ขอเกลิ่นก่อนว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงกับญาติผู้เป็นพี่ของเรานะคะ แต่ที่นำมาเล่าจำเป็นต้องดัดแปลงชื่อบุคคลที่เกี่ยวข้องในเรื่องนิดหน่อยเพื่อเป็นการไม่ให้เป็นการพาดพิงไปถึงตัวบุคคลในเรื่องแต่ชื่อที่ดัดแปลงจะมีความคล้ายกับชื่อจริงของบุคคลในเรื่องมาก
เรื่องราวทั้งหมดเป็นเรื่องที่พี่เล่าให้เราฟังมาอีกที
พี่สาวของจขกทเป็นคนที่ชอบตุ๊กตามาก เขาพอมีเงินและก็จะซื้อตุ๊กตาแปลกๆเก็บสะสมไว้มีหลายตัว ซึ่งมีอยู่ตัวหนึ่งที่มีที่มาที่ไปไม่ธรรมดา......
ตุ๊กตาตัวนี้นั่นเดิมขายอยู่ในร้านขายของเก่าในประเทศอังกฤษราคาค่อนข้างสูงตกเป็นเงินไทยคือหมื่นกว่าบาท คนขายซึ่งเป็นเจ้าของตุ๊กตานั้นเป็นแหม่มชาวอังกฤษ ซึ่งทำอาชีพเสริมคือหาของเก่าของ
วินเทจมาขาย ......เดิมทีเธอก็ไม่ได้คิดจะขายตุ๊กตาตัวนี้หรอกเพราะว่ามันเป็นตุ๊กตาที่มีที่มาที่ไปไม่ธรรมดา แต่ก่อนเธอมักจะตั้งตุ๊กตาตัวนี้ไว้ที่โต๊ะทำงานของเธอแต่ช่วงหลังมีปัญหาการเงินเธอก็เลยเอาออกมาขายในร้านด้วย
ตุ๊กตาตัวนี้มีชื่อเล่นที่เรียกว่า
"เบนดีส" คนขายเล่าว่าเธอทำตุ๊กตาเองกับมือแต่ที่ไม่ธรรมดานั้นก็คือชุดของตุ๊กตาเบนดีสนั้นตัดออกมาจากชุดผ้าลูกไม้ของผู้หญิงสมัยเอ็ดเวิร์ดเดียนซึ่ง
เจ้าของเดรสลูกไม้ที่ถูกนำมาตัดเป็นชุดตุ๊กตานั้น เธอคนนี้มีชื่อว่า
"เบนดาเรีย" ส่วนผมของตุ๊กตานั้นก็ทำมาจากผมของคนจริงซึ่งก็คือผมของ
เบนดาเรีย.....
เบนดาเรียนั้นไม่ใช่ชื่อผู้หญิงฝรั่งนะคะแต่เป็นชื่อที่แปลกเพราะเป็นชื่อของสาวยิปซี
ย้อนหลังไปในยุคเอ็ดเวิร์ดเดียน
เบนดาเรียนั้นเป็นสาวชาวยิปซีที่เป็นหมอดูไพ่ทารอทอยู่ในคณะละครสัตว์ ซึ่งคนในยุคนั้นมองว่าเธอมีเวทย์มนต์หรือเป็นพวกแม่มด เบนดาเรียนั้นเป็นคนมีผมยาวหยิกหยักศกสีน้ำตาลเข้มประกายทองนิดๆเหมือนสีไม้มะฮอกกานี .....เธอเสียชีวิตลงด้วยอายุราว20กว่าๆเท่านั้นด้วยโรคร้าย
ซึ่งคุณย่าของเจ้าของตุ๊กตาเบนดีสนั้นเป็นลูกสาวของเจ้าของคณะละครสัตว์ที่
เบนดาเรียอาศัยอยู่บอกว่าก่อนเบนดาเรียป่วยหนักๆจะเสียชีวิตเธอก็ได้บอกเจ้าของคณะละครที่เธออาศัยอยู่ซึ่งเป็นพ่อของคุณย่าของแหม่มที่ทำตุ๊กตา
เบนดิสว่าให้ตัดผมของเบนดาเรียและเก็บชุดกระโปรงลูกไม้ที่เธอใส่วันตายเอาไว้เป็นที่ระลึก .....
