"4 Kings" โดยรวมโอเค แต่ยังไม่หนำใจ

ภาพจากคุณ Satit Poemtawee KB

ในช่วงเดือนสุดท้ายปลายปี 2564 บรรยากาศในโรงหนังตามที่ต่าง ๆ เริ่มค่อนข้างจะคึกคักสักหน่อย เพราะมีหนังไทยเข้าฉายชนกันตั้งหลายเรื่อง

แต่เมื่อดูตัวเลขรายได้ของหนังบางเรื่องแล้ว ทำให้คนที่เกี่ยวข้องในแวดวงการทำหนังต้องทบทวนอย่างหนัก แม้ว่าหนังที่เคยคาดหวังอย่าง "อโยธยา มหาละลวย" กับ "หอแต๋วแตกฯ" จะไม่อาจสร้างปาฏิหาริย์ได้ หากใครมีแผนจะตีตั๋วไปดูสองเรื่องดังกล่าวนั้นต้องรีบคว้าซะ รอบฉายเหลือแค่ไม่กี่รอบแล้ว

ขณะเดียวกันก็มีหนังที่ทำเอาคนนับล้านตื่นตัวจนกลายเป็นกระแสไปแล้ว (และใกล้จะแตะ 100 ล้านบาทในอีกไม่ช้านี้) เรื่องที่ว่าคือ "4 Kings" (อ่านให้ง่าย ๆ ว่า สี่-คิงส์) ซึ่งกำลังมาแรงชนิดที่ "GDH ชิดซ้าย-กลุ่ม Major ชิดขวา"...

เพราะเป็นหนังจากผู้สร้างหน้าใหม่ม้ามืดนาม "เนรมิตหนัง ฟิล์ม" โดยมีขาเซอร์รุ่นพี่สุดอย่าง "เป้ อารักษ์" มายืนเด่นแสดงนำ

เชื่อว่าคอหนังบางคนอาจยังสับสนกับชื่อหนัง เพราะในสมัยคุณปู่คุณย่าก็มีเคยมีหนังชื่อพ้องกัน เพียงแต่คนละเรื่อง มีพระเอกคือ "ไชยา สุริยัน" ซึ่งโด่งดังมากถึงขั้นมีการวางแผนโฆษณาอย่างเก๋ไก๋ 

แต่ "4 Kings" ในยุค 2021 (พ.ศ.2564) ที่ทุ่มโปรโมทตามที่สาธารณะต่าง ๆ นั้น เรื่องนี้เล่าเรื่องเกี่ยวกับนักเรียนนักเลงเลือดร้อนจากสถาบันอาชีวะ 4 แห่ง ท่ามกลางบรรยากาศความรื่นรมย์ในช่วงปี พ.ศ. 2538 โดยนำมาถ่ายทอดเพื่อความบันเทิงร่วมสมัยของผู้เสพอรรถรสโหยหาอดีต

หากใครคิดถึงร็อกอัลเทอร์ฯ อย่าง "หิน เหล็ก ไฟ", "โมเดิร์นด็อก" หนังดี ๆ อย่าง "โลกทั้งใบให้นายคนเดียว" หรือรายการโทรทัศน์ดัง ๆ อย่าง "7 สีคอนเสิร์ต", "ฝันที่เป็นจริง" หรือ "สี่ทุ่มสแควร์" ก็จะประกอบให้ดูเพียงแว้บ ๆ

สำหรับทีมนักแสดงของเรื่องส่วนมากเป็นหน้าใหม่ที่ไม่ค่อยคุ้นหน้านัก จะมีนักแสดงรุ่นใหญ่ที่คุ้นอยู่มาเล่นในเรื่องนี้ด้วย อย่างเช่น "สุกัญญา มิเกล" ซึ่งนาน ๆ ทีเราจะเห็นเธอเล่นหนังใหญ่สักครั้ง งานนี้รับบทเป็นคุณแม่ของ "ดา อินทร" พระเอกของเรื่องนั่นเอง เธอแสดงออกมาได้อย่างน่าจับใจทีเดียว

ขณะที่ตัวสารวัตรที่เป็นคุณพ่อแฟนสาวของดาซึ่งรับบทโดย "อาวอ จิราวัฒน์" โดยส่วนตัวเห็นว่าแสดงบทสุดโหดได้พอเหมาะพอควร โดยเฉพาะฉากที่ต้องประจันหน้ากับพระเอก แต่ถ้าตัวนี้จะให้ "อาเกรียง-เกรียงศักดิ์ เหรียญทอง" มาเล่นแล้วน่าจะดุเด็ดเผ็ดมันส์และเรียกความอิ่มเอิบได้ยิ่งกว่านี้

ยังมีอีกหลายฉากที่น่าสนใจและพูดถึง แต่ฉากที่เราขอติสักเล็กน้อยก็เห็นจะเป็นฉากไคลแม็กซ์การต่อสู้ของเรื่อง ซึ่งเป็นการสังสรรค์กลุ่มเพื่อน ๆ หน้าร้านลาบ และการปรากฏตัวของดาที่มาได้สั้น ๆ ก็ถูกยิงคาร้านดับอนาถ ซึ่งฉากนี้ควรจะเพิ่มสีสันหรือยืดเวลาให้ดูซับซ้อนซ่อนเงื่อน เพราะเท่าที่ดูแล้วไม่ค่อยจะประทับจิตใจเท่าฉากต่อสู้อื่น ๆ เช่นงานคอนเสิร์ตซึ่งก็ควรจะปรับบทให้ครึกครื้นขึ้นหน่อยจะน่าชมกว่า

และก็น่าเสียดายที่หนังเรื่องนี้ไม่มีการเล่าเรื่องผ่านนักเลงตัวจริงหรือมิได้ปรากฏตัวในหนังเลย แต่ก็มีคำแนะนำสั้น ๆ ตอนเปิดและปิดเรื่องเอาไว้ปลอบใจ

หนังเรื่องนี้มีความยาวถึง 2 ชั่วโมง 20 นาที ซึ่งจะมีประเด็นต่าง ๆ รายรอบ พร้อมหยอดมุขสารพัดและคำหยาบคายจากปากนักเลงไปตามธรรมชาติ ซึ่งถ้าเราอยากจะชมอีกผ่านทางโทรทัศน์ล่ะก็ไม่มีโอกาสแน่นอน

ถ้าคุณจะให้กำลังใจกับทีมงานและจดจำทุกสิ่งจาก "4 Kings" นักเลงอาชีวะยุค 90s ต้องไปสัมผัสกันในโรงฯ ถือเป็นของขวัญอันมีค่าที่จะฝังจำไปอีกยาว

สำหรับทั้งหมดทั้งมวลของการทำหนังเรื่องแรกนี้ก็ถือว่าใช้ได้ระดับหนึ่งแล้ว หวังว่างานชิ้นต่อไปจะต้องลงลึก เข้มข้น ถึงใจกว่าเดิม...สู้ ๆ นะ สวัสดี.
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่