สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 10
มันเป็นเรื่องธุรกิจที่แบบพื้นฐานมากๆ แต่เข้าใจยากเพราะมันไม่ถูกใจแฟนๆ และอาจยากขึ้นไปอีกเพราะยังไบแอสค่ายที่ชอบ + เชียร์
KPI ที่ตั้งให้แต่ละบริษัทลูกไม่จำเป็นต้องเหมือนกัน เพราะเวลาปรับโครงสร้างองค์กรทั่วไป ผู้บริหารไม่ได้ไล่ออกเฉพาะคนที่ทำกำไรได้ น้อยสุดเสมอไป แต่บ่อยครั้งบริษัท จะเลือกตัดคนที่บริษัทต้องลงทุนให้หรือ มีค่าใช้จ่ายมากกว่าก่อนเป็นอันดับแรก
เห็นชัดสุดก็ คนเงินเดือนสูง นี่หนาวกว่าพวกเงินเดือนน้อยๆ อีก เนื่องจากคนเงินเดือนสูง หาเงินได้เยอะจริง แต่ค่าใช้จ่ายในการลงทุนที่บริษัทต้องออกให้ ก็มีตามมา ความคาดหวังเลยสูงตามไปด้วย มันถึงมีคำว่ายิ่งสูงก็ยิ่งหนาว
จึงเห็นบ่อยครั้งว่าบางทีคนที่เอามาแทนก็ลูกหม้อตัวเองนั่นแหละพอเอาไปฝึกก็ทำได้เหมือนกัน แถมรุ่นใหม่กว่า สดกว่า และคุมง่ายกว่า แถมมีแพลนจะเดบิวตั้งหลายวงในปีหน้า ส่วนคนเงินเดือนน้อยไม่เรียกร้องอะไรมากอยู่แล้วเพราะเคยเจอในสิ่งที่แย่มาก่อน Kpi ที่ให้ไม่สูงมาก การลงทุนก็น้อยตามมา ( ดูจากสเกลงานที่ให้มาข้างบนนี่ชัดมาก ซึ่งแฟนๆ โฟรมิส 9 น่าจะพอใจ และมีค่าในสายตาแฟนคลับมากเพราะก่อนหน้า ซีเจให้สิ่งที่แย่กว่าไม่รู้กี่เท่า นั่นคือการไม่ให้อะไรเลย) แล้วเป็นผู้หญิงอ่ะ สวยด้วย วิชวลอย่างคห 8 บอก หางานเดี่ยวให้ไม่ยากหรอก
ส่วนใหญ่งานที่โฟรมิส 9 ได้มา ตอนนี้ ก็คือเป็นงานอีเว้นท์ถ่ายแบบออกรายการ ไม่ก็ไปคอนแจมร่วมกับวงใน ค่าย
ซึ่งต่างกับวงผู้ชายที่เขาฟอร์มวงมาด้วยการทำงานทางด้านเป็นนักร้องเป็นนักแสดงบนเวทีในชื่อคอนเสิรตตัวเอง ที่พวกนี้ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการลงทุนเยอะกว่าเพราะต้องมีทัวร์ อัลบั้มต่างๆ มากมาย
เมื่อมองงานนิวอีสต์ หรือซวท (วงนี้พอได้เพราะยอดขายและทัวรยังสูงอยู่ ณ ตอนนี้ อนาคตเป็นไงก็ขึ้นกับเวลา) จีเฟรนด์เองก็เช่นกันเป็นวงผู้หญิงที่มีทัวร์มีการทำงานเพลงที่ค่อนข้างชัดเจน ไม่ได้ต่างจากรูปแบบวงผู้ชายมากถึงยอดขายจะน้อยกว่า แต่ 6 ปีที่มีแฟนคลับ ยืนสตรองมาได้ขนาดนี้ฐานแฟนต้องมากกว่า โฟรมิส 9 แน่ๆ รวมไปถึงต้องใช้เงินลงทุนมากกว่า
เมื่อมองสไตล์การบริหารในบ ลูกของ hybe แล้ว นิวอีสต์ก็คือ จีเฟรนด์เวอรชั่นผู้หญิงนั่นแหละ ไม่ได้ต่างกัน แค่ไม่ให้ออกแบบฟ้าผ่า เท่านั้น เป็นไปในรูปแบบชะลองานแทน แต่ก็เป็นไปในรูปแบบไม่ต่างกันมาก นั่นคือทำธุรกิจแบบประคองตัว และมีแนวโน้มให้จับงานเดี่ยวมากขึ้น ที่คงคอนเซ็ปต์ลงทุนน้อยกว่าเช่นกัน
