🇪🇸 El Molino de Urdániz - อัล โมลีโน่ เด อูดานิซ
🌟🌟 2 Michelin Star - 2 ดาวมิชลิน
☀️☀️ 2 Sols Guía Repsol - 2 ดวงอาทิตย์เรปโซล
🍴 Creative - อาหารเชิงความคิดสร้างสรรค์
👨🏻🍳 Chef David Yárnoz - เชฟดาบิด ยาโนซ
🎗 [Intro] El Molino de Urdániz เป็นห้องอาหารที่ผ่านตาเราครั้งแรกในการจัดทริปท่องเที่ยวสเปน-โปรตุเกสเมื่อ 2 ปีก่อน แต่ด้วยตำแหน่งของร้านที่ตั้งอยู่ใจกลางหุบเขาในแคว้น Navarra ทำให้เราไม่อาจขับออกนอกเส้นทางเพื่อแวะมายังห้องอาหารแห่งนี้ได้ เวลาผ่านมาจนกระทั่งการจัดทริปท่องเที่ยวสเปนรอบล่าสุดที่เราวางแผนเดินทางจากเมือง Lleida ในแคว้น Catalonia ไปยังเมือง Donostia-San Sebastian ในแคว้น Basque Country ทำให้มีเหตุจำเป็นต้องขับรถผ่านแคว้น Aragon และ Navarra เราจึงไม่พลาดที่จะแวะชิม El Molino de Urdániz ห้องอาหารที่ในท้ายที่สุดแล้วเปรียบได้ดั่งเพชรเม็ดงามรอให้คนที่ผ่านไปมาได้แวะมาลิ้มลองกัน
🎗 [The Place] El Molino de Urdániz เป็นห้องอาหารที่แอบซ่อนตัวอยู่ในแคว้น Navarra ทางตอนเหนือของประเทศสเปน ที่ต้องใช้คำว่าแอบซ่อนตัวเพราะตำแหน่งของร้านนั้นตั้งอยู่ในชนบทอันห่างไกลโดยจำเป็นต้องขับรถจากกรุง Madrid มาไกลราว 400 กิโลเมตรหรือจากเมือง Barcelona มาไกลถึง 500 กิโลเมตรตามลำดับ เมื่อผ่านเมืองใหญ่ที่ใกล้ที่สุดอย่าง Pamplona จะพบกับทางเบี่ยงนำเราเข้าสู่ถนนหลวง N-135 ทอดยาวลัดเลาะไปตามป่าเขาทำให้เส้นทางค่อนข้างคดเคี้ยวไปมากระทั่งพบกับร้านที่ตั้งอยู่ ณ มุมโค้งหนึ่งของถนนข้างกันกับแม่น้ำ Arga ลูกค้าสามารถนำรถเข้าจอดที่ลานกว้างหน้าร้านได้เลย ตัวร้านแต่เดิมเคยเป็นธุรกิจของครอบครัวเชฟเองโดยนำเสนออาหารท้องถิ่นแบบ Traditional Cuisine จนกระทั่งเชฟ David Yárnoz ได้รับช่วงต่อแล้วเปลี่ยนแนวทางมาเป็นอาหารสไตล์ Creative ในปี 2004 ตัวอาคารตกแต่งแบบรัสติคโดยใช้วัสดุทำจากหินและไม้เป็นหลัก พื้นที่ชั้นล่างมีขนาดราว 90 ตารางเมตรถูกใช้งานเป็นห้องรับประทานอาหารหลักมาจนถึงช่วงปี 2020 ก่อนที่จะถูกปรับปรุงใหม่ให้เป็นห้องอาหารที่สองในอาคารเดียวกันใช้ชื่อว่า El Origen นำเสนออาหารพื้นบ้านในราคาสุดคุ้มค่าแบบเดียวกับที่ครอบครัวของเชฟเคยทำเอาไว้ในสมัยก่อน จากเหตุการณ์นี้ทำให้ห้องรับประทานอาหารหลักของ El Molino de Urdániz ต้องถูกย้ายขึ้นไปอยู่บริเวณชั้นบนโดยฝั่งอาคารเก่ามีโต๊ะจำนวน 5 ตัวรวมไปถึงห้องเก็บไวน์แต่ไฮไลท์ของร้านคือส่วนที่ได้รับการขยับขยายเพิ่มเติมขึ้นมาใหม่ประกอบไปด้วยครัวเปิดแบบ Open Kitchen และโต๊ะจำนวน 3 ตัวทำให้ลูกค้าที่นั่งในห้องนี้สามารถชมทีมเชฟจัดเตรียมอาหารได้ตลอดเวลานั่นเอง
