สวัสดีค่ะทุกคนนน วันนี้แว๊บมาเม้ามอยเรื่องสกินแคร์อีกแล้ว ซึ่งวันนี้บีมาแบบจัดหนักจัดเต็มมาก เพราะบีขนสกินแคร์ที่บีได้ใช้ในช่วง 1-2 ปีนี้ มารีวิวว่าตัวไหนปังหรือตัวไหนพัง และตัวไหนจะตำต่อบ้าง ซึ่งวันนี้ขออนุญาตเม้ามอยแบบเรียลๆ ไม่มีสปอนใดๆ ถ้าใช้ไม่ดี ขออนุญาตบ่นออกมาเบาๆ นะคะ ><

บีเป็นคนผิวผสมและบางทีก็แห้ง (ช่วงหลังๆ เลย 25 มานี่ ผิวแห้งตลอดเลยค่ะ) สกินแคร์ที่บีใช้เลยเน้นความชุ่มชื่นและริ้วรอย ซะส่วนใหญ่ค่ะ แต่ก็มีเรื่องอื่นๆ ด้วยค่ะ และบีไม่ได้ใช้ทั้งหมดในช่วงเดียวกันนะคะ บีเป็นสายใช้ไม่เกิน 4-5 ตัว/ไนท์ไทม์ค่ะ ดังนั้นที่รีวิวทั้งหมดเลยเป็นสกินแคร์ที่บีเคยใช้ในช่วงๆ นึง แล้วก็เปลี่ยนมาใช้ตัวอื่นบ้าง หรือบางทีก็หยิบกลับมาใช้อีกบ้าง ประมาณนี้ค่ะ เพราะแต่ก่อนบีเคยลงแบบ 6-7 ตัวแล้วรู้สึกว่าผิวเรามันมีรูขุมขนกว้าง แถมผิวยังไม่ดีเท่าตอนใช้แค่ 4-5 ตัวด้วยค่ะ
เอาล่ะ ไปดูกันเลย!!
ผิวหน้าปัจจุบันค่ะ รูขุมขนดูเล็กลง ใต้ตาดีขึ้นมากกก ถ้าเทียบกับปีก่อนๆ และยังไม่มีกระหรือฝ้าเพิ่มเติมขึ้นมาค่ะ

เริ่มจาก skincare routine ก่อน ซึ่งก็เป็น routine ที่บางตัวบีก็ได้ใช้มาประมาณ 4-5 ปีแล้ว อารมณ์แบบหมดแล้วก็ซื้อใหม่ ใช้วนไปแบบนี้เรื่อยๆ เพราะรู้สึกว่ามันอยู่ตัวดี ถึงบางตัวอาจไม่ได้เห็นผลมาก แต่พอมันไม่ได้ใช้แล้วรู้สึกว่าผิวแย่ลง ก็เลยต้องกลับไปสอยมาอีก เป็นแบบนี้เรื่อยๆ ค่ะ 555

ซึ่งก็จะมีหลักๆ อยู่ 4-5 ตัว ประมาณนี้ค่ะ
KIEHL'S SINCE 1851 Calendula Herbal Extract Alcohol Free Toner
ตัวนี้เป็นโทนเนอร์ที่บีชอบมากกกค่ะ แต่ก่อนบีจะลงโดยใช้สำลี แต่เดี๋ยวนี้ใช้แบบตบๆ เข้าหน้าทันทีแล้วรู้สึกว่ามันซึมเร็วมาก แถมใช้ได้นานกว่าเดิมด้วย (แอบงกค่ะ แหะๆ)ตัวนี่ช่วยเรื่องอะไรบ้าง? คำตอบส่วนตัวที่บีเห็นผลกับตัวเองเลยคือช่วยในเรื่องการลดการระคายเคืองของผิวค่ะ ก่อนหน้าที่ไม่เคยใช้ตัวนี้ ผิวบีจะมีระคายเคือง แดง และผดบ้าง (นานๆๆๆๆครั้ง แต่ก็มีค่ะ) แต่ตั้งแต่รู้จักโทนเนอร์ดาวเรืองตัวนี้ บีไม่รู้จักการระคายเคืองผิวอีกเลยค่ะ (นอกจากแพ้ครีมจริงๆ) และตัวนี้ยังใช้ได้กับคนที่เป็นสิวด้วยนะคะ เหมาะกับคนทุกสภาพผิวเลย และที่สำคัญ บีอ่านเจอมาว่ามันมี Antioxidant ด้วยนะคะ แต่บีก็ไม่รู้ว่ามันคือสารตัวไหน และมากน้อยระดับใด แต่แค่รู้ว่ามีก็อุ่นใจแล้วค่าาาา แหะๆ
ปังหรือพัง
ปังค่าาาาา และซื้อต่อแน่นอน เพราะนี่ก็เป็นขวดที่ 4 แล้วค่ะ แต่แอบรู้สึกว่าน้องเค้าจะหมดง่ายหน่อย ใช้แป้ปๆ หมดอีกแล้ว โดยเฉพาะตอนที่ใช้กับสำลี เลยรู้สึกว่าน้องเค้าดูดเงินเยอะมากค่ะ555
