หากคุณคาดหวังงงง ว่าจะมีรีวิวท่องเที่ยวอันน่าตื่นเต้นในกระทู้นี้คือ คิดผิดแล้ว เพราะนี่มันก็แค่การอยากได้ฟีลนอนหนาวสักคืนหนึ่งเท่านั้น และที่สำคัญคือเวลามีจำกัด ไม่ต้องลาก็ไปได้ 2 วัน 1 คืนรวมเดินทางเท่านั้น ทริปนี้คือ side seeing (มองข้างทาง) ของแท้

  
          เริ่มเดินทางจากหมอชิต ไปยัง บขสเพชรบูรณ์โดยรถทัวร์ ออก 8โมงกว่าถึงเกือบบ่ายสามโมง ซึ่งนับว่าล่าช้ากว่าที่กำหนด บขส ของเมืองเพชรบูรณ์นั้นอยู่แถบนอกเมือง มีชื่อเล่นว่า บขส สระยาว ในขณะที่อีกที่หนึ่งเรียกเล่นๆ ว่า บขส.เพชรประเสริฐ อยู่ริมถนนใหญ่ สำหรับรถของบ. เพชรประเสริฐ เป็นที่รู้กันว่าติดธนาคาร ธกส ซึ่งบขสนี้อยู่ใกล้ตัวเมืองมากกว่า
 
         ในที่สุดอย่างงงๆ เราก็มาลง บขส.สระยาว เพราะเราก็ไม่รู้ว่าที่แท้มันต้องลงแห่งไหนกันแน่ เพื่อที่จะมาขึ้นรถสาธารณะที่ขึ้นไปส่งยังบ้านหนองแม่นา ซึ่งปรากฏว่ามีเพียงคันเดียวสายเดียวคือสองแถวของตาไหวนั่นเอง  (จริงๆ ลง บขส เพชรประเสริฐน่าจะใกล้รถมากว่า ท่ารถแกอยู่หลังตลาดเทศบาล 2 แต่เมื่อโทรไป แกก็มารับยัง บขสสระยาว) แนะนำโทรถามรอบก่อนวันเดินทางเพราะมีคันเดียวรอบรถจึงอาจจะไม่แน่นอนและมีน้อยเที่ยวมาก ค่ารถเพชรบูรณ์ -หนองแม่นา 50 บาท ส่งถึงตัวศูนย์บริการนักท่องเที่ยว = 100 บาท  extra เพราะนอกทางวิ่งปกติแก
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้(โทรสอบถามรอบ+จุดขึ้นรถได้ที่ 084 493 0137) 

           รถตาไหว มาจอดพร้อมสัมภาระเต็มคัน เป็นของที่จะเอาไปส่งบนหมู่บ้านนั้นเอง หลังพาร่างขึ้นที่ว่างในรถได้สำเร็จ รถได้ออกเดินทางพร้อมแวะรับส่งคนตามรายทางพร้อมสัมภาระที่หนักอึ้งทำให้แล่นเอื่อยๆ จนขึ้นมาถึงยังเขาค้อ ลมที่พัดผ่านจากร้อนจึงค่อยเป็นลมเย็นขึ้นมา ผู้โดยสารที่ร่วมทางมาล้วนแต่เป็นชาวบ้านบนนั้น ที่พึ่งพารถสองแถวประจำทางคันเดียวนี้
           ในที่สุดก็มาติดไฟแดงแยกร่วมฤดี ทางไปจุดยอดฮิตของเขาค้อที่รู้จักกันดี แต่เราเลยขึ้นไปยังบ้านหนองแม่นา มาถึงปากทางเข้า อช จากบ้านผู้ใหญ่ที่ปากซอย ยังต้องเข้าไปอีกประมาณ 2 กิโล เราจึงให้ตาพาส่งถึงที่ 
          “เต๊นท์อุทยานหมดครับ” จนท บอก ซึ่งเกินคาดคิดไปมาก แต่ยังดีเหลือเต๊นท์สวัสดิการให้เช่าได้ เดินออกไป ฟัามืดไปหมดแล้ว หน้าศูนย์บริการยังมีเทอโมมิเตอร์ห้อยไว้ อุณหภูมิอยู่ที่ 16 องศาแล้วตอนนี้