🎗 [The Chef & The Food] เชฟเจ้าของร้าน David Yárnoz เป็นชาว Navarra โดยกำเนิด ทั้งยังมีประสบการณ์ในห้องอาหารชั้นสูงมากมายก่อนจะมารับช่วงกิจการร้านอาหาร Molino de Urdániz ต่อจากครอบครัวของเขา Isabel และ Javier ในปี 2004 หลังจากปรับเปลี่ยนรูปแบบการนำเสนอมาเป็นอาหารเชิงความคิดสร้างสรรค์โดยใช้วัตถุดิบพื้นถิ่นแถบเมือง Pamplona ทำให้ตัวร้านได้รับรางวัล 🌟 1 Michelin Star ในปี 2007 ตามมาด้วย 🌟🌟 2 Michelin Stars ในปี 2018 ทั้งยังขยับขยายไปเปิดสาขาที่กรุง Taipei ประเทศไต้หวันในชื่อ Molino de Urdániz และคว้า 🌟 1 Michelin Star มาครองเพิ่มเติมได้อีกด้วย สำหรับที่สาขาต้นตำรับนี้ลูกค้าสามารถเลือกเซ็ตเมนูได้สองแบบคือ Classic Gastronomic Menu จำนวน 11 คอร์สที่ราคา 121 EUR/p และ Evolution Gastronomic Menu จำนวน 14 คอร์สที่ราคา 143 EUR/p โดยมีคอร์สที่ทำออกมาได้อย่างน่าประทับใจคือ
✨ ENCURTIDO (2018)
CUCUMBER AND HERBS
osmotized cucumber, cream of oyster and herbs
สุดยอดเมนูที่เปรียบได้เสมือน Iconic Dish ของห้องอาหาร El Molino de Urdániz ทั้งยังเป็นจานชูโรงที่ปรากฏอยู่ในเวปไซต์ของมิชลินไกด์คือ “เอ็นคูทิโด้” หรือ Pickled ในที่นี้คือแตงกวาดองแล้วม้วนมาเป็นทรงกระบอก ให้เนื้อสัมผัสที่กรอบพอเหมาะ ไร้ที่ติ ข้างกันคิอซอสสีเขียวทำมาจากหอยนางรมและสมุนไพรโดยจะมีกลิ่นหอยนางรมเพียงอ่อน ๆ เข้ากันได้กับความเปรี้ยวที่พอเหมาะของแตงกวาดอง องค์ประกอบสีขาวคือนมผสมกับหอยนางรม และผงสีดำทำมาจากเปลือกแตงกวาเผาให้ความสโม้กกี้และรสขมเบา ๆ มาเป็นอาฟเตอร์เทส เมื่อทานทุกองค์ประกอบพร้อมกันจะได้ทั้งเนื้อสัมผัสและรสชาติที่หลากหลาย ถือเป็นจานที่สมบูรณ์ไร้ที่ติเลยก็ว่าได้ (20/20)
✨ CAPARAZÓN (2021)
SPYDER CRAB
blackthorn cream, milk foam and flower of the environment
“กาปาราโซน” หรือสไปเดอร์แครบ เมนูหารับประทานยากที่เชฟ David เพิ่งคิดค้นออกมาในปี 2021 นี่เองโดยจับคู่เนื้อปูเข้ากับครีมอัลมอนด์ที่รองอยู่ด้านล่าง เนื้อปูให้รสชาติหวานเด่นชัด เมื่อผสมเข้ากับครีมอัลมอนด์ทำให้ความหวานถูกเสริมด้วยความหอมและมันเชื่อมทั้งรสชาติและเนื้อสัมผัสเข้ากับดอกไม้หลากหลายชนิดที่ใส่มาด้านบนและมีเนื้อสัมผัสที่แตกต่างกันออกไป ข้างกันคือโฟมที่ทำมาจากดาชิสูตรเฉพาะตัวของเชฟ เนื้อสัมผัสบาง เบา ทั้งยังมีองค์ประกอบของเนยย่างและมะนาวนิด ๆ ช่วยเบรคไม่ให้เกิดความเลี่ยน ถือเป็นอีกจานที่ทำออกมาได้อย่างไร้ที่ติในมื้อนี้ (20/20)
✨ PRODUCTO (2019)
RED SHRIMP
raw mushroom slices, meuniére and trout roe
