รับคำท้าฯ
 
 
ตอนที่ 42
 
 
ปฏิการประคองร่างของหญิงสาวไว้ในอ้อมแขน  เมื่อคืนยังเห็นเธอตัวเล็กบอบบางอยู่เลย  เช้านี้ทำไมกลายเป็นหมีแพนด้าไปแล้ว  ไม่รู้ใส่เสื้อหนาวกี่ชั้นจนตัวกลมขนาดนี้  อากาศหนาวมากจนอยากจะกอดคนตรงหน้าไว้แนบแน่น คงจะรู้สึกอุ่นไม่น้อย  แต่พอมองเห็นสายตาของปรามที่มองมา ทำให้ต้องหยุดความคิดนั้นไว้ก่อน
 
 
ปริมาทำอะไรไม่ถูกอยู่ชั่วอึดใจเดียว  ก่อนจะรีบถอยตัวออกมาทันที
 
 
‘มีเรื่องให้อับอายแต่เช้าเลย ให้ตายสิ!’  เธอบ่นอุบตัวเอง
 
 
“นายมายืนเกะกะอะไรตรงนี้!”  คนหัวดื้อแสร้งโวยวายกลบเกลื่อน
 
 
“ฉันยืนของฉันอยู่ดี ๆ เธอต่างหาก ที่เดินไม่ดูตาม้าตาเรือมาชนฉันเองนะ ขอโทษน่ะ เป็นรึเปล่า?” อีกฝ่ายยอมซะที่ไหน ลอยหน้าลอยตาต่อปากต่อคำกับเธอ แอบซ่อนยิ้มไว้ในสีหน้า
 
 
“เอาของนายคืนไป”  คำตอบนั้นทำให้คนหัวดื้อหน้ายุ่งเป็นยุงตีกัน  แล้วทุ่มเสื้อหนาวใส่หนุ่มจอมกวน รีบก้มหน้าก้มตาเดินหนี แต่พอจะเดินไปทางซ้ายเขาก็ดันจะมาทางซ้าย  พอจะไปทางขวาเขาก็ดันมาทางขวาอีก
 
 
“หลบสิ!”  ปริมาเงยหน้ามองอีกฝ่ายที่เจตนาขวางทางใช่ไหม? แบบนี้!  ใบหน้าชายหนุ่มนั้นเอาแต่อมยิ้มอยู่ได้!
 
 
“ใจตรงกันเลยนะ!”  หนุ่มผมยาวพูดพลางส่งยิ้มหวาน
 
 
‘ไม่ยอมหลบใช่มั้ย? ได้!’  เธอมองหน้าเพื่อนพี่ชายด้วยดวงตาเขียวปัด  ว่าแล้วจึงยกเท้ากระทืบเท้าของเขาเต็มแรงอย่างหมั่นไส้
 
 
“โอ๊ย!” หนุ่มนักดนตรีร้องเสียงหลง ใบหน้าเหยเก  พร้อมกับส่งเสียงซีดรอดไรฟันด้วยความเจ็บปวด  นึกไม่ถึงว่ายัยตัวแสบจะกระแทกเท้ามาได้!  ร้ายกาจจริง ๆ ฝากไว้ก่อน!
 
 
คนหัวดื้อรีบเดินอ้าว ๆ ไปรวมกลุ่มกับสาว ๆ ที่เดินมาถึงแล้ว เตรียมเดินไปยังจุดชมวิวซึ่งอยู่ไม่ไกล เพื่อยลพระอาทิตย์ขึ้นจากสายหมอกกลางขุนเขา
 
