ในที่สุดการรอคอยกว่า 2 ปีก็ได้สิ้นสุดลง หลังจากผ่านมรสุมโควิดจนทำให้หนังต้องเลื่อนฉายจากกำหนดเดิมในเดือนเมษา และการมาของเจ้าของลิขสิทธ์โดยตรงจากญี่ปุ่นก็ทำให้โคนัน เดอะมูฟวี่ ลำดับที่ 24 นี้ กลายเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญของวงการภาพยนตร์โคนันที่เข้าฉายในโรงภาพยนตร์ทั้งเครือ MAJOR และ SF ผมที่ตั้งกระทู้เกี่ยวกับโคนันเดอะมูฟวี่ตั้งแต่ภาค 22 ก็รู้สึกว่า เรามาไกลเหมือนกันในฐานะแฟนโคนัน และยังเป็นช่วงเวลาที่เราต้องสูญเสีย น้าตุ๊กในฐานะเจ้าของเสียงพากย์โคนันที่ฝากผลงานสุดท้ายในเดอะมูฟวี่ภาคนี้อีกด้วย
แต่ก่อนเราจะเศร้าไปมากกว่านี้ มาฟังเรื่องย่อกันดีกว่า
งาน WSG มหกรรมกีฬานานาชาติที่จัดขึ้นทุกสี่ปี คราวนี้ประเทศญี่ปุ่นได้เป็นเจ้าภาพในการจัดการแข่งขัน ความเชี่ยวชาญในด้านเทคโนโลยีทำให้ญี่ปุ่นสามารถเปิดตัวรถไฟหัวกระสุนพุ่งตรงไปข้างหน้าที่เรียกว่า "กระสุนตัดผ่านญี่ปุ่น" และพวกโคนันก็กำลังจะได้เฉลิมฉลองในมหกรรมนี้ด้วย แต่ทว่าได้เกิดเหตุการณ์ลักพาตัวสปอนเซอร์รายใหญ่ของงานอย่างต่อเนื่องที่โคนันหาทางเชื่อมโยงเรื่องราวจนเข้าไปพัวพันกับอดีตของ FBI เมื่อ 15 ปีที่เคยเกิดคดีสุดสะเทือนขวัญที่ทำให้ อากาอิ ชูอิจิ ต้องถอดร่างตัวเองเดินทางตามหาความจริงที่นาโกย่า โดยไม่รู้เลยว่าโชคชะตาของครอบครัวที่ขาดสะบั้นจะกลับมาบรรจบอีกครั้ง ในขณะเดียวกันภัยอันตรายครั้งใหญ่หลวงกำลังจะซ้ำรอยอีกครั้ง ณ เวทีปิดสังเวียน รถไฟหัวกระสุน
เรื่องราวภาคนี้จะเน้นไปที่ตัวของคดีมากกว่าภาคก่อน ๆ ที่ผูกโยงกับตัวละครใดตัวละครหนึ่ง แต่ครอบครัวตัวเอเหล่านี้ล้วนเป็นกลไกสำคัญที่เข้ามาผูกโยง โดยเฉพาะใครที่ติดตาม ผ่าปริศนาปมมรณะ หรือ ดูโคนันมาตลอด ก็จะเข้าใจความสัมพันธ์ของครอบครัวที่สุดน่ากลัวอย่างเซระที่กลายเป็นตัวละครสำคัญของภาครองจาก อากาอิ ชูอิจิ แต่รอบนี้ดีอย่างหนึ่งคือผู้เขียนบทได้เฉลี่ยตัวละครหลักให้มีบทอย่างสำคัญพอ ๆ กันและต่างมีความจำเป็นกับการขับเคลื่อนเนื้อเรื่องแทบจะทั้งหมด ทั้งรัน ไฮบาระ ขบวนการนักสืบรุ่นจิ๋ว ลุงโมริ และตัวละครรับเชิญใหม่ ๆ ที่มาทำให้เรื่องราวนั้นน่าติดตามมากขึ้น และมีความสมเหตุสมผลไม่น่ารำคาญ แม้จะมีบางฉากที่แอบรู้สึกว่ามันไม่จำเป็น เพราะด้วยความที่คดีนั้นเป็นเรื่องระดับนานาชาติ FBI ก็เลยต้องเคลื่อนไหว เราจึงได้เห็นคาเมล และโจดี้กลับมาโชว์เสน่ห์ของตัวเองที่มีมาตั้งแต่ภาค 18 อีกครั้ง และบอกได้เลยว่ามันเจ๋งกว่าอีก
