Tokyo Revengers : เกิดเป็น‘ลูกผู้ชาย’ต่อยตีพะบู๊เก่งได้ก็ดี แต่นิยามของคำนี้มีมากกว่านั้น



ออกตัวไว้ก่อนเลยครับ ผมไม่เคยอ่านหรือดูการ์ตูนเรื่องนี้มาก่อน แต่เคยเห็นหรือได้ยินคนอื่นพูดถึงอยู่บ้างว่าเป็นหนึ่งในการ์ตูนญี่ปุ่นยอดฮิตของยุคนี้ แถมเป็นการ์ตูนแนววิวาทต่อยตีของวัยรุ่นที่ใช้ฉากหลังเป็นโลกที่เราอยู่จริงๆ และเป็นการ์ตูนที่ตัวเอกไมได้เก่งมาตั้งแต่ต้น พอวันหนึ่งมาเห็นว่ามีการนำมาทำเป็นภาพยนตร์ เห็นโปสเตอร์ เห็นตัวอย่างแล้วเลยไม่ลังเลที่จะไปชมครับ

Tokyo Revengers เป็นเรื่องราวว่าด้วย ทาเคมิจิ ฮานางากิ ชายหนุ่มวัยทำงานที่ชีวิตในยุคปัจจุบันย่ำแย่สุดๆ แฟนก็ไม่มี อยู่ห้องเช่าโทรมๆ ไปทำงานก็โดนคนที่ทำงานข่ม จนวันหนึ่งได้พลัดตกไปในรางรถไฟขณะที่รถไฟแล่นเข้ามาอย่างเร็ว ในตอนแรกทาเคมิจิคิดว่าตัวเองจะตายเสียแล้ว แต่กลายเป็นว่ามีปาฏิหาริย์บางอย่างพาเขาย้อนเวลากลับไปในช่วงที่เป็นวัยรุ่นชั้นมัธยม ได้พบกับกลุ่มเพื่อนเก่าๆ รวมถึง ทาจิบานะ ฮินาตะ เพื่อนนักเรียนหญิงวัยเดียวกันและเคยมีโอกาสได้คบเป็นแฟนอยู่ช่วงหนึ่ง

จะว่าไปพล็อตเรื่องแนวย้อนเวลาเพื่อเปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์ไม่ใช่เรื่องใหม่ครับ ตรงกันข้ามคือทำกันจนเฝือแล้วด้วยซ้ำ แถมยังมีทฤษฎีแตกเป็น 2 สายอีกต่างหาก ระหว่างเชื่อว่ามี Timeline เดียว แก้ไขแล้วเปลี่ยน Timeline นั้นได้ กับเชื่อว่า Timeline แตกตัวได้ การแก้ไขอดีตไม่ทำให้ Timeline ที่เกิดไปแล้วเปลี่ยนแปลง แต่จะทำให้เกิดเป็น Timeline ใหม่เพิ่มขึ้นมาแยกต่างหาก แต่สิ่งที่แตกต่างคือแต่ละเรื่องจะเล่าอย่างไรให้คนอ่าน-คนดูอินกับมันได้ ซึ่งโดยส่วนตัวผมค่อนข้างอินกับหนัง Tokyo Revengers อยู่พอสมควรเลย 

ในยุคปัจจุบัน ทาเคมิจิเห็นข่าวทางโทรทัศน์ว่า ฮินาตะ แฟนเก่าของเขาเสียชีวิตเพราะถูกลูกหลงจากการปะทะกันของแก๊งมาเฟีย ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ “แก๊งโตมัน” และต่อมาเขาได้รับรู้จาก ทาจิบานะ นาโอโตะ น้องชายของฮินาตะ ซึ่งเป็นตำรวจหน่วยสืบสวนพิเศษ ว่าเดิมทีแก๊งโตมันเป็นเพียงอันธพาลวัยรุ่นข้างถนนธรรมดาๆ ยังไม่ได้กลายเป็นองค์กรอาชญากรรมที่ใหญ่โตจนตำรวจเองก็ไม่สามารถจัดการได้ง่ายๆ ดังนั้นความหวังเดียวในการหยุดยั้งการขยายอิทธิพลของแก๊งโตมัน รวมถึงการทำให้ฮินาตะ ผู้เป็นพี่สาวไม่ตาย จึงอยู่ที่ทาเคมิจิ ที่พบว่าตัวเองสามารถไปๆ มาๆ ระหว่างอดีตกับปัจจุบัน ต้องย้อนเวลาไปเปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์ให้ได้

ผมชอบฉากที่เล่าเรื่องชีวิตวัยรุ่นวัยเรียนจริงๆ นะ ทั้งการใช้ชีวิตแบบสนุกสนานเฮฮาของทาเคมิจิกับเพื่อนๆ ซึ่งก็คงเป็นเรื่องธรรมดาของวัยรุ่นละ เห็นเรื่องเล่าแก๊งนั้นแก๊งนี้ ขาใหญ่ที่นั่นที่นี่แล้วอยากจะตั้งแก๊งของตัวเองบ้าง ก่อนที่จะได้รู้ว่าตัวเองนั้น “กากสุดๆ” เรื่องต่อยตีวิวาท ซึ่งการตัดสินใจหลังจากรับรู้นั้นได้ส่งผลให้ชีวิตของทาเคมิจิล้มเหลวตลอดมาแม้จะพ้นวัยเรียนไปแล้วก็ตาม ทั้งฉากพูดคุยระหว่างทาเคมิจิกับฮินาตะที่เป็น “ความรักใสๆ” ของวัยรุ่น ที่อาจจะพบเห็นกิริยาท่าทีแบบนั้นได้ยากเสียหน่อยเมื่อคนเราเติบโตเลยวัยนั้นมาแล้ว

