สวัสดีเพื่อนๆชาวพันทิปอีกรอบนะคะ 😁 รอบนี้ก็เป็นกระทู้ขอคำแนะนะอีกตามเคยค่า 😅 ว่าด้วยเรื่องรูมเมท...
เชื่อว่าการที่ไม่ว่าเราพักอยู่ที่ไหนก็ตามแล้วมีรูมเมทคงต้องหนีไม่พ้นเรื่องการมีปัญหาเล็กๆน้อยๆวนเวียนเข้ามาในชีวิกันบ้างน้อ นี่ก็เป็นหนึ่งในคนที่ใช้ชีวิตในหอพักโดยมีรูมเมทค่า ปกติแล้วเราก็ไม่ใช่คนที่เรื่องน้อยเท่าไหร่แต่อันไหนหยวนได้ก็พอที่จะหยวนให้ค่า.... ทีนี้เรื่องที่อยากขอคำปรึกษาวันนี้คือการใช้คำพูดกับรูมเมทให้ดูซอฟสบายใจวินๆทั้งสองฝ่ายค่า ปัญหาที่เราเจอ ขออนุญาตเขียนเป็นข้อๆตามนี้นะคะ 😅
1. รูมเมทตั้งนาฬิกาปลุกถี่+นานค่ะ (คือจะตั้งนาฬิกาปลุกห่างกันในช่วง 2-30 นาทีได้เท่าที่สังเกตตั้งแต่ระยะเวลาที่อยู่ด้วยกันมา และระยะเวลาการดังของนาฬิกาปลุกคือนานตั้งแต่ 5 -15 นาทีถึงจะกดปิด/กดเลื่อน บางทีกดเลื่อนไม่ทันเพราะนาฬิกาปลุกรอบใหม่ดังพอดี)😅.... คือส่วนตัวเราก็เป็นคนที่ตั้งนาฬิกาปลุกนะ แต่จะตั้งมากสุด 3 รอบค่ะแต่ปกติจะตั้ง 2 รอบยกเว้นวันที่มีเวลานอนได้แค่ไม่เกิน 2 ชม.ก่อนไปทำงานอาจจะตั้ง 3 รอบค่ะกลัวหลับลึกดพราะเพลีย คือรอบที่ 1 ปลุกเตือนก่อน รอบที่สองคือปลุกให้ตื่น รอบที่สาม(ถ้ามีคือกรณีกลัวไม่ตื่นจริงๆ แต่ส่วนใหญ่จะตื่นตั้งแต่นาฬิกาปลุกรอบที่สองแล้วก็ปิดไปเลยค่ะ ต้องตื่นไม่งั้นจะไปทำงาน😂😂😂) คือเคยพูดแซวเบาๆว่าเพื่อคือตั้งนาฬิกาปลุกทุก 5-10นาทีเลยน๊า ดูเหมือนจะได้ยินแล้วก็ไม่พอใจเท่าไหร่ 😅
2. เรื่องการทิ้งขยะ.... คือไม่ใช่ว่ารูมเมทไม่ช่วยทิ้งเลยนะ คือช่วยเก็บทิ้งตอนที่มันเยอะมากๆ แต่ก่อนในห้องจะมีตระกร้าขยะแบบไม่มีฝาปิดเวลาทิ้งของที่เน่าได้มันก็จะมีกลิ่นไม่พึงประสงค์ เลยซื้อถังขยะแบบมีฝาปิดมาให้อย่างน้อยก็เก็บกลิ่นไว้ในถัง แต่ปัญหาต่อมาที่เจอคือถังมันล้นจนฝาถังปิดไม่สนิท+ผูกถุงวางข้างถังขยะเพราะถังมันล้นจนปิดฝาไม่ได้... คือเก็บให้ค่อนข้างบ่อยค่ะ แล้วส่วนตัวมีถังขยะแบบมีฝาปิดอยู่ในโซนของตัวเองอยู่แล้วด้วยก็ไม่ค่อยได้ไปทิ้งขยะตรงถังที่ซื้อมาไว้ให้ตรงนั้นเท่าไหร่ เลยรู้สึกว่าเราต้องเก็บขยะทิ้งตั้ง 2 ถังแบบไม่รวมถังขยะในห้องน้ำอีก ซึ่งขยะในห้องน้ำเราค่อนข้างหนักใจมากกว่าถังขยะข้างนอกค่ะ เพราะบางรอบจะมีผอนม.