ตั้งแต้ยุคโซเชียล ข้อมูลข่าวสารก็เดินทางเร็วขึ้น ใครทำอะไรผิด พูดผิด ทำไม่ดี หรือทำอะไรปกติแต่เป็นกระแส ก็จะเป็นที่สนใจในฟีดข่าว ของแอพดัง ๆ อย่าง Facebook YouTube หรือ Twitter อะไรแนวนี้
การ Comments หรือ แสดงความคิดเห็นก็ทำได้ไง โดยคนอื่นไม่สามารถรู้ว่าเราเป็นใครก็ทำได้
คำถามคือ เวลามีเหตุการณ์ตั้งแต่ผัวเมียทะเลาะกัน ปัญหาสังคม จนใหญ่ไปถึงปัญหาการเมืองจองประเทศ ก็จะมีผู้คนหลากหลายได้วิพากษ์วิจารณ์ตามมุมมองของตัวเอง แต่บางคนก็เน้นพิมพ์เอาซะใจจนบางครั้งก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้ อย่างคำว่า ประเทศไทยขับเคลื่อนด้วยการด่า
แต่อีกมุมหนึ่ง หากเรากลายเป็นคนที่ถูกทัวร์ลง หรือไม่เห็นด้วยกับการไปรุมด่าใครที่เขาอาจจะทำผิดแค่เล็กน้อยหรือไม่ได้ทำอะไรผิดเลยแต่แค่อาจจะไม่ถูกใจคนส่วนใหญ่
คำถามคือ การที่มีดราม่าบ่อย ๆ เป็นเพราะคนไทยใส่ใจในทุกเรื่องรึเปล่า ถ้ารู้สึกว่าอะไรที่มันน่าสนใจ แปลก หรือเรื่องดาราคนดัง จะต้องมีการปั่นกระแส ต้องมีการแฮชแท็ก สิ่งเหล่านี้บางทีก็รู้สึกว่าเป็นการขับเคลื่อนสังคมให้ไปถูกที่ถูกทางใช่ไหมครับ ??
คล้ายเหมือนเวลาใครทำอะไรไม่เข้าพวก จะถูกครกบุ่มใหญ่ในสังคมนั้นนินทา จนทนไม่ไหวก็ต้องปรับเปลี่ยนตัวเองให้เข้าสังคม
หากใครทำอะไรพิสดาร ป่าเถื่อน ก็เตรียมตัวโดนทัวร์ลง ซึ่งอาจจะเจ็บปวดกว่าการถูกลงโทษตามกฏหมายสะอีก
อย่างประเด็นการบูลลี่ การเหยียดเพศ ก็มักเป็นเรื่องดราม่าบ่อยในบ้านเรา ให้ได้ถกประเด็น วิเคราะห์ค้นหาสิ่งที่ถูกต้อง
แต่ไม่เข้าใจว่า เรื่องปกติ ทำไมมักจะต้องทำข่าวมีข่าวมห้เป็นประเด็น อย่างเช่น วิถีชีวิตประจำวัน ลุงพล ที่บางทีไม่เกี่ยวข้องกับคดีเลย
หรือเรื่องดารา เลิกกัน มีแฟนใหม่ ทำไมคนส่วนใหญ่จึงให้ความสนใจ หรือไม่ต้องถึงดารา แค่คนดังในโลกโซเชียล หรือไฮโซ ทำไมเรื่องปกติแบบนี้จึงมีพื้นที่ในสื่อ แสดงว่าคนไทย สนใจเรื่องทั่วไปปกติคนอื่นมาก
อย่างรายการโหนกระแส อีปิคแต่ละครั้งเนื้อหาน่าสนใจ น่าตีแผ่มาก รายการดีมาก แต่มีครั้งหนึ่ง เป็นเรื่อง แย่งผัวแย่งเมียกัน สุดท้ายรู้สึกว่าทำไมได้ออกรายการ เพียงแค่มันเป็นประเด็นดราม่าหรือมันน่าดราม้าตรงไหน
สุดท้ายผมเฝไม่เข้าใจว่าทำไมเรื่องปกติ ๆ ทำไมดราม่าได้ ไม่เดินจริงใช่ไหมครับที่ว่าคนไทยดราม่าทุกเรื่องเลย ??