อีกเรื่องหนึ่งที่ผมชอบ แล้วก็เป็นสิ่งที่ผมเคยได้ยินคนอ่านฉบับการ์ตูนบ่นๆ ว่า “ตกลงพระเอกมันจะเก่งขึ้นไหม?” ตามสไตล์การ์ตูนแนวโชเน็น (การ์ตูนที่เจาะกลุ่มเป้าหมายวัยรุ่นชาย) ที่ตัวเอกเริ่มเรื่องมาไม่เก่งแต่ด้วยการฝึกฝนและอีกหลายๆ อย่างทำให้เก่งขึ้นจนเอาชนะตัวร้ายหรือคู่แข่งที่เคยเก่งกว่าได้ แต่สำหรับ Tokyo Revengers คนที่คุ้นชินกับการดำเนินเรื่องนั้นแบบนั้นอาจจะต้องผิดหวังเสียหน่อย เราจะไม่ได้เห็นทาเคมิจิต่อสู้แบบเท่ๆ หล่อๆ ซึ่งแน่นอนฉบับภาพยนตร์ก็เช่นเดียวกัน 

แต่ถึงกระนั้น ตลอดทั้งเรื่องผมก็ยังเอาใจช่วยให้ทาเคมิจิสามารถเปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์ได้ นับตั้งแต่การกลับไปอดีตแล้วเริ่มเปลี่ยนเส้นทางชีวิคตัวเอง ไม่เอาแล้วการเป็นคนขี้แหย พอแล้วกับการหนีปัญหา หันไปเผชิญกับมันแม้จะต้องเจ็บตัวสักกี่ครั้งก็ตามเพื่อช่วยคนที่รักไม่ว่าจะเป็นฮินาตะหรือเพื่อนๆ ในกลุ่มเดียวกัน จนไปถูกใจ “ไมค์กี้-คราเค่น” 2 แกนนำแก๊งโตมันในยุคเริ่มต้น แม้ทั้งคู่จะมีฝีมือต่อยตีวิวาทโดดเด่นในหมู่วัยรุ่นอายุไล่ๆ กัน แต่ก็ยอมรับทาเคมิจิในฐานะ “เพื่อน” ไม่ใช่ “ลูกน้อง” แบบวัยรุ่นคนอื่นๆ ที่มาขอเข้าร่วมแก๊ง ตรงนี้ละครับที่ผมว่าผู้แต่งต้องการสื่อ โดยเฉพาะการกล่าวผ่านคำพูดของไมค์กี้ที่ว่า

“คนต่อยตีเก่งน่ะหาไม่ยาก..แต่คนที่ยืนหยัดปกป้องคนที่รักนั้นหาไม่ได้ง่ายๆ”

ผมชอบประโยคข้างต้นนี้มากนะ ( ถ้าจำถ้อยคำผิดไปบ้างก็ขออภัยด้วย แต่ใจความก็ประมาณนี้ครับ ) เพราะส่วนตัวแล้วค่อนข้างให้ความสำคัญกับคำว่า “ลูกผู้ชาย” อย่างมาก สำหรับคนเกิดมาเป็นเพศชายแท้ๆ ไม่มีจิตใจเบี่ยงเบน คำคำนี้คือสิ่งที่คนคนนั้นต้องแบกไว้บนบ่าไม่ว่าจะโดยเต็มใจหรือไม่ก็ตาม แต่อะไรคือ “แก่นแท้” ของคำว่าลูกผู้ชายล่ะ? ความสามารถในการต่อยตีพะบู๊อาจจะเป็นคุณสมบัติส่วนหนึ่ง แต่คงไม่ใช่ทั้งหมด การที่ชายรคนหนึ่งจะภูมิใจในความเป็นลูกผู้ชายได้อย่างเต็มภาคภูมิ มันน่าจะมาจาก “บุคลิกภาพและวิธีคิด” มากกว่า การตัดสินใจเลือกเส้นทางใหม่ของทาเคมิจิ แต่มันทำให้คนที่เฝ้าดู (ทั้งตัวละครในเรื่องและผู้ชม) เอาใจช่วย แม้จะไม่ทำให้ความกากในการต่อสู้เปลี่ยนไปจากเดิมแต่อย่างใด

ถึง ณ วันนี้ (14 ธ.ค. 2564) Tokyo Revengers รอบฉายน่าจะเหลือน้อยแล้ว และน่าจะน้อยไปอีกเพราะมีหนังทำเงินทั้งไทยและเทศเข้าโรงหลายเรื่องทั้งที่เข้าแล้วและรอเข้าในอีกไม่กี่วันข้างหน้า แต่ผมก็ยังอยากเขียนถึงและแนะนำให้ไปชมครับ ถ้าจะมีอะไรติดๆ ขัดๆ บ้าง ก็เห็นจะเป็นบางตัวละครที่ใส่มาแล้วไม่อธิบายนี่ละว่าเป็นใครมาจากไหน แต่ก็เชื่อว่าน่าจะมีภาค 2 เพราะฉบับหนังสือการ์ตูนก็ยังตีพิมพ์ไม่จบ ในหนังภาคต่อไปคงได้อธิบายครับ
----------------------------------------------------

TonyMao_NK51 ( ใช้แทนอมยิ้มที่ถูกแบน )

หมายเหตุ : อยากบ่นว่าทำไมผมอินกับ Tokyo Revengers และหนังแนวคล้ายๆ กันอย่าง 4Kings แต่ไม่เกี่ยวกับตัวรีวิวหนังโดยตรง ดังนั้นขอใส่สปอยครอบไว้ครับ

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่