ทริปนี้ ถูกกำหนดไว้ว่าจะลงมาเที่ยวสุราษฎร์ธานีเป็นครั้งแรก....
วันเดินทางจองเที่ยวบินรอบเย็นวันเสาร์ กลับบ่ายวันจันทร์
เริ่มออกเดินทางจากสนามบินดอนเมือง ปลายทางสุราษฎร์ฯ 

ถึงสุราษฎร์ ประมาณ 17.00 น.  เป็นเวลาเย็น ตามแผน ผมต้องขับรถไปธุระในวันรุ่งขึ้นที่พัทลุง...
โดยจะพักระหว่างทาง คือ ที่ทุ่งสง เพื่อนอนก่อนจะเดินทางไปธุระต่อ

บริเวณทางเข้าสนามบิน น่าจะกำลังทำถนนอยู่ เลยต้องเจอรถติด ช่วงกลับรถ

เป็นระยะทางประมาณ  140 กว่ากม. ซึ่งใช้เวลาขับรถกว่าจะถึงที่พัก ก็มืดเลย
ระหว่างทางรถบนถนนเยอะพอสมควร ไม่ถึงกับรถติด
อาจจะเจอฝนตกบางช่วงบ้าง...

ที่พักในคืนนี้คือ smile resort ทุ่งสง


เป็นที่พักอยุ่ติดถนนใหญ่ เป็นสัดส่วนดีนะ 
แต่ละห้องมีที่จอดรถข้างๆ สภาพในห้องถือว่าใหม่...
ตรงกลางเป็นคล้ายๆสวนย่อมเล็ก...
เช้ามาก็พร้อมเดินทางต่อ


ที่ชอบในการขับรถโซนใต้ คือบรรยากาศข้างทาง
ที่มีป่าเขียวขจี มีภูเขาให้เห็นเป็นระยะ 
บางช่วงก็เป็นเนิน หรือขึ้นเขาบ้าง....

โซนแถวนี้มีปรับปรุงเส้นทาง...อาจจะมีชะลอ หรือรถติดบ้าง

ต้องขับรถจากทุ่งสงเข้าพัทลุง ระยะทางประมาณ 130 กม.เศษ
ระหว่างทางก็มีบางช่วงถนนที่ซ่อมหรือปรับปรุง อาจมีรถติดบ้าง
เจอฝนตกบ้าง....

ใช้เวลาประมาณชั่วโมงครึ่ง เกือบสองชั่วโมงในการขับรถ

เสร็จธุระ... ก็เที่ยงกว่าๆ คงต้องขับรถกลับสุราษฎร์ในบ่ายวันนี้....
ด้วยระยะทาง 240 กม. เพื่อไปพักยังที่พักในเมืองสุราษฎร์



 แต่ก็หิวอยู่ แวะซื้อขนมเป็นกล้วยทอด(กล้วยแขก) กับขนมทางใต้

เป็นขนมคล้ายๆแป้งทอด มีไส้มะพร้าว
อร่อย คล้ายกับขนมถังแตก ที่มีไส้มะพร้าว

ต่อด้วย ก๋วยเตี๊ยว เส้นหมี่เหลืองแบบนี้ ไม่ใช่บะหมี่ที่คนแถบภาคกลางทานกัน
เส้นจะไม่นุ่มแบบบะหมี่ แต่ก็อร่อยใช้ได้....

ที่พักสำหรับคืนนี้ที่สุราษฎร์ คือ  Hillside boutique resort 

เป็นห้องพักที่ใหม่ ห้องกว้างขวาง 
เลือกได้เลยจะพักชั้น 1 หรือ 2 
วิวดู อยู่ไกลถนนใหญ่ เงียบสงบ 

มาถึงที่พักก็ช่วงเย็นๆ ...
แวะซื้อของและหาอาหารมื้อเย็น...
บ้านบนเขา วิวสวย...เป็นร้านที่ไม่ไกลจากที่พัก
ตอนมาก็มืดแล้วด้วย....