พวกนี้ต้องได้รับนโยบาย kpi หลักๆ จาก hybe ที่เป็นค่ายแม่ ไม่งั้นใครจะให้เงินมาลงทุนล่ะ ? แล้วค่ายย่อยจะไปออกนโยบายย่อยเพื่อให้สอดคล้องกับบ หลักยังไงก็ว่ากันไปในรายละเอียดอีกที
เพราะ บ ย่อยไม่มีเงินมากเท่าอยู่แล้ว เท่ากับบังคับไปในตัว hybe ไม่ให้เงินมาทำทัวร์หรือ กิจกรรมพบปะแฟนเพลง เพลดิสก็เหลือส่งงานเดี่ยวให้แล้ว วงไหนที่ให้เงินทำทัวร์ก็ไปต่อในฐานะวงเต็มรูปแบบมากกว่า ซวทนี่ไม่น่าโดนเทง่ายๆ เพราะยอดขายอันดับ 2-3 ในเคป็อปทั้งวงการปัจจุบันช่วยไว้อยู่
ถามว่าผู้บริหารสูงสุด / ผู้ถือหุ้นเกี่ยวไหม 100% เพราะมันเป็นเรื่องเงินๆ ทองๆ อิมเมจกระทบกับชื่อเสียงโดยรวมของบริษัททั้งหมด เหมือนปลดหัวหน้าใหญ่ ถือยอดขายหลักของสาขาในเครือ บอร์ดบริหารสูงสุดจะไม่รู้ได้ไง?
ไม่มีทางไม่เกี่ยวเลย ยิ่งบริษัทบันเทิงที่ทำธุรกิจกับแฟนคลับ ต้องมีแรงต้านอยู่แล้วเพราะเป็นอาชีพที่ไวต่อกระแส ไวรัลใน sns อายุงานในวงการถือว่านานด้วย หกปีสำหรับวงผู้หญิงในโลกไอดอลไม่ได้น้อย นอกจากนี้ธุรกิจที่บริษัทแม่หรือผู้ถือหุ้นสูงสุดยังจับธุรกิจเดียวกันมาก่อน นั่นคือการปั้นวงไอดอล จนโด่งดังไปทั่วโลก เค้าต้องรู้อยู่แล้วว่าทำไปจะเกิดผลอะไรตามมา ตอกย้ำด้วยการ ถือหุ้นสูงสุดในบริษัทที่มีอยู่ทั้งหมด สัดส่วน 34% 43% ของแต่ละบริษัท นั่นยิ่งชัดว่าเขาไม่ปล่อยการบริหารไปให้ใครคุมง่ายๆ เป็นการบริหารรวมศูนย์ชัดเจน แถมไม่นานมานี้ยังเข้าซื้อหุ้นของบ ลูกเพิ่มด้วย ไม่นับ Netmarble ก็ยังเป็นของ บังจุนฮยอก ลูกพี่ลูกน้องอีก 24-25% ค่ายย่อยอะไรนี่แทบไม่มีสิทธิกำหนดทิศทางวงเลยด้วยซ้ำ
ดังนั้น ผู้ถือหุ้นรายย่อยอื่นๆ เอาชนะเสียงโหวตไม่ได้แน่นอน ชูมือโหวตจนเมื่อยมือก็ไม่ได้นำพาอะไร ซึ่งนี่เป็นการมองในธุรกิจ ไม่เกี่ยวกับความดีงามอื่นที่เคยทำมา เป็นมุมมองแค่ในเรื่องธุรกิจ สถิติ Fact ล้วนๆ ทำได้ไม่ตรงตามเป้าอย่างที่ค่ายแม่วางไว้ก็ต้องตัดทิ้ง ตามนั้น
สรุปว่า ชื่อบริษัทไม่สำคัญเท่าผู้ถือหุ้นสูงสุด ถึงจะบอกว่าบริหารแบบไม่ยุ่งเกี่ยว แต่ในทางปฎิบัติ มีการล้วงลูกทั้งนั้น ceo บางคนก็เหมือนตั้งมาเป็นกระโถนท้องพระโรงให้โดนด่าแทนแค่นั้นเอง
https://ppantip.com/topic/37090587 (ไม่เข้าใจอ่านคห 5 เขายกตัวอย่างชัดมาก 55555)