“โปรดุคโต้” เป็นจานที่ใช้วัตถุดิบหลักคือกุ้งแดงจาก Vilanova i la Geltrú เมืองเล็ก ๆ ไม่ไกลกันจาก Barcelona ในแคว้น Catalonia เป็นองค์ประกอบหลัก เชฟนำส่วนตัวของกุ้งแดงที่เตรียมมาสุกกำลังดี มีความนุ่ม ละมุน รสชาติหวานเด่น เสิร์ฟมากับเห็ดดิบพื้นถิ่นของแคว้น Navarra ที่สไลด์มาเพียงบาง ๆ ช่วยเพิ่มมิติทางเนื้อสัมผัส ด้านล่างคือโฟมทำมาจากซอส Meuniére ที่มีกลิ่นหอมจากเนยเข้ากันดีกับตัวกุ้ง ยังมีไข่ปลาเทร้าต์ที่จะแตกออกในปากเวลาเคี้ยว ไร้ซึ่งกลิ่นคาวใด ๆ หลังจากรับประทานเสร็จให้ใช้มือหยิบองค์ประกอบสุดท้ายซึ่งเป็นพระเอกของจานคือส่วนหัวของกุ้งมาดูดให้ความหอม มัน ขมปลายเบา ๆ อร่อยจนน้ำตาแทบไหลเลยทีเดียว (19/20)
🎗 [Conclusion] แม้อาหารที่นี่จะนำเสนออกมาในรูปแบบ Creative อันประกอบไปด้วยเทคนิคที่ซับซ้อนแต่ทุกจานกลับมีรสชาติที่เข้าถึงง่าย รับประทานได้อร่อยโดยไม่ต้องตีความ ราคาอาหารถือว่าคุ้มค่า พนักงานบริการดีและเป็นกันเองตามมาตรฐานห้องอาหารชั้นสูงในประเทศสเปน จากเหตุผลทั้งหมดที่กล่าวมาทำให้ El Molino de Urdániz กลายเป็นเพชรเม็ดงามแห่งแคว้น Navarra ที่คุ้มค่ากับการบุกป่าฝ่าเขามาชิมกันถึงที่และยังเป็นห้องอาหารระดับ 2 Michelin Stars ที่ดีที่สุดเท่าที่เราได้พบเจอมาในรอบปีนี้เลยทีเดียว
📃 Evolution Gastronomic Menu (143 EUR/p)
TEMPERATURA (2020)
MOLDY BLUE CHEESE
seaweed powder pairing with green apple and celery juice
TRADICIÓN (2003)
PAPRIKA CARAMEL FILLED WITH MOUSSE OF TXISTORRA
adaptation of the sausage to our kitchen
ENCURTIDO (2018)
CUCUMBER AND HERBS
osmotized cucumber, cream of oyster and herbs
CAPARAZÓN (2021)
SPYDER CRAB
blackthorn cream, milk foam and flower of the environment
VEGETAL (2020)
ROYAL SALTED AND SMOKED
salty flan, vegetable smoothie, snow peas, parsnip and borage
AHUMADO (2021)
CELERIAC CREAM
roasted walnut extract foam of Navarra, perce caviar
TIERRA (2021)
GREEN ASPARAGUS PICKLED IN MISO
cover of oyster cream and oyster powder
PRODUCTO (2019)
RED SHRIMP
raw mushroom slices, meuniére and trout roe
FERMENTATION (2020)
CRAYFISH CARPACCIO
with fermented plum sauce
CAMPO (2020)
POULARDE
on truffle puree and crunchy poularde skin
MAR (2020)
FISH OF THE DAY
wild green asparagus with Iberian and paprika sauce
PLUMA (2020)
ROASTED PIGEON BREST
moonshine salad, the reduction of the same bird and truffle
TRANSICIÓN (2019)
SEA AND LAND VEGETABLE
