ประสบการณ์ ช่วงเรียน ผู้ช่วยพยาบาล

กระทู้คำถาม
อยากเล่าประสบการณ์ ที่ได้เข้ามาเรียน ผู้ช่วยพยาบาล หลักสูตร 1 ปี
ถึงผู้อ่านทุกท่าน  ฉันชื่อ บี  ในตอนนี้ฉันอายุ 21 ปี ฉันเริ่มเรียน ปี 2563  ทีแรกก็ไม่ได้คิดจะมาเรียนสายนี้เลยด้วยซ้ำ สิ่งที่ทำให้อยากเรียนเลย คือ .....
เพราะเงิน เรียนจบเร็วได้เงินได้เยอะ   แต่.....  ในตอนนี้ความคิดทุกอย่างต้องเปลี่ยนไป  มันไม่ได้เป็นดั่งที่คิดไว้เลย หลังจาก จบ อะไรๆ ก็ไม่ได้เป็นดั่งที่คิดไว้เลย   มาเริ่มกันเลยน่ะ ..... ฉันเห็นประกาศนี้ใน เฟส เลยสมัครเพื่อที่จะเรียนแต่...  ค่าเทอมก็โหดเหมือนกัน  หลังสมัครแล้วก็รอแค่ วันที่ จะได้ย้ายเข้าหอ 
พอมาถึงวันเข้าหอ ได้อยู่ ห้อง 106 มี รูทเมท 3 คน เตียงเดี่ยวคนละมุม  รูมเมท น่ารัก แต่...เพราะนิสัยส่วนตัว ชอบ สันโดด ก็เลยไม่ค่อยได้คุยไรกันมาก 
ในชีวิต มหาลัยแค่ 6 เดือน ในตอนนั้น คิดแค่ว่า รีบๆเรียน รีบจบ จะได้ไปทำงาน หาเงิน มันเป็นช่วงเวลาที่...เห้อออ อยู่เหมือนกัน หลังอยู่ หอ 6 เดือน อีก 6เดือนต้องไปฝึกงาน ที่ โรงพยาบาล พอได้มาฝึกงาน อุปสรรคและปัญหา เจอมาได้ทุกวัน  แต่เพราะ คิดอยู่เสมอว่ารีบจบจะได้ไปทำงานหาเงิน  ก็เลยมองข้ามอุปสรรคทุกอย่าง ช่วงฝึกใกล้จะจบก็เริ่มรู้สึกว่า ใกล้แล้วสิน่ะ ที่จะได้ไปทำตามสิ่งที่คิด หลังจากฝึกเสร็จก็กลับบ้าน ขอใบรับรองทางมหาลัยเพื่อที่ได้ไปทำงาน สมัครไปหลาย รพ แต่ ยังไม่มีที่ไหนรับ เลยสมัครทำที่คลินิกไปก่อน ทำไปได้สักพัก รพ ก็โทรเรียกไปตรวจสุขภาพ อ่ะมาถึงความบรรลัยละ 
แม่ไปกู้เงินมา 100,000 เพื่อที่จะให้ เดินไปทำงานที่ กรุงเทพ ในช่วย โรคระบาด การเดินทางไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด รถทัว ออก แค่ 3 / วันเอง หลังจองตั่วได้
ก็นั่งรถ ไป กรุงเทพ ไปถึง รถก็ไม่มีที่จะไป รพ เพราะไปถึง ตี5 เลยต้องนั่งวินไป 700 กว่าบาท  พอไปถึง รร ที่เช็คอินไว้ ก็บอกอยู่ว่าจะไปถึงเวลาประมาณนี้เขาก็บอกว่าจะให้นั่งรอที่ร็อบบี้ก่อน แต่พอไปถึง เห้อออ ก็เลยต้องเปิด Maps เพื่อหาอีกที่พักก่อนไม่งั้นไป ตรวจสุขภาพไม่ทัน ก็ได้ บ้านเคียงระฆัง นี้แหละอยู่ใกล้สุด เดินไปตามแผนที่ แล้วโทรไปหาเจ้าของ เจ้าของบ้านน่ารักมาก ที่จริงต้องเช็คอิน 12.00 แต่ ขอว่า มีธุระต้องไปทำ แถมตอนนี้ก็เหนื่อยมากๆ เจ้าของบ้านยินดี และรีบมาเปิดประตู บอกเลยว่า สวรรค์มากๆ พอได้พัก แต่งตัว ทำไรเสร็จก็ ไป รพ 7.30 ไปถึง ห้อง HR ก็กรอกข้อมูล เพิ่มเติม จ่ายเงิน 1400 เพื่อที่จะตรวจสุขภาพ หลังตรวจเสร็จ เขาก็ให้ไปเปิด บช ในช่วงเวลานั้นได้ไปทานข้าวกับพี่ พยและคุณแม่ ที่มาด้วยกัน  คุณแม่พี่ พย ก็เลี้ยงข้าว
รู้สึกดีมากๆ หลังจากนั้นก็มานั่งฟังผล สรุป ตรวจเจอ ไวรัสตับอักเสบบี ยิ้มกันเลยทีเดียว  หลังจากนนั้นนึกว่าทุกอย่างจะดี HR ก็โทรมาบอกว่า ร่วมงานยังไม่ได้ต้องไปรักษาให้หายก่อน มันตลกตรงที่ ก่อนจะมาเรียน ผู้ช่วยพยาบาล ฉันไม่ได้เป็น ไวรัสตับอักเสบบี พ่อแม่และแฟนก็ไม่ได้เป็น สงสัยน่าจะตอนไปฝึกงาน โดนเข็มตำนิ้วแน่ๆ เห้อ เซ็งกันเลยทีเดียว ก็เลยต้องรีบหา รถกลับบ้านก่อนเพราะไม่รู้จะไปที่ไหน ยังโชคดี ที่ ยังพอมี คิวรถเหลือ 1 คิว 
ก็เลยนั่งรถกลับบ้าน พร้อมภาระหนี้สินเห้อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่