เมื่อปลายเดือนที่แล้ว ไปออกซิม AIS One-2-Call มีแต่ปัญหา บริการแย่ เลือกปฎิบัติ
เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2564 ได้ไปออกซิมการ์ดใหม่ เบอร์เดิม เพราะคิดว่า ถ้าซิมเดิมเป็นซิมใหญ่ ลดขนาดไม่ได้ แล้วถ้ามือถือพัง ก็จะไม่สามารถเอาซิมใหญ่ย้ายไปใส่มือถือใหม่ที่เป็น Nano SIM ได้ ยกเว้นแต่จะตัดซิมเท่านั้นซึ่งคิดว่าคงจะไม่ค่อยได้เต็มประสิทธิภาพเท่าไหร่ โดยในตอนแรก ได้ไปออกซิมที่ Telewiz Fortune ก่อน โดยเมื่อไปออกซิมใหม่แล้ว พนักงานพยายามเปลี่ยนซิมอยู่หลายครั้งจนในที่สุด ออกซิมใหม่เบอร์เดิมให้ไม่ได้ โดยซิมที่ใช้อยู่เป็นซิมใบใหญ่ ที่ย้ายมาจาก DPC ไปยัง AIS 3G 2100 ในตอนนั้น ซึ่งเบอร์ยังคนใช้งานได้ปกติ เติมเงิน ได้ สมัครรายเดือนที่ตัดเงินทุกเดือนได้ แต่ได้ทำการ Bar Internet เอาไว้ไม่ให้เน็ตรั่ว
ซึ่งพอ Telewiz สาขา Fortune Town แจ้งว่าไม่สามารถออกซิมใหม่ให้ได้ เลยเปลี่ยนไปยัง AIS ที่ เซ็นทรัลพระราม 9 ชั้น B โดยพนักงานก็คิดว่า ออกซิมการ์ดใหม่ เบอร์เดิม จะสามารถทำได้ง่ายๆ แต่เปล่าเลย ใช้เวลาออกซิมใหม่อยู่สักพัก โดยตอนนั้นไม่ได้นำซิมเก่าใบใหญ่ไปด้วย พนักงานจึงให้ออกเอกสารเป็นทำซิมหายและใหม่ซิมใหม่มาแทน ซึ่งเมื่อถึงบ้านแล้ว ก็ยังไม่สามารถใช้งานซิมใหม่ได้ และซิมเก่ายังคงใช้งานได้ปกติ ซึ่งก่อนออกจาก AIS ชั้น B เซ็นทรัลพระราม 9 พนักงานก็บอกว่า ระบบเข้าคิวใบการเปลี่ยนซิมอยู่ ซึ่งการออกซิมใหม่เบอร์เดิมควรจะเป็นเรื่องง่ายๆ ไม่ซับซ้อนหรือต้องรออะไรขนาดนี้ เพราะเคยออกซิมมาทั้ง True และ dtac ไม่เคยจะต้องใช้เวลานานขนาดนี้
พอคราวนี้ เอาซิมกลับมาบ้านแล้ว ใช้งานไม่ได้ จึงเดินทางไปที่ AIS Tower 2 ในวันที่ 1 พฤษจิการยน 2564 โดยได้เน้นย้ำกับพนักงาน เบอร์นี้มีปัญหา ออกซิมใหม่ เบอร์เดิมไม่ได้ ไปมาหลายที่แล้ว (จริงๆแล้ว ก่อนหน้าไปที่ Telewiz Fortune เคยออกซิมการ์ดกับ AIS เซ็นทรัลพระราม 9 ชั้น 4 มาแล้ว แต่ก็ไม่สามารถออกซิมการ์ดให้ได้และเงียบไป ไม่ติดต่อกลับ) ซึ่งคราวนี้ พอไปถึง Shop สำนักงานใหญ่ ก็ได้ซิมมาใหม่ และพนักงานบอกว่า ต้องรอคิวออกซิม ช่วงเย็นๆ ซิมใหม่น่าจะใช้งานได้ ซึ่งก็ต้องรีบออกจากอาคาร เพราะอาคารนี้คิดค่าจอดรถชั่วโมงละ 50 บาท ซึ่งไม่สามารถขอ Stamp ใดๆได้จากร้านค้าทุกร้าน เพราะตั้งแต่รับบัตรจอดรถ พนักงานแจ้งว่า จอดได้ฟรี 1 ชั่วโมง ชั่วโมงต่อไป ชั่งโมงละ 50 บาท
พอกลับมาถึง ช่วงเย็น ซิมใหม่ก็ยังใช้งานไม่ได้เหมือนเดิม และซิมเก่า ไม่สามารถรับสายได้ โทรออกได้อย่างเดียว จึงทำให้ต้องโทรไปร้องเรียนกับ กสทช. วันที่รุ่งขึ้น (2 พฤศจิกายน 2564) ที่เบอร์ 1200 โดยอธิบายให้เจ้าหน้าที่ฟังอย่างละเอียดถึงปัญหาที่เกิดขึ้นและการเพิกเฉยต่อการแก้ปัญหาเรื่องง่ายๆของบริษํทที่ไม่สามารถออกซิมการ์ดให้ได้ ซึ่งทาง กสทช. ก็ได้แจ้งไปยัง AIS โดยก่อนหน้านี้ ผมได้ติดต่อ AIS ไม่ว่าจะเป็นทาง 1175 หรือ ผ่านทางเว็บก็ไม่ได้รับการติดต่อกลับ จนในที่สุด ก็ต้องใช้ กสทช. เป็นคนโทรไปหา AIS ให้โทรกลับเข้าเบอร์หลักที่ใช้งาน ที่ไม่ใช่เบอร์ที่โทรเข้าไปยัง Call Center ของ AIS ซึ่งทุกครั้งที่โทรเข้า AIS จะย้ำเสมอว่าให้โทรกลับเข้าอีกเบอร์ เพราะเบอร์ AIS รายเดือนที่โทรเข้า 1175 จะไม่สามารถโทรกลับได้
