สรุปเเล้ว ธิดาวานร จบตามเรื่องย่อละครมั้ย

เรื่องย่อยาว
หนูน้อย เมงกาเลีย (ด.ญ.ชาลิสา คูคีรีเขตต์) ลูกของแม่นางทรายคำ (ชรินพร เงินเจริญ ) ภรรยาหัวหน้าชนกลุ่มน้อยในพื้นตะเข็บชายแดนไทยทางเหนือเล่าลือกันว่า ที่ตั้งของชนเผ่านั้นมีขุมมหาสมบัติมากมายเก็บไว้ สะแมะแอ (ชาลี กรรณสูต) ผู้พ่อ แสนไท (พบศิลป์ โตสกุล) ลูกชาย มือขวามือซ้ายของ เจ้านันตะทร (รติพงษ์ ภู่มาลี )ทรยศอยากได้สมบัติทั้งหมดจึงฆ่าเจ้านันตะทรและทุกคนตายเกือบหมด เหลือแต่แม่นางทรายคำกับแมงกาเลียลูกสาวตัวน้อยแบเบาะ สะมะแอ แสนไท จับทรายคำไปขู่บูชายันต์ให้บอกที่ซ่อนสมบัติที่เหลือ ละเอ (กุสุมา ตันสกุล) สาวใช้ผู้ภักดีเอาหนูน้อยไปซ่อนมิดชิด ขณะที่กำลังจะเผาทรายคำเกิดพายุใหญ่ฟ้าผ่า ทรายคำหลุดจากพันธนาการ ละเอดักรอรีบมอบลูกน้อยให้แม่นางทรายคำ ทรายคำจับลูกน้อยใส่ตะกร้าใส่แพลอยมาตามลำธารพร้อมกับอธิษฐานขอให้มีผู้ใจบุญนำไปเลี้ยงดู ที่ข้อมือของหนูน้อยมีถุงตุ้มหูเพชรขาววาววับเม็ดใหญ่หลายกะรัต ใครใส่ตุ้มหูนั้นจะมีเสียงคลื่นนับเงินดังมาตลอดจะกลายเป็นผู้มีเงินมีทองมากมาย สวมล็อคเก็ตตรงกลางสลักชื่อเป็นภาษาอังกฤษว่า MENGKAIIA ห้อยไว้ที่คอ มีแหวนกังหันเพชรหมุนได้ ปะปนอยู่ในหีบที่ใส่เพชรสวยงามขาววาววับหลายกะรัตจำนวนหนึ่ง หีบนี้ผูกติดไว้อยู่ในตะกร้าทั้งหมดคือสมบัติตกทอดส่วนหนึ่งของตระกูลแม่นางทรายคำ เมื่อส่งลูกน้อยใส่แพแล้ว แม่นางทรายคำและละเอต่างวิ่งหนีไปคนละทางเพื่อเบนความสนใจพวกสะแมะแอ ทรายคำวิ่งหนีไปจนมุมบนหน้าผาน้ำตกตัดสินใจกระโดดน้ำตกหายไปกับสายน้ำ ส่วนละเอหนีหายไป แสนไทและสะแมะแอกลับอาณาจักรในเขตไทย แต่ยังไม่เลิกราที่จะตามหาสมบัติทั้งหมด
ดำรง (พลรัตน์ รอดรักษา) และ บัวบาน (ชัชฎาภรณ์ ธนันทา) เศรษฐีสามีภรรยาหนุ่มสาวไม่มีลูกไปอธิษฐานขอจากวัดศักด์สิทธิ์แถวชายแดน ขากลับแวะพักน้ำตกริมลำธารพบแพน้อยลอยมาพร้อมเสียงร้องไห้ของเด็ก มีเด็กตัวน้อยแบเบาะนอนในตะกร้าพร้อมสมบัติดังกล่าว ทั้งสองตั้งใจจะตามหาพ่อแม่ของเด็กน้อยและคืนสมบัติให้ ด้านละเอซัดเซหนีตายไปหาญาติอีกชนเผ่าหนึ่งใกล้ๆกัน ละเอร่ำเรียนวิชาสัมผัสที่หก ส่งโทรจิตรู้เหตุการณ์ภัยล่วงหน้า ละเอทดสอบร้องเรียกหาเมงกาเลีย ได้ยินเสียงเด็กร้องแว่วมาจากฝั่งไทยจึงข้ามมาหางานทำที่ฝั่งไทย ในที่สุดละเอก็พบที่อยู่เมงกาเลีย ละเอไปสมัครเป็นพี่เลี้ยงเด็กปิดเรื่องที่ผ่านมาไว้เงียบสนิท แนะนำให้ดำรงและบัวบานตั้งชื่อหนูน้อยว่าเมงกาเลียตามที่สลักในล็อคเก็ต ส่วนชื่อจริงสองสามีภรรยาตั้งว่าอิยะวดี