Biotherm life plankton essence และ Hada labo hydrating lotion
ตัวที่ทำให้รูขุมขนบีหายไป เบลอจนแทบไม่เห็นรูขุมขนเลย และก็เป็นตัวที่ทำให้บีต้องไปสรรหาตัวอื่นๆ ในแบรนด์ Biotherm มาลองใช้เยอะมาก แต่เอาดีๆ ตัวที่เห็นผลจริงๆ ก็มีแค่ตัวนี้กับมากส์อีกตัว (ที่เดี๋ยวจะรีวิว) และตัวนี้ยังช่วยลดการอักเสบของผิวด้วยค่ะ แถมมีวิจัยรองรับว่ามันช่วยเรื่องเซ็บเดิร์มได้จริง ซึ่งบีก็บอกเลยว่าถ้าใครมีเซ็บเดิร์มควรลอง เพราะมีช่วงนึง ช่วงใกล้ๆ คลอดน้องเจคอป และก็หลังคลอดที่บีเป็นเซ็บเดิร์มและแพ้ยาสีฟัน ตัวนี้ก็ช่วยให้ผิวลดการอักเสบลงจริงๆ ค่ะ
แต่ใดๆ คือบางคนอาจรู้สึกว่าแพ้นะคะ ซึ่งก็มีเยอะมาก ดังนั้นถ้าจะสอย แนะนำว่าหาเทสเตอร์มาลองก่อนนะคะ
ตัวนี้เป็นตัวที่ถ้าใครชอบ ชอบมาก ชอบยาว ใช้หลายปี ถ้าไม่ชอบคือปาทิ้งตั้งแต่ขวดแรกเลยค่ะ เพราะแพ้ยับเยินนั่นเอง
ปังหรือพัง
สำหรับบี ปังมากกกก อันดับ 1 น้ำตบในดวงใจ ใช้มา7-8 ขวดแล้วค่ะ
Estee lauder Advanced Night Repair Synchronized Recovery Complex II
เซรั่มที่ใช้มาหลายปีแล้ว เพราะซื้อขวดใหญ่ตุนไว้ แล้วดันใช้ไม่หมดสักทีค่ะ (สารภาพเลยแล้วกันเนอะ แหะๆ) ตัวนี้ช่วยเรื่องอะไรบ้าง หลักๆ ที่บีรู้สึกเลยก็คือความชุ่มชื้นค่ะ สำหรับคนผิวแห้งอาจไม่รู้สึกว่ามันเห็นแบบชัดเจน แต่ถ้าคนผิวมันคงรู้สึกได้จริงๆ ค่ะ เพราะเพื่อนบีที่ผิวมัน ทุกคนชอบ ANR มากเลย และจริงๆ ตัวนี้เคลมเรื่องริ้วรอยค่ะ เป็นเรื่องหลักเลย แต่ด้วยอายุบีที่ยังก้ำๆ กึ่งๆ ริ้วรอย คือยังไม่มี แต่ก็เหมือนจะขึ้นนะ แต่ก็ยังไม่ชัดเจนเท่าไหร่ ทำให้ไม่ค่อยสัมผัสได้แบบชัดเจน แต่ก็รู้สึกว่าผิวมันดูเต็ม ดูอิ่มค่ะ และมีช่วงนึงที่บีไม่ได้ใช้ ANR ประมาณ 2-3 เดือน และพอกลับมาใช้ก็แบบเฮ้ยยย เอาแล้วไง ผิวชั้นดูอิ่มขึ้นมาทันทีหลังใช้แค่อาทิตย์เดียวเอง เอาเป็นว่าตัวนี้ บีให้ใช้ๆ หยุดๆ นะคะ เห็นผลกว่าใช้ต่อเนื่องค่าาา
ปังหรือพัง
ถือว่าปังอยู่นะ คือหน้ามันนิ่ม ดูผิวอิ่มๆ เต็มๆ ดีค่ะ
ส่วนถามว่าซื้อต่อมั้ย ยังดีกว่าค่ะ เพราะใช้มาหลายขวดแล้ว และรู้สึกว่าอยากลองตัวอื่นด้วย ทุกวันนี้เลยเป็นแนวรีบใช้ให้หมดไวๆ มากกว่า
Clarins double serum
เป็นตัวที่บีชอบมากกก ก.ไก่ล้านตัวเลย ผิวชุ่มชื้น ฟูสุดๆ เนียนขึ้นแบบสัมผัสได้ด้วยตาเปล่าเลย และจำได้ว่าชอบมากตั้งแต่วันแรกที่ใช้เลยค่ะ ยิ่งใช้ก็ยิ่งเห็นผล แต่ แต๊ แต่ ช่วงนี้ที่ฮ่องกงมันดันขาดตลาด บีไปช็อปทีไร ไม่เคยมีเหลือให้บีเลยค่ะ งงมากกก หรือบีดวงไม่ดี และหลังจากใช้ไป 4 ขวด ก็เลยไม่ได้ต่อสักที แล้วบีเป็นพวกไม่กล้าซื้อสกินแคร์จากแหล่งอื่นที่ไม่ใช่ช็อปด้วย ตอนนี้ก็เลยเว้นน้องไปเลยค่ะ หลายเดือนแล้ว ฮือๆ แต่ถ้าเมื่อไหร่มีของอีก ก็จะพุ่งตัวไปสอยทันทีค่ะ ป.ล. มีใครรู้สึกว่าน้องหมดเร็วเหมือนกันมั้ยคะ บีใช้ไซส์ใหญ่ ส่วนใหญ่จะหมดใน 2-3 เดือนเลย งงมากกก ไอ้ต้าว แกจะหมดเก่งแบบนี้ไม่ได้
