(ต่อจากหน้าที่แล้ว)
ยกที่ 9, 10 การชกยังเป็นไปเหมือนอย่างยกที่ 8 คือคาสโตรเดินสาวหมัดเข้ามาแบบมวยวัดโดยที่เขาทรายก็ดักเลือกชกเอาได้ตามใจชอบ พอมาถึงยกที่ 11 ก็น่าจะเป็นยกอวสานของคาสโตรได้เพราะในขณะที่คาสโตรก้มหน้าเดินสาวหมัดเข้ามาแบบมวยทะเลนั้น เขาทรายดักด้วยฮุคซ้ายจนคาสโตรหน้าสะบัด “ไอ้ระ” สวิงหมัดขวาตามไปอีกทีก็ส่งร่างของคาสโตรลงไปนั่งก้นจ้ำเบ้า กรรมการนับไปถึง 8 คาสโตรก็กัดฟันลุกขึ้นมาสู้ต่ออีกหน ปรากฏว่าเขาทรายเดินลุยเข้ายำใหญ่อีกหลายสิบหมัด แค่คาสโตรก็สำแดงธาตุทรหดออกมาให้ปรากฏเห็น เพราะสามารถยืนหยัดได้จนครบยก แม้ว่าจะสวาปามหมัดเข้าไปจนอ่อนเปลี้ยก็ตามที
ยกสุดท้ายผู้ท้าชิงรู้ตัวว่าคะแนนเป็นรองก็เลยเดินเข้าแลกหมัดแบบใครดีใครอยู่อีกครั้ง แต่เขาทรายก็ไม่ยอมปะทะ เลือกต่อยเอาแบบสบายใจ และเมื่อหมดยกเขาทรายก็ได้รับการชูมือให้ชนะคะแนนไปอย่างเอกฉันท์ เป็นอันว่ายุติตำนานของเขาทราย แกแล็คซี่ บนเวทีผืนผ้าใบไว้แต่เพียงเท่านี้
ภายหลังจากได้รับการชูมือให้เป็นผู้ชนะในไฟท์นี้ เขาทรายก็ได้กล่าวประกาศบนเวทีว่า “ด้วยพระบารมีปกเกล้าฯ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ผมรู้สึกปลาบปลื้มปิติเป็นอย่างยิ่ง และรู้สึกยินดีเป็นอย่างมากที่เอาชนะมาได้ เพราะได้กำลังใจจากพี่น้องชาวไทย ผมรู้สึกดีใจที่ศึกครั้งสุดท้ายจบลงด้วยชัยชนะและรอยยิ้มของทุกคน ถือเป็นการอำลาไปด้วยความอาลัยอาวรณ์ต่อพี่น้องทุกคน”
จากนั้นเขาทรายซึ่งน้ำตาคลอเบ้าด้วยความตื้นตันใจได้กล่าวว่า รู้สึกปลาบปลื้มใจมากที่สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ ได้พระราชทานช่อดอกไม้ให้ นับเป็นเกียรติแก่วงศ์ตระกูลของเขาทราย แกแล็คซี่ มาถึงตอนนี้ เขาทรายก็ได้ยืนตรงและร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีไปด้วย
ก่อนลงจากเวที เขาทรายได้กล่าวผ่านไมค์ว่า “ครั้งแรกถึงครั้งสุดท้ายที่ผมชก พี่วิเชียร นีลิกานนท์ เป็นผู้พากย์มาโดยตลอด ผมขอมอบของที่ระลึกให้กับพี่วิเชียรก่อนอำลา” หลังจากนั้นก็ถอดสร้อยคอทองคำหนัก 5 บาทที่ได้รับมอบก่อนชกให้กับนายวิเชียร นีลิกานนท์ ไปหนึ่งเส้น ก่อนหน้าที่จะชกนั้น เขาทรายก็ได้มอบทองให้กับคู่ชกคืออาร์มันโด คาสโตร ไปแล้ว 1 เส้น เป็นสร้อยคอทองคำหนัก 5 บาทเช่นกัน