ในขณะเดียวกันข้อเสียที่ตามมาคือ คดีมันค่อนข้างธรรมดาและซับซ้อนโดยไม่จำเป็นเหมือนในภาคก่อน แต่ด้วยการเฉลี่ยบทที่เท่าเทียมกัน ทำให้ความโดดเด่นของภาคนี้มันไม่ค่อยมี การมาของครอบครัวอากาอิก็ไม่ได้ถูกใช้อย่างเต็มประสิทธิภาพ บางตัวละครก็หมดบทแล้วก็โผล่มาในช่วงท้าย ฉากแอ็คชั่นที่คนดูคาดหวังอาจจะต้องผิดหวังเพราะไม่ได้เน้น แต่เน้นไปทางการต่อสู้ระยะประชิด และการไล่ล่า สถานการณ์ฉุกเฉิน และการแข่งขันกับเวลา แต่ความโม้ระดับฮอลลีวู้ด เดอะฟาสต์ยังต้องถอยก็ยังมีอยู่ แม้จะไม่ได้ระดับสิงคโปร์ตูมตาม ก็ทำให้ไม่ทิ้งสโลแกนโคนันฉบับภาพยนตร์ได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังมีการใส่ความรู้ในเชิงฟิสิกส์ที่เชื่อมโยงกับคดีมากที่สุด เรียกว่า นักวิทย์มาเต็ม
ในส่วนของนักพากย์รับเชิญ บอกตามตรง ไม่ได้เลย ทั้งผู้ชายกับผู้หญิง ผู้ชายที่ได้ เจมส์ JZB นักพากย์อนิเมะหลายเรื่อง เอเนอจี้เหลือล้น อาจจะดร็อปลงเพราะด้วยโทนตัวละครที่ต้องดูธรรมดาจนแปร่ง แต่ช่วงระเบิดอารมณ์ตอนท้ายถือว่าดีใช้ได้ มินตรา เชื้อวังคำ หรือ มินตัน คนที่พากย์เขาเป็นเน็ตไอดอล แล้วเขาพากย์ตัวละคร เอริ อิชิโอกะ ไอดอลสาวรถไฟไม่ได้เลย โทนเสียงโดดจากทุกคนในเรื่องไม่พอ ไร้อารมณ์ เสียงไม่เป็นธรรมชาติ ไม่ทำให้รู้สึกเอนเทอร์เทรนตามตัวละคร เมื่อเทียบกับภาค 20 นี่อาจจะเป็นความแย่อีกอย่างของทีมพากย์ไทยเลย ผิดหวัง ADK กับ M PICTURES มากครับกับภาคนี้
7/10
สนุกตื่นเต้น แต่ไม่โดดเด่นเหมือนภาคก่อน ๆ คดีไม่ค่อยซับซ้อน แอ็คชั่นไม่เล่นใหญ่ เฉลี่ยบทตัวละครดี มีฉากเด่นเป็นของตัวเอง
ใครชอบครอบครัวอากาอิและเอฟบีไอห้ามพลาด ถ้าไม่ได้ติดใจเรื่องเสียงพากย์ไทยก็คงสนุกได้แน่นอนครับ
ปล. เลิกเอานักพากย์ที่ไม่ใช่นักพากย์มาพากย์โคนันเถอะ ไหว้ล่ะ มันไม่ได้จริง ๆ
ปีหน้า
พบกับห้าพยัคฆ์นักเรียนตำรวจ และ การระเบิดฮาโลวีนในงานแต่งงานทาคางิกับซาโต้
ในโคนัน เดอะมูฟวี่ 25 เจ้าสาวแห่งวันฮาโลวีน
งานพากย์เดอะมูฟวี่ครั้งแรกของโคนันคนใหม่ นภัสวรรณ์ วัชรีวงศ์ ณ อยุธยา
เรื่องที่ 38 : ยอดนักสืบจิ๋ว โคนัน เดอะมูฟวี่ 24 กระสุนสีเพลิง - กระสุนตัดผ่านญี่ปุ่น วุ่นกันไปทั้งเมือง