แม่นางทรายคำลอยมาตามกระแสลำธารมาขึ้นที่ฝั่งไทยเดินกระเซอะกระเซิงเข้าไปในป่าพบว่าแสนไทและสะแมะแอแอบสร้างกองกำลังอยู่ในป่าลึกเมืองไทย ทรายคำหลบหนีอยู่ประมาณสี่ปีจึงได้พบบัวบาน ทั้งสองพูดกันไม่รู้เรื่อง เมื่อทรายคำเอ่ยชื่อเมงกาเลีย บัวบานจึงพอรับรู้ว่านี่อาจคือแม่ของหนูน้อย บัวบานเข้าใจว่าทรายคำอาจพอรู้ภาษาอังกฤษ เพราะล็อคเก็ตของเมงกาเลียสลักเป็นชื่อภาษาอังกฤษจึงลองสื่อสารเป็นภาษาอังกฤษ ทั้งสองกลายเป็นเพื่อนกันรอนแรมหนีอยู่ในป่าด้วยกัน คิดว่าจะหาทางกลับเข้าเมือง จนวันหนึ่งเสือของแสนไทหลุดออกมาทำร้ายหญิงทั้งสอง ทรายคำตัดสินใจเสียสละวิ่งเข้าใส่ให้เสือกินแล้วเข้าสิงในร่างเสือ ก่อนตายทรายคำฝากฝังกาสะลองกับบัวบานและสัญญาว่าจะช่วยปกป้อง บัวบานให้ปลอดภัย แสนไทตามมาเอายิ้มลับพบบัวบานจึงจับไปเป็นทาส ทรายคำในร่างเสืออาละวาดและหลบหนีจากแสนไทมาเร่ร่อนในป่าเพื่อออกตามหาเมงกาเลียตามที่บัวบานขอ
สี่ปีผ่านไป ก่อนที่จะเกิดเหตุร้ายกับบัวบานจนไปพบทรายคำ ดำรงไปกรุงเทพตามลำพังรู้จักกับ นาถยา (รัตติกร ขุนโสม ) หม้ายสาวลูกติดชื่อ เอมฤดี (ด.ญ.ธัญญลักษณ์ เขียวเกลี้ยง) อายุ 6 ปี นาถยาหมายเกาะดำรงแสร้งมาติดต่องานทางเหนือ มอมไวน์ใส่ยานอนหลับระหว่างคุยงาน กลายเป็นภรรยาน้อยลับๆของดำรง แสร้งทำอ่อนน้อมน่าสงสารกับบัวบานจนได้มาพักในบ้านเดียวกับบัวบาน เมื่อลับหลังดำรง นาถยาพูดจาทิ่มแทงเย้ยหยันให้บัวบานชอกช้ำใจจนบัวบานขับรถหนีไปบ้านพักผ่อนบนเขา นาถยาจ้างคนมาแอบตัดสายเบรกไว้แล้ว ระหว่างขึ้นเขา รถของบัวบานเสียหลักตกหน้าผาหายไป ดำรงกลับมาเสียใจมากส่งคณะผู้เชี่ยวชาญออกตามหาพบแค่ซากรถไม่มีวี่แววของบัวบาน บัวบานกลายเป็นบุคคลสาบสูญแต่ดำรงก็ไม่หยุดความพยายามที่จะตามหาบัวบาน นาถยาทำรักใคร่เมงกาเลียต่อหน้าผู้คน ลับหลังทั้งตนและเอมฤดีรังแกเมงกาเลีย ละเอบอกดำรง แต่ดำรงกลับว่าละเอใส่ร้ายสองแม่ลูก เมื่อดำรงไปกรุงเทพฯ นาถยาแสร้งให้ละเอไปรับของจากฝั่งโน้นที่สั่งไว้ และจับเมงกาเลียใส่รถไปปล่อยที่หน้าผาพร้อมล็อคเก็ตสลักชื่อเมงกาเลียบอกให้รอที่ปากเหว แม่บัวบานจะมารับ
