ว่าด้วยเรื่องการแต่งงาน ความเห็นไม่ลงตัว

ตัดเข้าเรื่องเลยครับ  
  ฝ่ายชายคนไทย
  ฝ่าย ญ เชื้อสายคนจีน
       ทางบ้านผมได้ให้ผมไปสอบถามเรื่องค่าสินสอด ทางฝากหญิงบอกไม่เรียก  และฝั่งหญิงถามกลับว่าจะให้เท่าไร ฝ่ายผมบอกจะให้สมเกียรติ​
        ถ้าวันเจรจา​จริงวัน ญาติผู้ใหญ่​พร้อมฝ่ายผมเปิดไป  เงินสด+ทองมูลค่า​1ล้านบาท
        แต่ฝ่าย ญ  บอกขอเป็นเงินสด1ล้านทองแยก30บาท  
         ฝ่ายผมต่อเหลือ20บาท เป็นอันตกลง หลังจากกินข้าวเสร็จ​ นั่งรถกลับ  ทางญาติ​ฝ่ายผมถามผมว่าไหนบอกไม่เรียกไงแล้วนี่คืออะไร ผมก็เงียบผู้ไม่ออก
   
         หลังจากนั้นผมกับแฟนได้คุยกันว่าจะมีงานเช้ากับงานเย็น  โดยงานเช้า  ฝ่ายหญิงออกค่าใช้จ่าย 180,000
  ฝ่ายชายออกค่าใช้จ่ายงานเย็นรวมตกแต่งประมาณ400,000บาท
       ต่อมาเกิดโควิดจนทำให้งานเลื่อนมา2ครั้ง  และทำให้การเงินทางบ้านผมมีปัญหา​ ผมจึงบอกสาวเจ้า
   ทางบ้านผมจึงขอต่อรองค่าสินสอด  เหลือ1ล้านบาทตามที่เสนอไปทีแรก  และงดจัดงานเย็น(ให้มีแต่งานเช้าเป็นพิธีสำคัญ)​
       แต่ฝ่าย  ญจะยึดตามเดิม เอาแบบเดิม (ลูกฉันไม่ได้ผักปลาตลอดสดนะจะมาต่อรองเป็นของในตลาดไม่ได้)​
  ทางพ่อแม่ผมบอกพ่อมีให้เท่านี้ คือ1ล้านบาทและผมขอเวลาฝ่าย ญ  
จนกระทั้งผมได้เก็บทองครบ20บาท และทางญาติ​ฝ่ายผมก็ถามว่าจะแต่งเมื่อไรจะได้ทำให้มันจบๆ จะเอาให้มันเยอะแยะวุ่นวายทำไม รักกันไปแต่งกันไป อยากได้อะไรก็ไปสร้างเอา  
    
ผมจึงได้คุยกับสาวเจ้า ว่า มีเงินสด1ล้านกับทอง20บาทแต่งดจัดงานเย็น(ให้มีแต่งานเช้าเป็นพิธีสำคัญ)
 แต่สาวเจ้าให้คำตอบมาว่า
ถ้าทำอย่างที่พูดหรือรับปากแล้วทำไมได้เค้าก็ไม่แต่งอะต่อให้รักแต่ถ้าเทอไม่นึกถึงบ้านเค้าเลยไม่นึกถึงความรู้สึกเค้าเลยก็ไม่ไหว
เพราะคนเราแต่งงานได้แค่ครั้งเดียวและความรู้สึกของพ่อแม่เค้าสิ่งเดียวที่เค้าจะทำให้ได้ก็คือการจัดงานแต่งงานคำว่าลูกผู้หญิงที่บวชไม่ได้สิ่งเดียวที่เค้าจะได้รับก็คือโมเม้นนี้แหละเพราะเค้าก็ต้องทำหน้าที่ของลูกเหมือนกันเหมือนที่เทอทำอยู่ณตอนนี้ที่ไม่นึกถึงความรู้สึกหรือเห็นอกเห็นใจกันนี้แหละ

   คือบ้านผมไม่เห็นอกเห็นใจหรือเห็นแก่ตัวมั้ยครับ
หรือผมต้องจัดการปัญหานี้อย่างไร ทำไมคนจะแต่งงานหรือมีเมียมันยากจัง
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่