สวัสดีค่ะเพื่อนๆชาวพันทิปที่เข้ามาอ่านกำลังสงสัยอยู่ใช่มั้ยคะ หากเราให้ลูกดูทีวี จะทำให้พัฒนาการของลูกช้าหรือไม่ จากประสบการณ์ตรงของมิว มิวมองว่ามันอยู่ที่กฎระเบียบการดูแลเอาใจใส่การเลี้ยงดูลูกของเรา ช่วงอายุ ระยะเวลาที่ให้ดูเป็นสิ่งสำคัญ ตัวมิวเองต้องหาวิธีสอนหรือให้เค้าได้ดูทีวีบ้างแต่ไม่มากจนเกินไป
ส่วนการดูทีวี มิวกับแฟนจะสลับกันนั่งดูกับเค้าด้วย ไม่ให้เค้านั่งดูคนเดียว และไม่ให้เค้าเลือกช่องเอง เราจะเป็นคนเลือกให้เค้า รายการที่เปิดให้ดูส่วนใหญ่ก็เป็นพวกสารคดีสัตว์น่ารักๆ รายการเด็ก การ์ตูน รายการคำศัพท์ภาษาอังกฤษ
ทีวีที่บ้านมีช่องสำหรับเด็กค่อนข้างเยอะ และสามารถดาวน์โหลดมาดูเพิ่มเติมได้เหมือนโทรศัพท์ ซึ่งข้อดีของมันก็คือลูกไม่ต้องติดโทรศัพท์ ไม่ต้องห่วงเรื่องสายตา สามารถดูระยะไกลได้ และเรามองว่ามันเป็นการได้ใช้เวลาร่วมกันของครอบครัว
นอกจากมิวจะแนะนำมุมมองของมิวเรื่องการเลี้ยงลูกด้วยทีวี มิวก็อยากแนะนำทีวีซึ่งเป็นรุ่นที่มิวใช้อยู่ให้กับพ่อๆแม่ๆด้วย และตอนนี้ทีวีที่บ้านก็ค่อนข้างเก่าแล้วและมันมีเส้นๆ ขึ้นที่หน้าจอเลยตัดสินใจว่าจะซื้อใหม่ แหม่เข้าทางคุณสามีเลยค่ะ ยิ่งช่วงนี้เป็นช่วงโควิดด้วยแล้วคุณสามีคืออยู่บ้านยาวๆค่ะจากปกติที่เป็นคนที่ชอบไปสังสรรค์กับเพื่อน ตอนนี้เริ่มเข้าสายขลุกตัวอยู่กับเน็ตฟิก พอมิวลองถามความเห็นสามีดูว่า “เปลี่ยนทีวีใหม่ดีกว่ามั้ย เพราะ ดูทีวีทีไรมาเส้นดำๆมันดันกลางจอมันขัดใจเหลือเกิน” คุณสามีเค้าก็นิ่งๆจ้า แต่นางไปซุ่มหาข้อมูลมาเรียบร้อยและอยู่ๆก็มาบอกว่า เราว่าซื้อทีวีทั้งที ซื้อ TV OLED เลยดีกว่า อกมิวจะแตกค่ะ ก็รู้ๆกันอยู่ว่าราคา TV OLED ราคาแรงมาก ค้านหัวชนฝาอย่างเดียวเลยค่ะ นางบอกให้ไปดูก่อน พอถึงห้างปุ๊บ คุณสามีก็พุ่งเป้าไปดูเครื่องเป้าหมายทันที ไม่ว่าจะเจอเซลล์เชียร์ขายใดๆก็ตามนางก็จะอยู่แต่รุ่นนี้ ไอ้รุ่นที่ว่าก็คือ TV Panasonic 4K OLED รุ่น JZ950 รู้สึกว่าตัวนี้จะเป็นรุ่นใหม่ค่ะ จอขนาด 55 นิ้ว เพราะราคาไม่แรงมาก (พอทำใจซื้อได้ค่ะ) จากตอนแรกตั้งใจมาซื้ออยู่แล้ว ยิ่งพอมาเจอเซลส์ขายคุณสมบัติแต่ละอย่าง ทั้งคุณภาพระดับจอในโรงหนัง ทั้ง Filmmaker mode แฟนมิวนี่ตาลุกวาวเลยค่ะ
ขนาดจอบางสุดเท่าที่มิวเคยเห็นมาเลยค่ะ ดีไซน์สวยดี