วันเดียวกัน พนา (ด.ช.กันตพงษ์ เพชรสิทธิ์ทวี) อายุ 10 ปี เดินทางมาทางรถไฟกับ นายพินิจ (ดิลก ทองวัฒนา)นางอรุณี (สาวิตรี สามิภักดิ์ ) พ่อและแม่ ทั้งสองเป็นนักธุรกิจอัญมณีชื่อดังทางภาคเหนือหลบเลี่ยงการเดินทางโดยเครื่องบิน เพราะต้องการหนี มาเฟียคำรณ (นวพล ภูวดล) ที่กำลังตามล่าจี้กังหันเพชรเม็ดใหญ่มากหลายสิบกะรัตที่ร่ำลือกันว่าเป็นกังหันวิเศษที่สุดหากได้ครอบครองจะกลายเป็นผู้โชคดีมหาเศรษฐี กังหันนี้เพื่อนสนิทของทั้งสองฝากไว้ก่อนตาย ทั้งสองเอากังหันเพชรหมุนใส่ลูกเทนนิสติดกาวไว้เป้ของลูกชายสั่งให้สะพายเป้ติดหลังไว้ตลอดเวลา ระหว่างทาง รถไฟเสียหลักชนประสานงาไถลออกนอกรางผู้คนต่างหาทางออกจากรถไฟ พนาตามหาพ่อแม่จนเดินพลัดหลงไปในป่าลึก ส่วนพ่อแม่ปลอดภัยแต่มือถือตกหายทำให้ติดต่อพนาไม่ได้ เมงกาเลียรอแม่ไม่มาจึงปีนไปที่กิ่งไม้ซึ่งยื่นไปในเหวเพื่อมองหาแม่ กิ่งไม้ไหวเอนสั่นเมงกาเลียตกใจร้องไห้ลั่นป่า พนาได้ยินเสียงจึงรีบไปดู พนาตัดสินใจช่วยไต่ไปที่กิ่งไม้ใกล้ๆกัน เป้ของพนาและมือถือพร้อมพาวเวอร์เแบงค์ในเป้เกี่ยวกับกิ่งไม้หลุดไปจากหลังขณะไปช่วยเด็กหญิง เด็กหญิงดีใจโผนมาหาพนาแต่กิ่งไม้หักพลัดตกลงไปเบื้องล่างเสียก่อน เมงกาเลียกรีดร้องจนเสียงหายไปก้นเหว พนาตกใจเสียใจมาก ลงโทษตัวเองว่าทำให้เด็กหญิงตกเหวตาย ความจริงเมงกาเลียตกลงไปค้างอยู่บนกิ่งไม้ด้านล่างใกล้ก้นเหว
พรานเส็ง (อาฉี เสียงหล่อ) กับพวกเข้ามาจับสัตว์ไปขาย ฆ่าแม่สัตว์เพื่อเอาลูก แม่ลิงตัวหนึ่งโดนยิงบาดเจ็บและโดนแย่งลูกไป แม่ลิงไปนั่งเสียใจใช้สมุนไพรรักษาแผลใต้ต้นไม้ได้ยินเสียงเด็กร้องไห้จึงพาไปไว้ในถ้ำ มีเสียงโทรศัพท์พนาดังขึ้นแม่ลิงกดโน่นนี่ที่สุดรับสายได้ มีเสียงพูดพ่อแม่พนาพูดกันไม่รู้เรื่องจึงเลิกลา
พ่อแม่พนาตามหาพิกัดมือถือของพนาจนพบพนาทราบว่าเป้ตกลงไปในเหวลึก แต่มีการรับสายตอนที่โทรหาพนาแสดงว่ามีผู้พบเป้และกังหันเพชรหมุนแน่นอน แม่ลิงเลี้ยงเมงกาเลียแทนลูก เมงกาเลียรักแม่ลิง เรียกแม่ลิงว่าแม่มา พนาปิดเรื่องเด็กหญิง ภาวนาให้เด็กคนนั้นรอดชีวิต พนาลองโทรหาเบอร์ตนเอง มีการรับสายและมีเสียงตอบเป็นเสียงลิงและเสียงเด็กพูดมาว่า “แม่มา” พนาพยายามพูดให้อีกฝ่ายพูดอย่างอื่นจะได้รู้ว่าเป็นใครก็ไร้ผล พนาต่อหาอีกหลายครั้งจนที่สุดไม่มีผู้รับสายเนื่องจากแบตเตอร์รี่หมด พนานึกถึงและฝันร้ายถึงเด็กน้อยเสมอ เมงกาเลียฝันดีถึงพนาตลอดมาเช่นกัน ดำรงใจสลายเรื่องเมงกาเลียหาย นาถยาแสร้งโทษตนเองจะฆ่าตัวตายแต่ดำรงห้ามไว้ ละเอจับสัมผัสโทรจิตจากเมงกาเลียได้ลางๆจากที่ไกลๆ จึงมั่นใจว่าเมงกาเลียยังไม่ตาย ดำรงเริ่มเชื่อละเอ และนาถยาตกใจมาก
