*ทุกคนมีความคิดเห็นอย่างไงบอกการคำพูดว่าลูกจะได้มี"ภูมิต้านทานในการด่า"ไม่ต้องเกี่ยวกับเรื่องเราก็ได้*
นิสัยที่เราได้จากเด็กแล้วเราปรับจนนิสัยเหล่านี้เงียบไปเลยคือนิสัยเป็นการคนเงียบๆไม่ค่อยพูดพูดก็จะพูดจานิ่มๆเรียบร้อย แตกต่างตอนนี้มากไม่รู้เป็นเพราะเรื่องเพื่อนหรือเรื่องครอบครัวกันแน่ (เรื่องเพื่อนเราจะพูดในหัวข้ออื่น) นิสัยลึกๆเราเป็นคนอ่อนไหวต่อคำพูดคนรอบข้างมากๆเลย ถ้าเก็บเยอะะจนรับไม่ไหวเราก็จะเก็บน้ำตาไม่อยู่น้ำตาเราก็ไหลเอง หยุดก็หยุดไม่ได้ต้องไปร้องให้เรื่องสักเรื่องเรื่องที่เก็บไว้อยู่ออกมาสักอัน
ตอนนี้เราอยู่กับแม่และพี่ชาย แม่เราเป็นคนที่ชอบบ่นชอบด่ามาก เราทำอะไรผิดนิดเดียวคือแม่จำไปตลอดเลย เวลาเกิดเรื่องเกิดขึ้นแม่ก็เอาเรื่องเก่ามาพูดผสมเรื่องใหม่ซ้ำวนไปวนมาจนเหมือนเป็นมลพิษทางหู เราต้องหนีโดยการใส่หูฟังละเปิดเสียงเพลงดังๆกลบ เวลาอธิบายอะไรแล้วแม่กำลังจะแพ้แม่ก็จะเปลี่ยนจากเรียกชื่อเป็นขึ้น
"กู" เวลาเราทำอะไรผิดก็ด่าแรงเลยว่า
"อีนี้หลึกกับกูก่า หยังมาง่าว อีสึ่งตึง อีลูกอกตัญญู และอีกมากมายที่เป็นคำพูดที่ไม่แรงแต่กระทบจิตใจสุด
" พอเราเข้าไปพูดเปิดใจตรงๆแม่ก็เราก็บอกว่าลูกจะได้มีภูมิต้านทานทนต่อคำพูดคนอื่นได้ ซึ่งจากที่เราได้ฟังคำพูดนี้จากแม่เรา เราก็ไม่โอเคมากเราอธิบายแม่ต่างๆนานาให้แม่ลดๆหน่อยได้ไหมพูดอะไรสนใจความรู้สึกลูกหน่อย คำพูดของคนแปลกกับคนใกล้ตัวพูดความรุนแรงมันไม่เท่ากัน หลังจากนั้นแม่เราก็ทำตัวเหมือนเดิมแต่นานๆมาทีละ เหนื่อยจากที่โรงเรียนที่ทำงานเราต้องมาเหนื่อยกับคำพูดแม่อีก ทำตัวเองให้ชินกี่ครั้งก็ไม่ชิน
*ทุกคนมีความคิดเห็นอย่างไงบอกการคำพูดว่าลูกจะได้มี"ภูมิต้านทานในการด่า"ไม่ต้องเกี่ยวกับเรื่องเราก็ได้*
การที่บุพการีด่าสั่งสอนแรงๆแล้วบอกลูกว่า"ลูกจะได้มีภูมิต้านทานเวลาคนอื่นด่าลูกจะได้ไม่เป็นอะไร"คุณคิดว่าอย่างไร
นิสัยที่เราได้จากเด็กแล้วเราปรับจนนิสัยเหล่านี้เงียบไปเลยคือนิสัยเป็นการคนเงียบๆไม่ค่อยพูดพูดก็จะพูดจานิ่มๆเรียบร้อย แตกต่างตอนนี้มากไม่รู้เป็นเพราะเรื่องเพื่อนหรือเรื่องครอบครัวกันแน่ (เรื่องเพื่อนเราจะพูดในหัวข้ออื่น) นิสัยลึกๆเราเป็นคนอ่อนไหวต่อคำพูดคนรอบข้างมากๆเลย ถ้าเก็บเยอะะจนรับไม่ไหวเราก็จะเก็บน้ำตาไม่อยู่น้ำตาเราก็ไหลเอง หยุดก็หยุดไม่ได้ต้องไปร้องให้เรื่องสักเรื่องเรื่องที่เก็บไว้อยู่ออกมาสักอัน
ตอนนี้เราอยู่กับแม่และพี่ชาย แม่เราเป็นคนที่ชอบบ่นชอบด่ามาก เราทำอะไรผิดนิดเดียวคือแม่จำไปตลอดเลย เวลาเกิดเรื่องเกิดขึ้นแม่ก็เอาเรื่องเก่ามาพูดผสมเรื่องใหม่ซ้ำวนไปวนมาจนเหมือนเป็นมลพิษทางหู เราต้องหนีโดยการใส่หูฟังละเปิดเสียงเพลงดังๆกลบ เวลาอธิบายอะไรแล้วแม่กำลังจะแพ้แม่ก็จะเปลี่ยนจากเรียกชื่อเป็นขึ้น"กู" เวลาเราทำอะไรผิดก็ด่าแรงเลยว่า "อีนี้หลึกกับกูก่า หยังมาง่าว อีสึ่งตึง อีลูกอกตัญญู และอีกมากมายที่เป็นคำพูดที่ไม่แรงแต่กระทบจิตใจสุด" พอเราเข้าไปพูดเปิดใจตรงๆแม่ก็เราก็บอกว่าลูกจะได้มีภูมิต้านทานทนต่อคำพูดคนอื่นได้ ซึ่งจากที่เราได้ฟังคำพูดนี้จากแม่เรา เราก็ไม่โอเคมากเราอธิบายแม่ต่างๆนานาให้แม่ลดๆหน่อยได้ไหมพูดอะไรสนใจความรู้สึกลูกหน่อย คำพูดของคนแปลกกับคนใกล้ตัวพูดความรุนแรงมันไม่เท่ากัน หลังจากนั้นแม่เราก็ทำตัวเหมือนเดิมแต่นานๆมาทีละ เหนื่อยจากที่โรงเรียนที่ทำงานเราต้องมาเหนื่อยกับคำพูดแม่อีก ทำตัวเองให้ชินกี่ครั้งก็ไม่ชิน