คิดว่า การดราม่าในหลาย ๆ เรื่อง เป็นการพัฒนาสังคมไหม แล้วคนไทยดราม่าบ่อยเกินไหมครับ ?
การ Comments หรือ แสดงความคิดเห็นก็ทำได้ไง โดยคนอื่นไม่สามารถรู้ว่าเราเป็นใครก็ทำได้
คำถามคือ เวลามีเหตุการณ์ตั้งแต่ผัวเมียทะเลาะกัน ปัญหาสังคม จนใหญ่ไปถึงปัญหาการเมืองจองประเทศ ก็จะมีผู้คนหลากหลายได้วิพากษ์วิจารณ์ตามมุมมองของตัวเอง แต่บางคนก็เน้นพิมพ์เอาซะใจจนบางครั้งก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้ อย่างคำว่า ประเทศไทยขับเคลื่อนด้วยการด่า
แต่อีกมุมหนึ่ง หากเรากลายเป็นคนที่ถูกทัวร์ลง หรือไม่เห็นด้วยกับการไปรุมด่าใครที่เขาอาจจะทำผิดแค่เล็กน้อยหรือไม่ได้ทำอะไรผิดเลยแต่แค่อาจจะไม่ถูกใจคนส่วนใหญ่
คำถามคือ การที่มีดราม่าบ่อย ๆ เป็นเพราะคนไทยใส่ใจในทุกเรื่องรึเปล่า ถ้ารู้สึกว่าอะไรที่มันน่าสนใจ แปลก หรือเรื่องดาราคนดัง จะต้องมีการปั่นกระแส ต้องมีการแฮชแท็ก สิ่งเหล่านี้บางทีก็รู้สึกว่าเป็นการขับเคลื่อนสังคมให้ไปถูกที่ถูกทางใช่ไหมครับ ??
คล้ายเหมือนเวลาใครทำอะไรไม่เข้าพวก จะถูกครกบุ่มใหญ่ในสังคมนั้นนินทา จนทนไม่ไหวก็ต้องปรับเปลี่ยนตัวเองให้เข้าสังคม
หากใครทำอะไรพิสดาร ป่าเถื่อน ก็เตรียมตัวโดนทัวร์ลง ซึ่งอาจจะเจ็บปวดกว่าการถูกลงโทษตามกฏหมายสะอีก
อย่างประเด็นการบูลลี่ การเหยียดเพศ ก็มักเป็นเรื่องดราม่าบ่อยในบ้านเรา ให้ได้ถกประเด็น วิเคราะห์ค้นหาสิ่งที่ถูกต้อง
แต่ไม่เข้าใจว่า เรื่องปกติ ทำไมมักจะต้องทำข่าวมีข่าวมห้เป็นประเด็น อย่างเช่น วิถีชีวิตประจำวัน ลุงพล ที่บางทีไม่เกี่ยวข้องกับคดีเลย
หรือเรื่องดารา เลิกกัน มีแฟนใหม่ ทำไมคนส่วนใหญ่จึงให้ความสนใจ หรือไม่ต้องถึงดารา แค่คนดังในโลกโซเชียล หรือไฮโซ ทำไมเรื่องปกติแบบนี้จึงมีพื้นที่ในสื่อ แสดงว่าคนไทย สนใจเรื่องทั่วไปปกติคนอื่นมาก
อย่างรายการโหนกระแส อีปิคแต่ละครั้งเนื้อหาน่าสนใจ น่าตีแผ่มาก รายการดีมาก แต่มีครั้งหนึ่ง เป็นเรื่อง แย่งผัวแย่งเมียกัน สุดท้ายรู้สึกว่าทำไมได้ออกรายการ เพียงแค่มันเป็นประเด็นดราม่าหรือมันน่าดราม้าตรงไหน
สุดท้ายผมเฝไม่เข้าใจว่าทำไมเรื่องปกติ ๆ ทำไมดราม่าได้ ไม่เดินจริงใช่ไหมครับที่ว่าคนไทยดราม่าทุกเรื่องเลย ??