เนื่องจากทำ Call Screening ไว้ที่ Network ทำให้เลือกรับสายเฉพาะบางเบอร์เท่านั้น ซึ่ง AIS ก็จะโทรกลับมาผิดเบอร์ตลอด ไม่ใช่เบอร์ที่ให้ไปสำหรับรับสาย ซึ่งวันที่ 3 พฤศจิกายน 2564 เวลา 15:50 ก็ได้มีการโทรกลับมาจาก 1175 โดยคราวนี้โทรกลับมาได้เพราะ กสทช แจ้งเบอร์ที่โทรกลับไปยัง AIS เป็นเบอร์ที่สามารถติดต่อได้ แต่กว่าจะได้คุยยาวๆ ก็ติดธุระเวลาประมาณ 17:53 ก็ได้คุย สรุปคือ พนักงานที่โทรมา ไม่เข้าใจปัญหาการออกซิมใหม่เบอร์เดิมเลยแม้แต่นิดเดียว เหมือนกับไม่ใช่ค่ายมือถือโทรมา ตอบทุกอย่างแบบ หุ่นยนต์ ไม่เข้าใจปัญหาด้านเทคนิคใดๆ และยังถามอีกว่า จุดที่อยู่มีสัญญาณหรือไม่ พอพูดแค่นี้ก็พอเข้าใจแล้วว่า เค้าไม่เข้าใจจริงๆว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับเบอร์นี้ จนวันต่อมา วันที่ 4 พฤศจิกายน 2564 ได้ทำการโทรหา กสทช. 1200 และแจ้งให้ กสทช. ส่งหนังสือไปยัง AIS เพื่อแจ้งให้ทำการออกซิมใหม่เบอร์เดิม
(ออกซิมใหม่เบอร์เดิมต้องส่งเรื่องให้ กสทช. ทำหนังสือให้นี่มันสุดๆจริงๆ เรื่องง่ายๆ ทำให้เป็นเรื่องยาก) ซึ่งพอ AIS ได้หนังสือจาก กสทช. จึงติดต่อกลับมาอีกครั้งในวันที่ 18 พฤศจิกายน 2564 เวลา 10:45 โดยทาง AIS รับปากว่า จะแก้ไขให้ โดยให้ทาง Shop เป็นคนแก้ไขให้จบ โดยใช้ซิมการ์ดใหม่ใบล่าสุดที่ออกให้ใหม่ โดยในวันนั้นยังไม่ได้ลองซิมใหม่จนกลับไปถึงบ้านช่วงเย็น เมื่อทดสอบแล้วปรากฎว่าสามารถใช้งานโทรออกได้ รับสายได้ แต่ ไม่สามารถเปิด Internet ได้ ทำให้วันรุ่งขึ้นต้องกลับไปที่ AIS Tower 2 อีกครั้ง โดยก่อนกลับไป พนักงานที่ AIS Tower 2 โทรกลับมาสอบถามว่าใช้งานได้หรือยัง จึงตอบไปว่าใช้งานได้แล้ว แต่ต้องการให้เปิด VoLTE Vo-WiFi ซึ่งพนักงานก็เปิดให้ แต่การที่จะใช้งาน VoLTE ได้ จะต้องทำการ Unbarred Internet (หรือการเปิด Internet หมายเลขนี้ก่อน) ซึ่งช่วงบ่ายก็ยังไม่ได้ มีแต่การ Activate ให้ใช้งาน VoLTE ได้ แต่ใช้งานจริงๆไม่ได้ และไม่สามารถกด USSD เพื่อ เปิด Internet ได้