 
                ขอบฟ้าปรากฏสีชมพูจาง ๆ  ที่ปลายฟ้าด้านตะวันออก  ดวงดาวดวงสุดท้ายหายลับไปกับขอบฟ้านานแล้ว  บรรยากาศยามเช้ายังมืดสลัวอยู่  อากาศหนาวจนทุกคนต้องซุกมือเอาไว้ในกระเป๋าเสื้อและกางเกงตามระเบียบ  บางคนไม่ยอมใส่เสื้อหนาว  มายืนปากสั่นทำตัวห่อ กระโดดเหยง ๆ ไปมาด้วยความหนาว  ไอร้อนจากภายในร่างกายเมื่อเอ่ยคำพูดกระทบกับความเย็นของภายนอก  ทำให้กลายเป็นควันสีขาวขมุกขมัวทุกครั้งที่ส่งเสียงเจรจาพาที   หนุ่มสาวต่างเฝ้ารอการปรากฏตัวของดวงอาทิตย์  เตรียมเก็บภาพสวย ๆ กันอย่างใจจดใจจ่อ  สายหมอกล่องลอยอยู่ใกล้ราวกับจะจับต้องได้  ทะเลหมอกกลางหุบเหวบนยอดผาสูง  งดงามเหมือนดินแดนแห่งสรวงสวรรค์ชั้นฟ้า
 
 
อีกไม่กี่นาทีต่อมาพระอาทิตย์ดวงกลมสีแดงแจ่มจ้าดวงมหึมาค่อย ๆ ฝ่าสายหมอกขึ้นมาฉายรังสีสีทอง  ราวกับกำลังส่งยิ้มอันสดใสทักทายทุกชีวิตบนโลกนี้อย่างเบิกบานใจ   เป็นภาพที่งดงามเหลือเกิน
 
 
หนุ่มสาวต่างรวมตัวกันแน่นเอี้ยดในกรอบสี่เหลี่ยมของกล้องที่เตรียมกดชัตเตอร์เพื่อบันทึกภาพและลีลาหลากหลายท่าทางสุดบรรยายของทุกคนเอาไว้  ที่ต่างเต็มไปด้วยความสนุกสนานร่าเริงเฮละโลโห่ฮิวไปตาม ๆ กัน 
 
 
ดอกไม้หลากชนิด  หลากหลายสีสันถูกปลูกสลับสับหว่างกันไว้เป็นชั้น ๆ ลดหลั่นกันเป็นขั้นบันไดตามไหล่ทางของหุบเขา  ผีเสื้อน้อยบินมาเป็นพระเอกประกอบฉากที่ดูเข้ากันที่สุด  เพราะผีเสื้อย่อมคู่กับดอกไม้เสมอ
 
 
ปริมานั่งดูดอกไม้สีเหลืองสดที่มีผีเสื้อปีกบางกำลังบินวนเวียนอยู่เหนือดอกไม้งาม  ลวดลายสีสันบนปีกผีเสื้อเป็นสีครามเหมือนท้องฟ้าของยามเช้า  ผีเสื้อสีหวานสดใสบินมาเกาะเส้นผมตรงสีดำสนิทของเธอ  พลางขยับปีกช้า ๆ
 
 
ปฏิการได้แต่เฝ้ามองปริมาหัวเราะ  ยิ้มแย้ม  ร่าเริงอยู่ห่าง ๆ   เกรงว่าถ้าเข้าไปใกล้ อาจจะทำให้เธอไม่มีความสุขเท่าที่ควรและขาดเวลาที่เป็นส่วนตัว  ได้แต่นึกอิจฉาผีเสื้อสีสวยที่มีโอกาสอยู่ใกล้ชิดและได้รับความสนใจจากหญิงสาวเป็นพิเศษ  เขายกโทรศัพท์ขึ้นถ่ายภาพแฟนในอนาคตเก็บไว้เป็นที่ระลึก  เธอผู้มีดวงตากลมโตเป็นประกายดุจดวงดาว  ริมฝีปากบางจิ้มลิ้มเวลาแย้มยิ้มเหมือนดอกไม้กำลังผลิบาน  สดใสน่ารักจนไม่อาจละสายตาไปได้เลย เขาเผลอยิ้มตามโดยไม่รู้ตัว
 
 
เพลงตกหลุมรักรอบที่ล้าน  ดังขึ้นมาในหัวสมอง  เขากำลังรู้สึกตกหลุมรักเธอเป็นรอบที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้... 
 
