ครบรอบ 30 ปี...ศึกมวยป้องกันแชมป์โลกไฟท์สุดท้ายของ "เขาทราย" : รายการทีวีที่มีคนดูมากที่สุดแห่งปี (1)

บทความต่อไปนี้...ผู้ค้นหาได้หยิบหนังสือ "เขาทราย แกแล็คซี่ : ผู้สร้างประวัติศาสตร์ให้โลกจารึก" ซึ่งจัดทำโดยบริษัท ซูเปอร์บอยแอนด์แอสโซซิเอทกรุ๊ป ตีพิมพ์และออกจำหน่ายเมื่อปี 2535 โดยขอทำการคัดลอกรายละเอียดการแข่งขันชกมวยป้องกันตำแหน่งแชมป์โลกครั้งสุดท้ายในชีวิตการเป็นนักมวยอาชีพของเขาทราย เมื่อช่วงค่ำของวันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคม 2534 เพื่อนำมาเผยแพร่ให้ผู้อ่านในที่นี้ร่วมย้อนสู่บรรยากาศในวันนั้นอย่างรอบด้าน ทั้งสถิติการชก การเปิดเผยความรู้สึกหลังการชกจากเขาทราย และความนิยมจากแฟนมวยที่เปิดรับชมการถ่ายทอดสดดังกล่าว ซึ่งเวียนมาจนครบรอบ 30 ปีพอดี

ขอเชิญทุกท่านร่วมแสดงความลึกซึ้งไปกับเขาทรายด้วยกัน...สวัสดี.


"จากการสำรวจความนิยมของผู้ชมโทรทัศน์ในกรุงเทพมหานครซึ่งนิตยสาร “มีเดีย” ได้นำผลการสำรวจซึ่งบริษัทเวอร์เท็กซ์ มาร์เก็ต รีเสิร์ช เป็นผู้สำรวจ ปรากฏว่ารายการพิเศษประจำเดือนธันวาคม ปี 2534 ที่มีแฟนทีวี.ดูมากที่สุดคือ การถ่ายทอดสดการชกของเขาทราย แกแล็คซี่ แชมเปี้ยนโลกรุ่นจูเนียร์แบนตั้มเวทขวัญใจชาวไทยขึ้นชกเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนประกาศแขวนนวมอำลาสังเวียนเลือด ซึ่งมีผู้ชมถึง 45.59 เปอร์เซ็นต์ แยกเป็นผู้ชาย 56.31 เปอร์เซ็นต์ และเป็นผู้หญิง 34.87 เปอร์เซ็นต์"

อาร์มันโด คาสโตร
ไฟท์สุดท้ายของเขาทราย
 
ไฟท์สุดท้าย ไฟท์ที่ 19 ซึ่งถือเป็นไฟท์อำลาของเขาทราย แกแล็คซี่ ได้รับความสนใจจากแฟนหมัดมวยชาวไทยทั่วประเทศ แต่ทว่าการจัดชกสั่งลาก็ดูเหมือนว่ายังไม่ค่อยจะยิ่งใหญ่สมกับฐานะเท่าที่ควร
 
สถานที่จัดชกในครั้งนี้ มีการโยกย้ายกันหลายครั้งหลายหน แต่ในที่สุดก็เลือกใช้สนามฮอกกี้หรือว่าสนามเทพหัสดินในปัจจุบันเป็นสถานที่ชก จัดดำเนินการโดยสมาคมศิษย์เก่าอำนวยศิลป์ มีนายวีระ สุสังกรกาญจน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมเป็นประธานจัดการชกโดยที่จัดขึ้นมาเมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2534
 
คู่ชกที่ได้รับเกียรติมาชกกับเขาทรายในครั้งนี้ กลายเป็นนักชกระดับมหากาฬที่เกือบจะปิดนามเขาทรายด้วยความขมขื่น เพราะจากที่เลือกหาคู่ชกไม่ลงตัวสักที ก็พอดีกับที่วันเวลาล่วงเลยมานาน สุดท้ายก็เลยได้เวลาที่จะต้องชกไฟท์บังคับ ก็คือจะต้องเจอกับรองแชมป์โลกอันดับ 1 ซึ่งคนไทยไม่เคยได้ยินกิตติศัพท์ ทราบแต่ชื่อว่าเป็นนักชกจากเม็กซิโก นามว่า อาร์มันโด คาสโตร เท่านั้น
 
