มีธุระต้องไปซื้อของย่านสำเพ็งหลายอย่าง แฟนก็เลยชวนให้จองโรงแรมแถวเยาวราช จะได้เอารถไปจอดได้แบบไม่ต้องกังวลค่าที่จอด แล้วก็ถือโอกาสตระเวนกินหลายๆ ร้านด้วย ช่วงที่เราไปคือวันที่ 4 - 5 ธ.ค. 2564 เป็นช่วงที่กรุงเทพอากาศหนาวพอดี ทำให้เดินเที่ยวสนุกมาก



เริ่มจากจองโรงแรมก่อน แฟนเราให้จองที่ Grand China Hotel โดยใช้สิทธิ์เราเที่ยวด้วยกัน (ทะเบียนบ้านอยู่สมุทรปราการ) ห้องที่ถูกที่สุดของที่นี่คือห้องแบบ Superior วิวเมือง ไม่รวมอาหารเช้า ราคา 510 บาท ข้อดีของโรงแรมนี้คือมีที่จอดรถ และอยู่ในรัศมีที่สามารถเดินเที่ยวเยาวราช สำเพ็ง ไปจนถึงคลองโอ่งอ่าง พาหุรัด และดิโอลด์สยามได้เลย



วันเสาร์เราขับรถไปจอดที่โรงแรมตอนสายๆ แต่ยังไม่เช็คอิน เพราะเช็คอินได้ตอนบ่ายสอง จอดรถแล้วก็ไปเดินหาของกินก่อนเลย

---

ร้านแรกเริ่มที่ จกโต๊ะเดียว ร้านอยู่ในตรอกอิศรานุภาพ เป็นตรอกแคบๆ ที่อยู่ระหว่างสถานี MRT วัดมังกร กับร้านทองเอี่ยเซ่งเฮง ซื้อเกี๊ยวกุ้งลวกใส่กล่อง 10 ตัว 100 บาท เป็นเกี๊ยวกุ้งที่รสชาติดีมาก กัดไปเจอกุ้งเป็นตัวเลย ไม่เสียชื่อมิชลิน

---

ร้านที่สอง นายหมงหอยทอด เป็นร้านมิชลินอีกร้าน สั่งออส่วนกับออลัวะมาอย่างละจาน จานละ 100 บาท แป้งกรอบมาก หอยนางรมสด น้ำจิ้มรสชาติดี จานไม่ใหญ่มาก ทำให้กระเพาะเรามีพื้นที่ไปกินอย่างอื่นต่อได้อีก

---

ก่อนจะไปต่อร้านที่สาม ขอเข้าวัดทำบุญก่อน วัดมังกรกมลาวาส หรือ วัดเล่งเน่ยยี่ วัดที่มีชื่อเสียงเรื่องการสะเดาะเคราะห์ของคนปีชง ช่วงนี้วัดกำลังก่อสร้างชั้นเก็บน้ำใต้ดินเพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วมขังเวลาฝนตกหนัก ทางเดินเข้าวัดอาจไม่สะดวกนัก














เนื่องจากสถานการณ์โควิด ตอนนี้วัดเลยเปลี่ยนวิธีเสี่ยงเซียมซีมาเป็นแบบดิจิทัล ใช้มือถือสแกน QR Code ได้เลย

---

ไปกินต่อร้านที่สาม ควรพอละมั้ย เอ้ย! ครัวพรละมัย อาหารร้านนี้เสิร์ฟบนกระทะร้อน เราสั่งเซี่ยงไฮ้ผัดขี้เมารวมมิตร 70 บาท มีเนื้อไก่ กุ้ง ปลาหมึกกรอบ ซอสผัดได้เข้าเส้นดีมาก แต่ตอนกินต้องระวังหน่อย ร้อนลวกปากเลย ส่วนของแฟนสั่งก๋วยเตี๋ยวคั่วกรอบทะเลยักษ์ใหญ่ 100 บาท มีกุ้งตัวใหญ่ทอดพร้อมเปลือก และปลาหมึกชิ้นใหญ่ๆ เราว่าจานนี้เลี่ยนไปหน่อย

---

ร้านที่สี่ กินของเลี่ยนๆ มาแล้วกระหายน้ำ แวะร้าน น้ำบ๊วยเลมอน ดื่มน้ำบ๊วยเลมอนให้สดชื่นหน่อย มีขายทั้งแบบใส่แก้วดื่มเลย กับใส่ขวดกลับบ้าน วันนี้ซื้อแบบแก้วก่อน เดี๋ยวพรุ่งนี้จะมาซื้อแบบขวดอีกที