เอาง่ายๆ ปัจจุบันในค่ายมีใครได้ไปร่วมงานกับ mbc ไหม ถ้าตอบว่าไม่มี นั่นคือการที่ทุกคนต้องตามนโยบายหลักค่ายแม่ ไม่จำเป็นต้องพูดถึงเรื่องใหญ่อย่าง kpi ค่ายเลยว่าสุดท้ายแล้ว ต้องขึ้นตรงกับใคร ถ้าคุมไม่ได้เค้าจะยอมเสียเงินมหาศาลเพื่อเทคหุ้นจำนวนมากทำไม? เขาไม่ได้จ่ายมาเพื่อประดับพอร์ตเอาเข้าตลาดหุ้นอย่างเดียวอยู่แล้ว
และสิ่งที่คอนเฟิร์มว่าค่ายแม่มีอำนาจมากจนอาจกระทบได้ ก็คือจะมีแค่ Big Hit Music Entertainment ที่ประกอบด้วย bts txt และ lee hyun เท่านั้นที่ไม่ได้ถูกแทรกแซงจาก HYBE แค่บริษัทเดียว
แล้วจะมีผลเป็นทางการในวันที่ 1 กค จนทำให้ผู้ถือหุ้นกดดันไม่ได้ ต่างกับบริษัทอื่นในเครือ ซึ่งวิธีนี้ก็ทำให้เสียงวิพากษ์วิจารณ์ลดลง ไม่กระทบตัววง เพราะถือว่าแยกค่ายในทางทฤษฎีแล้ว (แต่ในทางปฎิบัติก็ยังเข้ากระเป๋าเดียวกันในชื่อ Hybe อยู่ดี และจะใช้ชื่อบริษัทนี้ในการทำธุรกิจต่างๆ เป็นหลัก) และก็ไม่น่าแปลกใจอีกนั่นละ ที่ อัมมี่บางคนไม่ค่อยอยากยุ่งเกี่ยวกับไฮป์เพราะเวลาโดน หรือมีอะไรกระทบ จะถูกเหมารวมไปด้วย
https://ppantip.com/topic/40709984
แต่แน่ๆ คือ การอยู่ภายใต้บริษัทใหญ่อันดับ 1 สูงสุดอย่าง hybe ที่เกิดจากซื้อค่ายเพลงขนาดกลางมาไว้ในมือ ตอนนี้ไม่ได้การันตีถึงความมั่นคงของวงที่สังกัดบริษัทลูกในเครืออื่นๆ มากเท่าวงจากบริษัท bighit music entertainment ที่มีบท เป็นรายได้หลักเพราะ ยอดต่างๆ จากบ ย่อยนี้ ไม่มีทางมีปัญหาอยู่แล้ว ซึ่งจะเห็นได้ชัดมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อองค์กรมีขนาดขยายใหญ่ขึ้น
KPI ที่ตั้งให้แต่ละบริษัทลูกไม่จำเป็นต้องเหมือนกัน เพราะเวลาปรับโครงสร้างองค์กรทั่วไป ผู้บริหารไม่ได้ไล่ออกเฉพาะคนที่ทำกำไรได้ น้อยสุดเสมอไป แต่บ่อยครั้งบริษัท จะเลือกตัดคนที่บริษัทต้องลงทุนให้หรือ มีค่าใช้จ่ายมากกว่าก่อนเป็นอันดับแรก
เห็นชัดสุดก็ คนเงินเดือนสูง นี่หนาวกว่าพวกเงินเดือนน้อยๆ อีก เนื่องจากคนเงินเดือนสูง หาเงินได้เยอะจริง แต่ค่าใช้จ่ายในการลงทุนที่บริษัทต้องออกให้ ก็มีตามมา ความคาดหวังเลยสูงตามไปด้วย มันถึงมีคำว่ายิ่งสูงก็ยิ่งหนาว