ใช้แล้วด้วยซึ่งล่าสุดคือเราทนไม่ไหวเอาถังขยะน้อยๆในห้องน้ำที่มันเป็นแบบมีฝาแง้มเข้าแง้มออกได้ที่มันเต็มมาเป็นเดือนแล้ว เนื่องจากเรารอดูค่ะว่าเจ้าตัวคนที่ทิ้งผอนม.ไว้จะมาเก็บไปทิ้งเมื่อไหร่ สุดท้ายผ่านมาร่วมเดือนทนไม่ไหวค่ะเลยเอาไปทิ้งทั้งถังเลยเพราะถ้าเปิดถังขยะเพื่อเก็บออกเราก็ต้องเจอภาพผอนม.ที่ใช้แล้วร่วมเดือนอยู่ในนั้น พร้อมกับเศษผมที่ส่วนใหญ่เราเป็นคนเก็บทิ้งให้
3. เรื่องการทำความสะอาดห้องน้ำ... คืออยู่ด้วยกันมีรูมเมท 2 คนรวมตัวเองด้วยก็อยู่ 3 คนค่ะ คือเราเป็นคนที่คอยหาซื้อน้ำยาล้างห้องน้ำ ผงล้างท่อตัน เจลดับกลิ่น สเปรย์น้ำหอมปรับอากาศ และเป็นคนล้างด้วยค่ะ... คือไม่ได้อยากเป็นคนรับหน้าที่นี้อยู่แล้ว อยากให้ช่วยกันทำ เลยบอกแล้วครั้งนึงว่าช่วยล้างห้องน้ำบ้างไหน ก็ได้คำตอบจากรูมเมทคนนึงว่าเขาก็ช่วยล้างเหมือนกัน เราก็โอเคช่วยล้างบ้างก็ยังดี แต่พักหลังๆมาเราพยายามสังเกตโดยการที่เราไม่ล้างห้องน้ำให้ จะดูว่าจะมีใครช่วยล้างบ้าง ปรากฏว่าทนไม่ไหวอีกแล้วค่า พื้นห้องน้ำคืนลื่นเป็นเมือก คราบสบู่/แชมพูที่ผนังกับประตูต้องน้ำมันเริ่มเยอะขึ้นเลยกลับกลายเป็นว่าต้องมาล้างเองอีก โดยเฉพาะชักโครกคือเราต้องล้างเองบ่อยมากกกก เพราะเราติดเจลดับกลิ่นไว้ที่โถชักโครกเราก็สังเกตว่ามันเริ่มจะหมดตอนไหนก็จะแต่เดาว่ารูมเมทคงไม่ได้สังเกตกัน และเรื่องที่เคยบอกไปแล้วดีขึ้นอยู่ครั้งนึงก็กลับมาเป็นใหม่คือเรื่อผมตรงท่อระบายน้ำค่ะ คือเราเป็นคนที่ถ้าสระผมจะหยิบออกทุกครั้งอยู่แล้ว และเราเป็นคนที่ทำสีผมสรผมก็จะไม่ได้เป็นผมดำแบบรูมเมท แต่เวลาเราอาบน้ำทีไรจะสังเกตเห็นผมบริเวณท่อระบายน้ำอยู่ตลอดจนมันเพิ่มปริมาณขึ้นเรื่อยๆ เราก็ไม่เก็บให้จะลองดูว่าจะมีใครเก็บทิ้งริเปล่า สรุปมีนะ แต่เหมือนว่าไม่ได้เก็บทิ้งถังขยะค่ะ เก็บแล้วเอาไปวางหลบมุมที่อื่นในห้องน้ำ (มาเจอตอนล้างห้องน้ำให้) คือเหนื่อยที่จะบอกมากค่ะ