ice cream with pine nuts, wakame and pine sprout
RECUERDO (2017)
TOASTED MILK SKIN
nats of the milk with beer ice cream
🏵 Score:
👍 สุดยอดร้านอาหารระดับ 2 ดาวมิชลินที่ซ่อนตัวอยู่ในป่าและหุบเขาราวกับเป็นเพชรเม็ดงามแห่งแคว้น Navarra
อาหาร : 17.5/20
ราคา : ⭐️⭐️⭐️⭐️⭐️
ความคุ้มค่า : ⭐️⭐️⭐️⭐️⭐️
เทคนิค : ⭐️⭐️⭐️⭐️
อัตลักษณ์ : ⭐️⭐️⭐️⭐️⭐️
บรรยากาศ : ⭐️⭐️⭐️⭐️
บริการ : ⭐️⭐️⭐️⭐️⭐️
ความประทับใจโดยรวม : 18/20
📍 Visit: Oct 2021
🏠 Location: Carretera N 135, Urdaitz, 31698, Spain
🚗 Parking: จอดบริเวณลานหน้าร้าน
🕐 Operating Time: พุธ-พฤหัส และอาทิตย์ 13.00-15.30, ศุกร์-เสาร์ 13.00-15.00 และ 20.30-22.00, ปิดวันจันทร์
💰 Price: 121-143 €/p
📌 Reservation: 1 Day - 1 Week in Advanced
📞 Tel: (+34) 948 30 41 09
🧥 Dress Code: Smart Casual
🖥 Website:
https://www.elmolinourdaniz.com
🥰 ฝากเพื่อน ๆ ช่วยกดไลค์และติดตามเราผ่านช่องทางต่าง ๆ โดยเราตั้งใจนำเสนองานรีวิวร้านอาหาร Fine Dining ชั้นนำและห้องอาหารระดับ Michelin Guide ทั่วโลก
👍 Facebook: “ตามล่า Fine Dining” และ “Pakiin by ตามล่า Fine Dining”
👍 Youtube: ตามล่า Fine Dining
👍 Instagram: finedining_lovers
👍 Group “Fine Dining Lovers by ตามล่า Fine Dining”:
https://www.facebook.com/groups/3392372877497917/?ref=share
#MichelinStar #2MichelinStars #MichelinGuide #MichelinRestaurant #MichelinGuideEspana #MichelinGuideES #MichelinStar21 #MichelinStar20 #YesMichelinGuide #มิชลินไกด์ #FineDining #Urdániz #Spain
TEMPERATURA (2020)
MOLDY BLUE CHEESE
seaweed powder pairing with green apple and celery juice
“เทมเปราตูร่า” คืออาหารจานแรกในคอร์สเสิร์ฟมาพร้อมกับเครื่องดื่มสีเขียวสดใสโดยมีองค์ประกอบแรกคือบลูชีสท้องพื้นของแคว้น Navarra โรยด้านบนด้วยผงสาหร่ายสีเขียว ข้างกันเป็นน้ำแอปเปิ้ลเขียวผสมกับเซเลอรี่ (19/20)
TEMPERATURA (2020)
MOLDY BLUE CHEESE
seaweed powder pairing with green apple and celery juice
เชฟทำเนื้อสัมผัสของบลูชีสออกมาได้ไร้ที่ติ เบาเกือบคล้ายโฟม แต่ยังมีความละมุนอยู่ กลิ่นเฉพาะตัวของชีสไม่แรงเด่นจนเกินไปชนิดที่คนไม่รับประทานบลูชีสน่าจะยังหลงรักจานนี้ได้ นอกจากนี้เชฟใส่ผงสาหร่ายมาเพื่อเบรคกลิ่นของบลูชีสไม่ให้โดดจนเกินไปอีกด้วย (19/20)
ฝากกดไลค์ กดแชร เป็นกำลังใจให้พวกเราด้วยนะค้าาา
📍 FB: ตามล่า Fine Dining
📌 IG: Fine Dining lover
และช่องทางใหม่ทาง Youtube : ตามล่า Fine Dining
[CR] 🇪🇸 El Molino de Urdániz - อัล โมลีโน่ เด อูดานิซ สุดยอดร้านอาหารระดับ 2 ดาวมิชลินที่ซ่อนตัวอยู่ในป่าและหุบเขา