ปังหรือพัง
ปังปุริเย่ยู้หูเย้ๆ มากกกค่ะ ชอบมากถึงมากที่สุด ของมันต้องมีของคนผิวแห้งเลย แต่เตือนนิดนึงนะคะ ตัวนี้คนผิวมันไม่ค่อยถูกใจกันน้า บ่นเรื่องอุดตันเป็นแถวเลยค่ะ
Clarins extra firming yeux eye cream
อายครีมที่บีชอบมากและรู้สึกว่าเห็นผลกว่าใต้ตาแบรนด์อื่นๆ มากเลยค่ะ ทำให้ผิวใต้ตาชุ่มชื้นจริงๆ และมันก็ทำให้ผิวใต้ตาตึงๆ ขึ้นด้วย ณ จุดนี้ เลยไปเหมาน้องมา 2 ขวดแล้วค่ะ แต่ตอนนี้ยังอยู่ที่ขวดแรก ใช้ไม่หมดสักที (ใช้ได้นานมากเลยค่ะ) ก่อนหน้านี้ใช้แบบ travel size ก็ใช้ได้หลายเดือนมากๆ ใครหาใต้ตาดีๆ ใช้ได้นานๆ ต้องตำตัวนี่แล้วค่ะ
ปังหรือพัง
ปังมากค่ะ ชอบบบมาก และเท็กเจอร์ครีมก็ดีด้วย ทาตอนเช้าตอนแต้งหน้าก็ไม่ทำให้เครื่องสำอางตกร่องค่ะ
แต่ถ้าถามว่าหมดแล้วจะต่อมั้ย ตอบได้เลยว่ายังค่ะ เพราะเหลืออีก 1 ขวดที่ยังไม่ได้เปิด แล้วดันไปเจออีกตัวที่ถูกกว่ามาก และเห็นผลกว่าค่ะ เดี๋ยวจะรีวิวต่อข้างล่างนะคะ
LANCÔME Advanced Génifique Eye Care
เคยรีวิวไปว่าไม่ถูกใจ แต่ตอนหมดกระปุกแรกแล้วบีไม่ได้ต่อ ก็รู้สึกคิดถึงนางมากกก จนสุดท้ายไปสอยอีกกระปุกมาค่ะ เพราะรู้สึกว่ามันกู้ผิวเราได้ตอนที่ผิวใต้ตาแห้งค่ะ สรุปติดนางจ้า แต่ถามว่าเห็นผลเรื่องอื่นๆ เช่นริ้วรอยหรือใต้ตาดำ หรือกระชับมั้ย บอกเลยว่าไม่เลยค่ะ สู้ตัว Clarins ไม่ได้เลย และก็สู้อีกตัวที่เพิ่งลองใช้ไม่ได้เช่นกัน
ปังหรือพัง
ตอนแรกจะให้ปัง แต่พอมานึกถึงราคาแรงๆ + ได้ความชุ่มชื้นอย่างเดียว ให้พังแล้วกันค่ะ ถามว่าต่อมั้ย อาจจะไม่ เพราะตอนนี้เจอตัวที่ชอบมากกว่าค่ะ
จบแล้วสำหรับรูทีนที่ใช้มานาน เดี๋ยวมาต่อกันที่ตัวสกินแคร์ ที่ได้ลองใช้ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมากันนะคะ อันนี้จะขอให้ดาวนะคะ เป็นเลเวล 5 ดาวคือดีมาก และไล่ลงมาเรื่อยๆ ค่ะ
Estee lauder Micro Essence Skin Activating Treatment Lotion
สอยมาเพราะเป็นทาสการตลาดค่ะ influencer หลายคนรีวิวว่ามันใช้คู่กับ ANR แล้วได้ผลมากๆ ทำให้ ANR มีประสิทธิภาพมากขึ้น นี่ก็ตามไปสอยเลยยยย ปรากฎแพ้ค่ะ เริ่มมีอาการตอน 1 อาทิตย์แรก จริงๆ วันที่ 3 ก็เริ่มรู้สึกละว่ามันมีสิวเม็ดๆ ขึ้นที่หน้า เห้ยยยย ไอ้บ้าาา ชั้นไม่มีสิวมานานมากแล้ว มันจะมาได้ไง ได้ไงงง งอนมาก!!!