---

มื้อเที่ยงอิ่มแล้ว กลับโรงแรมไปเช็คอินกัน โรงแรม Grand China Hotel เป็นโรงแรมที่ไม่ใหม่แล้ว แต่สภาพดูดี ห้องพักสะอาดสะอ้าน ถือว่าคุ้มค่าเมื่อเทียบกับเงิน 510 บาท ที่ชอบอีกอย่างคือพักที่นี่จอดรถฟรี จอดได้ตั้งแต่ก่อนเช็คอิน จนเช็คเอาต์แล้วจะไปเดินเที่ยวต่อแล้วค่อยกลับมาเอารถออกก็ได้ ซึ่งถ้ามาจอดค้างคืนแบบไม่พักที่นี่ ต้องเสียค่าจอดเป็นพันเลย










ในห้องมี Walk-in Closet เล็กๆ ด้วย เปิดประตูแล้วจะเจอพื้นที่ให้วางสัมภาระ แขวนเสื้อผ้าได้ เก็บของไว้ในนี้แล้วปิดประตู ห้องจะดูเรียบร้อยมาก



ที่นี่มีฟิตเนสและสระว่ายน้ำด้วย อุปกรณ์ในฟิตเนสค่อนข้างเยอะ แต่สระว่ายน้ำปิดปรับปรุงอยู่ เลยไม่ได้ขึ้นไปถ่ายรูป

---

ได้เวลาเดินช้อปปิ้งแล้ว ถนนช้อปปิ้งสำเพ็งเป็นตรอกแคบๆ ที่คนเดินสวนกันไปมา บางทีก็มีมอเตอร์ไซค์วิ่งส่งของ มีหลังคากันแดดกันฝน สองข้างทางเต็มไปด้วยร้านขายของราคาถูกมากมาย นึกถึงตอนไปเดิน Shopping Street ที่ญี่ปุ่น แต่ทางเดินของสำเพ็งแคบกว่ามาก ถึงจะแคบแต่ก็เดินสนุก เพราะของน่าซื้อเยอะมาก ส่วนตัวเราชอบมากกว่าเดินเจเจอีก (ถ่ายรูปมาไม่เยอะ ถือของพะรุงพะรังอยู่)





เดินไปจนถึงสะพานหันที่ข้ามคลองโอ่งอ่าง



มีคุณลุงคุณป้ามาร้องเพลงด้วย น่ารัก



เดินข้ามคลองไปก็จะเป็นย่านพาหุรัด แล้วก็ไปถึงดิโอลด์สยาม ห้างสุดฮิตของวัยรุ่นยุค 60 ช่วงนี้มีซุ้มไฟคริสต์มาสด้วย



ขากลับฟ้าเริ่มมืด ถ่ายไฟคลองโอ่งอ่างหน่อย




กลับมาถึงเยาวราช สีสันของเยาวราชยามค่ำคืน

---

ถึงเวลามื้อเย็น (กระเพาะอาหารบอก ช่วยปราณีตูด้วย) ร้านที่ห้าของทริปนี้ ราดหน้าอยู่อี่ หมูร้านนี้อร่อย ส่วนเส้นกับน้ำราดหน้าธรรมดา

---

ร้านที่หก ปาท่องโก๋เสวย มิชลินอีกร้าน ปาท่องโก๋ชิ้นใหญ่ดี แต่ส่วนตัวรู้สึกว่ารสชาติธรรมดาๆ จืดๆ ถ้ากินเปล่าๆ จะไม่อร่อย ต้องจิ้มสังขยาถึงจะอร่อย เป็นของกินเล่นที่ตัดกำลังมากเลย

---

ร้านที่เจ็ด มังกรขาว เป็นร้านบะหมี่เกี๊ยวหมูแดงที่ดีงาม บะหมี่อร่อย เกี๊ยวอร่อย น้ำซุปอร่อย ทุกอย่างเข้ากันดีมาก

---

ร้านที่แปด ปิดท้ายวันนี้ด้วยของหวาน Sweettime เป็นอีกหนึ่งร้านของหวานชื่อดังของเยาวราช คนต่อคิวเยอะมาก เรากินไม่ไหวแล้ว แฟนเลยสั่งทับทิมกรอบมาถ้วยเดียว เห็นแฟนบอกว่าน้ำกะทิหอมกลิ่นเทียนอบ อร่อยมาก