ซึ่งพอมาถึงในยุคปัจจุบันแหม่มเจ้าของร้านขายของเก่าก็ได้ทำตุ๊กตา
คอลเล็คชั่นพิเศษขึ้นมาตัวหนึ่งโดยการตัดเอาผ้าลูกไม้ที่เป็นชุดของ
เบนดาเรียมาทำชุดให้ตุ๊กตา และก็เอาผมของเบนดาเรียมาทำผมให้ตุ๊กตาด้วยซึ่งพอเธอมีปัญหาทางการเงินก็เลยเอาตุ๊กตาตัวนี้ออกมาขาย
พี่ของเราบอกว่าตุ๊กตาตัวนี้มีอะไรที่แปลกๆเพราะมันดูเหมือนมีชีวิต ดูน่ารักตลกๆ แขนขาจับพลิกตั้งท่านั้นท่านี้ได้ หน้าก็เพ้นท์เหมือนคนใส่หน้ากากเวนิส ก็เลยซื้อมา......
ซึ่งพี่สาวของจขกทนั้นอาศัยอยู่ที่คอนโดที่ญี่ปุ่นและก็เล่าว่า เดิมที่คอนโดที่อาศัยนั้นเจ้าที่ก็แรงอยู่แล้ว และก็มีเรื่องผีและเหตุการณ์แปลกๆบ่อยๆรวมทั้งผู้หญิงฆ่าตัวตายในคอนโด (ซึ่งมีเรื่องผีอื่นๆที่พี่เราเจอและเล่าให้ฟัง) ก่อนหน้าที่จะเอาตุ๊กตา
เบนดาเรียเข้ามาในคอนโดด้วยซ้ำ
พี่จขกทเล่าว่าตอนที่เอาตุ๊กตา
เบนดาเรียเข้ามาในบ้านได้ไม่นานก็ฝันบ่อยๆว่าเห็นผู้หญิงสาววัยรุ่นชาวต่างชาติคนหนึ่ง หน้าตาสวยคล้ายๆฝรั่ง แต่ผิวไม่ขาวเท่าฝรั่ง เธอคนนี้มีผมออกหยักศกสีน้ำตาลเข้ม ... เธอใส่ชุดกระโปรงผ้าลูกไม้โบราณเหมือนยุควิคตอเรียทำกิจวัตรประจำวันอยู่ในบ้านที่อังกฤษเช่นเย็บผ้า
บางคืนตอนดึกๆพี่เล่าว่าเหมือนถูกผีอำขยับตัวไม่ได้และเมื่อมองไปที่ปลายเตียงก็จะเห็นเงาเป็นโครงร่างผู้หญิงใส่ชุดสีตุ่นๆผมหยักศกยาวมายืนอยู่แต่ก็ไม่ได้ทำอะไร อาการถูกอำนั้นรุนแรงและถี่มากแม้แต่เวลานอนแช่ในอ่างอาบน้ำและฟังเพลงพอเคลิ้มๆสะลึมสะลือก็จะเห็นร่างคนเห็นหน้าไม่ชัดผมหยิกหยักศกยาวมาให้เห็นแว็บๆ พี่สาวบอกว่าอาจจะเป็นดวงจิตของ
เบนดาเรียซึ่งมากับผมและชุดที่ตุ๊กตาใส่ ซึ่งพี่สาวบอกว่าไม่ได้ดูน่ากลัว ก็เลยเอาตุ๊กตาเบนดาเรียใส่ไว้ในตู้โชว์อย่างดีพร้อมอยู่ในกล่องพลาสติกอีกชั้นนึง
พี่สาวเล่าว่าสุนัขที่เลี้ยงไว้ที่คอนโดมักจะเห่าตุ๊กตาและไม่กล้าเข้าใกล้กล่องใส่ตุ๊กตาตัวนี้ด้วย ....หลังจากที่เอาตุ๊กตาเข้ามาไว้ในบ้านได้ราว3เดือนนอกจากเหตุการณ์ฝันถึงผู้หญิงต่างชาติในชุดกระโปรงลูกไม้ทำกิจกรรมอยู่ในบ้านซึ่งในฝันเป็นที่อังกฤษซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนพี่สาวเข้าใจว่าตุ๊กตาตัวนี้คงต้องมีวิญญาณอยู่แน่ ลูกสาวของพี่เขาซึ่งตอนนั้นอายุแค่6ขวบมีอยู่ทีก็ร้องเอ๊ะอะตะโกนขึ้นมาว่าไปเปิดตู้เย็นหาของกินแล้วก็เจอเด็กผู้หญิงสาวๆคนนึงใส่ชุดเหมือนตุ๊กตานั่งอยู่ในตู้เย็น.....ซึ่งพอคุยกับเจ้าของเดิมที่เป็นฝรั่งดูเธอก็บอกว่าเธอเองก็รู้สึกได้ถึงวิญญาณ
เบนดาเรียตอนที่ตุ๊กตาอยู่กับเธอ
