขอเกริ่นก่อนว่า ผมเพิ่งเป็นช่างภาพข่าวสารคดี (ฝึกหัด)
ในทุกการชุมนุมที่ผ่านมาตั้งแต่ครั้งแรก ๆ จะมีผมอยู่ในนั้นเสมอ
และด้วยความลำเอียง ผมมักจะบอกตัวเองว่าผมไม่ได้ไปในฐานะคนทำข่าว
แต่ผมนั้นเป็นส่วนหนึ่งของการประท้วงด้วย
เพราะผมเป็นคนรุ่นใหม่ ผมเบื่อกับระบบหลายอย่างที่กัดกินประเทศ
และผมต้องการเห็นการแก้ปัญหาเชิงโครงสร้างที่เป็นรูปธรรมจริง ๆ สักที
หลาย ๆ ครั้ง ผมละเลยหน้าที่ ผมกระทำในสิ่งที่ผู้สังเกตการณ์ไม่ควรทำ
เพราะผมเชื่อในคำกล่าวที่ว่า
"คนที่ไม่เลือกข้างในตอนนี้ นั่นหมายความว่า คุณได้เลือกข้างไปแล้ว" :
"จุดจบของผู้ที่ไม่สนใจเรื่องการเมือง คือการโดนนักการเมืองกัดกินเอาเสียเอง"
ตอนนั้น กระแสม็อบกำลังมาแรงมาก มีคนหลักหมื่นถึงแสนเข้าร่วมชุมนุม
เกิดการปะทะขึ้นเป็นว่าเล่น และยิ่งตำรวจรุนแรง ผู้ชุมนุมก็เริ่มออกมาอีก
ส่วนใครที่ไม่ออกมาแสดงจุดยืนทางการเมืองว่าอยู่ฝ่ายม็อบ
จะโดนเรียกด้วยสรรพนามว่า "สลิ่ม" ทันที
เกิดการ cancel culture คนมีชื่อเสียงที่นิ่งเฉยกับเหตุการณ์มากมาย
จนมันกลายเป็น norm ที่ว่า วัยรุ่นสมัยใหม่ ต้องไม่เป็น ignorance
มันเป็นการกระทำที่ผมรู้สึกตะหงิดเล็กน้อย แต่คนรอบตัวผมบอกว่า
"คนที่ทนเฉยต่อความไม่ชอบธรรมที่เกิดขึ้น ก็คือบ่อเกิดของปัญหาความไม่ชอบธรรม"
ซึ่งผมก็เออ จริงว่ะ ทุกคนควรจะออกมาเรียกร้องต่อความไม่ยุติธรรมสิ
ผมเป็นอย่างนั้นอยู่นาน ผมเห็นการชุมนุมที่ลามเป็นจราจลครั้งแล้วครั้งเล่า
เมื่อมีคนพ่นสี เผาสิ่งของ หรือปิดถนนชุมนุม คนรอบตัวผมบอกว่า
"นี่คืออารยะขัดขืนแบบสากล สาดสีไม่ทำให้ใครเจ็บตัวเหมือนกระสุนยางที่พวกมันยิง"
"ประชาชนตัวเปล่า หรืออย่างมากสุดก็ยิงพลุใส่ แต่ฝั่งนู้นล่าสุดมีกระสุนจริงแล้วนะ"
ก็คงจริง ผมรับได้ ผมยังคงเชื่อในม็อบอยู่ พวกเรากำลังทำในสิ่งที่ยากและยิ่งใหญ่
บางครั้งการจะเปลี่ยนแปลงประเทศ มันคงต้องมี "ความรุนแรงที่พอรับได้"
จนกระทั่งในการปราศรัย เริ่มมีการพูดถึงโครงสร้างอำนาจระดับสูง
สิ่งที่อยู่เหนืออำนาจของนายก และฝ่ายบริหารขึ้นไป
มีการพูดถึงแนวคิดที่ว่า ต่อให้เปลี่ยนนายก เราไม่สามารถแก้การเมืองที่เน่าเฟะได้
เพราะเมื่อมีคนถามถึงงบประมาณภาษีที่ถูกใช้ไปอย่างฟุ่มเฟือย และตรวจสอบไม่ได้
ก็จะโดนยัดข้อหายุยงปลุกปั่น และยัดมาตรา 112 ใส่แทน
พวกเราต้องยกเลิกมาตรา 112 ซึ่งถูกนำมาใช้เป็นอาวุธรังแกคนที่เห็นต่าง
หลังจากนั้น เกิดเหตุการณ์ต่าง ๆ ขึ้นมากมาย..., etc
จนปัจจุบันนี้
จากผู้ชุมนุมหลักแสน เหลือหลักหมื่น จนเหลือแค่หลักร้อย
ผมเริ่มสงสัย ว่าทำไม ทำไมทุกคนถึงไม่ออกมา ทำไมคนถึงลดน้อย
ซึ่งกราฟจำนวนคนตั้งแต่เริ่ม มันสวนทางกับเวลา
และผิดรูปแบบของการปฎิวัติที่ผ่านมาในประวัติศาสตร์
ผมขอโทษคนรอบตัวผม และเพื่อน ๆ ทุกคนด้วย ที่พูดแบบนี้
แต่ทุกวันนี้ เวลาผมลงพื้นที่ชุมนุม บอกตรง ๆ ว่าผมไม่เห็นสาระอะไรเลย
ทุกคนผลัดกันขึ้นมาพูดถ้อยคำปลุกใจ ตะโกนด่าสาปแช่งรัฐบาล
และพูดถึงการต่อสู้ครั้งสุดท้าย เพื่อลูกหลานในอนาคตข้างหน้า
ซึ่งผมไม่เห็นว่ากิจกรรมเหล่านี้ มันจะสร้างการเปลี่ยนแปลงระดับมหภาคได้
ทั้งที่ผมก็รู้ ว่าคนเหล่านี้ ก็แค่อยากให้ประเทศดำเนินไปในทิศทางที่ดี
งั้นถ้ามันผิด ทิศทางการเปลี่ยนแปลงประเทศที่ดี มันควรจะไปทางไหน
พูดตามตรงว่า ตอนนี้ผมไม่รู้แล้วว่าอะไรคือความจริง
ผมจะทำหน้าที่สื่อได้ยังไง ถ้าผมไม่รู้ว่าต้องยึดอะไรเป็นเกณฑ์
ซึ่งนี่คือสิ่งที่ผมไม่เข้าใจ