ทำให้ต้องกลับไปที่ AIS Tower 2 และใช้เวลาขั้นต้ำ 15 นาที ในการ Provisioning Sim Card ใหม่ และในที่สุดก็หมดเวลาไปเป็นชั่วโมงๆ โดยเคสนี้เป็นเคสที่ กสทช. ส่งมาให้ AIS แต่กลับไม่ได้ดูแล คูปองจอดรถ หรือ เงินค่าที่จอดรถก็ไม่มีให้ กลายเป็นว่า AIS เหมือนใช้เวลาที่จอดรถเป็นตัวกำหนดที่จะให้ลูกค้าออกจาก Shop โดยเร็ว เพราะค่าที่จอดรถชั่วโมงละ 50 บาทและไม่สามารถ Stamp ได้ ซึ่งทาง Shop ก็ได้เสนอเป็นการชดเชยให้ โดยจะ Waive ค่าบริการรายเดือนให้ สำหรับเบอร์รายเดือน 0925978800 ที่เป็นชื่อบัตรประชาชนเดียวกันกับเบอร์เติมเงิน 0852531110 โดยจะ Waive ค่าบริการรายเดือนให้ 1 เดือน (เอาจริงๆ 1 เดือนมันน้อยไป และเบอร์นี้ เป็นเบอร์ที่เน้นแต่โทรในเครือข่ายด้วย ซึ่งโทรในเครือข่ายยังไงก็กำไรแน่นอน เพราะไม่ต้องเสียค่าเชื่อมต่อโครงข่าย หรือค่า Interconnection Charge) แต่ทาง Shop ที่ AIS Tower 2 เองก็ยืนยันว่าจะชดเชยให้แค่ 1 เดือน และพอสอบถามถึงการใช้ *189 ที่จะเข้าไปเลือกเบอร์สำหรับบริการ Call Screeing
ให้เป็น Welcome Calls เพราะเมื่อซิมการ์ดเบอร์ 0852531110 ใช้งานไม่ได้ คนใช้งานที่ใช้งานนี้อยู่ ก็ต้องหาซิมการ์ด 1-2-Call ใหม่ ซึ่งผมใช้งานเบอร์ 0925978800 ต้องการทำรายการที่ *189 เพือ Add เบอร์ 1-2-Call ที่ซื้อมาใหม่เพื่อให้รับสายได้ กลับกลายเป็นว่าเมื่อโทรเข้าเบอร์ IVR *189 แล้ว ระบบบอกว่าไม่สามารถทำรายการได้ กรุณาลองใหม่ภายหลัง ซึ่งปกติแล้ว บริการ Call Screeing จะคิดค่าบริการรายเดือน เดือนละ 30 บาทอยู่แล้ว แต่ถ้าโทรเข้า *189 เพื่อเพิ่มความเลขโทรศัพท์ที่รับสายได้ จะต้องเสียค่าบริการ 3 บาท/นาที ซึ่งในเมื่อไม่สามารถทำรายการได้ๆ เพื่อเพิ่มเบอร์ Acceted Call ก็ไม่ควรจะต้องเก็บค่าบริการในส่วนนี้ใช้ไหม พอคุยเรื่องให้ Waive ค่าบริการ *189 พนักงานที่ Shop AIS Tower 2 ซึ่งเป็นหัวหน้าก็ประมาณว่า ถ้าเรากด *189 แล้วถูกคิดเงิน แล้วยอดที่เราทำรายการไปได้ถูกส่งไปให้บัตรเครดิตเพื่อตัดบัญชีอัตโนมัติแล้ว จะไม่สามารถ Waive ในส่วนนี้ให้ได้ ซึ่งพนักงานไม่รู้ว่า *189 ที่กดเข้าไป 6 ครั้ง อยู่ในรอบที่ยังไม่ได้ส่งเข้าไปเพื่อตัดบัตรเครดิตอัตโนมัติ
โดยบริการ *189 เป็นการโทรเข้าระบบ IVR ของ AIS และไม่สามารถทำรายการได้ ไม่ใช่โทรเข้า Audiotext แล้วผมมาขอ Waive ค่าบริการ ซึ่งการโทรเข้า IVR *189 ไม่ได้เป็นต้นทุนใดๆกับ AIS เลย แต่ AIS บ่ายเบี่ยงที่จะไม่ Waive ค่าบริการ 21 บาทให้ผม ซึ่งผมต้องจ่าย 30 บาททุกเดือนเพื่อบริการนี้ที่ผมต้องใช้ และระหว่างที่ให้ทาง Counter ทำการเช็คซิมการ์ดอยู่นั้น ปรากฎว่าพนักงานเองก็ไม่รู้ว่า ซิมการ์ดนี้ไม่สามารถเปิด Internet ผ่าน USSD *129*2# ได้ ต้องทำการ Provisioning ซิมการ์ดใหม่ ซึ่งต้องใช้เวลาอีก 15 นาที และพนักงานต้องโทรหา Engineer ให้ทำให้ โดยทาง AIS ไม่ได้ตรวจสอบความสมบูรณ์ของ Sim Profile ก่อนให้ลูกค้าใช้งานจริง และถึงขั้นเป็นระดับผู้ให้บริการ การที่จะลองเปิดเน็ตเพื่อให้บริการ VoLTE สมบูรณ์ก็ไม่มี และเงินที่เหลืออยู่ในซิมก็แค่ 6 บาท จะเติมเงินคืนลูกค้า 10 - 20 บาทก็ถือว่าเป็นเครดิตลูกค้าซึ่งเป็นเงินน้อยนิดมากแต่ AIS ก็ไม่ทำ ซึ่งทำให้ในที่สุดก็ต้องเสียค่าที่จอดรถไป 50 บาท และเสียเวลาไปอีก 1 ชั่วโมง 30 นาที โดยในเวลานี้มีการ Provisioning ซิมใหม่ด้วย
