[CR] ระยอง...ต้องมาลองจริง ๆ นะ :)

ประเทศเปิดแล้ว ลมหนาวโชยแผ่ว น่าแปลกที่เรากลับคิดถึงทะเล อมยิ้ม01
ทะเลใกล้กรุงเทพฯ ที่ใคร ๆ คิดถึงคงหนีไม่พ้นจังหวัดชลบุรี จากการคาดคะเนผู้คนคงมากมาย งั้นเราลองออกไปไกลเสียหน่อยที่จังหวัด 'ระยอง' ที่มาลองแล้วคุณจะหลงรักอย่างแน่นอน
ไม่ว่าจะเป็น อาหาร อากาศ บรรยากาศ สถาปัตยกรรม ธรรมชาติ 
2 วัน 1 คืนตะลุยระยองได้เริ่มต้นขึ้น...พร้อมท่องไปด้วยกันแล้วหรือยัง ?เพี้ยนออกทริป

***************************
Day 1
         ออกจากกรุงเทพฯ แต่เช้า มุ่งหน้าผ่านเส้นบูรพาวิถี รถยังคงเคลื่อนตัวกันอย่างขวักไขว่ แต่ไม่หนาตาเท่าช่วงเทศกาล บ่งบอกว่าผู้คนมากมายคิดถึงเส้นทางสายตะวันออกนี้มากแค่ไหน จุดแรกแวะไหว้พระเพื่อความเป็นสิริมงคลที่ ' วัดละหารไร่ ' อ.บ้านค่าย จ.ระยอง
โดดเด่นด้วยประตูทางเข้าที่ทาสีแดง ผสมผสานกับแนวกำแพงก่ออิฐที่ให้กลิ่นอายความเก่าแก่ ที่นี่มีมาตรการรักษาความปลอดภัยโรคโควิด-19 ด้วยอุโมงค์ฆ่าเชื้อ และจุดบริการแอลกอฮอล์เป็นอย่างดี จุดทำบุญมีหลากหลายจุดทั้งจุดไหว้พระ ให้อาหารปลา หรือจะถวายสังฆทาน
รูปปั้นหลวงปู่ทิม อิสริโกองค์ใหญ่ที่โดดเด่น สะดุดตาเห็นมาตั้งแต่บนถนน
เดินต่อมาอีกนิดตรงทางออกมีเจดีย์ที่ยังสร้างไม่เสร็จ แต่เห็นวี่แววความงดงามน่าศรัทธาในอนาคต
บรรยากาศในวัดร่มรื่น พื้นที่กว้างขวาง ผู้คนไม่เบียดเสียด อากาศเย็นสบาย
แม้แต่น้องหมายังนอนหลับแสนสบาย ยิ้ม
           ทำบุญกันเสร็จแล้ว แวะเข้าอ.เมือง เพื่อมาเติมคาเฟอีนยามเช้าที่ 'ร้านกาแฟริมน้ำบ้านชูใจ'
เมนูที่หาทานได้ยาก คือการนำน้ำตาลตโนดมาผสมเป็นส่วนประกอบในเครื่องดื่มหลายเมนู หวานล้ำสดชื่น ใครที่ชื่นชอบเครื่องดื่มหวาน ๆ รสหอม ๆ น่าจะชื่นชอบ
แม้แต่กระเบื้องยังสวยเลย
การตกแต่งร้านด้วยความที่ร้านให้อารมณ์เหมือนมาทานข้าวบ้านเพื่อนท่ามกลางสวนริมน้ำอันร่มรื่น ทำให้ไม่ว่าจะนั่งมุมไหน แม้ร้านจะเป็นโอเพ่น แอร์ แต่กลับมีลมโชยทั้งวันให้สดชื่น ไม่ร้อนอบอ้าวแต่อย่างใด อีกทั้งยังมีสัตว์ตัวเล็กตัวน้อยให้ดูอย่างเพลิดเพลิน อาหารรสชาติโอเค ถ้ามีโอกาส ลองแวะไปลองกันนะคะ
