แบ่งปันมุมมอง ต่อข่าว การดึง 10 ชาติอเมริกาใต้ เข้าร่วมโม่แข้ง ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก ในปี 2024

ข่าวจากเว็บไซต์ Goal Thailand [ https://bit.ly/3yCrKk3 ] รายละเอียดข่าว
เริ่มปี 2024! ยูฟาดึง 10 ชาติอเมริกาใต้ร่วมโม่แข้งเนชันส์ลีก
...........................................................................................
พอดีผมได้ไปเห็นคอมเมนต์บรรดาแฟนบอล จาก 2-3 แหล่งข่าวฟุตบอล 
หลักๆ แล้วไม่พอใจกับเรื่องนี้ มองว่าเพื่อผลประโยชน์ เงินทองบ้าง มองว่าเลอะเทอะ จะมาโค่นล้มบอลโลกบ้าง บลาๆๆ
แต่ผมกลับมองว่าเป็นข้อดีมากๆ มันคือความเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดประโยชน์ข้อดีกับหลายฝ่าย

มุมมองของผม : ไอเดียนี้มันดีมากๆ แล้วนะครับ ผมมองว่า ยูฟ่า และ กอนเมบอล [ สมาพันธ์ฟุตบอลอเมริกาใต้ ] เค้าวิเคราะห์วางแผนออกมาดีที่สุดแล้ว
ได้ประโยชน์จากทั้ง 2 ทวีป ทั้งการได้โคจรมาเจอกัน ได้มาประลองฝีเท้ากันบ่อยขึ้นจากทีมชาติต่างๆ ใน 2 ทวีป ได้รู้ฝีเท้ากัน ไม่ต้องรอ บอลโลก หรือ คอนเฟดฯ (ที่ยกเลิกจัดไปแล้ว และก็เป็น 1 ในปัจจัยหลัก ที่เป็นต้นไอเดียนี้ เอาการควบรวมกัน แทนที่การแข่ง คอนเฟดฯ เพื่อเปิดโอกาสให้เจอกันบ่อยขึ้น โดย 2 ทวีป ซึ่งเป็นแชมป์บอลโลกมาแล้ว)

ที่สำคัญ ... อำนวยความสะดวก ผู้เล่นตัวหลัก ของบรรดาชาติ อเมริกาใต้ เกิน 40-50% หรือบางชาติ 70% ลงเล่นอยู่ในลีกต่างๆ ของทวีปยุโรป รวมถึงในลีกเอเชีย (เว้นแค่ โบลิเวีย ที่มีน้อยมากๆ แต่ก็มีลูกครึ่งอยู่ใน สเปน, อิตาลี ไม่น้อยเช่นกัน) ถ้าสังเกตุดีๆ ช่วงหลัง ทีมชาติ บราซิล ก็เลือกจะเก็บตัวอุ่นเครื่องที่ ยุโรป แทนที่จะกลับไปเตะที่บราซิล เพราะนักเตะส่วนใหญ่สะดวก รวมไปถึงอาจจะเห็นการเปลี่ยนสัญชาติของผู้เล่นลูกครึ่ง ดาวรุ่งช้างเผือก ที่มองเห็นโอกาสทองนี้ เพราะได้โอกาสในการพิสูจน์ตัวเองอยู่ใกล้แค่เอื้อม ไม่ต้องบินไกลกลับไปทวีปอเมริกาใต้ เป็นส่งผลต่อการตัดสินใจเลือกทีมชาติได้ง่ายขึ้น

อีกหนึ่งประเด็นก็คือ การอำนวยความสะดวกต่อการเดินทางของบรรดาผู้เล่นเหล่านี้
ส่วนบรรดานักเตะที่เล่นลีกในภายในประเทศ จากทวีปอเมริกาใต้ เค้าก็มีอุ่นเรื่อยๆ แทบจะ 1-2 เดือนครั้งอยู่แล้ว โดยเรียกเฉพาะตัวที่เตะในประเทศ ของทวีปอเมริกาใต้ เท่านั้น ยกตัวอย่างก็เช่น ช่วง 1-2 สัปดาห์ก่อน ทีมชาติ ชิลี เอกวาดอร์ หรือ เดือนก่อน โบลิเวีย ปารากวัย อุ่นเครื่องก็ไม่มีตัวจากยุโรป เอาเฉพาะนักเตะฟอร์มดีในลีก หรือผู้เล่นในลีกสหรัฐฯ มาลงเตะ