ซึ่งเท่ากับว่า AIS ไม่สนใจลูกค้าระบบเติมเงินเลย และถึงแม้ลูกค้าจะมีระบบรายเดือนอยู่ด้วยก็ไม่สนใจถ้าไม่ใช่ลูกค้า Serenade
สรุปคร่าวๆได้ดังนี้
- พนักงานหน้า Shop ไม่มีความรู้ใดๆเกี่ยวกับการออกซิมใหม่เบอร์เดิมเลย ทั้ง เซ็นทรัลพระราม 9 ชั้น B และ ชั้น 4 ที่เคยทำไปมาแล้วเงียบไปออกซิมให้ไม่ได้ไม่โทรมาบอก หรือแม้กระทั่ง Shop AIS Tower 2 เองก็ไม่สามารถช่วยอะไรได้เลย
- สำนักงาน กสทช. เมื่อเราแจ้งไป เค้าจะโทรไปบอก AIS ก่อน และถ้าไม่มีอะไรคืบหน้า เค้าจะส่งหนังสือไปแจ้งทาง AIS ซึ่งเอาจริงๆ แค่ กสทช. โทรไปหา AIS ทาง AIS ก็ควรจะต้องรู้แล้วว่าปัญหามันไปถึง กสทช. แล้ว แล้วปกติถ้าไม่ใช่เรื่องอะไรที่มันยืดเยื้อลูกค้าจะส่งไปหา กสทช. ทำไม และพนักงานที่โทรกลับมาคุยก่อนส่งหนังสือก็ไม่รู้เรื่องอะไรเลย
อ้างโน้น อ้างนี่ คุยแบบตาม Patttern ที่ไม่ได้ช่วยอะไรเลย
- AIS Tower 2 ค่าที่จอดรถแพงมาก โดยทาง Shop จะใช้วิธิให้ลูกค้าออกจาก Shop เร็วๆ โดยการย้ำถึงค่าที่จอดรถ 50 บาท ซึ่งระดับเคสที่ กสทช. ทำหนังสือไปหา บริษัทจะไม่ออกค่าที่จอดรถให้ลูกค้าหน่อยเหรอ
- การขอ Waive บริการที่เป็นของ AIS เองทำได้ยากมาก ยากกว่าการขอ Waive ค่าบริการ SMS คิดเงินเสียอีก
- การออกซิมการ์ดใหม่ของ AIS มีปัญหา ซึ่งไม่เคยเจอกับค่ายอื่นมาก่อน
- พอจะขอพบ Network Engineer พนักงานแจ้งว่า Network Engineer Worked From Home ซึ่งแบบ แล้วใครจะเฝ้า Network ที่ตึกอะ
- ถ้าคุณไม่ใช AIS Serenade เป็นแค่รายเดือนธรรมดา หรือ เติมเงิน อย่าไปเรียกร้องอะไรจากเค้า เค้าพร้อมเล่นแง่เสมอ เหมือนการขอ Waive การโทรเข้าระบบ IVR *189 ที่ไม่สามารถทำรายการได้ แต่ไม่ยอม Waive ให้ซึ่งมันไม่ใช้ต้นทุนอะไรเลย และผมไม่รู้ด้วยว่า สิ้นเดือน ธันวาคม ซึ่งทาง Shop แจ้งว่าจะ Waive ค่าบริการให้ 1 เดือน จะทำให้ได้จริงๆไหม เพราะในค่าบริการนั้นเป็นการโทรในเครือข่ายล้วนๆ และเป็น VAS ของ AIS เอง
- และถ้าหาก AIS ชดเชยให้แล้ว แต่ผมไม่พอใจในการชดเชยของ AIS ผมสามารถแจ้ง กสทช. ให้เรียก AIS ไม่ไกลเกลี่ยขอพิพาทได้ แต่ AIS มีสิทธิ์ปฎิเสธ ที่จะไม่เข้ามาไกลเกลี่ยข้อพิพาทได้ ซึ่งกลายเป็นว่า กสทช. ไม่มีอำนาจใดๆในการเรียก AIS เข้ามาคุยเลย เพราะปัญหาแค่ออกซิมใหม่เบอร์เดิมไม่ควรจะเป็นปัญหาด้วยซ้ำเพราะเรื่องมันง่ายมากๆ แต่ AIS ทำให้มันยากเองและไม่สนใจอะไรเลย
- และล่าสุด วันที่ 24 ธันวาคม 2564 ทาง AIS ก็ยังไม่ Waive ยอดให้ผม จำนวนเงิน 548.60 บาท ตามที่พนักงานที่ได้ตกลงกับผมไว้ที่ Shop เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2564 ซึ่งในที่สุดผมก็ต้องจ่ายเอง และค่าใช้จ่ายบางส่วนที่ระบบไม่สามารถทำรายการได้อย่าง *189 ผมก็ต้องจ่ายอย่างนั้นเหรอ?