4. เรื่องการใช้ราวตากผ้า... คือราวเป็นราวเดี่ยวค่ะ เดิมมีอยู่ 3 ราว ของเรา 2 ราวของเพื่อน 1 ราว แต่ด้วยความที่ว่าเพื่อนเอาราวไปใช้แทนราวที่หัก 1 ราวก็จะเหลือแค่ราวตากผ้าที่เป็นของเรา 2 ราว คือจริงๆเราก็ไม่ได้หวงของนะ แต่คือถ้าเราซักผ้าตากผ้าเราก็จะบอกก็ว่าเราจะใช้ราวผ้านะ(ทั้งๆที่เป็นราวผ้าของตัวเอง)เพื่อจะไม่ไม่ซักผ้ามาซ้ำกันเดียวไม่มีราวตาก เอาจริงๆเราถือว่าถ้าเราจะใช้ราวตากผ้าเราก็มีสิทธิ์ใช้ก่อนนะเพราะว่าราวตากผ้าเราเป็นคนซื้อเองทั้ง 2 ราวเลย แต่ถ้าดันซักผ้ามาพร้อมกัน(เครื่องซักผ้าแบบหยอดเหรียญใต้หอพัก)เราก็จะแบ่งให้ใช้ราวนึง แต่ที่เราเจอคือบางทีเราตากผ้าไว้ 2 ราว ผ้ายังไม่ทันแห้งดีเลย รูมเมทเอาผ้าตัวเองมาตากแทนทีผ้าเรา แล้วเอาผ้าเรามายัดราวกันราวเดียว ซึ่งเราไม่โอเคแต่ยังคิดคำพูดที่ดูซอฟๆไม่ออก 😅 หรือบางทีรูมเมทตากผ้าไว้จนแห้งอีกรอบแล้วไม่เก็บซักทีแต่เราจะใช้ราวตากผ้า เราก็ต้องเก็บผ้าให้เขาด่อนถึงจะตากผ้าตัวเองต่อได้
หลักๆมีอยู่ 4 ข้อนี้ค่าจริงๆเรื่องคุยโทรศัพท์/วีดีโอคอลนี่เราเข้าใจนะถึงจะเสียงดังบ้างแต่มันก็พอรับได้ถึงเกือบทุกวันแต่ก็ยังมีวันที่พักหูอยู่บ้าง 😅 สรุปแล้วอยากขอคำแนะนำเรื่องคำพูดบอกรูมเมทให้ดูซอฟเซฟความรู้สึกได้ทั้งเรากับรูมเมทค่า... คือเราก็ไม่ใช่คนดีขนาดที่สะอาดเรียบร้อยทุกอย่างนะ โซนที่เราอยู่บอกเลยว่ารกเหมือนกัน แต่ถ้าวันไหนหยุดไม่ได้ทำงานก็จะมาเก็บกวาด (แต่ถ้าวันไหนรูมเมทอยู่ด้วยแล้วหลับก็อาจจะเก็บกวาดไม่เยอะเดี๋ยวเสียงดัง 😅😅) โดยเฉพาะเสียงถุงก็อบแก๊บเวลาเก็บขยะใส่มันก็รบกวนอรรถรสในการนอนหลับน้อ คือรูมเมทเพื่อนเพื่อนร่วมรุ่นสมัยเรียนแต่ไม่ได้อยู่กลุ่มเดียวกัน แต่มาอยู่ด้วยกันเพราะทำงานที่เดียวกันแล้วอยู่หอพักใน.. มา 3 คนหลังเรียนจบ ตอนแรกๆก็อยู่คนละห้อง ไปๆมาๆได้ย้ายมาอยู่ห้องเดียวกันเพราะเรียนจบจากทีเดียวกันมาก็สบายใจในการอยู่ด้วยกันมากกว่า.... ด้วยความที่ทำงานเป็นกะ เข้า/บ่าย/ดึก เวลาทำงานหรือวันหยุดก็จะไม่ค่อยตรงกัน ถ้าวันไหนเราหยุดเราก็จะทำให้ ถ้าเราสังเกตว่าเวลารูมเมทหยุดคือเขาไม่ทำค่ะ จะพักผ่อนเป็นส่วนใหญ่ คือเข้าใจนะว่าของแบบนี้ไม่มีใครอยากทำ ซึ่งเราก็ไม่ได้อยากเป็นคนทำ แต่มันทนไม่ไหวก็ต้องทำให้....