สิบปีต่อมา นาถยาคาดคั้นให้ดำรงจดทะเบียนตามสัญญา แต่คืนนั้นดำรงฝันถึงบัวบานและเมงกาเลียมาร้องไห้ตรงหน้า ดำรงเปลี่ยนใจโดยไม่บอกสาเหตุกับนาถยาขอเวลาอีกสามปี นาถยาผิดหวังแอบโทษละเอยุยง เมงกาเลียโตขึ้นเป็นเด็กสาวสวยงามใบหน้าของเมงกาเลียคือใบหน้าเดียวกับทรายคำ (ชรินพร เงินเจริญ ) แต่โดนความมอมแมมบดบังจนดูคล้ายปีศาจสกปรก เมงกาเลียสามารถพูดจากับสัตว์และสื่อสารกับสัตว์ ห้ามสัตว์ทะเลาะกัน นำฝูงงู ฝูงช้าง ฝูงนก ฝูงแมลงไปต่อสู้ขับไล่ผู้บุกรุกป่า เมงกาเลียรักแม่ลิง รักต้นไม้ทุกต้น รักป่าและลำธาร เมงกาเลียมักมีปัญหากับพวกนายพรานเส็งที่ยังคงมาจับลูกสัตว์ไปขายไปเล่นละครสัตว์ ไปขายนักมายากล มาเฟียคำรณยังคงตามหากังหันเพชรหมุน แสนไทสะแมะแอยังคงตามหา ตุ้มหูเพชรเสียงคลื่นนับแบงค์และเพชรที่ทรายคำเอาหลบหนีมา ชาวบ้านเข้าใจว่าเมงกาเลียคือภูตผีมีอิทธิฤทธิ์คุมพวกฝูงสัตว์มาก่อกวนผู้คน ชาวบ้านหวาดกลัวหาหมอผีมาไล่แต่ไม่สำเร็จ หรือทำให้เมงกาเลียเกรงกลัว ละเอยังติดต่อโทรจิตส่งเสียงเรียกหาเมงกาเลีย เมงกาเลียได้ยินเสียงละเอเรียก พูดเลียนตามเสียง เอ่ยคำว่าเมงกาเลียได้ เมงกาเลียยังมีมือถือของพนาที่ตกรุ่น เมงกาเลียหยิบมาเล่นลองทำเลียนแบบตามที่แอบดูชาวบ้านทำ บางวันติดต่อคนได้แต่พูดกันไม่รู้เรื่อง กดเล่นจนกระทั่งพนารับสาย ได้ยินเสียงแม่มา แม่มา พนากดโทรกลับ ติดต่อกันไปมาจนพาวเบอร์แบงค์แบตหมดอีก
แม่นางทรายคำสิงอยู่ในร่างเสือของแสนไทคิดถึงลูกออกตามหาลูก พบเมงกาเลียอยู่กับแม่ลิง แอบไปเฝ้าดูเมงกาเลียเสมอๆ แรกๆ แม่ลิงตกใจกลัวพาเมงกาเลียหนีเตลิด ภายหลังยิ้มลับช่วยแม่มากับเมงกาเลียให้ปลอดภัยจากเสืออีกตัวทำให้แม่มากับเมงกาเลียเลิกกลัวเสือทรายคำ แรมสิบห้าค่ำเดือนเสือทรายคำจะกลายร่างเป็นหญิงสาวสวย แต่ขายังเป็นเสือตัวเป็นหญิงสาวมาหาเมงกาเลีย มายื่นมือหา ร้องเพลงกล่อมเด็กบ้างแต่เป็นอีกภาษา เรียกเมงกาเลียว่าเมงกาเลีย บางครั้งมากวักมือเรียกเมงกาเลียจนเล่าขานไปทั่วว่าป่าแห่งนี้มีทั้งเสือสมิงและปีศาจประหลาด แต่หากว่าพบเจอพวกแสนไท สะแมะแอ ทรายคำจะกลายร่างส่วนบนเป็นหน้าเสือ ส่วนล่างเป็นมนุษย์ เมงกาเลียเคยประหลาดใจเสมอยามที่มองหน้าตนเองในลำธาร หน้าของเมงกาเลียกลับไปเหมือนใบหน้าของภูตวิญญาณเสือที่เคยมาหามาช่วย