เลยหยุดใช้ไปพักนึง เกือบเดือน แล้วเอามาใช้อีกรอบ เป็นเหมือนเดิมอีก สรุปอาทิตย์ที่แล้วรีบไปหาว่ายังมีบิลอยู่มั้ย ก็พบว่ายังไม่ได้ทิ้ง กล่องและถุงต่างๆ ยังอยู่ครบด้วย เลยเอาไปเคลมและเป็นสกินแคร์ตัวอื่นมาแทนเลย แหะๆ
แต่ตัวนี้ถ้าใครไม่แพ้ก็อาจจะชอบก็ได้นะคะ เพราะเค้าบอกว่ามันมีสรรพคุณคล้ายๆ เจ้าตัว ANR เลยค่ะ แต่แค่ไม่เข้มข้นเท่าและเนื้อเบากว่านั่นเอง
เนื้อเค้าจะเป็นน้ำใสๆ ทาแล้วซึมลงผิวทันทีเลยค่ะ ใครผิวมันอยากให้ลองนะคะ ซึมง่ายดี แต่ใดๆ ควรหาเทสเตอร์ก่อนน้า เพราะจากที่อ่านๆ รีวิวในกรุ้ปสกินแคร์มา พบว่ามีคนอาการเดียวกับบีเยอะมากกกกค่ะ (หรือมันขับสิว ไม่แน่ใจจริงๆ)
ปังหรือพัง
ให้พังแบบไม่คิดมาก เพราะแพ้ค่ะ แหะๆ
LA MER The Treatment Lotion
ตัวนี้เป็นตัวที่มีคนโดนตกเยอะมากกก แบบใช้แล้วชอบทันที (แต่มันก็คงมีคนที่แพ้เช่นกัน อยากให้หาเทสเตอร์จริงๆ เพราะราคาแรงถ้าเทียบกับน้ำตบตัวอื่นค่ะ) ตัวนี้ช่วยเรื่องอะไรบ้าง สำหรับบีมันคือความชุ่มชื้นและความเรียบเนียนของผิวค่ะ อีกอย่างคือผิวนุ่มมาก และมีช่วงนึงที่บีใช้น้องเค้าต่อเนื่องกันไปประมาณ 8 เดือน รู้สึกว่ามันเห็นผลเรื่องผิวนุ่ม เนียนและผิวละเอียดขึ้นเลย
ตัวนี้น้ำดูเหมือนจะใส แต่เท็กเจอร์มีความหนืดๆ นะคะ แต่พอทาลงไปก็ซึมไว ไม่ทิ้งความมัน แต่ถ้าใช้ตอนเช้า ระหว่างวันผิวจะมันได้นะคะ (โดยเฉพาะคนผิวมัน)
ปังหรือพัง
ปังมากกก แต่ราคาก็แรงอยู่ถ้าเทียบกับ Biotherm ในประสิทธิภาพเท่ากันค่ะ
ถามว่าซื้อต่อมั้ย ซื้อค่ะ นี่ขวดสองแล้ว เพราะชอบมากจริงงงง
Clarins Extra-Firming Day Cream For All Skin Types
อันนี้เริ่มจากได้ลองแบบเทสเตอร์ พอลองปุ้บ รู้เลยว่าเดี๋ยวต้องเสียเงินแน่นอน เพราะเนื้อและกลิ่นถูกใจมาก หลังจากนั้นเดือนต่อมาเดินไปที่ช็อปแล้วสอยมาทั้งตัวเดย์ครีมและไนท์ครีมเลยค่ะ ว่าแต่มันดียังไงบ้างงงง
ตัวเดย์ครีม บีชอบเนื้อมันมากๆ เพราะเนื้อมันนุ่ม ทาแล้วกลืนกับผิว แถมหลังทาไปแล้วผิวยังนุ่มทันทีด้วย
จริงๆ เตัวนี้เคลมว่าช่วยเรื่องความชุ่มชื้นด้วย แต่ส่วนตัวบีไม่ได้รู้สึกว่ามันให้ความชุ่มชื้นเท่าตัวอื่นๆ นะคะ
แต่มันช่วยให้ผิวเรามีความนุ่ม มีความเรียบเนียนขึ้นค่ะ
ส่วนเรื่องริ้วรอยและความกระชับต่างๆ บีไม่ได้สัมผัสได้ขนาดนั้นค่ะ อาจต้องใช้ในระยะยาวมากๆ หลายๆ ปี อาจชัดเจนมากขึ้น แต่ถ้าพูดถึงความหน้ายก หน้าแน่นนี่จริงๆ ควรไปทางเลเซอร์มากกว่า บีก็เลยไม่ได้คาดหวังมากค่ะ
ปังหรือพัง