            เรียกความสดชื่นกลับคืนมาแล้ว เรามุ่งหน้ากันต่อไปยังอ.แกลง ที่พักของเราในค่ำคืนนี้ หากพูดกันตามจริง บรรยากาศร้านรวงดูเงียบเหงาซบเซาไปมาก ย่านการค้าต่าง ๆ ที่เคยเป็นย่านท่องเที่ยว แม้จะเริ่มกลับมาเปิดกันมากขึ้น แต่หลายร้านก็จากไปแล้วอย่างยากจะหวนกลับ
            ทางหลวงหมายเลข 4 เส้นเพชรเกษมที่แต่ก่อนมีร้านอาหาร ที่พักคึกคักมีหลายที่ที่ปิดไฟเงียบงัน และปิดทำการ ระหว่างขับรถมองเห็นป้ายสถานที่เปิดใหม่ เลยลองแวะกันเข้าไปเยี่ยมชมที่ 'ปางช้างระยอง'
มีค่าเข้าคนละ 40 บาทนะคะ ด้านในนอกจากจะมีช้าง แล้วยังสัตว์อื่น ๆ มุมถ่ายรูป และร้านกาแฟบริการอีกด้วย มีบริการรถรางนำไปส่งยังบริเวณในปางข้างค่ะ
กอริลล่าทำจากปูนขนาดใหญ่ เด็ก ๆ น่าจะชื่นชอบ ผู้ใหญ่เห็นยังอดถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึกไม่ได้
น้องช้างที่นี่น่ารักมาก ๆ ความยากลำบากของกิจการประเภทนี้คือนอกจากจะเลี้ยงคนแล้วยังต้องเลี้ยงสัตว์อีกด้วย ในปัจจุบันยังไม่มีเปิดเป็นโชว์การแสดง ต้องรอติดตามต่อในอนาคตค่ะ
บริการนั่งรถม้า แต่กลางวันอาจจะร้อนนิดนึง เส้นทางจะคล้าย ๆ กับเส้นที่รถรางนำเรามา เป็นทางวนในปางช้าง ที่ตอนนี้ต้นไม้อาจจะยังไม่โตมาก 
ให้อาหารแกะ ข้าง ๆ กรงยังมีกระต่าย และกรงนก สามารถเข้าไปชมได้ฟรี ไม่เสียค่าบริการเพิ่มเติม
ด้านในมีบ่อน้ำที่ขุดไว้ ทางปางสร้างมุนถ่ายรูปเก๋ ๆ ทำให้รู้สึกเหมือนได้ฟีลคาเฟ่ขึ้นมาทันตาเลยค่ะ
           ตอนบ่ายแวะเข้าที่พัก เรามาพักกันที่ 'บันดารา ออน ซี' ห้องที่จองได้จะเป็นห้อง cottage เป็นกระท่อมแฝด ที่พักตกแต่งไสตล์โคโลเนียล ไม้ ๆ ริมหาด ทาสีขาว ได้ฟีลลิ่งมาทะเลอย่างแท้ทรู
หน้าตาห้องที่พัก สภาพอาจจะไม่ได้ใหม่มาก แต่นอนหลับสบายอยู่ค่ะ
ตึกนี้อยู่ด้านหน้า ตอนกลางวันสวยมาก แต่กลางคืนออกจะเงียบเสียหน่อย อาจจะยังไม่ได้เปิดให้บริการในช่วงนี้
ที่พักติดริมหาด มีเก้าอี้ชายหาดสีส้มสดใสตั้งบริการ มานั่งรับลมเย็น ๆ มองทะเล นั่งเพลินอย่างไม่รู้ตัว
           ก่อนที่แสงอาทิตย์จะใกล้ตก เรารีบออกจากโรงแรมมุ่งหน้าสู่ 'เขาแหลมหญ้า' สถานที่ที่อยากมามากที่สุดในทริปนี้