เมื่อลงมาจากเวที เขาทรายได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า เป็นความบอบช้ำที่สุดในชีวิตการชกมวยจริง ๆ ในยกที่ 2 โดยอัปเปอร์คัทขวาเข้าเต็มคาง เป็นการพลาดเผลอไปนิดเดียว หลังยก 2 ไปแล้วทางสต๊าฟได้มีการแก้มวยทำให้สถานการณ์ดีขึ้น ต้องยอมรับว่าคาสโตรเดินตะลุยซะจนตั้งตัวไม่ติด แต่ก็มั่นใจว่าจะยืนหยัดสู้ได้ การที่โดนหมัดของคู่ชกลงไปนับไม่ใช่เป็นเพราะสภาพร่างกายที่ไปไม่ไหว แต่เกิดจากการผิดพลาดเอง “ผมรู้สึกว่าแฟนมวยเอาใจช่วยผมตลอดเวลา แต่ไม่ต้องกลัวหรอก ผมคิดอยู่เสมอว่า หากไม่ชกผมสลบเหมือดไปเลยผมต้องเอาคืนให้ได้อย่างแน่นอน แต่ผมก็ต้องยอมรับครับว่าเป็นไฟท์ที่เหนื่อยที่สุดในชีวิต ต้องขอชมคาสโตรว่าเขามีน้ำอดน้ำทนดีจริง ๆ โดยเฉพาะยกที่ 11 ไม่น่าเชื่อว่าเขาจะลุกขึ้นมาได้”
ทางด้านอาร์มันโด คาสโตร ผู้เกือบจะปิดตำนานเขาทราย แกแล็คซี่ ด้วยความเศร้า มีอาการเศร้าซึม บอกว่า ความจริงตำแหน่งแชมป์โลกเข้าใกล้มือมาแล้ว แต่ก็หลุดลอยไป ในยกที่ 2 นั้นตนคิดว่าน่าจะเผด็จศึกได้ แต่เขาทรายก็ทานทนเหลือเชื่อ พอน็อกในยกนั้นไม่ได้ก็เลยทำให้รู้สึกว่าไม่มั่นใจในพลังหมัดตนเอง ยิ่งไล่ต่อยก็ยิ่งเหนื่อยเพราะประสบการณ์ของเขาทรายมีมากเอาตัวรอดได้ดี แต่สำหรับความพ่ายแพ้ครั้งนี้ไม่ทำให้ตนท้อถอย แต่กลับจะทำให้มีความพยายามต่อไปอีก
ในการชกของเขาทราย แกแล็คซี่ ในไฟท์นี้ ปรากฏว่าแฟนสาวยูมิโกะ โอตะ ซึ่งนั่งชมอยู่ด้วยต้องหลั่งน้ำตาออกมาตลอดการชกเนื่องจากว่ากลัวเขาทรายจะแพ้ โดยเฉพาะในยกที่ 2 ที่เขาทรายโดนนับนั้นเธอถึงกับร่ำไห้ปล่อยโฮออกมาเลยทีเดียว
เผยคะแนนยกต่อยกของกรรมการทั้งสามคนที่ให้ เขาทราย แกแล็คซี่ แชมป์โลกชาวไทย ชนะอย่างเป็นเอกฉันท์ ป้องกันแชมป์โลกครั้งที่ 19 เอาไว้สำเร็จ และเป็นครั้งสุดท้ายในชีวิตการชกมวยอาชีพ
ผลคะแนน
กับ อาร์มันโด คาสโตร
"คนนี้อาร์มันโด คาสโตร คนก่อนอัลเบอร์โต คาสโตร...คล้าย ๆ กัน คนนี้นี่ความจริงแล้วไม่ได้เลือก แต่เจ้ากรรมที่ตอนเราเลือกไปเราหาคู่ชกไม่ได้ ทำไปทำมาหมดเวลาที่จะเลือกเอง ต้องกลายมาเป็นช่วงของไฟท์บังคับ เจอกับมวยรองแชมป์อันดับ 1 กลายเป็นว่าน่าจะส่งท้ายด้วยความประทับใจ ทำไปทำมาเราเองเกือบร่วงไปเหมือนกัน ก่อนชกนั่นอย่างว่า ความมั่นใจมันมีมากเกินไป ผมเองเห็นบรรยากาศในสนามก็คิดว่าตัวเองต้องชนะ ใจมันฮึกเหิมตามเสียงเชียร์ คนดูบอกว่าน็อกแน่ ผมก็คิดว่าน็อกแน่ด้วยเหมือนกัน แต่พอสาวหมัดเข้าไปแลกด้วย จริง ๆ ไม่ใช่เรื่องล้อเล่นแล้วนี่หว่า...ผมยังมานั่งนึกอยู่เหมือนกันในตอนหลัง เรานี่มีดวงเข้ามาช่วยเยอะ ก็ดีไปอย่าง ทำให้ผมตัดสินใจได้อย่างเด็ดขาดโดยไม่มีความรู้สึกเสียดาย ต้องเลิกชก เพราะเห็นความรู้สึกของคนไทยในช่วงที่โดนชกล้มแล้ว บอกตรง ๆ ว่าผมคงจะเสียใจไปชั่วชีวิต หากทำให้คนไทยต้องผิดหวัง"-
เขาทราย แกแล็คซี่
ภาพและข้อมูลประกอบจาก นสพ.ข่าวสด ธ.ค. 2534, นสพ.โลกกีฬา ปี 2534.