ปังค่ะ แต่ไม่ได้ว้าวมาก ถ้าเทียบกับดับเบิ้ลเซรั่ม ตัวนั้นทำมาตรฐานไว้สูงจริงงงง แต่ใดๆ คือวงการ Clarins เข้าแล้วออกยากสุดๆ ค่ะ555 แต่ถามว่าซื้อต่อมั้ย พักค่ะ พักก่อน รู้สึกว่าใช้เร็วไปหน่อย อาจต้องรอถึง 30 จะได้เห็นผลเรื่องอื่นๆ เช่น ริ้วรอย หรือความยกกระชับมากขึ้นด้วยค่ะ (เห็นมีวิจัยหรืออะไรสักอย่างของทางแบรนด์ ที่ทำการทดสอบกับคนอายุ 30+ บางทีมันอาจไม่ถึงวัยเราเลยไม่ค่อยเห็นผลด้านนั้น แหะๆ )
(ต่อข้างล่างนะคะ กระทู้ยาวมากจริงๆ ฮ่าๆ)
รีวิวรวมสกินแคร์ที่ใช้ทั้งหมดในปี 2021 ตัวไหนปัง ตัวไหนพัง แบบโนสปอนซ์
บีเป็นคนผิวผสมและบางทีก็แห้ง (ช่วงหลังๆ เลย 25 มานี่ ผิวแห้งตลอดเลยค่ะ) สกินแคร์ที่บีใช้เลยเน้นความชุ่มชื่นและริ้วรอย ซะส่วนใหญ่ค่ะ แต่ก็มีเรื่องอื่นๆ ด้วยค่ะ และบีไม่ได้ใช้ทั้งหมดในช่วงเดียวกันนะคะ บีเป็นสายใช้ไม่เกิน 4-5 ตัว/ไนท์ไทม์ค่ะ ดังนั้นที่รีวิวทั้งหมดเลยเป็นสกินแคร์ที่บีเคยใช้ในช่วงๆ นึง แล้วก็เปลี่ยนมาใช้ตัวอื่นบ้าง หรือบางทีก็หยิบกลับมาใช้อีกบ้าง ประมาณนี้ค่ะ เพราะแต่ก่อนบีเคยลงแบบ 6-7 ตัวแล้วรู้สึกว่าผิวเรามันมีรูขุมขนกว้าง แถมผิวยังไม่ดีเท่าตอนใช้แค่ 4-5 ตัวด้วยค่ะ
เอาล่ะ ไปดูกันเลย!!
ผิวหน้าปัจจุบันค่ะ รูขุมขนดูเล็กลง ใต้ตาดีขึ้นมากกก ถ้าเทียบกับปีก่อนๆ และยังไม่มีกระหรือฝ้าเพิ่มเติมขึ้นมาค่ะ
เริ่มจาก skincare routine ก่อน ซึ่งก็เป็น routine ที่บางตัวบีก็ได้ใช้มาประมาณ 4-5 ปีแล้ว อารมณ์แบบหมดแล้วก็ซื้อใหม่ ใช้วนไปแบบนี้เรื่อยๆ เพราะรู้สึกว่ามันอยู่ตัวดี ถึงบางตัวอาจไม่ได้เห็นผลมาก แต่พอมันไม่ได้ใช้แล้วรู้สึกว่าผิวแย่ลง ก็เลยต้องกลับไปสอยมาอีก เป็นแบบนี้เรื่อยๆ ค่ะ 555
ซึ่งก็จะมีหลักๆ อยู่ 4-5 ตัว ประมาณนี้ค่ะ
KIEHL'S SINCE 1851 Calendula Herbal Extract Alcohol Free Toner
ตัวนี้เป็นโทนเนอร์ที่บีชอบมากกกค่ะ แต่ก่อนบีจะลงโดยใช้สำลี แต่เดี๋ยวนี้ใช้แบบตบๆ เข้าหน้าทันทีแล้วรู้สึกว่ามันซึมเร็วมาก แถมใช้ได้นานกว่าเดิมด้วย (แอบงกค่ะ แหะๆ)ตัวนี่ช่วยเรื่องอะไรบ้าง? คำตอบส่วนตัวที่บีเห็นผลกับตัวเองเลยคือช่วยในเรื่องการลดการระคายเคืองของผิวค่ะ ก่อนหน้าที่ไม่เคยใช้ตัวนี้ ผิวบีจะมีระคายเคือง แดง และผดบ้าง (นานๆๆๆๆครั้ง แต่ก็มีค่ะ) แต่ตั้งแต่รู้จักโทนเนอร์ดาวเรืองตัวนี้ บีไม่รู้จักการระคายเคืองผิวอีกเลยค่ะ (นอกจากแพ้ครีมจริงๆ) และตัวนี้ยังใช้ได้กับคนที่เป็นสิวด้วยนะคะ เหมาะกับคนทุกสภาพผิวเลย และที่สำคัญ บีอ่านเจอมาว่ามันมี Antioxidant ด้วยนะคะ แต่บีก็ไม่รู้ว่ามันคือสารตัวไหน และมากน้อยระดับใด แต่แค่รู้ว่ามีก็อุ่นใจแล้วค่าาาา แหะๆ
ปังหรือพัง
ปังค่าาาาา และซื้อต่อแน่นอน เพราะนี่ก็เป็นขวดที่ 4 แล้วค่ะ แต่แอบรู้สึกว่าน้องเค้าจะหมดง่ายหน่อย ใช้แป้ปๆ หมดอีกแล้ว โดยเฉพาะตอนที่ใช้กับสำลี เลยรู้สึกว่าน้องเค้าดูดเงินเยอะมากค่ะ555