เท่าที่พิมพ์มาเหมือนเป็นการระบายไปในตัว ก็ขอขอบคุณสมาชิกเพื่อนๆชาวพันทิปที่ได้เรามาอ่านจนจะจบกระทูแล้ว 😅😅😅 คือฟังดูมันเหมือนเป็นข้อเสียเลยนะ แต่จริงๆแล้วรูมเมทเราข้อดีก็มีนะ 👍 เวลาเรา/รูมเมทไม่สบายใจมากๆเขาก็รับฟังกันและกันได้ เวลามีของกินก็แบ่งกัน (กินข้าวยัง เรามีข้าวนะ กินด้วยกันมั๊ย💓) เวลามีเวลาว่างก็ชวนกันออกไปซื้อของ/หาของกินเป็นเพื่อนกัน เป็นต้น
ปล.เป็นหอพักในเลยต้องมีรูมเมทค่า สะดวกต่อการเดินทางไปทำงานมากกว่าพักอยู่หอนอก+หอนอกจะทำให้ค่าใช้จ่ายรายเดือนสูงขึ้นอีกอย่างต่ำๆคือเพิ่มขึ้นอีก 5000/เดือนได้ แบกรับค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นตรงนี้ไม่ไหวค่า
สุดท้ายก่อนจบกระทู้ขอขอบคุณสมาชิกพะนทิปทุกคนที่เข้ามาอ่านรวมถึงขอขอบคุณล่วงหน้าสำหรับคำแนะนำดีๆด้วยนะคะ 🥰
ขอคำแนำนำเรื่องรูมเมททีค่า 🥰
เชื่อว่าการที่ไม่ว่าเราพักอยู่ที่ไหนก็ตามแล้วมีรูมเมทคงต้องหนีไม่พ้นเรื่องการมีปัญหาเล็กๆน้อยๆวนเวียนเข้ามาในชีวิกันบ้างน้อ นี่ก็เป็นหนึ่งในคนที่ใช้ชีวิตในหอพักโดยมีรูมเมทค่า ปกติแล้วเราก็ไม่ใช่คนที่เรื่องน้อยเท่าไหร่แต่อันไหนหยวนได้ก็พอที่จะหยวนให้ค่า.... ทีนี้เรื่องที่อยากขอคำปรึกษาวันนี้คือการใช้คำพูดกับรูมเมทให้ดูซอฟสบายใจวินๆทั้งสองฝ่ายค่า ปัญหาที่เราเจอ ขออนุญาตเขียนเป็นข้อๆตามนี้นะคะ 😅
1. รูมเมทตั้งนาฬิกาปลุกถี่+นานค่ะ (คือจะตั้งนาฬิกาปลุกห่างกันในช่วง 2-30 นาทีได้เท่าที่สังเกตตั้งแต่ระยะเวลาที่อยู่ด้วยกันมา และระยะเวลาการดังของนาฬิกาปลุกคือนานตั้งแต่ 5 -15 นาทีถึงจะกดปิด/กดเลื่อน บางทีกดเลื่อนไม่ทันเพราะนาฬิกาปลุกรอบใหม่ดังพอดี)😅.... คือส่วนตัวเราก็เป็นคนที่ตั้งนาฬิกาปลุกนะ แต่จะตั้งมากสุด 3 รอบค่ะแต่ปกติจะตั้ง 2 รอบยกเว้นวันที่มีเวลานอนได้แค่ไม่เกิน 2 ชม.