 
“ยัยตัวแสบ...เธอต้องรับผิดชอบฉันนะ” 
 
 
 
 
 
ตกหลุมรักรอบที่ล้าน
มองยังไงก็แพ้ทุกทางไม่รู้เป็นอะไร
มองมองไปก็เห็นคำว่าน่ารักเต็มไปหมด
เหมือนโดนสะกด โฮ่
 
 
รู้ไหมฉันโคตรชอบรอยยิ้มเธอ
รู้ไหมสายตาเธอทำฉันเพ้อ
เธอแทบไม่ใช่คนที่ฉันชอบเท่านั้น
แต่ฉันรักเธอมากขึ้นทุกวัน
 
 
หนีไปไหนก็คงจะไม่ไหว
ก็ฉันรักหาทางออกไม่ได้
ก็เธอช่วยอย่าน่ารักเกินไปได้ไหม
ใจฉันก็มีอยู่เท่านี้
 
 
ตกหลุมรักรอบที่ล้าน
มองยังไงก็แพ้ทุกทางไม่รู้เป็นอะไร
มองมองไปก็เห็นคำว่าน่ารักเต็มไปหมด
เหมือนโดนสะกด
ก็เธอดีเกินต้านไหว
 
 
ตกหลุมรักรอบที่ล้าน
มองยังไงก็แพ้ทุกทางไม่รู้เป็นอะไร
มองมองไปก็เห็นคำว่าน่ารักเต็มไปหมด
เหมือนโดนสะกด
เธอจะรับผิดชอบยังไงบอกที
 
 
แค่ได้เห็นก็ใจเจ็บทุกที
ทุกทุกท่า ทุกมุมมันช่างดี
ก็ช่วยอ่อนโยนกับฉันสักทีได้ไหม
ใจฉันก็มีอยู่เท่านี้
 
 
ตกหลุมรักรอบที่ล้าน
มองยังไงก็แพ้ทุกทางไม่รู้เป็นอะไร
มองมองไปก็เห็นคำว่าน่ารักเต็มไปหมด (ฮา)
เหมือนโดนสะกด (ฮา)
ก็เธอดีเกินต้านไหว
 
 
ตกหลุมรักรอบที่ล้าน
มองยังไงก็แพ้ทุกทางไม่รู้เป็นอะไร
มองมองไปก็เห็นคำว่าน่ารักเต็มไปหมด (ฮา)
เหมือนโดนสะกด (ฮา)
เธอจะรับผิดชอบยังไงบอกที
ฮื้อฮือ
ฮู้ว ฮู
 
 
 
 
 
หนุ่มจอมกวนชะงักการถ่ายภาพล่าสุด  เมื่อมองเห็นคู่แข่งทางหัวใจเดินเข้ามาขอถ่ายรูปกับสาวชาวสวน
 
 
‘ไอ้หมอนี่มาจากไหนวะ หนอย...!!’  เขาเกือบลืมไปว่าพี่รหัสของยัยตัวแสบคงมากับทีมค่ายจิตอาสา  ซึ่งจะต้องไปช่วยกันปลูกป่าในวันนี้
 
 
ปฏิการมองเห็นปกป้องยืนยิ้มหล่ออยู่ข้างปริมาอย่างหมั่นไส้  เขาจะอยู่เฉย ๆ ไม่ได้แล้ว  ต้องเดินไปเป็นก้างขวางคอเสียหน่อย
 
 
หนุ่มนักดนตรีเดินเร็ว ๆ ไปอยู่ข้างหลังปริมาที่กำลังยืนถ่ายรูปกันอยู่  ยื่นหน้ามาใกล้แทบจะวางคางไว้บนไหล่ของหญิงสาว ราวกับจะเอียงศีรษะซบกับเธอกระนั้น
 
 
                ปกป้องยื่นหน้าออกมามองหนุ่มผมยาว ที่อยู่ ๆ ก็โผล่เข้ามาเกะกะระหว่างที่เขาขอถ่ายรูปคู่กับน้องรหัส
 
 
                “ขอโทษนะครับ  ผมขอถ่ายรูปคู่สองคนครับ”  เขาเน้นคำในประโยคสุดท้ายและจ้องหน้าหนุ่มนักดนตรีหวังว่าคงจะเข้าใจภาษามนุษย์นะ
 