และด้วยความที่ตัวนี้เป็น android TV มันก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้มิวกับสามีรู้สึกโอเค เพราะส่วนตัวมองว่า การที่มันเป็น android TV มันง่ายต่อการดาวโหลดแอพพลิเคชั่นต่างๆ หากในอนาคตมีเพิ่มก็คงสะดวกกว่าเครื่องเก่าที่ใช้มาบางแอพมันโหลดไม่ได้ บางไม่มีให้โหลด แต่อันนี้เราก็เช็คก่อนซื้อแล้วว่า แอพต่างๆ ที่เราใช้ประจำสามารถดูได้ ไม่ว่าจะ True id, Disney+, Youtube, netflix คือมีหมด บวกกับเป็นจอ OLED ด้วยแถมราคาอยู่ในส่วนที่เรารู้สึกว่ารับได้ ตอนแรกเองมิวก็กะว่าไปดูก่อน แล้วค่อยกลับมาตัดสินใจแต่ ก็ทนแรงต้านความอยากได้ของคุณสามีเค้าไม่ไหว เค้าก็บอกคุ้มแล้วซื้อๆไปเถอะ พร้อมเหตุผลอธิบายความคุ้มค่าอีกร้อยแปด จนเซลล์ยังงง เลยตัดสินใจอนุมัติให้เค้าซื้อมา
พอเอามาติดตั้งที่บ้าน จอคือใหญ่มากตอนอยู่ที่ร้านรู้สึกเหมือนเล็กเลยดีนะไม่บ้าจี้ตามสามีที่ร้องจะเอา 65 นิ้ว พอติดตั้งปุ๊บคุณสามีทำทีเอาใจลูกซื้อมาเพื่อลูกเปล่าเลยตอบสนองความต้องการตัวเองล่ะเป็นส่วนใหญ่ อิอิ นางก็เปิดทีวีดูกับลูกเลยจ้า TV OLED ภาพสวยจริงอันนี้ไม่เถียงเลยค่ะ รายละเอียดภาพคือลืมทีวีเครื่องเก่าไปเลยค่ะเทียบไม่ติดเลย จอ OLED เค้าดีจริง ส่วนตัวที่มิวชอบ อีกจุดก็คือ มันสามารถสั่งงานด้วยเสียงได้ คือ เราสามารถพูด OK Google แล้วสั่งงานได้เลย เหมือนพวก Google home mini ได้เลยและที่บ้านก็ถนัดการใช้ฟังชั่นนี้มาก
เพราะที่บ้านมี Google home mini แทบทุกห้อง(ข้อดีคือ ลูกได้ฝึกพูดภาษาอังกฤษกับ Google เวลาสั่งงานด้วยค่ะเพราะที่บ้านเซตเป็นภาษาอังกฤษ ) ฟังชั่นนี้สะดวกดีอย่างบางทีเราขี้เกียจหารีโมทเปลี่ยนช่องเราก็พูดได้เลย สะดวก! ดี
ขอบคุณที่อ่านจนจบนะคะเราเพียงอยากมาแชร์ประสบการณ์การเลี้ยงลูกและทีวีใหม่ด้วยหากผิดพลาดประการใดขออภัยด้วยนะคะ
[CR] สอนลูกด้วยทีวี ที่ให้มากกว่าการดูทีวี
ส่วนการดูทีวี มิวกับแฟนจะสลับกันนั่งดูกับเค้าด้วย ไม่ให้เค้านั่งดูคนเดียว และไม่ให้เค้าเลือกช่องเอง เราจะเป็นคนเลือกให้เค้า รายการที่เปิดให้ดูส่วนใหญ่ก็เป็นพวกสารคดีสัตว์น่ารักๆ รายการเด็ก การ์ตูน รายการคำศัพท์ภาษาอังกฤษ
ทีวีที่บ้านมีช่องสำหรับเด็กค่อนข้างเยอะ และสามารถดาวน์โหลดมาดูเพิ่มเติมได้เหมือนโทรศัพท์ ซึ่งข้อดีของมันก็คือลูกไม่ต้องติดโทรศัพท์ ไม่ต้องห่วงเรื่องสายตา สามารถดูระยะไกลได้ และเรามองว่ามันเป็นการได้ใช้เวลาร่วมกันของครอบครัว