-ซึ่งผมไม่ได้เจอเคสให้บริการห่วยๆ แบบนี้คนเดียว ลูกค้า Serenade ระดับ Emerald บางคนก็เจอ แต่ของผมนี่หนักกว่า เพราะเรื่องง่ายทำเป็นเรื่องยาก และปัญหาทางเทคนิคผมก็ไม่เคยได้คุยกับคนรู้เรื่อง มีแต่ อ้ำๆอึ้งๆ ตอบไม่ได้ นั่นหมายความว่าระบบของคุณมันไม่มีประสิทธิภาพ เพราะถ้าตอบได้เพราะอะไรก็จะพอเข้าใจ แต่ตอบไม่ได้นี่แสดงว่าระบบห่วยจริงๆ และผมได้มีโอกาสคุยกับ ลูกค้า Serenade ระดับที่สูงกกว่า Emerald ขึ้นไป ส่วนใหญ่ AIS จะตอบสนองกับเรื่องต่างๆเร็วมาก แต่พอเป็นลูกค้าธรรมดา ร้อง กสทช. AIS ยังเงียบๆ ไม่สนใจเลย เท่ากับว่า AIS ไม่ได้สนใจเลยใช่ไหมว่าเบอร์จะใช้งานไม่ได้ เพราะออกซิมใหม่เบอร์เดิมไม่ได้ แล้วถ้ามือถือของผมที่ใช้งานอยู่มันพังไปจริงๆแล้วผมจะเอาซิมใหญ่ไปใส่เครื่องใหม่ที่เป็นซิมเล็
เมื่อปลายเดือนที่แล้ว ไปออกซิม AIS One-2-Call มีแต่ปัญหา บริการแย่ เลือกปฎิบัติ
เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2564 ได้ไปออกซิมการ์ดใหม่ เบอร์เดิม เพราะคิดว่า ถ้าซิมเดิมเป็นซิมใหญ่ ลดขนาดไม่ได้ แล้วถ้ามือถือพัง ก็จะไม่สามารถเอาซิมใหญ่ย้ายไปใส่มือถือใหม่ที่เป็น Nano SIM ได้ ยกเว้นแต่จะตัดซิมเท่านั้นซึ่งคิดว่าคงจะไม่ค่อยได้เต็มประสิทธิภาพเท่าไหร่ โดยในตอนแรก ได้ไปออกซิมที่ Telewiz Fortune ก่อน โดยเมื่อไปออกซิมใหม่แล้ว พนักงานพยายามเปลี่ยนซิมอยู่หลายครั้งจนในที่สุด ออกซิมใหม่เบอร์เดิมให้ไม่ได้ โดยซิมที่ใช้อยู่เป็นซิมใบใหญ่ ที่ย้ายมาจาก DPC ไปยัง AIS 3G 2100 ในตอนนั้น ซึ่งเบอร์ยังคนใช้งานได้ปกติ เติมเงิน ได้ สมัครรายเดือนที่ตัดเงินทุกเดือนได้ แต่ได้ทำการ Bar Internet เอาไว้ไม่ให้เน็ตรั่ว
ซึ่งพอ Telewiz สาขา Fortune Town แจ้งว่าไม่สามารถออกซิมใหม่ให้ได้ เลยเปลี่ยนไปยัง AIS ที่ เซ็นทรัลพระราม 9 ชั้น B โดยพนักงานก็คิดว่า ออกซิมการ์ดใหม่ เบอร์เดิม จะสามารถทำได้ง่ายๆ แต่เปล่าเลย ใช้เวลาออกซิมใหม่อยู่สักพัก โดยตอนนั้นไม่ได้นำซิมเก่าใบใหญ่ไปด้วย พนักงานจึงให้ออกเอกสารเป็นทำซิมหายและใหม่ซิมใหม่มาแทน ซึ่งเมื่อถึงบ้านแล้ว ก็ยังไม่สามารถใช้งานซิมใหม่ได้ และซิมเก่ายังคงใช้งานได้ปกติ ซึ่งก่อนออกจาก AIS ชั้น B เซ็นทรัลพระราม 9 พนักงานก็บอกว่า ระบบเข้าคิวใบการเปลี่ยนซิมอยู่ ซึ่งการออกซิมใหม่เบอร์เดิมควรจะเป็นเรื่องง่ายๆ ไม่ซับซ้อนหรือต้องรออะไรขนาดนี้ เพราะเคยออกซิมมาทั้ง True และ dtac ไม่เคยจะต้องใช้เวลานานขนาดนี้
พอคราวนี้ เอาซิมกลับมาบ้านแล้ว ใช้งานไม่ได้ จึงเดินทางไปที่ AIS Tower 2 ในวันที่ 1 พฤษจิการยน 2564 โดยได้เน้นย้ำกับพนักงาน เบอร์นี้มีปัญหา ออกซิมใหม่ เบอร์เดิมไม่ได้ ไปมาหลายที่แล้ว (จริงๆแล้ว ก่อนหน้าไปที่ Telewiz Fortune เคยออกซิมการ์ดกับ AIS เซ็นทรัลพระราม 9 ชั้น 4 มาแล้ว แต่ก็ไม่สามารถออกซิมการ์ดให้ได้และเงียบไป ไม่ติดต่อกลับ) ซึ่งคราวนี้ พอไปถึง Shop สำนักงานใหญ่ ก็ได้ซิมมาใหม่ และพนักงานบอกว่า ต้องรอคิวออกซิม ช่วงเย็นๆ ซิมใหม่น่าจะใช้งานได้ ซึ่งก็ต้องรีบออกจากอาคาร เพราะอาคารนี้คิดค่าจอดรถชั่วโมงละ 50 บาท ซึ่งไม่สามารถขอ Stamp ใดๆได้จากร้านค้าทุกร้าน เพราะตั้งแต่รับบัตรจอดรถ พนักงานแจ้งว่า จอดได้ฟรี 1 ชั่วโมง ชั่วโมงต่อไป ชั่งโมงละ 50 บาท