 
                ปริมาหันไปมองหนุ่มจอมกวนเข้ามายืนข้างหลังเธอตั้งแต่เมื่อไหร่?  จังหวะที่หันไปมองนั้น แก้มของเธอเฉียดกับปลายจมูกของชายหนุ่มอย่างหวุดหวิด เธอรีบเบนหน้าหนีเกือบไม่ทัน หัวใจแทบหล่นไปที่ตาตุ่มด้วยความตกใจ  แก้มร้อนผ่าวไปหมด
 
 
                หนุ่มหน้าหวานอึ้งไปครู่หนึ่ง  ก่อนจะทำไม่รู้ไม่ชี้กับคำพูดของปกป้อง เดินไปอยู่ข้างหน้าปริมา  ย่อตัวลงสบตากับเธอ
 
 
                “....รอบต่อไป...ต้องให้ฉันถ่ายรูปคู่กับปริม...บ้างนะ”  สีหน้า รอยยิ้มและแววตา ของหนุ่มหน้าหวาน ตลอดจนน้ำเสียงนั้นออดอ้อนเหลือเกิน
 
 
                คนถูกอ้อนอึ้งไปชั่วขณะ มองเขาอ้อนเธอต่อหน้าประชาชนอย่างนี้  แม้ว่าจะดูน่ารักเหมือนหมาน้อยกำลังอ้อนเจ้าของไม่มีผิดก็ตาม  อยากจะหยิกแก้มของเขาให้รู้แล้วรู้รอดด้วยความหมั่นไส้เต็มที่
 
 
                “นายทำบ้าอะไรของนาย!” สาวชาวสวนเลิ่กลั่กมองซ้ายมองขวา เพื่อน ๆ พากันอมยิ้มไปตาม ๆ กัน
 
 
                “นะ...นะ...”  เขายื่นมือมาดึงชายแขนเสื้อหนาวของเธอเบา ๆ  ยังไม่ยอมหลีกไปจนกว่าสาวใจแข็งจะตอบตกลง
 
 
                “พอได้แล้ว!”  ปริมาดึงแขนหนี  ถลึงตามองหนุ่มขี้อ้อน จะอ้อนไปถึงไหนเนี่ย...ไม่รู้จักอายคนอื่นบ้างหรือไง คนอยู่กันตั้งเยอะแยะ  เธอรู้สึกหน้าชาไปหมดแล้ว
 
 
                หนุ่มจอมกวนทำหน้างอ แล้วถอยตัวออกมา  จำใจให้ทั้งสองคนถ่ายรูปคู่กัน  มันช่างเป็นภาพที่บาดตาบาดใจยิ่งนัก 
 
 
                ปกป้องมองด้วยความมึนงงที่ตัวเองถูกหนุ่มจอมกวนเบียดออกมา หมอนั่นเข้ามายืนคั่นกลางระหว่างเขากับน้องรหัสหน้าตาเฉย  เมื่อถ่ายรูปกับปริมาเสร็จไปเพียงรูปเดียว
 
 
                “ผมขอถ่ายรูปคู่เหมือนกันนะครับ” ปฏิการหันไปทำความเข้าใจกับพี่รหัสของยัยตัวแสบ แล้วเก๊กหน้าชูนิ้วสองนิ้วย้ำอีกครั้งว่า หมายถึงถ่ายเพียงสองคนเท่านั้นไม่มีคนอื่น
 
 
                บรรดาเพื่อน ๆ และสาว ๆ ที่มองเห็นต่างพากันหัวเราะขำอาการหึงหวงของหนุ่มหน้าหวานที่รู้กันดีในหมู่เพื่อนว่า ถ้าชอบหรือไม่ชอบอะไร จะแสดงออกชัดเจนมาก บอกกันตรง ๆ อยู่แล้ว  ยกเว้นปกป้องที่มองด้วยความรำคาญและหัวเสียไม่น้อย
 
 
                “ปริมเราไปถ่ายรูปคู่กับทะเลหมอกกัน”  พี่รหัสชวนเธอเดินหนีหนุ่มนักดนตรีจอมตื้อไปถ่ายรูปที่มุมอื่น
 
 
                “ปริมใกล้ ๆ นี้เห็นเขาปลูกสตรอว์เบอร์รี ไปดูกันนะ”  ปฏิการเอ่ยปากชวนสาวชาวสวน  มองหน้าหญิงสาวอย่างลุ้นว่าเธอจะไปกับใครกันแน่!
 