พี่สาวเล่าว่า เลยปฏิบัติเลี้ยงตุ๊กตาตัวนี้เอาไว้ซะเลยแบบกุมารทองเหมือนมีชีวิต แต่ไม่ได้เอาออกมานอกตู้โชว์ ....บางทีก่อนออกจากบ้านก็จะคุยด้วยหรือเอาน้ำหวานไปบูชา
หลังจากนั้นมาไม่นานแค่3เดือนหลังจากตุ๊กตาเบนดีสเข้ามาอยู่ในบ้าน มีอยู่มาคืนหนึ่งพี่สาวเล่าว่าตอนนอนหลับอยู่ก็ได้ยินเสียงผู้ชายญี่ปุ่นตะโกนเสียงดังน่ากลัวมากเหมือนเสียงคนเล่นละครในโรงละครโบราณหรือละครงิ้วอะไรสักอย่าง
.....แล้วก็มีเสียงผู้หญิงหวีดร้องตามมา หลังจากนั้น ซึ่งก็หาคำตอบไม่ได้ ตอนแรกก็นึกว่าเป็นคนข้างห้องแต่ก็ไม่ใช่ ก็ได้แต่คิดว่าคงเป็นเรื่องผีหรือสิ่งลึกลับอะไรสักอย่างเพราะในคอนโดที่อยู่มีเรื่องลึกลับอยู่เป็นปกติ
หลังจากนั้นในวันถัดมาพี่สาวได้ไปเปิดตู้โชว์ที่ใส่ตุ๊กตาและก็พบกับสิ่งที่คาดไม่ถึงคือตุ๊กตาเบนดาเรียที่อยู่ในกล่องพลาสติกอีกชั้นในตู้โชว์นั้นพังหัวหลุด หน้ากากหลุด แขนขาขาดและวิกผมก็หลุดพังออกมาจากหัวตุ๊กตาทั้งที่ไม่มีใครไปเปิดหรือแกะออกเพราะตู้ก็มีกุญแจล็อค
และสิ่งที่ตามมาหลังจากนั้นก็คือยิ่งนานวันเข้าเวลาผ่านไปวันที่2วันที่3
ตุ๊กตาเบนดาเรียก็เริ่มพังแตกสลายแบบไม่เหลือชิ้นดีราวกับว่ามันถูกใครตีจนเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย
ทั้งสีที่เพ้นท์หน้าก็ละลายเล๊ะราวกับ
ไอสครีมที่มันโดนความร้อน ลูกตาก็หลุดออกมาจากหัวและแขนขาที่ขาดไปก่อนหน้านั้นก็แหลกละเอียดเป็นชิ้นป่นๆ เสื้อผ้าที่ใส่ก็ขาดชนิดที่เอาไปประกอบคืนไม่ได้ และปัจจุบันนี้ซากของมันก็คือป่นเล๊ะจนไม่เหลือเค้าความเป็นตุ๊กตาอีก..... พี่สาวเล่าว่าไม่กล้าเล่าเรื่องนี้ให้เจ้าของเดิมตุ๊กตาฟังว่ามันเกิดอะไรขึ้น กลัวเจ้าของเดิมโกรธและหลังจากที่ตุ๊กตาตัวนี้แตกสลายไปแล้วนั้น
อาการสัมผัสได้หรือฝันเห็นผู้
หญิงสาวต่างชาติในชุดลูกไม้ทำกิจวัตรประจำวันในบ้านของตัวเองที่เป็นที่อังกฤษก็ไม่เคยเกิดขึ้นอีก เลยรวมทั้งอาการเห็นเงาร่างปริศนาตอนนอน..... ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลมันก็เป็นปริศนาว่าเกิดอะไรขึ้นกับตุ๊กตาเบนดาเรีย และจนครั้งล่าสุดที่เราได้คุยกับพี่ ก็คือตุ๊กตาตัวนี้หลังจากมันพังแตกละเอียดยิบอย่างไม่มีสาเหตุจู่ๆมันก็ได้หายไปเลยจากกล่องในตู้โชว์ เหลือแต่เศษซากเสื้อผ้าขาดๆกับชิ้นส่วนเล็กๆที่พังบางส่วน
เบนดาเรียเธอหายไปไหน - เรื่องเล่าหลอนในต่างแดนที่พี่สาวเล่าให้ฟัง
เรื่องราวทั้งหมดเป็นเรื่องที่พี่เล่าให้เราฟังมาอีกที
พี่สาวของจขกทเป็นคนที่ชอบตุ๊กตามาก เขาพอมีเงินและก็จะซื้อตุ๊กตาแปลกๆเก็บสะสมไว้มีหลายตัว ซึ่งมีอยู่ตัวหนึ่งที่มีที่มาที่ไปไม่ธรรมดา......