พอกลับมาถึง ช่วงเย็น ซิมใหม่ก็ยังใช้งานไม่ได้เหมือนเดิม และซิมเก่า ไม่สามารถรับสายได้ โทรออกได้อย่างเดียว จึงทำให้ต้องโทรไปร้องเรียนกับ กสทช. วันที่รุ่งขึ้น (2 พฤศจิกายน 2564) ที่เบอร์ 1200 โดยอธิบายให้เจ้าหน้าที่ฟังอย่างละเอียดถึงปัญหาที่เกิดขึ้นและการเพิกเฉยต่อการแก้ปัญหาเรื่องง่ายๆของบริษํทที่ไม่สามารถออกซิมการ์ดให้ได้ ซึ่งทาง กสทช. ก็ได้แจ้งไปยัง AIS โดยก่อนหน้านี้ ผมได้ติดต่อ AIS ไม่ว่าจะเป็นทาง 1175 หรือ ผ่านทางเว็บก็ไม่ได้รับการติดต่อกลับ จนในที่สุด ก็ต้องใช้ กสทช. เป็นคนโทรไปหา AIS ให้โทรกลับเข้าเบอร์หลักที่ใช้งาน ที่ไม่ใช่เบอร์ที่โทรเข้าไปยัง Call Center ของ AIS ซึ่งทุกครั้งที่โทรเข้า AIS จะย้ำเสมอว่าให้โทรกลับเข้าอีกเบอร์ เพราะเบอร์ AIS รายเดือนที่โทรเข้า 1175 จะไม่สามารถโทรกลับได้
เนื่องจากทำ Call Screening ไว้ที่ Network ทำให้เลือกรับสายเฉพาะบางเบอร์เท่านั้น ซึ่ง AIS ก็จะโทรกลับมาผิดเบอร์ตลอด ไม่ใช่เบอร์ที่ให้ไปสำหรับรับสาย ซึ่งวันที่ 3 พฤศจิกายน 2564 เวลา 15:50 ก็ได้มีการโทรกลับมาจาก 1175 โดยคราวนี้โทรกลับมาได้เพราะ กสทช แจ้งเบอร์ที่โทรกลับไปยัง AIS เป็นเบอร์ที่สามารถติดต่อได้ แต่กว่าจะได้คุยยาวๆ ก็ติดธุระเวลาประมาณ 17:53 ก็ได้คุย สรุปคือ พนักงานที่โทรมา ไม่เข้าใจปัญหาการออกซิมใหม่เบอร์เดิมเลยแม้แต่นิดเดียว เหมือนกับไม่ใช่ค่ายมือถือโทรมา ตอบทุกอย่างแบบ หุ่นยนต์ ไม่เข้าใจปัญหาด้านเทคนิคใดๆ และยังถามอีกว่า จุดที่อยู่มีสัญญาณหรือไม่ พอพูดแค่นี้ก็พอเข้าใจแล้วว่า เค้าไม่เข้าใจจริงๆว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับเบอร์นี้ จนวันต่อมา วันที่ 4 พฤศจิกายน 2564 ได้ทำการโทรหา กสทช. 1200 และแจ้งให้ กสทช. ส่งหนังสือไปยัง AIS เพื่อแจ้งให้ทำการออกซิมใหม่เบอร์เดิม
(ออกซิมใหม่เบอร์เดิมต้องส่งเรื่องให้ กสทช. ทำหนังสือให้นี่มันสุดๆจริงๆ เรื่องง่ายๆ ทำให้เป็นเรื่องยาก) ซึ่งพอ AIS ได้หนังสือจาก กสทช. จึงติดต่อกลับมาอีกครั้งในวันที่ 18 พฤศจิกายน 2564 เวลา 10:45 โดยทาง AIS รับปากว่า จะแก้ไขให้ โดยให้ทาง Shop เป็นคนแก้ไขให้จบ โดยใช้ซิมการ์ดใหม่ใบล่าสุดที่ออกให้ใหม่ โดยในวันนั้นยังไม่ได้ลองซิมใหม่จนกลับไปถึงบ้านช่วงเย็น เมื่อทดสอบแล้วปรากฎว่าสามารถใช้งานโทรออกได้ รับสายได้ แต่ ไม่สามารถเปิด Internet ได้ ทำให้วันรุ่งขึ้นต้องกลับไปที่ AIS Tower 2 อีกครั้ง โดยก่อนกลับไป พนักงานที่ AIS Tower 2 โทรกลับมาสอบถามว่าใช้งานได้หรือยัง จึงตอบไปว่าใช้งานได้แล้ว แต่ต้องการให้เปิด VoLTE Vo-WiFi ซึ่งพนักงานก็เปิดให้ แต่การที่จะใช้งาน VoLTE ได้ จะต้องทำการ Unbarred Internet (หรือการเปิด Internet หมายเลขนี้ก่อน) ซึ่งช่วงบ่ายก็ยังไม่ได้ มีแต่การ Activate ให้ใช้งาน VoLTE ได้ แต่ใช้งานจริงๆไม่ได้ และไม่สามารถกด USSD เพื่อ เปิด Internet ได้