จึงเห็นบ่อยครั้งว่าบางทีคนที่เอามาแทนก็ลูกหม้อตัวเองนั่นแหละพอเอาไปฝึกก็ทำได้เหมือนกัน แถมรุ่นใหม่กว่า สดกว่า และคุมง่ายกว่า แถมมีแพลนจะเดบิวตั้งหลายวงในปีหน้า ส่วนคนเงินเดือนน้อยไม่เรียกร้องอะไรมากอยู่แล้วเพราะเคยเจอในสิ่งที่แย่มาก่อน Kpi ที่ให้ไม่สูงมาก การลงทุนก็น้อยตามมา ( ดูจากสเกลงานที่ให้มาข้างบนนี่ชัดมาก ซึ่งแฟนๆ โฟรมิส 9 น่าจะพอใจ และมีค่าในสายตาแฟนคลับมากเพราะก่อนหน้า ซีเจให้สิ่งที่แย่กว่าไม่รู้กี่เท่า นั่นคือการไม่ให้อะไรเลย) แล้วเป็นผู้หญิงอ่ะ สวยด้วย วิชวลอย่างคห 8 บอก หางานเดี่ยวให้ไม่ยากหรอก
ส่วนใหญ่งานที่โฟรมิส 9 ได้มา ตอนนี้ ก็คือเป็นงานอีเว้นท์ถ่ายแบบออกรายการ ไม่ก็ไปคอนแจมร่วมกับวงใน ค่าย
ซึ่งต่างกับวงผู้ชายที่เขาฟอร์มวงมาด้วยการทำงานทางด้านเป็นนักร้องเป็นนักแสดงบนเวทีในชื่อคอนเสิรตตัวเอง ที่พวกนี้ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการลงทุนเยอะกว่าเพราะต้องมีทัวร์ อัลบั้มต่างๆ มากมาย
เมื่อมองงานนิวอีสต์ หรือซวท (วงนี้พอได้เพราะยอดขายและทัวรยังสูงอยู่ ณ ตอนนี้ อนาคตเป็นไงก็ขึ้นกับเวลา) จีเฟรนด์เองก็เช่นกันเป็นวงผู้หญิงที่มีทัวร์มีการทำงานเพลงที่ค่อนข้างชัดเจน ไม่ได้ต่างจากรูปแบบวงผู้ชายมากถึงยอดขายจะน้อยกว่า แต่ 6 ปีที่มีแฟนคลับ ยืนสตรองมาได้ขนาดนี้ฐานแฟนต้องมากกว่า โฟรมิส 9 แน่ๆ รวมไปถึงต้องใช้เงินลงทุนมากกว่า
เมื่อมองสไตล์การบริหารในบ ลูกของ hybe แล้ว นิวอีสต์ก็คือ จีเฟรนด์เวอรชั่นผู้หญิงนั่นแหละ ไม่ได้ต่างกัน แค่ไม่ให้ออกแบบฟ้าผ่า เท่านั้น เป็นไปในรูปแบบชะลองานแทน แต่ก็เป็นไปในรูปแบบไม่ต่างกันมาก นั่นคือทำธุรกิจแบบประคองตัว และมีแนวโน้มให้จับงานเดี่ยวมากขึ้น ที่คงคอนเซ็ปต์ลงทุนน้อยกว่าเช่นกัน
พวกนี้ต้องได้รับนโยบาย kpi หลักๆ จาก hybe ที่เป็นค่ายแม่ ไม่งั้นใครจะให้เงินมาลงทุนล่ะ ? แล้วค่ายย่อยจะไปออกนโยบายย่อยเพื่อให้สอดคล้องกับบ หลักยังไงก็ว่ากันไปในรายละเอียดอีกที
เพราะ บ ย่อยไม่มีเงินมากเท่าอยู่แล้ว เท่ากับบังคับไปในตัว hybe ไม่ให้เงินมาทำทัวร์หรือ กิจกรรมพบปะแฟนเพลง เพลดิสก็เหลือส่งงานเดี่ยวให้แล้ว วงไหนที่ให้เงินทำทัวร์ก็ไปต่อในฐานะวงเต็มรูปแบบมากกว่า ซวทนี่ไม่น่าโดนเทง่ายๆ เพราะยอดขายอันดับ 2-3 ในเคป็อปทั้งวงการปัจจุบันช่วยไว้อยู่
ถามว่าผู้บริหารสูงสุด / ผู้ถือหุ้นเกี่ยวไหม 100% เพราะมันเป็นเรื่องเงินๆ ทองๆ อิมเมจกระทบกับชื่อเสียงโดยรวมของบริษัททั้งหมด เหมือนปลดหัวหน้าใหญ่ ถือยอดขายหลักของสาขาในเครือ บอร์ดบริหารสูงสุดจะไม่รู้ได้ไง?