 
                “ปริมอยู่นี่เอง  พี่เอาน้ำหมักมาให้”  ปิ่นขวัญเดินเข้ามาหาน้องสาวเพื่อน  รู้ดีว่า เวลาเดินทางปริมาจะมีปัญหาเกี่ยวกับระบบขับถ่าย  เนื่องจากทานน้ำน้อย  ผักผลไม้มีให้ทานน้อยกว่าปกติ
 
 
                “ดีจังเลยค่ะ พี่ปิ่น  ไหนเอามาลองทานหน่อยค่ะ ตัวเดิมหรือเปล่าคะ”  ปริมาเดินไปหาปิ่นขวัญอย่างดีใจ วันนี้เธอตื่นมายังไม่ถ่ายเลย  ตามหลักแพทย์ทางเลือกทุกศาสตร์ จะต้องพูดถึงจุลินทรีย์ที่ดีซึ่งจะช่วยย่อยและช่วยให้ระบบขับถ่ายดี  ซึ่งได้แก่ ของหมักดองต่าง ๆ  ของไทยเราที่หาง่ายมาก ได้แก่  ข้าวหมาก  ผักเสี่ยนดอง หรือผักดองต่าง ๆ  ถ้าเป็นของเกาหลีก็คือ กิมจิ นั่นเอง ถ้าของฝรั่งก็คือ โยเกิร์ต  และนมเปรี้ยวต่าง ๆ
 
 
                “ตัวนี้เลยจ้ะ ลูกแปลกแม่”  ปิ่นขวัญส่งขวดพลาสติกขนาดเล็กให้หนึ่งขวด พร้อมแผ่นพับบอกสรรพคุณ
 
 
เป็นตำรับยาในตำนาน ใช้ได้ทุกเพศทุกวัย แต่จะเน้นสตรี โดยในการรับประทานจะทำเป็นยาลูกกลอน มีส่วนประกอบคือ กล้วยน้ำไท 1 หวี ซึ่งปัจจุบันค่อนข้างหายาก จึงใช้กล้วยน้ำว้าแทน ผสมกับพริกไทย 1 กำมือ และมะตูมนิ่ม 1 ผล  สรรพคุณเป็นยาอายุวัฒนะ บำรุงร่างกาย บำรุงกล้ามเนื้อ ช่วยระบบการขับก่ายให้ดีขึ้น ทำให้นอนหลับง่าย บำรุงโลหิต บำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่ง สดใส เกลี้ยงเกลา 
 
 
กล้วยน้ำไทอุดมด้วยธาตุอาหารและพลังงาน  มะตูมนิ่ม ที่จริงก็เป็นพันธุ์เดียวกับมะตูมทั่วไป อาจจะมีผลกลมหรือผลรูปไข่ก็ได้แต่ผิวลูกจะนิ่มกว่า นำไปตากแห้งแล้วก็ยังนิ่ม  สรรพคุณมะตูมนิ่มเหมือนมะตูมธรรมดา ในที่นี้ใช้มะตูมสุกซึ่งมีสรรพคุณช่วยบำรุงร่างกาย บำรุงหัวใจ บำรุงตับ เพิ่มระดับอินซูลิน ช่วยควบคุมน้ำตาลในเลือด ลดไขมันในเลือด ป้องกันโรคความจำเสื่อม  เป็นยาระบาย ช่วยบำรุงผิวพรรณให้สดใส   พริกไทย ปกติใช้พริกไทยดำ รสร้อนแรงของพริกไทยช่วยขับลมและช่วยย่อย ทำให้เลือดลมก็เดินดี