เขาแหลมหญ้าตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด มีค่าเข้าคนไทย คนละ 40 บาท ค่ารถไม่แน่ใจ ขออภัยที่จำไม่ได้ค่ะ สำหรับตอนนี้ ไม่อนุญาตให้วนรถลงไปที่ลานจอดข้างล่างแล้วนะคะ ยกเว้นมีผู้สูงวัย สามารถวนรถลงไปส่งได้ แต่ต้องวนขึ้นมาจอดด้านบน แล้วค่อยเดินลงไปอีกประมาณ 200 เมตร ระหว่างทางเป็นทางปูนอย่างดี มีต้นไม้ขึ้นสองข้าง แต่อาจจะต้องระวังจ๊ะเอ๋กับน้องลิงได้นะคะ ยิ้ม
จุดไฮไลท์คือบ้านไม้สีขาวสุดปลายทางปูนที่ใคร ๆ ก็ต้องมาถ่ายรูปกัน พอมาถึงจริง ๆ บรรยากาศดีมากกกกกกกกกกกกกก กอไก่ล้านตัว น้ำทะเลใสแบบไม่น่าเชื่อ แล้วสีขาวกับสีฟ้าก็เข้ากันได้มากจริง ๆ
แต่สำหรับเราสิ่งที่ประทับใจยังไม่ใช่แค่จุดนี้ แค่คือทางเดินศึกษาธรรมชาติต่างหากที่ควรลงไปเดินชมด้วยตัวเองสักครั้ง
ทางอช.ทำทางเดินไว้ดีมากค่ะ เดินได้ง่าย แต่ถ้าจะเดินให้ครบรอบอาจจะมีช่วงที่วกขึ้นไปบนเขาด้านหลังได้ เราเดินชมทะเล ถ่ายรูปเงียบ ๆ ไปเกือบสุดทางเดินไม้แล้วก็วกกลับมา 
           ก่อนเข้าโรงแรมแวะหามื้อเย็นทานกันใกล้ ๆ ที่พัก รอบนี้ลองไปทานที่ 'ร้านครัวลุงลิ้น' อาหารรสชาติอร่อยเลย แถมร้านอาหารยังติดหาด มีจุดมุม จัดไฟถ่ายรูปกลางคืนได้อย่างสวยงาม
คืนนี้หลับฝันไปพร้อมกับหนังท้องตึง หนังตาหย่อนกันเลยทีเดียว

Day 2
         เวลาแห่งวันหยุดมักผ่านไปไวเสมอ เพี้ยนขำหนักมาก
         ก่อนที่จะต้องเดินทางกลับ ยังมีอีกสถานที่ที่อยากแวะไปชมนั่นคือสถานที่ของบุคคลสำคัญระดับโลกที่ UNESCO รับรองนั่นคือ 'อนุสาวรีย์สุนทรภู่'
เป็นลานกว้างขวางมาก ๆ นะคะ แต่น่าเสียดายที่ไม่ค่อยได้รับการทำนุบำรุง ไม่ค่อยมีคนมา ทั้งที่ความจริงยังมีตึกพิพิธภัณฑ์ และสระน้ำด้านหน้าก็มีอัฒจรรย์อยู่ข้าง ๆ นี่ถ้าหาก มีการจัดแสดงแสงสีเสียงยามค่ำคืน คงงดงามมาก ๆ เลยค่ะ
           ยามสายเราตีรถกันไปทางจันทบุรี ก่อนจะข้ามไปถึงจันก็ถึงที่หมายต่อไปคือที่ 'วัดท่ามะกอก'
งดงามด้วยภาพอุโบสถสีทอง คือ ' อุโบสถเรือนารายณ์ทรงสุบรรณ' ไม่ว่าจะถ่ายมุมไหน ก็สวยมากจริง ๆ ได้บุญ และยังได้รูปกลับไปอย่างแน่นอน
           ระหว่างทางขับรถเพลิน ๆ GPS พาหลงบ้าง เรากลับได้พบอุโมงค์ต้นไม้ที่ร่มรื่น และสวยงาม
พิกัดจำไม่ได้จริง ๆ ค่ะ แต่ถ้าไปแกลง ๆ วนเวียนไปแถวนั้น ต้องเจออย่างแน่นอน
         

ชื่อสินค้า:   ระยอง
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่