ก่อนไปทำงานอาจจะตั้ง 3 รอบค่ะกลัวหลับลึกดพราะเพลีย คือรอบที่ 1 ปลุกเตือนก่อน รอบที่สองคือปลุกให้ตื่น รอบที่สาม(ถ้ามีคือกรณีกลัวไม่ตื่นจริงๆ แต่ส่วนใหญ่จะตื่นตั้งแต่นาฬิกาปลุกรอบที่สองแล้วก็ปิดไปเลยค่ะ ต้องตื่นไม่งั้นจะไปทำงาน😂😂😂) คือเคยพูดแซวเบาๆว่าเพื่อคือตั้งนาฬิกาปลุกทุก 5-10นาทีเลยน๊า ดูเหมือนจะได้ยินแล้วก็ไม่พอใจเท่าไหร่ 😅
2. เรื่องการทิ้งขยะ.... คือไม่ใช่ว่ารูมเมทไม่ช่วยทิ้งเลยนะ คือช่วยเก็บทิ้งตอนที่มันเยอะมากๆ แต่ก่อนในห้องจะมีตระกร้าขยะแบบไม่มีฝาปิดเวลาทิ้งของที่เน่าได้มันก็จะมีกลิ่นไม่พึงประสงค์ เลยซื้อถังขยะแบบมีฝาปิดมาให้อย่างน้อยก็เก็บกลิ่นไว้ในถัง แต่ปัญหาต่อมาที่เจอคือถังมันล้นจนฝาถังปิดไม่สนิท+ผูกถุงวางข้างถังขยะเพราะถังมันล้นจนปิดฝาไม่ได้... คือเก็บให้ค่อนข้างบ่อยค่ะ แล้วส่วนตัวมีถังขยะแบบมีฝาปิดอยู่ในโซนของตัวเองอยู่แล้วด้วยก็ไม่ค่อยได้ไปทิ้งขยะตรงถังที่ซื้อมาไว้ให้ตรงนั้นเท่าไหร่ เลยรู้สึกว่าเราต้องเก็บขยะทิ้งตั้ง 2 ถังแบบไม่รวมถังขยะในห้องน้ำอีก ซึ่งขยะในห้องน้ำเราค่อนข้างหนักใจมากกว่าถังขยะข้างนอกค่ะ เพราะบางรอบจะมีผอนม.ใช้แล้วด้วยซึ่งล่าสุดคือเราทนไม่ไหวเอาถังขยะน้อยๆในห้องน้ำที่มันเป็นแบบมีฝาแง้มเข้าแง้มออกได้ที่มันเต็มมาเป็นเดือนแล้ว เนื่องจากเรารอดูค่ะว่าเจ้าตัวคนที่ทิ้งผอนม.ไว้จะมาเก็บไปทิ้งเมื่อไหร่ สุดท้ายผ่านมาร่วมเดือนทนไม่ไหวค่ะเลยเอาไปทิ้งทั้งถังเลยเพราะถ้าเปิดถังขยะเพื่อเก็บออกเราก็ต้องเจอภาพผอนม.ที่ใช้แล้วร่วมเดือนอยู่ในนั้น พร้อมกับเศษผมที่ส่วนใหญ่เราเป็นคนเก็บทิ้งให้
3. เรื่องการทำความสะอาดห้องน้ำ... คืออยู่ด้วยกันมีรูมเมท 2 คนรวมตัวเองด้วยก็อยู่ 3 คนค่ะ คือเราเป็นคนที่คอยหาซื้อน้ำยาล้างห้องน้ำ ผงล้างท่อตัน เจลดับกลิ่น สเปรย์น้ำหอมปรับอากาศ และเป็นคนล้างด้วยค่ะ... คือไม่ได้อยากเป็นคนรับหน้าที่นี้อยู่แล้ว อยากให้ช่วยกันทำ เลยบอกแล้วครั้งนึงว่าช่วยล้างห้องน้ำบ้างไหน ก็ได้คำตอบจากรูมเมทคนนึงว่าเขาก็ช่วยล้างเหมือนกัน เราก็โอเคช่วยล้างบ้างก็ยังดี