ครบรอบ 30 ปี...ศึกมวยป้องกันแชมป์โลกไฟท์สุดท้ายของ "เขาทราย" : รายการทีวีที่มีคนดูมากที่สุดแห่งปี (จบ)
ยกที่ 9, 10 การชกยังเป็นไปเหมือนอย่างยกที่ 8 คือคาสโตรเดินสาวหมัดเข้ามาแบบมวยวัดโดยที่เขาทรายก็ดักเลือกชกเอาได้ตามใจชอบ พอมาถึงยกที่ 11 ก็น่าจะเป็นยกอวสานของคาสโตรได้เพราะในขณะที่คาสโตรก้มหน้าเดินสาวหมัดเข้ามาแบบมวยทะเลนั้น เขาทรายดักด้วยฮุคซ้ายจนคาสโตรหน้าสะบัด “ไอ้ระ” สวิงหมัดขวาตามไปอีกทีก็ส่งร่างของคาสโตรลงไปนั่งก้นจ้ำเบ้า กรรมการนับไปถึง 8 คาสโตรก็กัดฟันลุกขึ้นมาสู้ต่ออีกหน ปรากฏว่าเขาทรายเดินลุยเข้ายำใหญ่อีกหลายสิบหมัด แค่คาสโตรก็สำแดงธาตุทรหดออกมาให้ปรากฏเห็น เพราะสามารถยืนหยัดได้จนครบยก แม้ว่าจะสวาปามหมัดเข้าไปจนอ่อนเปลี้ยก็ตามที
ยกสุดท้ายผู้ท้าชิงรู้ตัวว่าคะแนนเป็นรองก็เลยเดินเข้าแลกหมัดแบบใครดีใครอยู่อีกครั้ง แต่เขาทรายก็ไม่ยอมปะทะ เลือกต่อยเอาแบบสบายใจ และเมื่อหมดยกเขาทรายก็ได้รับการชูมือให้ชนะคะแนนไปอย่างเอกฉันท์ เป็นอันว่ายุติตำนานของเขาทราย แกแล็คซี่ บนเวทีผืนผ้าใบไว้แต่เพียงเท่านี้
ภายหลังจากได้รับการชูมือให้เป็นผู้ชนะในไฟท์นี้ เขาทรายก็ได้กล่าวประกาศบนเวทีว่า “ด้วยพระบารมีปกเกล้าฯ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ผมรู้สึกปลาบปลื้มปิติเป็นอย่างยิ่ง และรู้สึกยินดีเป็นอย่างมากที่เอาชนะมาได้ เพราะได้กำลังใจจากพี่น้องชาวไทย ผมรู้สึกดีใจที่ศึกครั้งสุดท้ายจบลงด้วยชัยชนะและรอยยิ้มของทุกคน ถือเป็นการอำลาไปด้วยความอาลัยอาวรณ์ต่อพี่น้องทุกคน”
จากนั้นเขาทรายซึ่งน้ำตาคลอเบ้าด้วยความตื้นตันใจได้กล่าวว่า รู้สึกปลาบปลื้มใจมากที่สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ ได้พระราชทานช่อดอกไม้ให้ นับเป็นเกียรติแก่วงศ์ตระกูลของเขาทราย แกแล็คซี่ มาถึงตอนนี้ เขาทรายก็ได้ยืนตรงและร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีไปด้วย
ก่อนลงจากเวที เขาทรายได้กล่าวผ่านไมค์ว่า “ครั้งแรกถึงครั้งสุดท้ายที่ผมชก พี่วิเชียร นีลิกานนท์ เป็นผู้พากย์มาโดยตลอด ผมขอมอบของที่ระลึกให้กับพี่วิเชียรก่อนอำลา” หลังจากนั้นก็ถอดสร้อยคอทองคำหนัก 5 บาทที่ได้รับมอบก่อนชกให้กับนายวิเชียร นีลิกานนท์ ไปหนึ่งเส้น ก่อนหน้าที่จะชกนั้น เขาทรายก็ได้มอบทองให้กับคู่ชกคืออาร์มันโด คาสโตร ไปแล้ว 1 เส้น เป็นสร้อยคอทองคำหนัก 5 บาทเช่นกัน