พนาเข้าป่า สืบร่องรอยของเด็กผู้หญิงน้อย เฉียดกันไปมากับเมงกาเลีย เมงกาเลียมักเป็นคนเห็นพนา เมงกาเลียชอบใจพนามาก เพราะดูใจดีอ่อนโยนและรักป่า รักต้นไม้รักสัตว์ เมงกาเลียเคยแอบช่วยเหลือพนาให้รอดพ้นจากน้ำมือของมาเฟียคำรณและนายพรานที่มาทำร้าย เนื่องจากไปขัดขวางการทำร้ายสัตว์ และทำลายป่า เมงกาเลียจำไม่ได้ว่าคือเด็กผู้ชายที่เมงกาเลียฝันถึง เมงกาเลียกับแม่ลิงยังอาศัยอยู่ในถ้ำ แม่มากับเมงกาเลียเล่นลูกเทนนิสบ่อย โยนบ้างแกะบ้างจนกาวที่ปิดไว้เสื่อม กังหันเพชรหมุนหลุดออกมา เมงกาเลียมักเอามาดูกังหันหมุน แม่มาเอาสร้อยล็อคเก็ตมาคล้องคอให้เมงกาเลีย เมงกาเลียมีเพื่อนเป็นพี่นกเหยี่ยวตัวใหญ่ คอยสื่อสารบอกข่าวและเตือนภัยให้เมงกาเลีย
วันหนึ่งนกบินไปหากินไกลมาก เมงกาเลียชะล่าใจเอากังหันเพชรหมุนมาหมุนเที่ยวเล่นไปในป่าโหนไปตามกิ่งไม้ มาเฟียคำรณและพวกเห็นเมงกาเลียกับกังหันเพชรหมุนที่ตามหามานานสิบกว่าปี ดีใจมากพยายามจับตัวเมงกาเลีย ไล่ยิงเมงกาเลีย เมงกาเลียหนี พนาช่วยเมงกาเลียไว้ ระหว่างหนี เมงกาเลียโยนกังหันเพชรหมุนทิ้ง แม่มาแอบมาพอดีเก็บไว้ได้ พนาพาเมงกาเลียหลบหนี พูดกันไม่รู้เรื่อง เมงกาเลียส่งเสียงแบบลิง พูดคล้ายมนุษย์สองคำคือแม่มาและเมงกาเลีย พนานึกออกว่าได้ยินคำนี้จากมือถือของตน จึงคิดว่าเมงกาเลียน่าจะเป็นเด็กที่ตามหา พนาสอนให้เมงกาเลียเรียกเขาว่าพนา พนาจับเมงกาเลียโยนลงไปในลำธาร จับอาบน้ำสระผมถึงกับตะลึง เมงกาเลียสวยงามไม่เหมือนผีสกปรกที่เคยได้ยินชาวบ้านร่ำลือ พนาจะเอาเมงกาเลียไปด้วย เมงกาเลียโกรธมาก อาละวาดทำร้ายพนา แล้วโดดโหนกิ่งไม้หนี พนากลับมาตามหาเมงกาเลียอีก เมงกาเลียคอยหลบหลีกทั้งที่พอใจพนามาก คำรณคิดว่าพนาเข้ามาหากังหันเพชรจึงลอบทำร้ายพนา เมงกาเลียช่วยเหลือพนา พวกมาเฟียจะติดตามแต่วิญญาณเสือแม่นางทรายคำมาสกัดกลายร่างเป็นผีหญิงเท้าเป็นคนหน้าเป็นเสือมาบุกแค้มป์ พนาพบเป้พบมือถือพบพาวเวอร์แบงค์ของตน จึงสอนให้เมงกาเลียใช้มือถือและพาวเวอร์แบงค์ และให้พาวเวอร์แบงค์และมือถืออันใหม่กับเมงกาเลีย
พนาพบสร้อยและล็อคเก็ตสลักชื่อเมงกาเลีย เมงกาเลียและพวกลิงและฝูงสัตว์พากันมาส่งพนาที่ราวป่าคืนเดือนหงาย วิญญาณทรายคำแอบมาส่งด้วย ต่อมาเมงกาเลียโดนพวกละครสัตว์มายากลจับ พนามาที่ป่าไม่พบเมงกาเลีย พี่นกเหยี่ยวแอบติดตามหาเมงกาเลียกลับมาส่งข่าว พนาจึงติดตามไปพบเมงกาเลียถูกขังเอาไว้ในกรงเหมือนสัตว์ทั่วไปปนกับลิงหนุ่มมีตำหนิที่เท้า พนาและนกเหยี่ยวช่วยเมงกาเลียและลูกลิงออกมาทั้งสองกลายเป็นเพื่อน ทั้งหมดกลับเข้าป่าแยกย้ายกันไป พนาพยายามจะพาเมงกาเลียออกจ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่