Biotherm life plankton essence และ Hada labo hydrating lotion
ตัวที่ทำให้รูขุมขนบีหายไป เบลอจนแทบไม่เห็นรูขุมขนเลย และก็เป็นตัวที่ทำให้บีต้องไปสรรหาตัวอื่นๆ ในแบรนด์ Biotherm มาลองใช้เยอะมาก แต่เอาดีๆ ตัวที่เห็นผลจริงๆ ก็มีแค่ตัวนี้กับมากส์อีกตัว (ที่เดี๋ยวจะรีวิว) และตัวนี้ยังช่วยลดการอักเสบของผิวด้วยค่ะ แถมมีวิจัยรองรับว่ามันช่วยเรื่องเซ็บเดิร์มได้จริง ซึ่งบีก็บอกเลยว่าถ้าใครมีเซ็บเดิร์มควรลอง เพราะมีช่วงนึง ช่วงใกล้ๆ คลอดน้องเจคอป และก็หลังคลอดที่บีเป็นเซ็บเดิร์มและแพ้ยาสีฟัน ตัวนี้ก็ช่วยให้ผิวลดการอักเสบลงจริงๆ ค่ะ
แต่ใดๆ คือบางคนอาจรู้สึกว่าแพ้นะคะ ซึ่งก็มีเยอะมาก ดังนั้นถ้าจะสอย แนะนำว่าหาเทสเตอร์มาลองก่อนนะคะ
ตัวนี้เป็นตัวที่ถ้าใครชอบ ชอบมาก ชอบยาว ใช้หลายปี ถ้าไม่ชอบคือปาทิ้งตั้งแต่ขวดแรกเลยค่ะ เพราะแพ้ยับเยินนั่นเอง
ปังหรือพัง
สำหรับบี ปังมากกกก อันดับ 1 น้ำตบในดวงใจ ใช้มา7-8 ขวดแล้วค่ะ
Estee lauder Advanced Night Repair Synchronized Recovery Complex II
เซรั่มที่ใช้มาหลายปีแล้ว เพราะซื้อขวดใหญ่ตุนไว้ แล้วดันใช้ไม่หมดสักทีค่ะ (สารภาพเลยแล้วกันเนอะ แหะๆ) ตัวนี้ช่วยเรื่องอะไรบ้าง หลักๆ ที่บีรู้สึกเลยก็คือความชุ่มชื้นค่ะ สำหรับคนผิวแห้งอาจไม่รู้สึกว่ามันเห็นแบบชัดเจน แต่ถ้าคนผิวมันคงรู้สึกได้จริงๆ ค่ะ เพราะเพื่อนบีที่ผิวมัน ทุกคนชอบ ANR มากเลย และจริงๆ ตัวนี้เคลมเรื่องริ้วรอยค่ะ เป็นเรื่องหลักเลย แต่ด้วยอายุบีที่ยังก้ำๆ กึ่งๆ ริ้วรอย คือยังไม่มี แต่ก็เหมือนจะขึ้นนะ แต่ก็ยังไม่ชัดเจนเท่าไหร่ ทำให้ไม่ค่อยสัมผัสได้แบบชัดเจน แต่ก็รู้สึกว่าผิวมันดูเต็ม ดูอิ่มค่ะ และมีช่วงนึงที่บีไม่ได้ใช้ ANR ประมาณ 2-3 เดือน และพอกลับมาใช้ก็แบบเฮ้ยยย เอาแล้วไง ผิวชั้นดูอิ่มขึ้นมาทันทีหลังใช้แค่อาทิตย์เดียวเอง เอาเป็นว่าตัวนี้ บีให้ใช้ๆ หยุดๆ นะคะ เห็นผลกว่าใช้ต่อเนื่องค่าาา
ปังหรือพัง
ถือว่าปังอยู่นะ คือหน้ามันนิ่ม ดูผิวอิ่มๆ เต็มๆ ดีค่ะ
ส่วนถามว่าซื้อต่อมั้ย ยังดีกว่าค่ะ เพราะใช้มาหลายขวดแล้ว และรู้สึกว่าอยากลองตัวอื่นด้วย ทุกวันนี้เลยเป็นแนวรีบใช้ให้หมดไวๆ มากกว่า
Clarins double serum
เป็นตัวที่บีชอบมากกก ก.ไก่ล้านตัวเลย ผิวชุ่มชื้น ฟูสุดๆ เนียนขึ้นแบบสัมผัสได้ด้วยตาเปล่าเลย และจำได้ว่าชอบมากตั้งแต่วันแรกที่ใช้เลยค่ะ ยิ่งใช้ก็ยิ่งเห็นผล แต่ แต๊ แต่ ช่วงนี้ที่ฮ่องกงมันดันขาดตลาด บีไปช็อปทีไร ไม่เคยมีเหลือให้บีเลยค่ะ งงมากกก หรือบีดวงไม่ดี และหลังจากใช้ไป 4 ขวด ก็เลยไม่ได้ต่อสักที แล้วบีเป็นพวกไม่กล้าซื้อสกินแคร์จากแหล่งอื่นที่ไม่ใช่ช็อปด้วย ตอนนี้ก็เลยเว้นน้องไปเลยค่ะ หลายเดือนแล้ว ฮือๆ แต่ถ้าเมื่อไหร่มีของอีก ก็จะพุ่งตัวไปสอยทันทีค่ะ ป.ล. มีใครรู้สึกว่าน้องหมดเร็วเหมือนกันมั้ยคะ บีใช้ไซส์ใหญ่ ส่วนใหญ่จะหมดใน 2-3 เดือนเลย งงมากกก ไอ้ต้าว แกจะหมดเก่งแบบนี้ไม่ได้