มาทราบประวัติกันเมื่อวันที่อาร์มันโด คาสโตร เดินทางมาถึงเมืองไทยก็ดูพื้น ๆ เพราะมีทั้งแพ้และชนะธรรมดา ๆ ไม่หวือหวาอะไรมากมายนัก แต่มีที่สะดุดตาอยู่บ้างก็คือการที่เคยเอาชนะน็อกเอาท์นักมวยชื่อดังอย่างกาเบรียล เบอร์นัล อดีตแชมป์โลกรุ่นฟลายเวท สภามวยโลก คู่ปรับของสด จิตรลดา มาได้เท่านั้น
 
เม็กซิกันอันตรายวัย 26 ปีกล่าวว่าตนรู้สึกเป็นเกียรติอย่างมากที่ได้รับเลือกให้เป็นคู่ชกคนสุดท้ายของเขาทราย ซึ่งเป็นแชมป์โลกผู้ยิ่งใหญ่ แต่การชกครั้งนี้ตนก็เตรียมตัวมาอย่างดี จะว่าดีที่สุดในชีวิตก็คงจะว่าได้ ซ้อมหนักมา 2 เดือนเต็ม ลงนวมมากกว่า 100 ยก ดูเทปการชกของเขาทรายมาหลายครั้ง พอจะเห็นจุดอ่อนของเขาทรายอยู่บ้าง คือเวลาชกชอบเปิดหน้ามากเพราะชะล่าใจคิดว่าไม่มีใครน็อกได้ แต่ก็ขอให้ระวังเอาไว้ให้ดี เพราะตนเองก็เป็นมวยหมัดหนักเหมือนกันจึงขอเตือนไว้ กับอีกอย่าง เมื่อเขาทรายโดนรุกไล่จะไม่ชอบโยกตัว และค่อนข้างจะช้า มั่นใจมากว่าไฟท์นี้เขาทรายจะต้องโดนตนน็อก
 
ส่วนแชมป์โลกชาวไทยกล่าวว่าไฟท์นี้แม้ว่าจะเป็นไฟท์อำลาของตน แต่ก็ไม่กังวลอะไรมาก เนื่องจากร่างกายสมบูรณ์ร้อยเปอร์เซ็นต์ ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง ศึกษาดูเทปการชกของคาสโตรแล้วรู้สึกว่าไม่น่ากลัวเท่าไร และที่สำคัญตนได้เข้าเฝ้าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจึงทำให้มีพลังใจมากที่สุดในชีวิต จะขอสั่งลาสังเวียนด้วยความยิ่งใหญ่เพื่อให้เกียรติประวัติได้รับการจารึกไว้ควบคู่กับวงการมวยเมืองไทยตลอดไป
 
การชกของเขาทราย แกแล็คซี่ กับ อาร์มันโด คาสโตร ในครั้งนี้ ชกกันท่ามกลางบรรยากาศอันแปลกประหลาด เพราะมีการจัดตั้งโต๊ะจีนกันข้างเวที เปิดให้ทานอาหารพร้อม ๆ กับดูมวยไปด้วย ซึ่งมูลค่าแต่ละโต๊ะตกเป็นเงินนับแสนบาท และในงานนี้ก็มีแขกระดับวีไอพีมาร่วมชมกันคับคั่ง นับตั้งแต่นายอานันท์ ปันยารชุน นายกรัฐมนตรี และพลเอกสุนทร คงสมพงษ์ ประธานสภา รสช.
 
ที่เหนือกว่าสิ่งอื่นใดก็คือ พลโทสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ ได้ทรงมีพระเมตตาและพระมหากรุณาธิคุณแก่เขาทรายด้วยการพระราชทานช่อดอกไม้มาอวยพรก่อนชก ซึ่งเขาทรายก็ได้คุกเข่าถวายบังคมรับช่อดอกไม้ชูขึ้นเทิดไว้เหนือศีรษะด้วยความปลื้มปิติในพระมหากรุณาธิคุณ
 
