สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 15
ถ้าอ่านตามหัวกระทู้ สินสอดและการให้เงินเดือนภรรยา จะตอบว่า ไม่จำเป็น
แต่อ่านเนื้อกระทู้+รายละเอียดอื่นๆที่ จขกท เล่าในคอมเม้น ผู้ชายคนนี้ไม่โอเค คุยกับผู้ใหญ่ยังกล้าปัดออกทุกอย่าง เงินแค่สองแสนก็ยังปัด ทั้งๆที่แม่ก็บอกจะคืนให้ เงินเดือนสี่หมื่น เก็บปีสองปีก็ควรจะได้แล้ว บ้านก็มาอยู่ของแม่ จขกท ฟรีๆ สมบัติของทางฝั่งคุณก็เยอะแยะ ถ้าจดทะเบียนสมบัติพวกนั้นถ้าแม่จะยกให้หลังแต่งงานคือก็เป็นสินสมรสอีกต่างหาก
แค่กินข้าวแล้วทวงเงินทวงแล้วทวงอีกนี่ก็ไม่โอเคแล้วนะ ต่อให้เป็นเพื่อนเพศเดียวกันยังไม่ทำกันแบบนี้เลย ยังไม่ทันข้ามวันซะด้วยซ้ำ นิสัยแบบนี้ให้คบเป็นเพื่อนเรายังไม่เอาเลย
แต่อ่านเนื้อกระทู้+รายละเอียดอื่นๆที่ จขกท เล่าในคอมเม้น ผู้ชายคนนี้ไม่โอเค คุยกับผู้ใหญ่ยังกล้าปัดออกทุกอย่าง เงินแค่สองแสนก็ยังปัด ทั้งๆที่แม่ก็บอกจะคืนให้ เงินเดือนสี่หมื่น เก็บปีสองปีก็ควรจะได้แล้ว บ้านก็มาอยู่ของแม่ จขกท ฟรีๆ สมบัติของทางฝั่งคุณก็เยอะแยะ ถ้าจดทะเบียนสมบัติพวกนั้นถ้าแม่จะยกให้หลังแต่งงานคือก็เป็นสินสมรสอีกต่างหาก
แค่กินข้าวแล้วทวงเงินทวงแล้วทวงอีกนี่ก็ไม่โอเคแล้วนะ ต่อให้เป็นเพื่อนเพศเดียวกันยังไม่ทำกันแบบนี้เลย ยังไม่ทันข้ามวันซะด้วยซ้ำ นิสัยแบบนี้ให้คบเป็นเพื่อนเรายังไม่เอาเลย
ความคิดเห็นที่ 31
ผมคบกับแฟน ตอนนั้นแฟนเงินเดือน 5 แสนอัพ เป็นข้าราชการแต่มีรายได้จากคลีนิคส่วนตัว ผมยังเรียนไม่จบมีรายได้จากการรับจ๊อบออกแบบระบบ แก้งานต่างๆ ต่อเดือน 2-3 หมื่น ไม่เคยให้แฟนออกค่าข้าว ค่ากิน ค่าดูหนัง ค่าเที่ยว ค่าน้ำมันรถ เลยสักบาทครับ ถ้าค่าข้าวยังต้องหาร ผมว่าไม่ ok นะ แฟนยังเลี้ยงไม่ได้ มีลูกมี ภาระ มีครอบครัวอนาคตจะเลี้ยงไหวหรอ ?? ผมว่าแฟนคุณกระจอกเกิน เงินเดือนเยอะกว่า เท่าตัว อยู่บ้านแฟนฟรี ยังต้องมาหารอะไรนิดๆหน่อยๆ หาใหม่เถอะ คำเดียวกระจอก
ความคิดเห็นที่ 21
เราคิดว่าทุกวันนี้ความรักมันไม่เพียงพอค่ะ การเลือกคู่ต้องศีลเสมอกัน คือความคิดเข้ากันได้ ระดับการศึกษาพอกัน การเงินและครอบครัวใกล้เคียงกัน สำหรับความรักนานๆ ไปมันก็จืดจาง ยิ่งถ้ามีปัญหาเรื่องความเอื้อเฟื้อมาอีกจะทำให้ผิดใจกันได้ง่าย ถ้าวันหนึ่งเราอายุมากขึ้นจะรู้เลยว่าบางทีอยู่เป็นโสดจะดีกว่าได้ภาระเพิ่มขึ้นมา จขกท ต้องลองคิดดูว่าผู้ชายคนนี้พึ่งพาได้มากแค่ไหน มีน้ำใจให้ จขกท มากเท่าไร มีเขาแล้วเป็นภาระ หรือมีเขาแล้วชีวิตดีขึ้น ดูข้อเสียของเขาว่าเรารับได้หรือไม่ ถ้ารับข้อเสียเขาไม่ได้ควรถอยห่าง เราคิดว่าถ้าเขารายได้เกือบ 40,000 แต่เงินสินสอด 2 แสน ไม่คิดให้ มันก็เกินไป ดูเหมือนแม้แต่ความรักเขาก็ไม่มีให้คุณเลยอย่างที่แม่ของ จขกท พูดนั่นล่ะค่ะ เท่าที่ฟัง แม่ จขกท ดูมีฐานะ ขยัน สร้างทุกอย่างไว้ให้คุณ และรัก จขกท มาก เงินค่าสินสอด จริงๆ แม่ จขกท คงคืนให้หลังแต่งแหละ แค่ลองใจแฟนลูกสาวดูเท่านั้น แม้แม่จะไม่ได้อยู่กับเราตลอดไป แต่ถ้าคุณตัดสินใจเลือกใครเข้ามาในชีวิตเขาจะอยู่กับคุณไปอีกนาน ถ้าเลือกดีชีวิตก็เป็นสุขไปอีกนาน แต่ถ้าเลือกพลาดเท่ากับคุณจะมีภาระเพิ่มไปทั้งชีวิตเช่นกัน
ความคิดเห็นที่ 10
สำหรับเรา งานแต่งเราเองจะไม่มีสินสอดค่ะ หลังแต่งก็จะไม่รับเงินเดือนจากสามีค่ะ เราทำงานหาเลี้ยงตัวเองได้ ไม่อยากได้เงินเขาค่ะ แต่งานในบ้านและนอกบ้านต้องช่วยกันทำ ค่าใช้จ่ายช่วยกันออก ไม่เอาเปรียบกัน
แต่!!! เราไม่ชอบนิสัยของแฟนจขกท.เลย หารสองทุกอย่าง คิดเล็กคิดน้อย ทวงเงินค่าข้าวยิกๆๆ
แต่!!! เราไม่ชอบนิสัยของแฟนจขกท.เลย หารสองทุกอย่าง คิดเล็กคิดน้อย ทวงเงินค่าข้าวยิกๆๆ
แสดงความคิดเห็น
สินสอดหรือการให้เงินเดือนภรรยายังจำเป็นอยู่รึเปล่าในยุคสมัยนี้ ?
เป็นเรื่องซ้ำเดิมๆที่หลายๆคนถกเถียงกันมาตลอด ซึ่งตัวจขกท.ก็ไม่คิดว่าวันนึงจะต้องมาตั้งกระทู้อะไรแบบนี้ด้วย แต่ก็นั้นแหละ ในเมื่อมีคำถามก็ย่อมอยากได้คำตอบและอยากรู้ความคิดเห็นส่วนใหญ่
เรื่องมันมีอยู่ว่า…ต้นปี64เราได้ตกลงปรงใจมีแฟน ก็คบกันมาจนปัจจุบัน มีการหารค่าข้าวทุกมื้อ ตั้งแต่แรกจนตอนนี้ หารทุกค่าใช้จ่าย ค่าน้ำมันรถบ้างบางครั้งเวลาไปเที่ยวขับรถทั้งวัน ค่าขนม เข้า7-11ก็หาร ไปซื้อข้าวตลาดก็หาร มีวันนึงเราไม่มีเงินสดก็ให้แฟนจ่ายไปก่อน หลังจากนั้นแฟนก็ทวงเราว่าเมื่อไหร่จะโอน โอนเงินให้ยัง ทวงแซวๆเรารำคาญ เราก็เลยพูดไปแบบไม่ค่อยพอใจว่า “นั้นต่อไปเธอไม่ต้องจ่ายก่อนละ เราจะโอนจ่ายเอง เธออยากหารก็แค่โอนมา” เหตุการวันนั้นก็มีเคืองๆนิดหน่อย เราไม่ได้คิดจะเบี้ยวค่าอาหาร แต่ตอนนั้นเราคิดว่าเดี๋ยวถึงห้องค่อยโอนละกัน เราเองก็ไม่นึกว่าแฟนจะทวง ซึ่งเรื่องนี้เราโอนช้าโอเคเราผิดเอง เรื่องมันก็จบ เพราะเราแก้ปัญหาโดยที่หลังจากนี้เราโอนจ่ายก่อนเค้ามีใจอยากหารค่อยโอนคืนเรา