           เราเดินผ่านหน้าลานกางเต๊นท์ไปหาทำเลกาง เป็นเต๊นท์แบบโดมซึงนับว่ากางง่าย ถ้าสมประกอบอะนะ กางเสร็จก็นั่งทานอาหารเย็นโดยใช้ถ้วยร้อนต้มมาม่า และขนมพกพาต่างๆ ฟ้ามืดพระจันทร์สว่าง วันนี้ฟ้าใสกระจ่างมากเห็นดวงดาวประปราย  คุยไปกินไปหนาวไป ยังดีที่ลมไม่แรงเลยทนอยู่ได้

            ห้องน้ำอุทยานก็มีจำนวนค่อนข้างมาก สะอาดดี เลยทีเดียว นับว่าสะดวกมาก 
            อาบน้ำเสร็จก็เข้านอน น้ำเกาะในเต๊นท์ผ้าใบชื้นๆ แต่เราก็นอนหลับสนิท หมอนอุทยานเป็นหมอนยางพาราใบใหญ่นอนดีมากเลยเชียวแหละ

           ตื่นเช้าแบบไม่อยากถลกถุงนอน เพราะมันหนาวเย็น รูดซิบเต๊นท์ดูก็คือ ทุ่งหาย!!! หมอกลงเป็นฝ้าบดบังวิวทุ่งไปทั้งด้านหน้าด้านหลัง ไม่สามารถเห็นพระอาทิตย์ขึ้นได้
          และเราก็ไม่ได้ไปยังศาลาดุสิตตา เนื่องจากไม่มีรถ จนท ก็ไม่มีบริการรถรับไปศาลาดุสิตตาในช่วงนี้เพราะ จนท.กำลังคนไม่พอ จึงทำให้เราอยู่บริเวณลานกางเต๊นท์เท่านั้น TT

แต่บรรยากาศดี สูดอากาศเต็มปอด ชื่นใจมากๆ  เช้าอุณหภูมิอยู่ที่ 12 องศา มือนี่แข็งเจ็บไปแล้วทีเดียว
           
         เนื่องจากต้องพึ่งพารถสาธารณะคันเดียวของเราจึงต้องออกเช้า (ตามรอบรถของตาไหว) ยังไม่ได้สำรวจทุ่งที่ทางใดๆ  8 โมงครึ่ง ก็มารับพร้อมกับสัมภาระพวกผักที่นำไปส่งในเมือง
          ข้างทางบนเขาค้อมีมะขามของฝากขาย รีสอร์ต ไร่สตอเบอรี่ ใครสนใจแวะซื้อได้ ช่วงนี้สตรอเบอรี่กำลังออกเลยทีเดียว
            หลังซื้อตั๋วรถรอบ 12.55 ก็เดินเล่นแถบนั้นซึ่งค่อนข้างเหงามาก มีร้านกาแฟบรรยากาศดี จึงเดินไปนั่งชิล รอขึ้นรถ
          หาที่พักผ่อนสงบ งบประหยัดสบายกระเป๋า บรรยากาศดี นึกถึงอุทยานแห่งชาติเลยจ้า เสียแต่การเข้าถึงด้วยรถสาธารณะลำบากไม่น้อย

         อช ทุ่งแสลงหลวง มีทางเข้าสองทางคือ ทางนครไทย (ที่ทำการอุทยาน) จ. พิษณุโลก ที่มีการเดินศึกษาธรรมชาติไปยังทุ่งโนนสนเป็นไฮไลท์ หรือจะจุดกางเต๊นท์ริมน้ำสะพานสลิงข้างลำน้ำเข็ก อีกทางคือฝั่งเขาค้อ หน่วยหนองแม่นา จ. เพชรบูรณ์ จุดนี้ก็จะมีจักรยานให้เช่าปั่น และมีจุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นที่ศาลาดุสิตาเป็นไฮไลท์ และมีทุ่งนางพญา แก่งวังน้ำเย็น ให้เที่ยวชม ยังมีกิจกรรมน่าสนใจอื่นๆ เช่น ส่องสัตว์ตอนกลางคืน (มีค่าใช้จ่าย)  แต่อาจจะต้องสอบถามอีกทีว่าเปิดหรือไม่ 