🌟🌟 2 Michelin Star - 2 ดาวมิชลิน
☀️☀️ 2 Sols Guía Repsol - 2 ดวงอาทิตย์เรปโซล
🍴 Creative - อาหารเชิงความคิดสร้างสรรค์
👨🏻🍳 Chef David Yárnoz - เชฟดาบิด ยาโนซ
🎗 [Intro] El Molino de Urdániz เป็นห้องอาหารที่ผ่านตาเราครั้งแรกในการจัดทริปท่องเที่ยวสเปน-โปรตุเกสเมื่อ 2 ปีก่อน แต่ด้วยตำแหน่งของร้านที่ตั้งอยู่ใจกลางหุบเขาในแคว้น Navarra ทำให้เราไม่อาจขับออกนอกเส้นทางเพื่อแวะมายังห้องอาหารแห่งนี้ได้ เวลาผ่านมาจนกระทั่งการจัดทริปท่องเที่ยวสเปนรอบล่าสุดที่เราวางแผนเดินทางจากเมือง Lleida ในแคว้น Catalonia ไปยังเมือง Donostia-San Sebastian ในแคว้น Basque Country ทำให้มีเหตุจำเป็นต้องขับรถผ่านแคว้น Aragon และ Navarra เราจึงไม่พลาดที่จะแวะชิม El Molino de Urdániz ห้องอาหารที่ในท้ายที่สุดแล้วเปรียบได้ดั่งเพชรเม็ดงามรอให้คนที่ผ่านไปมาได้แวะมาลิ้มลองกัน
🎗 [The Place] El Molino de Urdániz เป็นห้องอาหารที่แอบซ่อนตัวอยู่ในแคว้น Navarra ทางตอนเหนือของประเทศสเปน ที่ต้องใช้คำว่าแอบซ่อนตัวเพราะตำแหน่งของร้านนั้นตั้งอยู่ในชนบทอันห่างไกลโดยจำเป็นต้องขับรถจากกรุง Madrid มาไกลราว 400 กิโลเมตรหรือจากเมือง Barcelona มาไกลถึง 500 กิโลเมตรตามลำดับ เมื่อผ่านเมืองใหญ่ที่ใกล้ที่สุดอย่าง Pamplona จะพบกับทางเบี่ยงนำเราเข้าสู่ถนนหลวง N-135 ทอดยาวลัดเลาะไปตามป่าเขาทำให้เส้นทางค่อนข้างคดเคี้ยวไปมากระทั่งพบกับร้านที่ตั้งอยู่ ณ มุมโค้งหนึ่งของถนนข้างกันกับแม่น้ำ Arga ลูกค้าสามารถนำรถเข้าจอดที่ลานกว้างหน้าร้านได้เลย ตัวร้านแต่เดิมเคยเป็นธุรกิจของครอบครัวเชฟเองโดยนำเสนออาหารท้องถิ่นแบบ Traditional Cuisine จนกระทั่งเชฟ David Yárnoz ได้รับช่วงต่อแล้วเปลี่ยนแนวทางมาเป็นอาหารสไตล์ Creative ในปี 2004 ตัวอาคารตกแต่งแบบรัสติคโดยใช้วัสดุทำจากหินและไม้เป็นหลัก พื้นที่ชั้นล่างมีขนาดราว 90 ตารางเมตรถูกใช้งานเป็นห้องรับประทานอาหารหลักมาจนถึงช่วงปี 2020 ก่อนที่จะถูกปรับปรุงใหม่ให้เป็นห้องอาหารที่สองในอาคารเดียวกันใช้ชื่อว่า El Origen นำเสนออาหารพื้นบ้านในราคาสุดคุ้มค่าแบบเดียวกับที่ครอบครัวของเชฟเคยทำเอาไว้ในสมัยก่อน จากเหตุการณ์นี้ทำให้ห้องรับประทานอาหารหลักของ El Molino de Urdániz ต้องถูกย้ายขึ้นไปอยู่บริเวณชั้นบนโดยฝั่งอาคารเก่ามีโต๊ะจำนวน 5 ตัวรวมไปถึงห้องเก็บไวน์แต่ไฮไลท์ของร้านคือส่วนที่ได้รับการขยับขยายเพิ่มเติมขึ้นมาใหม่ประกอบไปด้วยครัวเปิดแบบ Open Kitchen และโต๊ะจำนวน 3 ตัวทำให้ลูกค้าที่นั่งในห้องนี้สามารถชมทีมเชฟจัดเตรียมอาหารได้ตลอดเวลานั่นเอง