เมื่อลงมาจากเวที เขาทรายได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า เป็นความบอบช้ำที่สุดในชีวิตการชกมวยจริง ๆ ในยกที่ 2 โดยอัปเปอร์คัทขวาเข้าเต็มคาง เป็นการพลาดเผลอไปนิดเดียว หลังยก 2 ไปแล้วทางสต๊าฟได้มีการแก้มวยทำให้สถานการณ์ดีขึ้น ต้องยอมรับว่าคาสโตรเดินตะลุยซะจนตั้งตัวไม่ติด แต่ก็มั่นใจว่าจะยืนหยัดสู้ได้ การที่โดนหมัดของคู่ชกลงไปนับไม่ใช่เป็นเพราะสภาพร่างกายที่ไปไม่ไหว แต่เกิดจากการผิดพลาดเอง “ผมรู้สึกว่าแฟนมวยเอาใจช่วยผมตลอดเวลา แต่ไม่ต้องกลัวหรอก ผมคิดอยู่เสมอว่า หากไม่ชกผมสลบเหมือดไปเลยผมต้องเอาคืนให้ได้อย่างแน่นอน แต่ผมก็ต้องยอมรับครับว่าเป็นไฟท์ที่เหนื่อยที่สุดในชีวิต ต้องขอชมคาสโตรว่าเขามีน้ำอดน้ำทนดีจริง ๆ โดยเฉพาะยกที่ 11 ไม่น่าเชื่อว่าเขาจะลุกขึ้นมาได้”
ทางด้านอาร์มันโด คาสโตร ผู้เกือบจะปิดตำนานเขาทราย แกแล็คซี่ ด้วยความเศร้า มีอาการเศร้าซึม บอกว่า ความจริงตำแหน่งแชมป์โลกเข้าใกล้มือมาแล้ว แต่ก็หลุดลอยไป ในยกที่ 2 นั้นตนคิดว่าน่าจะเผด็จศึกได้ แต่เขาทรายก็ทานทนเหลือเชื่อ พอน็อกในยกนั้นไม่ได้ก็เลยทำให้รู้สึกว่าไม่มั่นใจในพลังหมัดตนเอง ยิ่งไล่ต่อยก็ยิ่งเหนื่อยเพราะประสบการณ์ของเขาทรายมีมากเอาตัวรอดได้ดี แต่สำหรับความพ่ายแพ้ครั้งนี้ไม่ทำให้ตนท้อถอย แต่กลับจะทำให้มีความพยายามต่อไปอีก
ในการชกของเขาทราย แกแล็คซี่ ในไฟท์นี้ ปรากฏว่าแฟนสาวยูมิโกะ โอตะ ซึ่งนั่งชมอยู่ด้วยต้องหลั่งน้ำตาออกมาตลอดการชกเนื่องจากว่ากลัวเขาทรายจะแพ้ โดยเฉพาะในยกที่ 2 ที่เขาทรายโดนนับนั้นเธอถึงกับร่ำไห้ปล่อยโฮออกมาเลยทีเดียว
เผยคะแนนยกต่อยกของกรรมการทั้งสามคนที่ให้ เขาทราย แกแล็คซี่ แชมป์โลกชาวไทย ชนะอย่างเป็นเอกฉันท์ ป้องกันแชมป์โลกครั้งที่ 19 เอาไว้สำเร็จ และเป็นครั้งสุดท้ายในชีวิตการชกมวยอาชีพ
กับ อาร์มันโด คาสโตร
"คนนี้อาร์มันโด คาสโตร คนก่อนอัลเบอร์โต คาสโตร...คล้าย ๆ กัน คนนี้นี่ความจริงแล้วไม่ได้เลือก แต่เจ้ากรรมที่ตอนเราเลือกไปเราหาคู่ชกไม่ได้ ทำไปทำมาหมดเวลาที่จะเลือกเอง ต้องกลายมาเป็นช่วงของไฟท์บังคับ เจอกับมวยรองแชมป์อันดับ 1 กลายเป็นว่าน่าจะส่งท้ายด้วยความประทับใจ ทำไปทำมาเราเองเกือบร่วงไปเหมือนกัน ก่อนชกนั่นอย่างว่า ความมั่นใจมันมีมากเกินไป ผมเองเห็นบรรยากาศในสนามก็คิดว่าตัวเองต้องชนะ ใจมันฮึกเหิมตามเสียงเชียร์ คนดูบอกว่าน็อกแน่ ผมก็คิดว่าน็อกแน่ด้วยเหมือนกัน แต่พอสาวหมัดเข้าไปแลกด้วย จริง ๆ ไม่ใช่เรื่องล้อเล่นแล้วนี่หว่า...ผมยังมานั่งนึกอยู่เหมือนกันในตอนหลัง เรานี่มีดวงเข้ามาช่วยเยอะ ก็ดีไปอย่าง ทำให้ผมตัดสินใจได้อย่างเด็ดขาดโดยไม่มีความรู้สึกเสียดาย ต้องเลิกชก เพราะเห็นความรู้สึกของคนไทยในช่วงที่โดนชกล้มแล้ว บอกตรง ๆ ว่าผมคงจะเสียใจไปชั่วชีวิต หากทำให้คนไทยต้องผิดหวัง"-เขาทราย แกแล็คซี่