ไม่มีทางไม่เกี่ยวเลย ยิ่งบริษัทบันเทิงที่ทำธุรกิจกับแฟนคลับ ต้องมีแรงต้านอยู่แล้วเพราะเป็นอาชีพที่ไวต่อกระแส ไวรัลใน sns อายุงานในวงการถือว่านานด้วย หกปีสำหรับวงผู้หญิงในโลกไอดอลไม่ได้น้อย นอกจากนี้ธุรกิจที่บริษัทแม่หรือผู้ถือหุ้นสูงสุดยังจับธุรกิจเดียวกันมาก่อน นั่นคือการปั้นวงไอดอล จนโด่งดังไปทั่วโลก เค้าต้องรู้อยู่แล้วว่าทำไปจะเกิดผลอะไรตามมา ตอกย้ำด้วยการ ถือหุ้นสูงสุดในบริษัทที่มีอยู่ทั้งหมด สัดส่วน 34% 43% ของแต่ละบริษัท นั่นยิ่งชัดว่าเขาไม่ปล่อยการบริหารไปให้ใครคุมง่ายๆ เป็นการบริหารรวมศูนย์ชัดเจน แถมไม่นานมานี้ยังเข้าซื้อหุ้นของบ ลูกเพิ่มด้วย ไม่นับ Netmarble ก็ยังเป็นของ บังจุนฮยอก ลูกพี่ลูกน้องอีก 24-25% ค่ายย่อยอะไรนี่แทบไม่มีสิทธิกำหนดทิศทางวงเลยด้วยซ้ำ
ดังนั้น ผู้ถือหุ้นรายย่อยอื่นๆ เอาชนะเสียงโหวตไม่ได้แน่นอน ชูมือโหวตจนเมื่อยมือก็ไม่ได้นำพาอะไร ซึ่งนี่เป็นการมองในธุรกิจ ไม่เกี่ยวกับความดีงามอื่นที่เคยทำมา เป็นมุมมองแค่ในเรื่องธุรกิจ สถิติ Fact ล้วนๆ ทำได้ไม่ตรงตามเป้าอย่างที่ค่ายแม่วางไว้ก็ต้องตัดทิ้ง ตามนั้น
สรุปว่า ชื่อบริษัทไม่สำคัญเท่าผู้ถือหุ้นสูงสุด ถึงจะบอกว่าบริหารแบบไม่ยุ่งเกี่ยว แต่ในทางปฎิบัติ มีการล้วงลูกทั้งนั้น ceo บางคนก็เหมือนตั้งมาเป็นกระโถนท้องพระโรงให้โดนด่าแทนแค่นั้นเอง
https://ppantip.com/topic/37090587 (ไม่เข้าใจอ่านคห 5 เขายกตัวอย่างชัดมาก 55555)
เอาง่ายๆ ปัจจุบันในค่ายมีใครได้ไปร่วมงานกับ mbc ไหม ถ้าตอบว่าไม่มี นั่นคือการที่ทุกคนต้องตามนโยบายหลักค่ายแม่ ไม่จำเป็นต้องพูดถึงเรื่องใหญ่อย่าง kpi ค่ายเลยว่าสุดท้ายแล้ว ต้องขึ้นตรงกับใคร ถ้าคุมไม่ได้เค้าจะยอมเสียเงินมหาศาลเพื่อเทคหุ้นจำนวนมากทำไม? เขาไม่ได้จ่ายมาเพื่อประดับพอร์ตเอาเข้าตลาดหุ้นอย่างเดียวอยู่แล้ว
และสิ่งที่คอนเฟิร์มว่าค่ายแม่มีอำนาจมากจนอาจกระทบได้ ก็คือจะมีแค่ Big Hit Music Entertainment ที่ประกอบด้วย bts txt และ lee hyun เท่านั้นที่ไม่ได้ถูกแทรกแซงจาก HYBE แค่บริษัทเดียว
แล้วจะมีผลเป็นทางการในวันที่ 1 กค จนทำให้ผู้ถือหุ้นกดดันไม่ได้ ต่างกับบริษัทอื่นในเครือ ซึ่งวิธีนี้ก็ทำให้เสียงวิพากษ์วิจารณ์ลดลง ไม่กระทบตัววง เพราะถือว่าแยกค่ายในทางทฤษฎีแล้ว (แต่ในทางปฎิบัติก็ยังเข้ากระเป๋าเดียวกันในชื่อ Hybe อยู่ดี และจะใช้ชื่อบริษัทนี้ในการทำธุรกิจต่างๆ เป็นหลัก) และก็ไม่น่าแปลกใจอีกนั่นละ ที่ อัมมี่บางคนไม่ค่อยอยากยุ่งเกี่ยวกับไฮป์เพราะเวลาโดน หรือมีอะไรกระทบ จะถูกเหมารวมไปด้วย