🎗 [The Chef & The Food] เชฟเจ้าของร้าน David Yárnoz เป็นชาว Navarra โดยกำเนิด ทั้งยังมีประสบการณ์ในห้องอาหารชั้นสูงมากมายก่อนจะมารับช่วงกิจการร้านอาหาร Molino de Urdániz ต่อจากครอบครัวของเขา Isabel และ Javier ในปี 2004 หลังจากปรับเปลี่ยนรูปแบบการนำเสนอมาเป็นอาหารเชิงความคิดสร้างสรรค์โดยใช้วัตถุดิบพื้นถิ่นแถบเมือง Pamplona ทำให้ตัวร้านได้รับรางวัล 🌟 1 Michelin Star ในปี 2007 ตามมาด้วย 🌟🌟 2 Michelin Stars ในปี 2018 ทั้งยังขยับขยายไปเปิดสาขาที่กรุง Taipei ประเทศไต้หวันในชื่อ Molino de Urdániz และคว้า 🌟 1 Michelin Star มาครองเพิ่มเติมได้อีกด้วย สำหรับที่สาขาต้นตำรับนี้ลูกค้าสามารถเลือกเซ็ตเมนูได้สองแบบคือ Classic Gastronomic Menu จำนวน 11 คอร์สที่ราคา 121 EUR/p และ Evolution Gastronomic Menu จำนวน 14 คอร์สที่ราคา 143 EUR/p โดยมีคอร์สที่ทำออกมาได้อย่างน่าประทับใจคือ
✨ ENCURTIDO (2018)
CUCUMBER AND HERBS
osmotized cucumber, cream of oyster and herbs
สุดยอดเมนูที่เปรียบได้เสมือน Iconic Dish ของห้องอาหาร El Molino de Urdániz ทั้งยังเป็นจานชูโรงที่ปรากฏอยู่ในเวปไซต์ของมิชลินไกด์คือ “เอ็นคูทิโด้” หรือ Pickled ในที่นี้คือแตงกวาดองแล้วม้วนมาเป็นทรงกระบอก ให้เนื้อสัมผัสที่กรอบพอเหมาะ ไร้ที่ติ ข้างกันคิอซอสสีเขียวทำมาจากหอยนางรมและสมุนไพรโดยจะมีกลิ่นหอยนางรมเพียงอ่อน ๆ เข้ากันได้กับความเปรี้ยวที่พอเหมาะของแตงกวาดอง องค์ประกอบสีขาวคือนมผสมกับหอยนางรม และผงสีดำทำมาจากเปลือกแตงกวาเผาให้ความสโม้กกี้และรสขมเบา ๆ มาเป็นอาฟเตอร์เทส เมื่อทานทุกองค์ประกอบพร้อมกันจะได้ทั้งเนื้อสัมผัสและรสชาติที่หลากหลาย ถือเป็นจานที่สมบูรณ์ไร้ที่ติเลยก็ว่าได้ (20/20)
✨ CAPARAZÓN (2021)
SPYDER CRAB
blackthorn cream, milk foam and flower of the environment
“กาปาราโซน” หรือสไปเดอร์แครบ เมนูหารับประทานยากที่เชฟ David เพิ่งคิดค้นออกมาในปี 2021 นี่เองโดยจับคู่เนื้อปูเข้ากับครีมอัลมอนด์ที่รองอยู่ด้านล่าง เนื้อปูให้รสชาติหวานเด่นชัด เมื่อผสมเข้ากับครีมอัลมอนด์ทำให้ความหวานถูกเสริมด้วยความหอมและมันเชื่อมทั้งรสชาติและเนื้อสัมผัสเข้ากับดอกไม้หลากหลายชนิดที่ใส่มาด้านบนและมีเนื้อสัมผัสที่แตกต่างกันออกไป ข้างกันคือโฟมที่ทำมาจากดาชิสูตรเฉพาะตัวของเชฟ เนื้อสัมผัสบาง เบา ทั้งยังมีองค์ประกอบของเนยย่างและมะนาวนิด ๆ ช่วยเบรคไม่ให้เกิดความเลี่ยน ถือเป็นอีกจานที่ทำออกมาได้อย่างไร้ที่ติในมื้อนี้ (20/20)
✨ PRODUCTO (2019)
RED SHRIMP
raw mushroom slices, meuniére and trout roe