แต่พักหลังๆมาเราพยายามสังเกตโดยการที่เราไม่ล้างห้องน้ำให้ จะดูว่าจะมีใครช่วยล้างบ้าง ปรากฏว่าทนไม่ไหวอีกแล้วค่า พื้นห้องน้ำคืนลื่นเป็นเมือก คราบสบู่/แชมพูที่ผนังกับประตูต้องน้ำมันเริ่มเยอะขึ้นเลยกลับกลายเป็นว่าต้องมาล้างเองอีก โดยเฉพาะชักโครกคือเราต้องล้างเองบ่อยมากกกก เพราะเราติดเจลดับกลิ่นไว้ที่โถชักโครกเราก็สังเกตว่ามันเริ่มจะหมดตอนไหนก็จะแต่เดาว่ารูมเมทคงไม่ได้สังเกตกัน และเรื่องที่เคยบอกไปแล้วดีขึ้นอยู่ครั้งนึงก็กลับมาเป็นใหม่คือเรื่อผมตรงท่อระบายน้ำค่ะ คือเราเป็นคนที่ถ้าสระผมจะหยิบออกทุกครั้งอยู่แล้ว และเราเป็นคนที่ทำสีผมสรผมก็จะไม่ได้เป็นผมดำแบบรูมเมท แต่เวลาเราอาบน้ำทีไรจะสังเกตเห็นผมบริเวณท่อระบายน้ำอยู่ตลอดจนมันเพิ่มปริมาณขึ้นเรื่อยๆ เราก็ไม่เก็บให้จะลองดูว่าจะมีใครเก็บทิ้งริเปล่า สรุปมีนะ แต่เหมือนว่าไม่ได้เก็บทิ้งถังขยะค่ะ เก็บแล้วเอาไปวางหลบมุมที่อื่นในห้องน้ำ (มาเจอตอนล้างห้องน้ำให้) คือเหนื่อยที่จะบอกมากค่ะ
4. เรื่องการใช้ราวตากผ้า... คือราวเป็นราวเดี่ยวค่ะ เดิมมีอยู่ 3 ราว ของเรา 2 ราวของเพื่อน 1 ราว แต่ด้วยความที่ว่าเพื่อนเอาราวไปใช้แทนราวที่หัก 1 ราวก็จะเหลือแค่ราวตากผ้าที่เป็นของเรา 2 ราว คือจริงๆเราก็ไม่ได้หวงของนะ แต่คือถ้าเราซักผ้าตากผ้าเราก็จะบอกก็ว่าเราจะใช้ราวผ้านะ(ทั้งๆที่เป็นราวผ้าของตัวเอง)เพื่อจะไม่ไม่ซักผ้ามาซ้ำกันเดียวไม่มีราวตาก เอาจริงๆเราถือว่าถ้าเราจะใช้ราวตากผ้าเราก็มีสิทธิ์ใช้ก่อนนะเพราะว่าราวตากผ้าเราเป็นคนซื้อเองทั้ง 2 ราวเลย แต่ถ้าดันซักผ้ามาพร้อมกัน(เครื่องซักผ้าแบบหยอดเหรียญใต้หอพัก)เราก็จะแบ่งให้ใช้ราวนึง แต่ที่เราเจอคือบางทีเราตากผ้าไว้ 2 ราว ผ้ายังไม่ทันแห้งดีเลย รูมเมทเอาผ้าตัวเองมาตากแทนทีผ้าเรา แล้วเอาผ้าเรามายัดราวกันราวเดียว ซึ่งเราไม่โอเคแต่ยังคิดคำพูดที่ดูซอฟๆไม่ออก 😅 หรือบางทีรูมเมทตากผ้าไว้จนแห้งอีกรอบแล้วไม่เก็บซักทีแต่เราจะใช้ราวตากผ้า เราก็ต้องเก็บผ้าให้เขาด่อนถึงจะตากผ้าตัวเองต่อได้