ปังหรือพัง
ปังปุริเย่ยู้หูเย้ๆ มากกกค่ะ ชอบมากถึงมากที่สุด ของมันต้องมีของคนผิวแห้งเลย แต่เตือนนิดนึงนะคะ ตัวนี้คนผิวมันไม่ค่อยถูกใจกันน้า บ่นเรื่องอุดตันเป็นแถวเลยค่ะ
Clarins extra firming yeux eye cream
อายครีมที่บีชอบมากและรู้สึกว่าเห็นผลกว่าใต้ตาแบรนด์อื่นๆ มากเลยค่ะ ทำให้ผิวใต้ตาชุ่มชื้นจริงๆ และมันก็ทำให้ผิวใต้ตาตึงๆ ขึ้นด้วย ณ จุดนี้ เลยไปเหมาน้องมา 2 ขวดแล้วค่ะ แต่ตอนนี้ยังอยู่ที่ขวดแรก ใช้ไม่หมดสักที (ใช้ได้นานมากเลยค่ะ) ก่อนหน้านี้ใช้แบบ travel size ก็ใช้ได้หลายเดือนมากๆ ใครหาใต้ตาดีๆ ใช้ได้นานๆ ต้องตำตัวนี่แล้วค่ะ
ปังหรือพัง
ปังมากค่ะ ชอบบบมาก และเท็กเจอร์ครีมก็ดีด้วย ทาตอนเช้าตอนแต้งหน้าก็ไม่ทำให้เครื่องสำอางตกร่องค่ะ
แต่ถ้าถามว่าหมดแล้วจะต่อมั้ย ตอบได้เลยว่ายังค่ะ เพราะเหลืออีก 1 ขวดที่ยังไม่ได้เปิด แล้วดันไปเจออีกตัวที่ถูกกว่ามาก และเห็นผลกว่าค่ะ เดี๋ยวจะรีวิวต่อข้างล่างนะคะ
LANCÔME Advanced Génifique Eye Care
เคยรีวิวไปว่าไม่ถูกใจ แต่ตอนหมดกระปุกแรกแล้วบีไม่ได้ต่อ ก็รู้สึกคิดถึงนางมากกก จนสุดท้ายไปสอยอีกกระปุกมาค่ะ เพราะรู้สึกว่ามันกู้ผิวเราได้ตอนที่ผิวใต้ตาแห้งค่ะ สรุปติดนางจ้า แต่ถามว่าเห็นผลเรื่องอื่นๆ เช่นริ้วรอยหรือใต้ตาดำ หรือกระชับมั้ย บอกเลยว่าไม่เลยค่ะ สู้ตัว Clarins ไม่ได้เลย และก็สู้อีกตัวที่เพิ่งลองใช้ไม่ได้เช่นกัน
ปังหรือพัง
ตอนแรกจะให้ปัง แต่พอมานึกถึงราคาแรงๆ + ได้ความชุ่มชื้นอย่างเดียว ให้พังแล้วกันค่ะ ถามว่าต่อมั้ย อาจจะไม่ เพราะตอนนี้เจอตัวที่ชอบมากกว่าค่ะ
จบแล้วสำหรับรูทีนที่ใช้มานาน เดี๋ยวมาต่อกันที่ตัวสกินแคร์ ที่ได้ลองใช้ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมากันนะคะ อันนี้จะขอให้ดาวนะคะ เป็นเลเวล 5 ดาวคือดีมาก และไล่ลงมาเรื่อยๆ ค่ะ
Estee lauder Micro Essence Skin Activating Treatment Lotion
สอยมาเพราะเป็นทาสการตลาดค่ะ influencer หลายคนรีวิวว่ามันใช้คู่กับ ANR แล้วได้ผลมากๆ ทำให้ ANR มีประสิทธิภาพมากขึ้น นี่ก็ตามไปสอยเลยยยย ปรากฎแพ้ค่ะ เริ่มมีอาการตอน 1 อาทิตย์แรก จริงๆ วันที่ 3 ก็เริ่มรู้สึกละว่ามันมีสิวเม็ดๆ ขึ้นที่หน้า เห้ยยยย ไอ้บ้าาา ชั้นไม่มีสิวมานานมากแล้ว มันจะมาได้ไง ได้ไงงง งอนมาก!!!
