ในที่สุดก็มีมติออกมาแล้วนะครับ สำหรับเมืองเจ้าภาพซีเกมส์ 2025 ที่ไทยเป็นเจ้าภาพ ซึ่งมีหลายจังหวัดแข่งขันกันเป็นเจ้าภาพอย่างดุเดือด แต่ในที่สุดก็ฝันสลาย เมืองมติให้กรุงเทพมหานครเป็นเมืองเจ้าภาพการแข่งขัน

ฟันธงแล้ว"กรุงเทพ" เจ้าภาพจัดซีเกมส์ ปี 2025 หรือ พ.ศ.2568

สหพันธ์ซีเกมส์ ยืนยันให้ "กรุงเทพมหานคร" เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ 2025 หลังจากมีการเสนอตัวจากหลายจังหวัด โดยจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 3 จังหวัดทางภาคใต้ รวมถึง ชลบุรี

ภายหลังประเทศไทยได้รับสิทธิเป็นเจ้าภาพกีฬาซีเกมส์ในปี 2025 หรือ พ.ศ.2568 โดยมีหลายจังหวัดได้ยื่นถึงการกีฬาแห่งประเทศไทย เพื่อขอเป็นเจ้าภาพ อาทิ 3 จังหวัดฝั่งอันดามัน คือ ตรัง กระบี่ เเละภูเก็ต รวมถึงกลุ่มจังหวัดจากทางภาคอีสาน รวมถึงโซนตะวันออก อย่าง ชลบุรี 
 ล่าสุดสำนักงานสหพันธ์ซีเกมส์ จัดการประชุมเพื่อหาบทสรุปในการจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ 2025 หลังจากที่ก่อนหน้าคณะมนตรีซีเกมส์ ได้มีข้อสรุปให้ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพต่อจาก ประเทศกัมพูชา ที่เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ในปี 2023
 โดยที่ประชุมได้สรุปว่าพร้อมยืนยันว่าประเทศไทยจะได้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ในปี 2025 (พ.ศ. 2568) และมีการเปิดเผยว่า มีมติให้ กรุงเทพมหานคร เป็นเมืองที่ใช้จัดการแข่งขันแต่ยังไม่มีการเปิดเผยช่วงเวลาที่ใช้ในการแข่งขัน
 สำหรับประเทศที่จะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันก่อนที่ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพได้แก่ “ซีเกมส์ 2021” จะจัดที่ประเทศเวียดนาม วันที่ 12-23 พฤษภาคม 2022, “ซีเกมส์ 2023” จะจัดที่กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา วันที่ 5-17 พฤษภาคม 2023 และซีเกมส์ 2025 จะจัดขึ้นที่ประเทศไทย โดยไทย เคยเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันซีเกมส์มาแล้ว 6 ครั้ง ในปี 1959, 1967, 1975, 1985, 1995 และล่าสุด 2007 ที่ จ.นครราชสีมา

ที่มา https://www.smmsport.com/reader/news/361866 

หลังจากรู้ข่าวแล้ว ผมก็ถอนหายใจยาวๆ ไม่คิดว่าจะกลับมากรุงเทพฯ อีก น่าจะหัวเมืองต่างๆ ได้จัดบ้าง เพื่อกระจายความเจริญ แต่เมื่อมติออกมาแล้วก็ต้องยอมรับมัน ซึ่งในกรุงเทพฯ มีสนามกีฬา และบ้านพักนักกีฬาและสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย จนแทบไม่ต้องสร้างใหม่เลย เพียงรีโนเวทให้สวยงามขึ้นก็ใช้งานได้แล้ว เลยอยากสอบถามว่า อยากเห็นพิธีเปิดที่สนามไหน และอยากให้สนามไหนเป็นสนามกีฬาหลักในการแข่งขัน