ทำให้ต้องกลับไปที่ AIS Tower 2 และใช้เวลาขั้นต้ำ 15 นาที ในการ Provisioning Sim Card ใหม่ และในที่สุดก็หมดเวลาไปเป็นชั่วโมงๆ โดยเคสนี้เป็นเคสที่ กสทช. ส่งมาให้ AIS แต่กลับไม่ได้ดูแล คูปองจอดรถ หรือ เงินค่าที่จอดรถก็ไม่มีให้ กลายเป็นว่า AIS เหมือนใช้เวลาที่จอดรถเป็นตัวกำหนดที่จะให้ลูกค้าออกจาก Shop โดยเร็ว เพราะค่าที่จอดรถชั่วโมงละ 50 บาทและไม่สามารถ Stamp ได้ ซึ่งทาง Shop ก็ได้เสนอเป็นการชดเชยให้ โดยจะ Waive ค่าบริการรายเดือนให้ สำหรับเบอร์รายเดือน 0925978800 ที่เป็นชื่อบัตรประชาชนเดียวกันกับเบอร์เติมเงิน 0852531110 โดยจะ Waive ค่าบริการรายเดือนให้ 1 เดือน (เอาจริงๆ 1 เดือนมันน้อยไป และเบอร์นี้ เป็นเบอร์ที่เน้นแต่โทรในเครือข่ายด้วย ซึ่งโทรในเครือข่ายยังไงก็กำไรแน่นอน เพราะไม่ต้องเสียค่าเชื่อมต่อโครงข่าย หรือค่า Interconnection Charge) แต่ทาง Shop ที่ AIS Tower 2 เองก็ยืนยันว่าจะชดเชยให้แค่ 1 เดือน และพอสอบถามถึงการใช้ *189 ที่จะเข้าไปเลือกเบอร์สำหรับบริการ Call Screeing
ให้เป็น Welcome Calls เพราะเมื่อซิมการ์ดเบอร์ 0852531110 ใช้งานไม่ได้ คนใช้งานที่ใช้งานนี้อยู่ ก็ต้องหาซิมการ์ด 1-2-Call ใหม่ ซึ่งผมใช้งานเบอร์ 0925978800 ต้องการทำรายการที่ *189 เพือ Add เบอร์ 1-2-Call ที่ซื้อมาใหม่เพื่อให้รับสายได้ กลับกลายเป็นว่าเมื่อโทรเข้าเบอร์ IVR *189 แล้ว ระบบบอกว่าไม่สามารถทำรายการได้ กรุณาลองใหม่ภายหลัง ซึ่งปกติแล้ว บริการ Call Screeing จะคิดค่าบริการรายเดือน เดือนละ 30 บาทอยู่แล้ว แต่ถ้าโทรเข้า *189 เพื่อเพิ่มความเลขโทรศัพท์ที่รับสายได้ จะต้องเสียค่าบริการ 3 บาท/นาที ซึ่งในเมื่อไม่สามารถทำรายการได้ๆ เพื่อเพิ่มเบอร์ Acceted Call ก็ไม่ควรจะต้องเก็บค่าบริการในส่วนนี้ใช้ไหม พอคุยเรื่องให้ Waive ค่าบริการ *189 พนักงานที่ Shop AIS Tower 2 ซึ่งเป็นหัวหน้าก็ประมาณว่า ถ้าเรากด *189 แล้วถูกคิดเงิน แล้วยอดที่เราทำรายการไปได้ถูกส่งไปให้บัตรเครดิตเพื่อตัดบัญชีอัตโนมัติแล้ว จะไม่สามารถ Waive ในส่วนนี้ให้ได้ ซึ่งพนักงานไม่รู้ว่า *189 ที่กดเข้าไป 6 ครั้ง อยู่ในรอบที่ยังไม่ได้ส่งเข้าไปเพื่อตัดบัตรเครดิตอัตโนมัติ
โดยบริการ *189 เป็นการโทรเข้าระบบ IVR ของ AIS และไม่สามารถทำรายการได้ ไม่ใช่โทรเข้า Audiotext แล้วผมมาขอ Waive ค่าบริการ ซึ่งการโทรเข้า IVR *189 ไม่ได้เป็นต้นทุนใดๆกับ AIS เลย แต่ AIS บ่ายเบี่ยงที่จะไม่ Waive ค่าบริการ 21 บาทให้ผม ซึ่งผมต้องจ่าย 30 บาททุกเดือนเพื่อบริการนี้ที่ผมต้องใช้ และระหว่างที่ให้ทาง Counter ทำการเช็คซิมการ์ดอยู่นั้น ปรากฎว่าพนักงานเองก็ไม่รู้ว่า ซิมการ์ดนี้ไม่สามารถเปิด Internet ผ่าน USSD *129*2# ได้ ต้องทำการ Provisioning ซิมการ์ดใหม่ ซึ่งต้องใช้เวลาอีก 15 นาที และพนักงานต้องโทรหา Engineer ให้ทำให้ โดยทาง AIS ไม่ได้ตรวจสอบความสมบูรณ์ของ Sim Profile ก่อนให้ลูกค้าใช้งานจริง และถึงขั้นเป็นระดับผู้ให้บริการ การที่จะลองเปิดเน็ตเพื่อให้บริการ VoLTE สมบูรณ์ก็ไม่มี และเงินที่เหลืออยู่ในซิมก็แค่ 6 บาท จะเติมเงินคืนลูกค้า 10 - 20 บาทก็ถือว่าเป็นเครดิตลูกค้าซึ่งเป็นเงินน้อยนิดมากแต่ AIS ก็ไม่ทำ ซึ่งทำให้ในที่สุดก็ต้องเสียค่าที่จอดรถไป 50 บาท และเสียเวลาไปอีก 1 ชั่วโมง 30 นาที โดยในเวลานี้มีการ Provisioning ซิมใหม่ด้วย
ซึ่งเท่ากับว่า AIS ไม่สนใจลูกค้าระบบเติมเงินเลย และถึงแม้ลูกค้าจะมีระบบรายเดือนอยู่ด้วยก็ไม่สนใจถ้าไม่ใช่ลูกค้า Serenade
สรุปคร่าวๆได้ดังนี้
- พนักงานหน้า Shop ไม่มีความรู้ใดๆเกี่ยวกับการออกซิมใหม่เบอร์เดิมเลย ทั้ง เซ็นทรัลพระราม 9 ชั้น B และ ชั้น 4 ที่เคยทำไปมาแล้วเงียบไปออกซิมให้ไม่ได้ไม่โทรมาบอก หรือแม้กระทั่ง Shop AIS Tower 2 เองก็ไม่สามารถช่วยอะไรได้เลย