โปรแกรมจะเพิ่มขึ้ันมั้ย !? 
ผมมองว่าไม่เลยนะ อย่างมากสุดๆ ก็แค่ 1 เกม ต่อชาติ อย่าลืมว่ามันสามารถขยับสล็อตทีมจาก ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก บี, ซี, และ ดี ถ่ายโอนลงไป เพื่อปรับสมดุลลีกได้ อย่างลีก ดี ที่อยู่ล่างสุด ตอนนี้ก็มีแค่ 7 ชาติ เท่านั้นเอง แหว่งอยู่เลย ต้องเล่น 2 กลุ่ม 4 ทีม กับ 3 ทีม อยู่เลย

ไม่ดึงทีมชาติจาก ทวีปแอฟริกา หรือเอเชีย รวมทั้ง โอเชียเนีย มาเพิ่ม !?
ก็อย่างที่บอกไป ถ้ามองเห็นข้อเท็จจริง จริงๆ แล้วจะรู้ดีว่า ตลอด 92 ปี ที่ผ่านมา ผ่านการแข่งขันมา 21 ครั้ง ก็มีอยู่เพียงแค่ 2 ทวีปนี้เท่านั้น ที่สามารถเป็นแชมป์บอลโลกได้ แล้วโปรแกรมการแข่งขันย่อยในบรรดาทวีปแอฟริกา กับเอเชีย ก็เหมาะสมลงตัวแล้ว ทั้งการแข่ง แอฟริกัน คัพ ออฟ เนชั่นส์ หรือ เอเชียน คัพ (ซึ่งมีรอบคัดเลือกให้เตะกันเพลินๆ เลย 5-7 เกม ก่อนทัวร์ฯ หลัก) นี่ยังไม่นับรวมรายการในทวีปย่อยไม่ว่าจะเป็น CECAFA, CEMAC, COSAFA, WAFU หรือแม้แต่ CAF African Nations Championship ส่วนในเอเชีย ก็ทราบกันดีอยู่แล้ว AFF, EAFF, SAFF, CAFA, WAFF ยังๆ ยังไม่หมด .. ยังไม่รวมรายการที่ควบรวม ทวีป แอฟริกา กับ เอเชียตะวันตก อย่าง ฟีฟ่า อาหรับ คัพ รายการสดใหม่ล่าสุดอยู่ แล้วมองมุมกลับ บรรดาทีมชาติใน อเมริกาใต้ มีทัวร์นาเมนท์ไหนให้ได้ลงเตะ ประลองฝีเท้าบ้าง นอกจาก โกปา อเมริกา ทีมน้อยจนต้องไปดึง ญี่ปุ่น, กาตาร์, เฮติ ฯลฯ มาช่วยเติมเต็ม  อืมม .. เหมือนจะลืมฝั่งของ โอเชียเนีย ไป ก็มีทัวร์นาเมนท์อย่าง OFC Nations Cup เป็นทัวร์หลัก รองลงมาก็มีให้เตะเพลินๆ ทั้ง Pacific Games, Island Games หรือ CONIFA World Football Cup ฝั่งของ ประเทศ ออสเตรเลีย นี่สบายๆ เพราะเลือกมาอยู่ในเอเชีย จะลงเตะ เอเอ็ฟเอ็ฟ ซูซุกิ คัพ ยังได้เลย แต่สมาคมเขาปฏิเสธไม่เข้าร่วมเอง

ส่วนมุมมอง การมีอยู่ ของ เนชั่นส์ ลีก มีไปทำไม คงไม่ต้องอธิบายนะครับ ถ้าคนมีตรรกะดีๆ เข้าใจโครงสร้างฟุตบอล จะรู้ดีว่ามันมีประโยชน์มากๆ ผมขอไม่อธิบายเพิ่มละกัน เกี่ยวกับเรื่องนี้

ประมาณนี้ละกันนะครับ ผมเห็นคอมเมนท์หลายที่ มองแล้วขัดลูกตามากๆ เลยมาระบายมุมมอง ในนี้ละกันนะ ^^
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่