หลักๆมีอยู่ 4 ข้อนี้ค่าจริงๆเรื่องคุยโทรศัพท์/วีดีโอคอลนี่เราเข้าใจนะถึงจะเสียงดังบ้างแต่มันก็พอรับได้ถึงเกือบทุกวันแต่ก็ยังมีวันที่พักหูอยู่บ้าง 😅 สรุปแล้วอยากขอคำแนะนำเรื่องคำพูดบอกรูมเมทให้ดูซอฟเซฟความรู้สึกได้ทั้งเรากับรูมเมทค่า... คือเราก็ไม่ใช่คนดีขนาดที่สะอาดเรียบร้อยทุกอย่างนะ โซนที่เราอยู่บอกเลยว่ารกเหมือนกัน แต่ถ้าวันไหนหยุดไม่ได้ทำงานก็จะมาเก็บกวาด (แต่ถ้าวันไหนรูมเมทอยู่ด้วยแล้วหลับก็อาจจะเก็บกวาดไม่เยอะเดี๋ยวเสียงดัง 😅😅) โดยเฉพาะเสียงถุงก็อบแก๊บเวลาเก็บขยะใส่มันก็รบกวนอรรถรสในการนอนหลับน้อ คือรูมเมทเพื่อนเพื่อนร่วมรุ่นสมัยเรียนแต่ไม่ได้อยู่กลุ่มเดียวกัน แต่มาอยู่ด้วยกันเพราะทำงานที่เดียวกันแล้วอยู่หอพักใน.. มา 3 คนหลังเรียนจบ ตอนแรกๆก็อยู่คนละห้อง ไปๆมาๆได้ย้ายมาอยู่ห้องเดียวกันเพราะเรียนจบจากทีเดียวกันมาก็สบายใจในการอยู่ด้วยกันมากกว่า.... ด้วยความที่ทำงานเป็นกะ เข้า/บ่าย/ดึก เวลาทำงานหรือวันหยุดก็จะไม่ค่อยตรงกัน ถ้าวันไหนเราหยุดเราก็จะทำให้ ถ้าเราสังเกตว่าเวลารูมเมทหยุดคือเขาไม่ทำค่ะ จะพักผ่อนเป็นส่วนใหญ่ คือเข้าใจนะว่าของแบบนี้ไม่มีใครอยากทำ ซึ่งเราก็ไม่ได้อยากเป็นคนทำ แต่มันทนไม่ไหวก็ต้องทำให้....เท่าที่พิมพ์มาเหมือนเป็นการระบายไปในตัว ก็ขอขอบคุณสมาชิกเพื่อนๆชาวพันทิปที่ได้เรามาอ่านจนจะจบกระทูแล้ว 😅😅😅 คือฟังดูมันเหมือนเป็นข้อเสียเลยนะ แต่จริงๆแล้วรูมเมทเราข้อดีก็มีนะ 👍 เวลาเรา/รูมเมทไม่สบายใจมากๆเขาก็รับฟังกันและกันได้ เวลามีของกินก็แบ่งกัน (กินข้าวยัง เรามีข้าวนะ กินด้วยกันมั๊ย💓) เวลามีเวลาว่างก็ชวนกันออกไปซื้อของ/หาของกินเป็นเพื่อนกัน เป็นต้น
ปล.เป็นหอพักในเลยต้องมีรูมเมทค่า สะดวกต่อการเดินทางไปทำงานมากกว่าพักอยู่หอนอก+หอนอกจะทำให้ค่าใช้จ่ายรายเดือนสูงขึ้นอีกอย่างต่ำๆคือเพิ่มขึ้นอีก 5000/เดือนได้ แบกรับค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นตรงนี้ไม่ไหวค่า
สุดท้ายก่อนจบกระทู้ขอขอบคุณสมาชิกพะนทิปทุกคนที่เข้ามาอ่านรวมถึงขอขอบคุณล่วงหน้าสำหรับคำแนะนำดีๆด้วยนะคะ 🥰