https://ppantip.com/topic/40709984
แต่แน่ๆ คือ การอยู่ภายใต้บริษัทใหญ่อันดับ 1 สูงสุดอย่าง hybe ที่เกิดจากซื้อค่ายเพลงขนาดกลางมาไว้ในมือ ตอนนี้ไม่ได้การันตีถึงความมั่นคงของวงที่สังกัดบริษัทลูกในเครืออื่นๆ มากเท่าวงจากบริษัท bighit music entertainment ที่มีบท เป็นรายได้หลักเพราะ ยอดต่างๆ จากบ ย่อยนี้ ไม่มีทางมีปัญหาอยู่แล้ว ซึ่งจะเห็นได้ชัดมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อองค์กรมีขนาดขยายใหญ่ขึ้น
ความคิดเห็นที่ 4
มันเป็นเรื่องของค่ายย่อยในHybe ไม่ใช่Hybe กำหนดทุกอย่างอย่างเดียว Gfriend ก็ต้องดูว่ามีปัญหาอะไรกับซอสถึงโดนยุบ fromis ก็เซ็นต์กับเพลดิสก็ขึ้นอยู่กับค่ายใครค่ายมันจะจัดการตารางต่างๆ ถ้าHybeควบคุมทุกอย่างมันจะเทวงที่ยอดขายเยอะกว่ามาดันวงยอดขายน้อยทำไมไม่เมคเซ้นส์หรอกคำตอบชัดเจนเลยว่าปัญหาทั้งหมดของแต่ละค่ายย่อยไม่เกี่ยวกับค่ายหลัก อย่างปัญหาภายในของซอสก็ขึ้นอยู่กับซอสและศิลปินตัวเองนั่นแหละไม่ใช่ไฮป์
ความคิดเห็นที่ 2
ค่ายเก่าสาวสัญญา9 ต้องบอกว่าเกือบจะเทวงเลย งานน้อย เลยถ้าเปรี่ยบเทียบค่ายของจีเฟรนเก่าก่อนที่จะเข้ารวมกับไฮป์ คือจีเฟรนงานเยอะอยู่เเล้ว ตอนที่ซอสไม่เข้าร่วมกับไฮป์งานจีเฟรนก็เยอะอยู่เเล้ว เเล้วช่วงเเรกๆ ตอนเข้าไฮป์มาจีเฟรนก็งานเพิ่มขึ้น
สิ่งที่จะบอกคือ สาวสัญญา9 คือตอนก่อนเข้าไฮป์ ค่ายให้งานน้อยมาก เท่านั้นเอง
สิ่งที่จะบอกคือ สาวสัญญา9 คือตอนก่อนเข้าไฮป์ ค่ายให้งานน้อยมาก เท่านั้นเอง
แสดงความคิดเห็น
อยากรู้เหตุผลว่าทำไม Hybe ไปเอา fromis_9 เข้ามา แล้วดูหางานให้เยอะด้วย?
ดูจากนิวอิส จีเฟรน ที่ได้รับการทรีตไม่ดีนัก ด้วยเหตุผลของแฟนคลับที่มองว่ายอดบั้มไม่เยอะ นายทุนไม่ดันต่อ
...แต่ fromis_9 ยอดน้อยกว่าอีก 2 วงด้วยซ้ำ ทำไม hybe ถึงไปเอามา แล้วดูดันด้วยนะ ส่วนตัวตาม fromis_9 อยู่คือรับรู้ได้ว่างานเยอะขึ้น (เพราะผมเคยตั้งกระทู้งานที่ fromis_9 ได้รับหลังย้ายเข้า hybe) หลายๆรายการตัววงก็เพิ่งได้ไปออกครั้งแรกหลังจากย้ายเข้า hybe มีงานหลากหลายและเยอะกว่าอยู่ค่ายเก่าด้วย