“โปรดุคโต้” เป็นจานที่ใช้วัตถุดิบหลักคือกุ้งแดงจาก Vilanova i la Geltrú เมืองเล็ก ๆ ไม่ไกลกันจาก Barcelona ในแคว้น Catalonia เป็นองค์ประกอบหลัก เชฟนำส่วนตัวของกุ้งแดงที่เตรียมมาสุกกำลังดี มีความนุ่ม ละมุน รสชาติหวานเด่น เสิร์ฟมากับเห็ดดิบพื้นถิ่นของแคว้น Navarra ที่สไลด์มาเพียงบาง ๆ ช่วยเพิ่มมิติทางเนื้อสัมผัส ด้านล่างคือโฟมทำมาจากซอส Meuniére ที่มีกลิ่นหอมจากเนยเข้ากันดีกับตัวกุ้ง ยังมีไข่ปลาเทร้าต์ที่จะแตกออกในปากเวลาเคี้ยว ไร้ซึ่งกลิ่นคาวใด ๆ หลังจากรับประทานเสร็จให้ใช้มือหยิบองค์ประกอบสุดท้ายซึ่งเป็นพระเอกของจานคือส่วนหัวของกุ้งมาดูดให้ความหอม มัน ขมปลายเบา ๆ อร่อยจนน้ำตาแทบไหลเลยทีเดียว (19/20)
🎗 [Conclusion] แม้อาหารที่นี่จะนำเสนออกมาในรูปแบบ Creative อันประกอบไปด้วยเทคนิคที่ซับซ้อนแต่ทุกจานกลับมีรสชาติที่เข้าถึงง่าย รับประทานได้อร่อยโดยไม่ต้องตีความ ราคาอาหารถือว่าคุ้มค่า พนักงานบริการดีและเป็นกันเองตามมาตรฐานห้องอาหารชั้นสูงในประเทศสเปน จากเหตุผลทั้งหมดที่กล่าวมาทำให้ El Molino de Urdániz กลายเป็นเพชรเม็ดงามแห่งแคว้น Navarra ที่คุ้มค่ากับการบุกป่าฝ่าเขามาชิมกันถึงที่และยังเป็นห้องอาหารระดับ 2 Michelin Stars ที่ดีที่สุดเท่าที่เราได้พบเจอมาในรอบปีนี้เลยทีเดียว
📃 Evolution Gastronomic Menu (143 EUR/p)
TEMPERATURA (2020)
MOLDY BLUE CHEESE
seaweed powder pairing with green apple and celery juice
TRADICIÓN (2003)
PAPRIKA CARAMEL FILLED WITH MOUSSE OF TXISTORRA
adaptation of the sausage to our kitchen
ENCURTIDO (2018)
CUCUMBER AND HERBS
osmotized cucumber, cream of oyster and herbs
CAPARAZÓN (2021)
SPYDER CRAB
blackthorn cream, milk foam and flower of the environment
VEGETAL (2020)
ROYAL SALTED AND SMOKED
salty flan, vegetable smoothie, snow peas, parsnip and borage
AHUMADO (2021)
CELERIAC CREAM
roasted walnut extract foam of Navarra, perce caviar
TIERRA (2021)
GREEN ASPARAGUS PICKLED IN MISO
cover of oyster cream and oyster powder
PRODUCTO (2019)
RED SHRIMP
raw mushroom slices, meuniére and trout roe
FERMENTATION (2020)
CRAYFISH CARPACCIO
with fermented plum sauce
CAMPO (2020)
POULARDE
on truffle puree and crunchy poularde skin
MAR (2020)
FISH OF THE DAY
wild green asparagus with Iberian and paprika sauce
PLUMA (2020)
ROASTED PIGEON BREST
moonshine salad, the reduction of the same bird and truffle
TRANSICIÓN (2019)
SEA AND LAND VEGETABLE