หมึกไข่ต้มแขก... จานนี้อร่อยเลย  รสชาดเปรี้ยวนิดๆ หอมกะทิ จัดหมึกมาเต็มชามเลย คุ้มมาก

 กุ้งผัดกะปิสะตอ.... รสชาดจัดจ้าน จัดกุ้งมาเต็มจาน ได้รสชาดอาหารใต้...

 ห่อหมกทะเลมะพร้าวอ่อน เมนูนี้จัดมาเต็มเลย...ในมะพร้าวนี้ มีเนื้อปลา กุ้ง ปลามึกฯ แบบจัดมาเต็มที่
รสชาดอาจไม่เผ็ดมาก แต่ทานกับข้าวถือว่าใช้ได้...

 มาคนเดียวแต่จัดแบบนี้ ...ไม่หมดครับ ราคาไม่แพงด้วย กับปริมาณและคุณภาพแบบนี้


แอบเสียดายที่มาช่วงค่ำ จะบอกว่าวิวของร้านนี้ดีมากเลย....
มองจากบนเขาลงมาเห็นตัวเมือง...และโดยรอบ ที่บรรยากาศดีมาก...
ยิ่งช่วงเช้าจะมีหมอกให้เห็น....
ปล.ความจริงร้านอยู่บนเขา ด้วยความที่ไม่เคยมาและมาแบบกลางคืน
จะบอกว่าทางขึ้น มีบางจุดที่ค่อนข้างชันมาก...(ซึ่งถ้าผมมากลางวัน
อาจจะคิดหนัก... แอบกลัวความสูง แต่พอมากลางคืน ดูป้ายกับ google map
เลยไม่เห็นว่าจะมีทางชันแบบนี้...)

คืนนี้ก็กลับมานอนที่รีสอร์ทแบบสบายๆ และอิ่มท้อง


 คืนนี้ช่างเงียบเหงา และดูเดียวดายน่าดูเลย สำหรับเสี้ยวหนึ่งของชีวิต....
บางครั้งการที่เรายอมรับความจริง ปล่อยทุกอย่างไป
อาจไม่ต้องมาพะว้าพะวัง และอาวรแบบนี้....

ตื่นเช้ามากับเช้าวันจันทร์....พอมีเวลาก่อนจะกลับ
กับสวนโมกข์ และวัดพระบรมธาตุไชยา..

แวะที่สวนโมกข์ก่อน... มาถึงแต่เช้า 7.30 น. 
บรรยากาศภายใน ช่วงเงียบสงบ และร่มรื่น มาก








 ใช้เวลากับการชมบรรยากาศ อ่านข้อคิด และแวะที่ศูนย์หนังสือ เพื่อซื้อหนังสือกลับมาฝากแม่...
ก่อนจะขับรถต่อไปยัง วัดพระบรมธาตุไชยา ที่ไม่ไกลกัน




ใช้เวลาไหว้พระบรมธาตุฯ ไม่นาน ก็เดินทางกลับที่พัก...
มีอาหารเช้าไข่กะทะ...

กับการเดินทางมาทำธุระและท่องเที่ยวเล็กๆ 
ทริปที่ขับรถยาวนาน ข้ามจังหวัดสุราษฎร์ นครศรีฯ พัทลุง  (รอบนี้หมดทริป 450 กม.เศษ)
แม้จะได้เที่ยวไม่กี่แห่ง เนื่องจากมีภารกิจ
แต่คงจะหาเวลามาเยือนสุราษฎร์อีกแน่...

  ในช่วงเวลาหนึ่งของชีวิต
เมื่อใครสักคนที่เข้ามา ด้วยโชคชะตาหรือวาสนา
จงรักษาและดูแลกันให้ดีๆ 
เพราะในวันนึงความรู้สึกดีๆที่เคยมีต่อกัน
มันอาจมลายหายไป...จนมิมีวันหวนคืน...
ไม่อยากจะลา...ก็มิอาจฝืน
อยากจะเดินร่วมกัน...แต่กับไปคนละทาง...
อดีตอาจมีความทรงจำ แต่บางทีก็มีแผลที่เจ็บปวดที่มิอาจลืมเลือน...ลาก่อน