นอกจากมิวจะแนะนำมุมมองของมิวเรื่องการเลี้ยงลูกด้วยทีวี มิวก็อยากแนะนำทีวีซึ่งเป็นรุ่นที่มิวใช้อยู่ให้กับพ่อๆแม่ๆด้วย และตอนนี้ทีวีที่บ้านก็ค่อนข้างเก่าแล้วและมันมีเส้นๆ ขึ้นที่หน้าจอเลยตัดสินใจว่าจะซื้อใหม่ แหม่เข้าทางคุณสามีเลยค่ะ ยิ่งช่วงนี้เป็นช่วงโควิดด้วยแล้วคุณสามีคืออยู่บ้านยาวๆค่ะจากปกติที่เป็นคนที่ชอบไปสังสรรค์กับเพื่อน ตอนนี้เริ่มเข้าสายขลุกตัวอยู่กับเน็ตฟิก พอมิวลองถามความเห็นสามีดูว่า “เปลี่ยนทีวีใหม่ดีกว่ามั้ย เพราะ ดูทีวีทีไรมาเส้นดำๆมันดันกลางจอมันขัดใจเหลือเกิน” คุณสามีเค้าก็นิ่งๆจ้า แต่นางไปซุ่มหาข้อมูลมาเรียบร้อยและอยู่ๆก็มาบอกว่า เราว่าซื้อทีวีทั้งที ซื้อ TV OLED เลยดีกว่า อกมิวจะแตกค่ะ ก็รู้ๆกันอยู่ว่าราคา TV OLED ราคาแรงมาก ค้านหัวชนฝาอย่างเดียวเลยค่ะ นางบอกให้ไปดูก่อน พอถึงห้างปุ๊บ คุณสามีก็พุ่งเป้าไปดูเครื่องเป้าหมายทันที ไม่ว่าจะเจอเซลล์เชียร์ขายใดๆก็ตามนางก็จะอยู่แต่รุ่นนี้ ไอ้รุ่นที่ว่าก็คือ TV Panasonic 4K OLED รุ่น JZ950 รู้สึกว่าตัวนี้จะเป็นรุ่นใหม่ค่ะ จอขนาด 55 นิ้ว เพราะราคาไม่แรงมาก (พอทำใจซื้อได้ค่ะ) จากตอนแรกตั้งใจมาซื้ออยู่แล้ว ยิ่งพอมาเจอเซลส์ขายคุณสมบัติแต่ละอย่าง ทั้งคุณภาพระดับจอในโรงหนัง ทั้ง Filmmaker mode แฟนมิวนี่ตาลุกวาวเลยค่ะ
พอเอามาติดตั้งที่บ้าน จอคือใหญ่มากตอนอยู่ที่ร้านรู้สึกเหมือนเล็กเลยดีนะไม่บ้าจี้ตามสามีที่ร้องจะเอา 65 นิ้ว พอติดตั้งปุ๊บคุณสามีทำทีเอาใจลูกซื้อมาเพื่อลูกเปล่าเลยตอบสนองความต้องการตัวเองล่ะเป็นส่วนใหญ่ อิอิ นางก็เปิดทีวีดูกับลูกเลยจ้า TV OLED ภาพสวยจริงอันนี้ไม่เถียงเลยค่ะ รายละเอียดภาพคือลืมทีวีเครื่องเก่าไปเลยค่ะเทียบไม่ติดเลย จอ OLED เค้าดีจริง ส่วนตัวที่มิวชอบ อีกจุดก็คือ มันสามารถสั่งงานด้วยเสียงได้ คือ เราสามารถพูด OK Google แล้วสั่งงานได้เลย เหมือนพวก Google home mini ได้เลยและที่บ้านก็ถนัดการใช้ฟังชั่นนี้มาก
เพราะที่บ้านมี Google home mini แทบทุกห้อง(ข้อดีคือ ลูกได้ฝึกพูดภาษาอังกฤษกับ Google เวลาสั่งงานด้วยค่ะเพราะที่บ้านเซตเป็นภาษาอังกฤษ ) ฟังชั่นนี้สะดวกดีอย่างบางทีเราขี้เกียจหารีโมทเปลี่ยนช่องเราก็พูดได้เลย สะดวก! ดี
ขอบคุณที่อ่านจนจบนะคะเราเพียงอยากมาแชร์ประสบการณ์การเลี้ยงลูกและทีวีใหม่ด้วยหากผิดพลาดประการใดขออภัยด้วยนะคะ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้