เเฟนบาสส่วนใหญ่จะรู้จักชื่อผู้เล่นเเละโค้ชของทีมต่างๆ กันเเต่จะมีสักกี่คนที่รู้จักชื่อผู้ช่วยโค้ชเเละรายละเอียดของงาน สื่อ Hoophype ได้ลงบทความตีเเผ่เบื้องหลังงานนี้
“ข้อดีของงานนี้คือมันทําให้ผมมีโอกาสได้ร่วมงานกับนักกีฬาชื่อดังระดับโลก, ได้พักโรงเเรมหรู, กินอาหารดีๆ เเละเดินทางด้วยเครื่องบินส่วนตัวเวลาพาทีมไปเเข่งซึ่งถือว่าดีกว่างานก่อนที่ผมเคยทํามาก ผมดีใจที่มีส่วนร่วมในการพัฒนาฝีมือของผู้เล่นดังๆ หลายคน” ผช. โค้ชนิรนามรายหนึ่งกล่าว
ส่วนข้อเสียของการเป็นผช. โค้ชคืองานเยอะวันๆ ต้องมานั่งดูเทปการเเข่ง, วางเเผนพัฒนาฝีมือผู้เล่น, ไปดูทีมคู่เเข่งเล่น จบงานนี้ก็ต้องไปทํางานอื่นต่อเเบบไม่รู้จักจบสิ้นสักที
“ผมว่างานมันหนักมากนะต้องทํากันเเบบ 24/7 คือต้องทํากันทุกวันเลยจริงๆ ไม่มีหยุดเสาร์-อาทิตย์เเบบชาวบ้านจนกว่าจะจบฤดูกาลนั้นถึงจะได้ลาไปพักร้อนกัน คนที่จะทํางานนี้ได้ต้องยอมเสียสละเวลาส่วนตัวเเละทุ่มเทให้กับงาน ผมกลับถึงบ้านดึกดื่น ตื่นเช้ามาก็ต้องออกไปทํางานอีกเเล้ว
การเดินทางไปเเข่งต่างเมืองก็ไม่ใช่เรื่องง่าย บางทีต้องต่อเครื่องบินถึงสองครั้งกว่าจะไปถึงจุดหมาย ผมพยายามดูเเลร่างกายด้วยการพักผ่อนให้เพียงพอเเละไม่ให้ตัวเองป่วย การไปยิมก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะงานนี้มันทําเเบบไม่เป็นเวลาเเละต้องไปโน่นไปนี่ทําให้หาเวลาปลีกตัวได้ยาก” ผช. โค้ชรายหนึ่งกล่าว
ข้อเสียอีกอย่างของงานนี้คือต่อให้ทําดีเเทบตายยังไง HC ก็เป็นคนได้รับเครดิตไปหมด ในขณะที่คนที่อยู่เบื้องหลังถูกมองข้ามเเต่ HC บางคนเช่น Terry Stotts มักจะให้เครดิตผช. โค้ชผ่านสื่อเเละพูดให้กําลังใจพวกเขาอยู่บ่อยๆ
“สิ่งนึงที่ผมเกลียดในงานนี้ก็ตรงผู้เล่นบางคนชอบโกหกว่าพวกเขาดูพวกวีดีโอที่พวกผมสั่งให้ดูเเต่ผมรู้ว่าพวกเขาไม่ได้ดูจริงเเละบางคนสอนไม่ฟัง งานของเราคือช่วย HC เตรียมผู้เล่นให้พร้อมลงสนามมากที่สุด ดังนั้นทุกคนในทีมต้องร่วมมือเเละไว้ใจกันถึงจะประสบความสําเร็จได้”
รายได้ของงานนี้จะอยู่ที่ราวๆ $100,000-$1,000,000 ขึ้นอยู่กับประสบการณ์ซึ่งถ้าพวกเขาเก็บสะสมประสบการณ์เเละถูกเลื่อนขั้นมาเป็น HC เต็มตัว รายได้ก็มักจะอยู่ที่หลัก $4 ล้านต่อปีขึ้นไปซึ่งคนที่เข้ามาทํางานผช. โค้ชส่วนใหญ่ต่างก็มีความหวังว่าวันนึงพวกเขาจะถูกเลื่อนขั้นมาเป็นโค้ชเเบบเต็มตัวได้ในอนาคต