จนตอนนี้ก็คบกันได้ 8 ด. แล้วไม่รู้ลมอะไรพัดมาให้พูดเรื่องการแต่งงานกัน ประเด็นมันอยู่ตรงนี้แหละ เค้าถามเราว่าคิดเห็นยังไงเกี่ยวกับสินสอด เราก็พูดตามตรงเลยว่าคนในครอบครัวเราก็แต่งงานมีสินสอดหมดนะ แล้วเราก็เล่าว่าอยากจัดงารแบบนู้นแบบนี้บลาๆๆๆ เค้าก็พูดสวนกลับมาว่า สมัยนี้ละยังมีความคิดเก่าๆอยู่อีกหรอ สินสอดมันเหมือนกับการขายลูกกินบลาๆ ค่าน้ำนมอะไรกัน ผู้ชายก็ควรจะได้บ้าง แล้วเราก็ถามว่าจะไม่ให้หรอ เค้าก็บอกว่าอาจจะว่างเฉยๆถ่ายรูปได้มั้ย เค้าให้เหตุผลว่ากว่าจะเก็บเงินได้เสียดายนะถ้าเงินต้องไปอยู่กับคนอื่น แล้วแม่เราก็โทรมาพอดี เราเลยแซวๆแม่ไปว่าจะเรียกสินสอดเรามั้ย แม่บอกว่าเรียกสิแม่มีลูกสาวคนเดียว แล้วแฟนเราก็แทรกขึ้นมาว่าเรียกเท่าไหร่หรือครับแม่ แม่ก็เราบอกว่าขอวันละ20บาทก็พอ เอาระยะเวลาเราเกิดคูณกับ20 พอแม่บอก แฟนเราก็บอกโหแม่เกือบ2แสนเลยนะครับผมไม่มีหรอก แล้วก็หัวเราะ แม่เราก็ตอบกลับแม่ไม่ซีเรียสนะถ้าลูกรักกันจริงก็ไม่ต้องมีหรอกแต่ว่าเลี้ยงลูกสาวแม่ให้ดีๆ มีเงินเดือนให้ลูกสาวแม่อยู่สบายๆก็พอจ้ะ แล้วแฟนก็ตอบขำๆ ลูกสาวแม่ทำงานเงินเดือนเยอะกว่าผมอีก จะเอาเงินเดือนผมไปทำไมครับ ก็ขำๆกันไป
เวลาก็ล่วงเลยผ่านมา2 วัน แม่เราโทรหาเราอีกครั้งแล้วบอกกับเราว่า ไม่สบายใจเลยที่คุยกับแฟนเราวันก่อน เพราะดูเหมือนเค้าจะเลี้ยงดูเราให้สบายไม่ได้ แม่บอกถ้าเราเจ็บป่วยเดือดร้อนเค้าจะสามารถยื้นมือเข้ามาช่วยเหลือได้มั้ย แล้วถ้าในอนาคตเราจะต้องหารทุกค่าใช้จ่ายไปตลอดรึเปล่า ถ้ามีลูกก็ต้องหารหรอ แม่เราก็พูดประมาณนี้ แม่บอกว่าทรัพย์สินของแม่เราต่อไปก็เป็นของเราไม่ว่าจะสวนยางสวนทุเรียนทุ่งนาสวนมะพร้าวสวนปาล์ม แม่เหนื่อยมาเพื่อสร้างทุกอย่างให้เราเพื่อให้เราสบาย แต่จะต้องส่งเราไปให้คนที่ไม่พร้อมจะดูแลเรา แม่เลยรู้สึกไม่ชอบใจมากนัก
ยอมรับตรงๆค่ะว่าเครียดมาก ที่แม่พูดว่าไม่โอเคกับแฟน แต่เราเองก็มีนิดนึงที่เห็นด้วยกับแม่ว่าถ้าต้องหารทุกอย่างไปตลอด สู้อยู่คนเดียวก็ไม่ต่างอะไรมาก
นิดนึงนะคะเมื่อก่อนบ้านเราเคยมีช่วงนึงลำบากค่ะตอนเราเรียนมหาลัย แต่แม่ก็พยายามส่งเราเรียนจนจบ กู้เงินมาเพื่อส่งเราเรียน เราเองก็พยายามทำงานส่งตัวเองเรียน แม่ไม่เคยมีเวลาให้เราจนเราเป็นโรคซึมเศร้าค่ะเพราะคิดว่าแม่ไม่รัก จนเราเรียนจบฐานะทางบ้านก็ดีขึ้นค่ะ ในวันที่เราเรียนจบแม่โอนรถสองคันเป็นชื่อเราค่ะ บอกกับเราว่าแม่อยากให้เรามีทุกอย่างไม่อายคนอื่น คนอื่นมีอะไรแม่พยายามสร้างให้เราเหมือนเขานั้นคือเหตุผลที่แม่บอกกับเราว่าไม่อยากเห็นเราลำบากอีกค่ะ
เลยอยากทราบความคิดเห็นจากคนยุคสมัยใหม่ค่ะ ว่ามีความคิดเห็นยังไงบ้าง เราอยากลองมองหลายๆมุมค่ะ เพราะในอนาคตแม่ก็ไม่ได้อยู่กับเราไปตลอด
ขอบคุณสำหรับคำตอบล่วงหน้าค่ะ