ตุ๊กตาตัวนี้นั่นเดิมขายอยู่ในร้านขายของเก่าในประเทศอังกฤษราคาค่อนข้างสูงตกเป็นเงินไทยคือหมื่นกว่าบาท คนขายซึ่งเป็นเจ้าของตุ๊กตานั้นเป็นแหม่มชาวอังกฤษ ซึ่งทำอาชีพเสริมคือหาของเก่าของ
วินเทจมาขาย ......เดิมทีเธอก็ไม่ได้คิดจะขายตุ๊กตาตัวนี้หรอกเพราะว่ามันเป็นตุ๊กตาที่มีที่มาที่ไปไม่ธรรมดา แต่ก่อนเธอมักจะตั้งตุ๊กตาตัวนี้ไว้ที่โต๊ะทำงานของเธอแต่ช่วงหลังมีปัญหาการเงินเธอก็เลยเอาออกมาขายในร้านด้วย
ตุ๊กตาตัวนี้มีชื่อเล่นที่เรียกว่า
"เบนดีส" คนขายเล่าว่าเธอทำตุ๊กตาเองกับมือแต่ที่ไม่ธรรมดานั้นก็คือชุดของตุ๊กตาเบนดีสนั้นตัดออกมาจากชุดผ้าลูกไม้ของผู้หญิงสมัยเอ็ดเวิร์ดเดียนซึ่ง
เจ้าของเดรสลูกไม้ที่ถูกนำมาตัดเป็นชุดตุ๊กตานั้น เธอคนนี้มีชื่อว่า
"เบนดาเรีย" ส่วนผมของตุ๊กตานั้นก็ทำมาจากผมของคนจริงซึ่งก็คือผมของ
เบนดาเรีย.....
เบนดาเรียนั้นไม่ใช่ชื่อผู้หญิงฝรั่งนะคะแต่เป็นชื่อที่แปลกเพราะเป็นชื่อของสาวยิปซี
ย้อนหลังไปในยุคเอ็ดเวิร์ดเดียน
เบนดาเรียนั้นเป็นสาวชาวยิปซีที่เป็นหมอดูไพ่ทารอทอยู่ในคณะละครสัตว์ ซึ่งคนในยุคนั้นมองว่าเธอมีเวทย์มนต์หรือเป็นพวกแม่มด เบนดาเรียนั้นเป็นคนมีผมยาวหยิกหยักศกสีน้ำตาลเข้มประกายทองนิดๆเหมือนสีไม้มะฮอกกานี .....เธอเสียชีวิตลงด้วยอายุราว20กว่าๆเท่านั้นด้วยโรคร้าย
ซึ่งคุณย่าของเจ้าของตุ๊กตาเบนดีสนั้นเป็นลูกสาวของเจ้าของคณะละครสัตว์ที่
เบนดาเรียอาศัยอยู่บอกว่าก่อนเบนดาเรียป่วยหนักๆจะเสียชีวิตเธอก็ได้บอกเจ้าของคณะละครที่เธออาศัยอยู่ซึ่งเป็นพ่อของคุณย่าของแหม่มที่ทำตุ๊กตา
เบนดิสว่าให้ตัดผมของเบนดาเรียและเก็บชุดกระโปรงลูกไม้ที่เธอใส่วันตายเอาไว้เป็นที่ระลึก .....
