ท่านใดมีความรู้ หรือ เคยเปรียบเทียบ Audio Interface vs Multi-Effects Processor

ตอนนี้มี iD4 อยู่ 1 ตัว
https://audient.com/products/audio-interfaces/id4/overview/

แล้วก็ซื้อ Pod farm 2.5
https://line6.com/pod-farm/

เล่นปกติ เปิด podfarm ที่เป็น exe กับ backing track บน youtube พบว่า sound เด้ง ติดนิ้ว เสียงอุดสาย ต่างๆ  แน่น ออกครบ ชัดเจน ชอบมากๆ

ปัญหาคือ พออัดเสียงผ่าน Cubase, Reaper เสียงมันดรอป อย่างเห็นได้ชัดเจนเลย ไม่ติดนิ้ว เกนก็เยอะฟุ้ง ต้องลด พออัดมาฟังพบว่าเสียงเละมาก ไม่เด้ง ไม่ติดนิ้ว แตกต่างจากตอนเล่น 

ตอนเล่นรู้สึกว่าเสียงเด้ง ติดนิ้ว พุ่ง เป็นเม็ดๆ กัดปิ๊ค ออกชัด แต่พอมาฟัง ทำไมที่ได้ยินตอนเล่นมันไม่เหมือนเลย
และ เสียงเบาพอเร่งก็ clip อีก เลยต้องใช้โปรแกรมเพิ่มเสียง track guitar โดยใช้ Maximizer มาช่วยเพิ่มเสียง ก็ไม่ดีขึ้น รู้สึกได้ชัดเจนว่าไม่ดีเหมือน เล่นโดยไม่บันทึกเสียง

พยายามปรับ buffer size 128K , sampling rate 44.1K พยายาม ทดสอบปรับหลายๆ ค่าก็ไม่ดีขึ้นเลยเหมือนเดิม

และ พยายามปรับ optimize ตามก็ไม่ดีขึ้น
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

specs เครื่อง ก็ไม่ขี้เหร่
Mainboard TUF Z370
I7 8700K
RAM 32G DDR4 3200MHz 8 * 4
SSD 256 M2 SAMSUNG 960 EVO (ใช้เป็น OS)
SSD 1T SATA2 SAMSUNG 870 EVO (ใช้เก็บ Data)

Windows 10 Pro ซื้อของแท้

เลยอยากถามท่านที่มีความรู้ หรือ อาจจะเคยทดลองว่า หากมี Multi-Effects Processor แยกออกมาเลย คือ จะไม่ใช้ Audio interface กับ Pod farm แล้ว
ที่คาดว่าจะซื้อคือ Line 6 HELIX LT
https://line6.com/helix/helix-lt.html

ทุกท่านคิดว่า HELIX ดีกว่า Audio Interface iD4  เยอะมากหรือไม่ครับ หรือว่า พอๆ กัน หากไม่แตกต่าง จะได้ไม่ต้องเสียเงินซื้อ HELIX
หาก HELIX ดีกว่ามากๆ ก็จะได้ลองซื้อมาใช้งาน กลัวซื้อมาผิดหวัง
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 1
ไม่ต้องไปหาซื้อเพิ่มหรอกครับเท่านี้ที่มีมันก็เพียงพอแล้วครับที่จะนำมาสร้างงานดีๆ ตัว Podfarm แบบ Standalone กับแบบที่เป็น VST อาจจะด้วยที่ว่าตัว Standalone มันมีระบบ Asio ของตัวมันเองในขณะที่แบบ VST มันต้องไปพึ่งจาก DAW อีกที่ด้วยเหตุนี้มันอาจจะมีเสียงที่แตกต่างกัน จริงๆก็ต้องยอมรับแหละว่า Podfarm เสียงจริงๆมันก็คาเรคเตอร์แบบนั้นแหละมันไม่ได้จะ Realistic อะไรขนาดนั้นเพราะเทคโนโลยีมันเก่ามากแล้ว ถ้าต้องการแบบ Realistic เกนติดนิ้วเนื้อเสียงดีๆก็ต้องไปพวก Gen ใหม่ๆเช่น Neural DSP ซึ่งให้คุณภาพเสียงระดับเดียวกับ Helix,Axe FX,Kemper เลย แต่เอาจริงๆสำหรับการทำงานเสียงมันไม่สำคัญหรอกครับว่ามัน Realistic หรือไม่มันต้องมองที่ภาพรวมมากกว่าว่าเสียงเวลามันเอาไปมิกซ์รวมกับเครื่องดนตรีอื่นๆมันออกมาดีหรือไม่เช่นเดียวกับ Podfarm นั่นแหละที่ถึงแม้มันจะไม่ได้ Realistic แต่พอมันเอาไปมิกซ์รวมกับเพลงแล้วมันฟังดูใหญ่มันอุ้มเพลงได้ มันจึงได้ถูกยกย่องว่าเป็น VST Amp Sims ที่เรียกได้ว่าพ่อทุกสถาบันในช่วงยุคกลางๆ 2000s ถึงต้นยุค 2010s โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับแนวดนตรี Rock และ Metal ก่อนการมาถึงของเจ้าอื่นที่มารับส่วนแบ่งการตลาด

จริงแล้วพวก VST Amps Sims มันมีหลายยี่ห้อมากนะซึ่งแต่ละตัวมันก็มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันไปอย่างเอาที่ผมเคยงานก็มี Lepou Poulin,JST Toneforge,Neural DSP อย่าง Lepou Poulin ที่เป็น Freeware ซึ่งเสียงก็ไม่ได้ Realistic อะไรมากแต่มันก็ทำงานได้ออกมาดีได้เหมือนกับของเสียตัง  JST Toneforge นี้เรียกได้ว่าถอดแบบมาจาก Podfarm เลยก็ว่าได้แต่ถ้าเป็น Gen ใหม่ๆนี้เสียงก็จะเริ่มมีความ Realistic สามารถชนกับ Neural DSP ได้เหมือนกัน โดยผมจะยกตัวอย่างแต่ละเพลงที่ผมใช้ VST Amps Sims พวกนี้

Lepou Poulin

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

JST Toneforge Gen เก่า

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

Neural DSP

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

JST Toneforge Gen ใหม่

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ



จะเห็นได้ว่าไม่ว่าจะ Amp Sims ตัวไหนมีคาเรคเตอร์อย่างไรเสียงมีความ Realistic หรือไม่มันก็สามารถนำมาใช้งานจนเกิดคุณภาพที่เทียบเท่าไม่ต่างกันหากเราเข้าใจคาเรคเตอร์เข้าใจในสิ่งที่มันเป็นมันมากพอสุดท้ายแล้วการเรียนรู้และทำความเข้าใจสำคัญที่สุด สำคัญกว่าการที่ไปสรรหาอุปกรณ์ระดับเทพมาใช้ เพราะถ้าเรามีความรู้ความเข้าใจมากพอเราก็สามารถทำงานให้ออกมาให้เทียบเท่ากับคนที่ใช้อุปกรณ์ระดับเทพได้เหมือนกัน ตรงกันข้ามกับคนที่เอาแต่พึ่งแต่อุปกรณ์เทพยังไงก็แพ้ให้กับคนที่มีอุปกรณ์ที่ด้อยกว่าแต่มีความรู้ความเข้าใจมากกว่า
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่