ice cream with pine nuts, wakame and pine sprout
RECUERDO (2017)
TOASTED MILK SKIN
nats of the milk with beer ice cream
🏵 Score:
👍 สุดยอดร้านอาหารระดับ 2 ดาวมิชลินที่ซ่อนตัวอยู่ในป่าและหุบเขาราวกับเป็นเพชรเม็ดงามแห่งแคว้น Navarra
อาหาร : 17.5/20
ราคา : ⭐️⭐️⭐️⭐️⭐️
ความคุ้มค่า : ⭐️⭐️⭐️⭐️⭐️
เทคนิค : ⭐️⭐️⭐️⭐️
อัตลักษณ์ : ⭐️⭐️⭐️⭐️⭐️
บรรยากาศ : ⭐️⭐️⭐️⭐️
บริการ : ⭐️⭐️⭐️⭐️⭐️
ความประทับใจโดยรวม : 18/20
📍 Visit: Oct 2021
🏠 Location: Carretera N 135, Urdaitz, 31698, Spain
🚗 Parking: จอดบริเวณลานหน้าร้าน
🕐 Operating Time: พุธ-พฤหัส และอาทิตย์ 13.00-15.30, ศุกร์-เสาร์ 13.00-15.00 และ 20.30-22.00, ปิดวันจันทร์
💰 Price: 121-143 €/p
📌 Reservation: 1 Day - 1 Week in Advanced
📞 Tel: (+34) 948 30 41 09
🧥 Dress Code: Smart Casual
🖥 Website: https://www.elmolinourdaniz.com
🥰 ฝากเพื่อน ๆ ช่วยกดไลค์และติดตามเราผ่านช่องทางต่าง ๆ โดยเราตั้งใจนำเสนองานรีวิวร้านอาหาร Fine Dining ชั้นนำและห้องอาหารระดับ Michelin Guide ทั่วโลก
👍 Facebook: “ตามล่า Fine Dining” และ “Pakiin by ตามล่า Fine Dining”
👍 Youtube: ตามล่า Fine Dining
👍 Instagram: finedining_lovers
👍 Group “Fine Dining Lovers by ตามล่า Fine Dining”: https://www.facebook.com/groups/3392372877497917/?ref=share
#MichelinStar #2MichelinStars #MichelinGuide #MichelinRestaurant #MichelinGuideEspana #MichelinGuideES #MichelinStar21 #MichelinStar20 #YesMichelinGuide #มิชลินไกด์ #FineDining #Urdániz #Spain
TEMPERATURA (2020)
MOLDY BLUE CHEESE
seaweed powder pairing with green apple and celery juice
“เทมเปราตูร่า” คืออาหารจานแรกในคอร์สเสิร์ฟมาพร้อมกับเครื่องดื่มสีเขียวสดใสโดยมีองค์ประกอบแรกคือบลูชีสท้องพื้นของแคว้น Navarra โรยด้านบนด้วยผงสาหร่ายสีเขียว ข้างกันเป็นน้ำแอปเปิ้ลเขียวผสมกับเซเลอรี่ (19/20)
TEMPERATURA (2020)
MOLDY BLUE CHEESE
seaweed powder pairing with green apple and celery juice
เชฟทำเนื้อสัมผัสของบลูชีสออกมาได้ไร้ที่ติ เบาเกือบคล้ายโฟม แต่ยังมีความละมุนอยู่ กลิ่นเฉพาะตัวของชีสไม่แรงเด่นจนเกินไปชนิดที่คนไม่รับประทานบลูชีสน่าจะยังหลงรักจานนี้ได้ นอกจากนี้เชฟใส่ผงสาหร่ายมาเพื่อเบรคกลิ่นของบลูชีสไม่ให้โดดจนเกินไปอีกด้วย (19/20)
ฝากกดไลค์ กดแชร เป็นกำลังใจให้พวกเราด้วยนะค้าาา
📍 FB: ตามล่า Fine Dining
📌 IG: Fine Dining lover
และช่องทางใหม่ทาง Youtube : ตามล่า Fine Dining
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้