ซึ่งพอมาถึงในยุคปัจจุบันแหม่มเจ้าของร้านขายของเก่าก็ได้ทำตุ๊กตา
คอลเล็คชั่นพิเศษขึ้นมาตัวหนึ่งโดยการตัดเอาผ้าลูกไม้ที่เป็นชุดของ
เบนดาเรียมาทำชุดให้ตุ๊กตา และก็เอาผมของเบนดาเรียมาทำผมให้ตุ๊กตาด้วยซึ่งพอเธอมีปัญหาทางการเงินก็เลยเอาตุ๊กตาตัวนี้ออกมาขาย
พี่ของเราบอกว่าตุ๊กตาตัวนี้มีอะไรที่แปลกๆเพราะมันดูเหมือนมีชีวิต ดูน่ารักตลกๆ แขนขาจับพลิกตั้งท่านั้นท่านี้ได้ หน้าก็เพ้นท์เหมือนคนใส่หน้ากากเวนิส ก็เลยซื้อมา......
ซึ่งพี่สาวของจขกทนั้นอาศัยอยู่ที่คอนโดที่ญี่ปุ่นและก็เล่าว่า เดิมที่คอนโดที่อาศัยนั้นเจ้าที่ก็แรงอยู่แล้ว และก็มีเรื่องผีและเหตุการณ์แปลกๆบ่อยๆรวมทั้งผู้หญิงฆ่าตัวตายในคอนโด (ซึ่งมีเรื่องผีอื่นๆที่พี่เราเจอและเล่าให้ฟัง) ก่อนหน้าที่จะเอาตุ๊กตา
เบนดาเรียเข้ามาในคอนโดด้วยซ้ำ
พี่จขกทเล่าว่าตอนที่เอาตุ๊กตา
เบนดาเรียเข้ามาในบ้านได้ไม่นานก็ฝันบ่อยๆว่าเห็นผู้หญิงสาววัยรุ่นชาวต่างชาติคนหนึ่ง หน้าตาสวยคล้ายๆฝรั่ง แต่ผิวไม่ขาวเท่าฝรั่ง เธอคนนี้มีผมออกหยักศกสีน้ำตาลเข้ม ... เธอใส่ชุดกระโปรงผ้าลูกไม้โบราณเหมือนยุควิคตอเรียทำกิจวัตรประจำวันอยู่ในบ้านที่อังกฤษเช่นเย็บผ้า
บางคืนตอนดึกๆพี่เล่าว่าเหมือนถูกผีอำขยับตัวไม่ได้และเมื่อมองไปที่ปลายเตียงก็จะเห็นเงาเป็นโครงร่างผู้หญิงใส่ชุดสีตุ่นๆผมหยักศกยาวมายืนอยู่แต่ก็ไม่ได้ทำอะไร อาการถูกอำนั้นรุนแรงและถี่มากแม้แต่เวลานอนแช่ในอ่างอาบน้ำและฟังเพลงพอเคลิ้มๆสะลึมสะลือก็จะเห็นร่างคนเห็นหน้าไม่ชัดผมหยิกหยักศกยาวมาให้เห็นแว็บๆ พี่สาวบอกว่าอาจจะเป็นดวงจิตของ
เบนดาเรียซึ่งมากับผมและชุดที่ตุ๊กตาใส่ ซึ่งพี่สาวบอกว่าไม่ได้ดูน่ากลัว ก็เลยเอาตุ๊กตาเบนดาเรียใส่ไว้ในตู้โชว์อย่างดีพร้อมอยู่ในกล่องพลาสติกอีกชั้นนึง
พี่สาวเล่าว่าสุนัขที่เลี้ยงไว้ที่คอนโดมักจะเห่าตุ๊กตาและไม่กล้าเข้าใกล้กล่องใส่ตุ๊กตาตัวนี้ด้วย ....หลังจากที่เอาตุ๊กตาเข้ามาไว้ในบ้านได้ราว3เดือนนอกจากเหตุการณ์ฝันถึงผู้หญิงต่างชาติในชุดกระโปรงลูกไม้ทำกิจกรรมอยู่ในบ้านซึ่งในฝันเป็นที่อังกฤษซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนพี่สาวเข้าใจว่าตุ๊กตาตัวนี้คงต้องมีวิญญาณอยู่แน่ ลูกสาวของพี่เขาซึ่งตอนนั้นอายุแค่6ขวบมีอยู่ทีก็ร้องเอ๊ะอะตะโกนขึ้นมาว่าไปเปิดตู้เย็นหาของกินแล้วก็เจอเด็กผู้หญิงสาวๆคนนึงใส่ชุดเหมือนตุ๊กตานั่งอยู่ในตู้เย็น.....ซึ่งพอคุยกับเจ้าของเดิมที่เป็นฝรั่งดูเธอก็บอกว่าเธอเองก็รู้สึกได้ถึงวิญญาณ