- สำนักงาน กสทช. เมื่อเราแจ้งไป เค้าจะโทรไปบอก AIS ก่อน และถ้าไม่มีอะไรคืบหน้า เค้าจะส่งหนังสือไปแจ้งทาง AIS ซึ่งเอาจริงๆ แค่ กสทช. โทรไปหา AIS ทาง AIS ก็ควรจะต้องรู้แล้วว่าปัญหามันไปถึง กสทช. แล้ว แล้วปกติถ้าไม่ใช่เรื่องอะไรที่มันยืดเยื้อลูกค้าจะส่งไปหา กสทช. ทำไม และพนักงานที่โทรกลับมาคุยก่อนส่งหนังสือก็ไม่รู้เรื่องอะไรเลย
อ้างโน้น อ้างนี่ คุยแบบตาม Patttern ที่ไม่ได้ช่วยอะไรเลย
- AIS Tower 2 ค่าที่จอดรถแพงมาก โดยทาง Shop จะใช้วิธิให้ลูกค้าออกจาก Shop เร็วๆ โดยการย้ำถึงค่าที่จอดรถ 50 บาท ซึ่งระดับเคสที่ กสทช. ทำหนังสือไปหา บริษัทจะไม่ออกค่าที่จอดรถให้ลูกค้าหน่อยเหรอ
- การขอ Waive บริการที่เป็นของ AIS เองทำได้ยากมาก ยากกว่าการขอ Waive ค่าบริการ SMS คิดเงินเสียอีก
- การออกซิมการ์ดใหม่ของ AIS มีปัญหา ซึ่งไม่เคยเจอกับค่ายอื่นมาก่อน
- พอจะขอพบ Network Engineer พนักงานแจ้งว่า Network Engineer Worked From Home ซึ่งแบบ แล้วใครจะเฝ้า Network ที่ตึกอะ
- ถ้าคุณไม่ใช AIS Serenade เป็นแค่รายเดือนธรรมดา หรือ เติมเงิน อย่าไปเรียกร้องอะไรจากเค้า เค้าพร้อมเล่นแง่เสมอ เหมือนการขอ Waive การโทรเข้าระบบ IVR *189 ที่ไม่สามารถทำรายการได้ แต่ไม่ยอม Waive ให้ซึ่งมันไม่ใช้ต้นทุนอะไรเลย และผมไม่รู้ด้วยว่า สิ้นเดือน ธันวาคม ซึ่งทาง Shop แจ้งว่าจะ Waive ค่าบริการให้ 1 เดือน จะทำให้ได้จริงๆไหม เพราะในค่าบริการนั้นเป็นการโทรในเครือข่ายล้วนๆ และเป็น VAS ของ AIS เอง
- และถ้าหาก AIS ชดเชยให้แล้ว แต่ผมไม่พอใจในการชดเชยของ AIS ผมสามารถแจ้ง กสทช. ให้เรียก AIS ไม่ไกลเกลี่ยขอพิพาทได้ แต่ AIS มีสิทธิ์ปฎิเสธ ที่จะไม่เข้ามาไกลเกลี่ยข้อพิพาทได้ ซึ่งกลายเป็นว่า กสทช. ไม่มีอำนาจใดๆในการเรียก AIS เข้ามาคุยเลย เพราะปัญหาแค่ออกซิมใหม่เบอร์เดิมไม่ควรจะเป็นปัญหาด้วยซ้ำเพราะเรื่องมันง่ายมากๆ แต่ AIS ทำให้มันยากเองและไม่สนใจอะไรเลย
- และล่าสุด วันที่ 24 ธันวาคม 2564 ทาง AIS ก็ยังไม่ Waive ยอดให้ผม จำนวนเงิน 548.60 บาท ตามที่พนักงานที่ได้ตกลงกับผมไว้ที่ Shop เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2564 ซึ่งในที่สุดผมก็ต้องจ่ายเอง และค่าใช้จ่ายบางส่วนที่ระบบไม่สามารถทำรายการได้อย่าง *189 ผมก็ต้องจ่ายอย่างนั้นเหรอ?
-ซึ่งผมไม่ได้เจอเคสให้บริการห่วยๆ แบบนี้คนเดียว ลูกค้า Serenade ระดับ Emerald บางคนก็เจอ แต่ของผมนี่หนักกว่า เพราะเรื่องง่ายทำเป็นเรื่องยาก และปัญหาทางเทคนิคผมก็ไม่เคยได้คุยกับคนรู้เรื่อง มีแต่ อ้ำๆอึ้งๆ ตอบไม่ได้ นั่นหมายความว่าระบบของคุณมันไม่มีประสิทธิภาพ เพราะถ้าตอบได้เพราะอะไรก็จะพอเข้าใจ แต่ตอบไม่ได้นี่แสดงว่าระบบห่วยจริงๆ และผมได้มีโอกาสคุยกับ ลูกค้า Serenade ระดับที่สูงกกว่า Emerald ขึ้นไป ส่วนใหญ่ AIS จะตอบสนองกับเรื่องต่างๆเร็วมาก แต่พอเป็นลูกค้าธรรมดา ร้อง กสทช. AIS ยังเงียบๆ ไม่สนใจเลย เท่ากับว่า AIS ไม่ได้สนใจเลยใช่ไหมว่าเบอร์จะใช้งานไม่ได้ เพราะออกซิมใหม่เบอร์เดิมไม่ได้ แล้วถ้ามือถือของผมที่ใช้งานอยู่มันพังไปจริงๆแล้วผมจะเอาซิมใหญ่ไปใส่เครื่องใหม่ที่เป็นซิมเล็