         แม้ว่าจะอดกิจกรรมประการทั้งปวงและมาแค่เวลาสั้นๆ แต่ก็กลับไปด้วยความรู้สึกดีๆ และถือว่าที่นี่เป็นอีกหนึ่ง อช ที่อยู่บนเขาและมีจุดเด่นน่าสนใจมากหลายประการเลยทีเดียว ถ้าจะแวะมาเขาค้อแต่อยากได้ความสงบและธรรมชาติเน้นๆ เลยขึ้นมายังหนองแม่นาโลดจ้า

        มาไกล 400 โลเพื่อลมหนาวคืนหนึ่งก็เป็นประการฉะนี้   

แถม

ข้อปฏิบัติก่อนเดินทางไป ***แต่ละอุทยานมีเงื่อนไขแตกต่างกัน โปรดตรวจสอบก่อนเดินทาง***  รายละเอียดเพิ่มเติม
        1.     ได้รับวัคซีนแอสตร้าหรือ ไฟเซอร์ 1 เข็ม ไม่น้อยกว่า 14 วัน
                หรือ  ได้รับวัคซีนอื่นๆ 2 เข็ม ครบตามเกณฑ์ไม่น้อยกว่า 14 วัน
                หรือ มีผลตรวจ ATK หรือ rt PCR แบบมีใบนับรองจากสถานพยาบาล ไม่เกิน 72 ชั่วโมง
                หรือ ติดเชื้อจนหายแล้วไม่น้อยกว่า 28 วันและไม่เกิน 3 เดือน
       2.    จองคิวผ่านแอพ queq ล่วงหน้าไม่เกิน 15 วัน (เพราะจำกัดจำนวนคน)
       3.    ปฏิบัติตามมาตรการโควิด
 
 
ข้อควรรู้  
          1.    ไม่มีไฟฟ้าที่เต๊นท์ ฝากชาร์จที่ศูนย์ได้ ไฟฉายพาวเวอร์แบงค์ต้องพกพา เก็บแบตและแบตสำรองไว้ในที่อบอุ่นไม่งั้นแบตหมดไวมาก(สำหรับอากาศ 11-16 องศาเซลเซียส)  ถ้าจะมาตัวเปล่าเช่าของอุทยาน อาจพกเสื่อรองนั่งนอกเต๊นท์มาเพื่อความสะดวกสบายในการนั่งเล่น ตกดึก ก็เอาแผ่นนั้นมาประยุกต์ ทำทาร์ปกางเหนือเต๊นท์อีกชั้นน่าจะดีไม่น้อย
         2.    มีร้านสวัสดิการ แต่น่าจะเปิดปิดตามเวลาราชการ
         3.    วันหยุดพิเศษ อาจมีขายอาหารกับข้าว
        4.    ระวังเต๊นท์หมด (ถ้าไปค่ำอาจจะต้องลุ้นมากๆ) 
       5.    ฤดูฝนอาจมีทาก
       6.    มีกวาง พี่คนพื้นที่บอก
       7.    พระอาทิตย์ขึ้นที่ศาลาดุสิตาไม่ควรพลาด (อยากไปจัง)
      8.    ธันวาปีนี้หนาวเป็นพิเศษกว่าปีก่อนๆ หูย พี่คนพื้นที่บอกขนาดนี้ ใครอยากหนาวต้องรีบไปจัดแล้วล่ะ
      9.    สร้างขยะให้น้อยที่สุดก็จะดีนะฮ้าฟ  
 


        ขอขอบคุณที่กรุณาอ่านทู้ที่ไม่ค่อยจะมีอะไรหนนี้มาจนจบ และหากมีผู้สนใจแสดงความคิดเห็นสักหนึ่งคอมเม้น จขกท ก็จะส่งมู้ร่วมสนุกกับกิจกรรมห้องบลูเดือนธันวาด้วยคนค่า