เบนดาเรียตอนที่ตุ๊กตาอยู่กับเธอ
พี่สาวเล่าว่า เลยปฏิบัติเลี้ยงตุ๊กตาตัวนี้เอาไว้ซะเลยแบบกุมารทองเหมือนมีชีวิต แต่ไม่ได้เอาออกมานอกตู้โชว์ ....บางทีก่อนออกจากบ้านก็จะคุยด้วยหรือเอาน้ำหวานไปบูชา
หลังจากนั้นมาไม่นานแค่3เดือนหลังจากตุ๊กตาเบนดีสเข้ามาอยู่ในบ้าน มีอยู่มาคืนหนึ่งพี่สาวเล่าว่าตอนนอนหลับอยู่ก็ได้ยินเสียงผู้ชายญี่ปุ่นตะโกนเสียงดังน่ากลัวมากเหมือนเสียงคนเล่นละครในโรงละครโบราณหรือละครงิ้วอะไรสักอย่าง
.....แล้วก็มีเสียงผู้หญิงหวีดร้องตามมา หลังจากนั้น ซึ่งก็หาคำตอบไม่ได้ ตอนแรกก็นึกว่าเป็นคนข้างห้องแต่ก็ไม่ใช่ ก็ได้แต่คิดว่าคงเป็นเรื่องผีหรือสิ่งลึกลับอะไรสักอย่างเพราะในคอนโดที่อยู่มีเรื่องลึกลับอยู่เป็นปกติ
หลังจากนั้นในวันถัดมาพี่สาวได้ไปเปิดตู้โชว์ที่ใส่ตุ๊กตาและก็พบกับสิ่งที่คาดไม่ถึงคือตุ๊กตาเบนดาเรียที่อยู่ในกล่องพลาสติกอีกชั้นในตู้โชว์นั้นพังหัวหลุด หน้ากากหลุด แขนขาขาดและวิกผมก็หลุดพังออกมาจากหัวตุ๊กตาทั้งที่ไม่มีใครไปเปิดหรือแกะออกเพราะตู้ก็มีกุญแจล็อค
และสิ่งที่ตามมาหลังจากนั้นก็คือยิ่งนานวันเข้าเวลาผ่านไปวันที่2วันที่3
ตุ๊กตาเบนดาเรียก็เริ่มพังแตกสลายแบบไม่เหลือชิ้นดีราวกับว่ามันถูกใครตีจนเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย
ทั้งสีที่เพ้นท์หน้าก็ละลายเล๊ะราวกับ
ไอสครีมที่มันโดนความร้อน ลูกตาก็หลุดออกมาจากหัวและแขนขาที่ขาดไปก่อนหน้านั้นก็แหลกละเอียดเป็นชิ้นป่นๆ เสื้อผ้าที่ใส่ก็ขาดชนิดที่เอาไปประกอบคืนไม่ได้ และปัจจุบันนี้ซากของมันก็คือป่นเล๊ะจนไม่เหลือเค้าความเป็นตุ๊กตาอีก..... พี่สาวเล่าว่าไม่กล้าเล่าเรื่องนี้ให้เจ้าของเดิมตุ๊กตาฟังว่ามันเกิดอะไรขึ้น กลัวเจ้าของเดิมโกรธและหลังจากที่ตุ๊กตาตัวนี้แตกสลายไปแล้วนั้น
อาการสัมผัสได้หรือฝันเห็นผู้
หญิงสาวต่างชาติในชุดลูกไม้ทำกิจวัตรประจำวันในบ้านของตัวเองที่เป็นที่อังกฤษก็ไม่เคยเกิดขึ้นอีก เลยรวมทั้งอาการเห็นเงาร่างปริศนาตอนนอน..... ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลมันก็เป็นปริศนาว่าเกิดอะไรขึ้นกับตุ๊กตาเบนดาเรีย และจนครั้งล่าสุดที่เราได้คุยกับพี่ ก็คือตุ๊กตาตัวนี้หลังจากมันพังแตกละเอียดยิบอย่างไม่มีสาเหตุจู่ๆมันก็ได้หายไปเลยจากกล่องในตู้โชว์ เหลือแต่เศษซากเสื้อผ้าขาดๆกับชิ้นส่วนเล็กๆที่พังบางส่วน