การชกในยกแรกเริ่มต้นขึ้นมาด้วยการที่เขาทรายเป็นฝ่ายดูเชิงเสียเป็นส่วนใหญ่ เช่นเดียวกันกับที่นักชกชาวจังโก้ก็ไม่กล้าผลีผลาม แต่ในปลายยก จังโก้หนุ่มก็แผลงฤทธิ์ด้วยการปล่อยหมัดซ้ายตรงเข้าเต็มหน้าเขาทราย แต่ก็ไม่สร้างความเจ็บปวดให้กับนักชกไทยมากนัก
 
ยกที่ 2 เป็นยกที่ทำเอาคนไทยทั้งประเทศแทบจะหัวใจสลาย เพราะเริ่มยกขึ้นมาเขาทรายก็ใส่เกียร์เดินหน้า เดินเข้าอัดแหลกแลกหมัดกับคาสโตรทันที โดยที่เขาทรายระดมหมัดเข้าใส่จนคาสโตรถอยร่นไม่เป็นขบวน แล้งก็ต้องหันมาใช้วิธีสกัดด้วยการออกหมัดฮุคออกมาสู้ ซึ่งก็ได้ผลชะงักขึ้นมาในทันที ในปลายยกคาสโตรใช้ช่วงจังหวะที่เขาทรายกำลังบุกเพลิน งัดฮุคขวาขึ้นมาโดนปลายคางของเขาทรายจนผงะออกไป คาสโตรฉวยจังหวะวินาทีทอง สืบเท้าตามเข้าหาแล้วลั่นฮุคขวาตามมาอีกหมัด ส่งร่างของเขาทรายหงายผลึ่งลงไปนอนกับพื้นเวที กรรมการนับถึง 8 ก่อนจะให้ชกต่อ แต่ก็พอดีกับที่ระฆังหมดยกดังขึ้น
 
หลังจากที่ได้ลูกนับไปแล้ว ก็ดูเหมือนว่าอาร์มันโด คาสโตร จะย่ามใจเดินหน้าเข้าแลกหมัดกับเขาทรายอย่างดุเดือดในยกที่ 3-4-5 ซึ่งแม้ว่าเขาทรายจะเป็นฝ่ายเดินเข้าหา แต่อาร์มันโด คาสโตร ก็ไม่ถอยหลังหนี ยืนปักหลักแลกหมัดกันแบบถึงพริกถึงขิง เขาทรายพยายามใช้หมัดขวาแย็บนำแล้วตามด้วยหมัดซ้ายตรง แต่ทว่าคาสโตรก็แก้ด้วยหมัดฮุคขวาอาวุธถนัด ปลายยกที่ 5 เขาทรายรัวหมัดเข้าไปชุดใหญ่จนคู่ชกชักมีอาการ ทำให้แฟนมวยเริ่มจะสบายใจว่าเขาทรายเริ่มจะคุมเกมการชกได้แล้ว
 
ยกที่ 6 อาร์มันโด คาสโตร เปิดฉากบุกหนักขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง แต่ทว่าเขาทรายก็ยังไม่ยอมเล่นด้วย ใช้สไตล์หลอกล่อแย็บซ้ายขวาเข้าใส่ ไม่ยอมปะทะจัง ๆ ด้วย ในยกนี้แม้ว่าคาสโตรจะบุกหนัก แต่ก็ส่วนใหญ่เป็นเป้าให้กับเขาทรายชกซะมากกว่า
 
ยกที่ 7 เขาทรายเปลี่ยนมาเป็นเดินเข้าหาบ้าง เปลี่ยนยุทธวิธีหันมาอัดลำตัวอย่างเดียวแต่ก็โดนคาสโตรสาวหมัดสู้อย่างไม่ยั่นพิษสง ปลายยกเขาทรายเจอหมัดฮุคเข้าถึงกับเซไป โดยคาสโตรไล่อัดสาวหมัดเข้าไปอีกชุดใหญ่จนดูเหมือนจะเริ่มมีอาการ
 
ยกที่ 8 เขาทรายกลับกระปรี้กระเปร่าขึ้นมาอีกครั้ง เริ่มชกเข้าเป้าได้เป็นเนื้อเป็นน้ำ โดยเฉพาะในปลายยกนั้นระดมหมัดเข้าใบหน้าของคาสโตรจนหน้าสั่น เมื่อแยกกันออกมาก็ปรากฏว่าที่คิ้วขวาของคาสโตรโดนพิษกำปั้นเข้าไปทำเอามีเลือดไหลซึมออกมา


(โปรดอ่านต่อหน้าถัดไป)
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่