1. สนามราชมังคลากีฬาสถาน ซึ่งเป็นสนามกีฬาที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย สามารถจุคนได้จำนวนมาก ทั้งในอนาคตก็จะมีรถไฟฟ้าสายสีส้มผ่าน (ไม่แน่ใจว่าปี 2568 จะแล้วเสร็จหรือยัง) แต่ด้วยความใหญ่ ประกอบกับสเกลงานที่ค่อนข้างเล็ก อาจจะทำให้คนดูไม่เต็มสนามค่อนข้างโหรงเหรงเหมือนกีฬามหาวิทยาลัยโลกที่เราเคยเป็นเจ้าภาพมา จนต้องเกณฑ์นักเรียนมานั่งแทน เพราะเข้าใจคนไทยบางส่วนก็ไม่ค่อยให้ความสนใจกับกีฬานี้มากเท่าไหร่
2. สนามศุภชลาศัย ซึ่งเป็นสนามกีฬาเก่าแก่ของบ้านเรา และเป็นจุดกำเนิดกีฬาซีเกมส์นี้ด้วย โดยการเป็นเจ้าภาพกีฬาเซียพเกมส์ (SEAP Games) หรือกีฬาแหลมทอง ในครั้งแรก ก่อนจะพัฒนามาเป็นซีเกมส์ และได้จัดที่นี่หลายครั้งในตอนที่บ้านเราเป็นเจ้าภาพ ก่อนที่จะย้ายไปจัดที่เชียงใหม่ และโคราชในภายหลัง ซึ่งขนาดของความจุของสนามไม่ได้ใหญ่โตเท่าราชมัง จุคนได้พอดี มีรถไฟฟ้าผ่าน การเดินทางค่อนข้างสะดวกสบาย ผู้จัดอาจจะคิดคอนเสปกลับสู่จุดเริ่มต้นอีกครั้งก็ได้
3. สนามกีฬา ม.ธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต เป็นสนามที่จัดขึ่นเพื่อรองรับการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 13 ที่ไทยเป็นเจ้าภาพ โดยเป็นที่จัดแข่งประเภทกรีฑาด้วย ด้วยขนาดของสนามที่ไม่ใหญ่โดเกินไป และเป็นสนามที่สวยงามแห่งหนึ่ง และมีหลังคาทั้ง 2 ฝั่ง (ซึ่งหาได้ยากในประเทศไทย) แต่เนื่องด้วยอยู่ในเขตชานเมือง ทำให้การเดินทางค่อนข้างไกลจากสนามแข่งขันต่างๆ ซึ่งจะต้องดูอีกทีว่า ทางผู้จัดจะให้สถานที่ไหนที่เป็นที่พักกีฬา ถ้าเป็นหอพักโซน C ของธรรมศาสตร์ที่เคยใช้ตอนเอเชียนเกมส์ ก็จะทำให้นักกีฬาได้ความสะดวกสบายขึ้น
4. สถานที่อื่นๆ ที่ไม่ใช่สนามฟุตบอล เช่น สวนสาธารณะ หรือาคารในร่มต่างๆ ซึ่งทางฟิลิปปินส์ เคยทำมาแล้วถึง 2 ครั้ง บางทีอาจจะแหวกแนวมาจัดที่นอกสนามกีฬา อาจจะจัดที่ลานกว้างที่ไหนสักแห่ง เช่น ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ถนนราชดำเนิน (วางแผนไว้จัดยูธโอลิมปิก ถ้าเราบิดได้) หรือ อาคารกีฬาร่ม เช่น อินดอร์สเตเดียมหัวหมาก อิมแพค เมืองทองธานี หรือสนามกีฬาหนองจอก ฯลฯ

ท่านใดมีความคิดเห็นอะไรมาแลกเปลี่ยนกันได้นะครับ ตอนแรกผมฝันว่าจะเห็นจังหวัดทางภาคใต้หรือภาคตะวันออกเป็นเจ้าภาพสักครั้ง เพราะวนไปเหนือกับอีสานแล้ว