เลยหยุดใช้ไปพักนึง เกือบเดือน แล้วเอามาใช้อีกรอบ เป็นเหมือนเดิมอีก สรุปอาทิตย์ที่แล้วรีบไปหาว่ายังมีบิลอยู่มั้ย ก็พบว่ายังไม่ได้ทิ้ง กล่องและถุงต่างๆ ยังอยู่ครบด้วย เลยเอาไปเคลมและเป็นสกินแคร์ตัวอื่นมาแทนเลย แหะๆ
แต่ตัวนี้ถ้าใครไม่แพ้ก็อาจจะชอบก็ได้นะคะ เพราะเค้าบอกว่ามันมีสรรพคุณคล้ายๆ เจ้าตัว ANR เลยค่ะ แต่แค่ไม่เข้มข้นเท่าและเนื้อเบากว่านั่นเอง
เนื้อเค้าจะเป็นน้ำใสๆ ทาแล้วซึมลงผิวทันทีเลยค่ะ ใครผิวมันอยากให้ลองนะคะ ซึมง่ายดี แต่ใดๆ ควรหาเทสเตอร์ก่อนน้า เพราะจากที่อ่านๆ รีวิวในกรุ้ปสกินแคร์มา พบว่ามีคนอาการเดียวกับบีเยอะมากกกกค่ะ (หรือมันขับสิว ไม่แน่ใจจริงๆ)
ปังหรือพัง
ให้พังแบบไม่คิดมาก เพราะแพ้ค่ะ แหะๆ
LA MER The Treatment Lotion
ตัวนี้เป็นตัวที่มีคนโดนตกเยอะมากกก แบบใช้แล้วชอบทันที (แต่มันก็คงมีคนที่แพ้เช่นกัน อยากให้หาเทสเตอร์จริงๆ เพราะราคาแรงถ้าเทียบกับน้ำตบตัวอื่นค่ะ) ตัวนี้ช่วยเรื่องอะไรบ้าง สำหรับบีมันคือความชุ่มชื้นและความเรียบเนียนของผิวค่ะ อีกอย่างคือผิวนุ่มมาก และมีช่วงนึงที่บีใช้น้องเค้าต่อเนื่องกันไปประมาณ 8 เดือน รู้สึกว่ามันเห็นผลเรื่องผิวนุ่ม เนียนและผิวละเอียดขึ้นเลย
ตัวนี้น้ำดูเหมือนจะใส แต่เท็กเจอร์มีความหนืดๆ นะคะ แต่พอทาลงไปก็ซึมไว ไม่ทิ้งความมัน แต่ถ้าใช้ตอนเช้า ระหว่างวันผิวจะมันได้นะคะ (โดยเฉพาะคนผิวมัน)
ปังหรือพัง
ปังมากกก แต่ราคาก็แรงอยู่ถ้าเทียบกับ Biotherm ในประสิทธิภาพเท่ากันค่ะ
ถามว่าซื้อต่อมั้ย ซื้อค่ะ นี่ขวดสองแล้ว เพราะชอบมากจริงงงง
Clarins Extra-Firming Day Cream For All Skin Types
อันนี้เริ่มจากได้ลองแบบเทสเตอร์ พอลองปุ้บ รู้เลยว่าเดี๋ยวต้องเสียเงินแน่นอน เพราะเนื้อและกลิ่นถูกใจมาก หลังจากนั้นเดือนต่อมาเดินไปที่ช็อปแล้วสอยมาทั้งตัวเดย์ครีมและไนท์ครีมเลยค่ะ ว่าแต่มันดียังไงบ้างงงง
ตัวเดย์ครีม บีชอบเนื้อมันมากๆ เพราะเนื้อมันนุ่ม ทาแล้วกลืนกับผิว แถมหลังทาไปแล้วผิวยังนุ่มทันทีด้วย
จริงๆ เตัวนี้เคลมว่าช่วยเรื่องความชุ่มชื้นด้วย แต่ส่วนตัวบีไม่ได้รู้สึกว่ามันให้ความชุ่มชื้นเท่าตัวอื่นๆ นะคะ
แต่มันช่วยให้ผิวเรามีความนุ่ม มีความเรียบเนียนขึ้นค่ะ
ส่วนเรื่องริ้วรอยและความกระชับต่างๆ บีไม่ได้สัมผัสได้ขนาดนั้นค่ะ อาจต้องใช้ในระยะยาวมากๆ หลายๆ ปี อาจชัดเจนมากขึ้น แต่ถ้าพูดถึงความหน้ายก หน้าแน่นนี่จริงๆ ควรไปทางเลเซอร์มากกว่า บีก็เลยไม่ได้คาดหวังมากค่ะ
ปังหรือพัง
ปังค่ะ แต่ไม่ได้ว้าวมาก ถ้าเทียบกับดับเบิ้ลเซรั่ม ตัวนั้นทำมาตรฐานไว้สูงจริงงงง แต่ใดๆ คือวงการ Clarins เข้าแล้วออกยากสุดๆ ค่ะ555 แต่ถามว่าซื้อต่อมั้ย พักค่ะ พักก่อน รู้สึกว่าใช้เร็วไปหน่อย อาจต้องรอถึง 30 จะได้เห็นผลเรื่องอื่นๆ เช่น ริ้วรอย หรือความยกกระชับมากขึ้นด้วยค่ะ (เห็นมีวิจัยหรืออะไรสักอย่างของทางแบรนด์ ที่ทำการทดสอบกับคนอายุ 30+ บางทีมันอาจไม่ถึงวัยเราเลยไม่ค่อยเห็นผลด้านนั้น แหะๆ )
(ต่อข้างล่างนะคะ กระทู้ยาวมากจริงๆ ฮ่าๆ)