Credit: Hoophype
🏀 เจาะลึกเบื้องหลังงานผู้ช่วยโค้ช
“ข้อดีของงานนี้คือมันทําให้ผมมีโอกาสได้ร่วมงานกับนักกีฬาชื่อดังระดับโลก, ได้พักโรงเเรมหรู, กินอาหารดีๆ เเละเดินทางด้วยเครื่องบินส่วนตัวเวลาพาทีมไปเเข่งซึ่งถือว่าดีกว่างานก่อนที่ผมเคยทํามาก ผมดีใจที่มีส่วนร่วมในการพัฒนาฝีมือของผู้เล่นดังๆ หลายคน” ผช. โค้ชนิรนามรายหนึ่งกล่าว
ส่วนข้อเสียของการเป็นผช. โค้ชคืองานเยอะวันๆ ต้องมานั่งดูเทปการเเข่ง, วางเเผนพัฒนาฝีมือผู้เล่น, ไปดูทีมคู่เเข่งเล่น จบงานนี้ก็ต้องไปทํางานอื่นต่อเเบบไม่รู้จักจบสิ้นสักที
“ผมว่างานมันหนักมากนะต้องทํากันเเบบ 24/7 คือต้องทํากันทุกวันเลยจริงๆ ไม่มีหยุดเสาร์-อาทิตย์เเบบชาวบ้านจนกว่าจะจบฤดูกาลนั้นถึงจะได้ลาไปพักร้อนกัน คนที่จะทํางานนี้ได้ต้องยอมเสียสละเวลาส่วนตัวเเละทุ่มเทให้กับงาน ผมกลับถึงบ้านดึกดื่น ตื่นเช้ามาก็ต้องออกไปทํางานอีกเเล้ว
การเดินทางไปเเข่งต่างเมืองก็ไม่ใช่เรื่องง่าย บางทีต้องต่อเครื่องบินถึงสองครั้งกว่าจะไปถึงจุดหมาย ผมพยายามดูเเลร่างกายด้วยการพักผ่อนให้เพียงพอเเละไม่ให้ตัวเองป่วย การไปยิมก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะงานนี้มันทําเเบบไม่เป็นเวลาเเละต้องไปโน่นไปนี่ทําให้หาเวลาปลีกตัวได้ยาก” ผช. โค้ชรายหนึ่งกล่าว
ข้อเสียอีกอย่างของงานนี้คือต่อให้ทําดีเเทบตายยังไง HC ก็เป็นคนได้รับเครดิตไปหมด ในขณะที่คนที่อยู่เบื้องหลังถูกมองข้ามเเต่ HC บางคนเช่น Terry Stotts มักจะให้เครดิตผช. โค้ชผ่านสื่อเเละพูดให้กําลังใจพวกเขาอยู่บ่อยๆ
“สิ่งนึงที่ผมเกลียดในงานนี้ก็ตรงผู้เล่นบางคนชอบโกหกว่าพวกเขาดูพวกวีดีโอที่พวกผมสั่งให้ดูเเต่ผมรู้ว่าพวกเขาไม่ได้ดูจริงเเละบางคนสอนไม่ฟัง งานของเราคือช่วย HC เตรียมผู้เล่นให้พร้อมลงสนามมากที่สุด ดังนั้นทุกคนในทีมต้องร่วมมือเเละไว้ใจกันถึงจะประสบความสําเร็จได้”
รายได้ของงานนี้จะอยู่ที่ราวๆ $100,000-$1,000,000 ขึ้นอยู่กับประสบการณ์ซึ่งถ้าพวกเขาเก็บสะสมประสบการณ์เเละถูกเลื่อนขั้นมาเป็น HC เต็มตัว รายได้ก็มักจะอยู่ที่หลัก $4 ล้านต่อปีขึ้นไปซึ่งคนที่เข้ามาทํางานผช. โค้ชส่วนใหญ่ต่างก็มีความหวังว่าวันนึงพวกเขาจะถูกเลื่อนขั้นมาเป็นโค้ชเเบบเต็มตัวได้ในอนาคต
Credit: Hoophype