คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 11
กระทรวงสาธารณสุข แถลงสถานการณ์โควิด-19 ประจำวันที่ 6 ธันวาคม 2564 เวลา 11.00 น.
แถลงความคืบหน้าสถานการณ์ โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)
ณ กระทรวงสาธารณสุข
วันที่ 6 ธันวาคม 2564
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
รวมสไลด์แถลงสถานการณ์โควิด-19 จาก ศบค.
วันจันทร์ที่ 6 ธันวาคม 2564
https://web.facebook.com/informationcovid19/posts/460361872248809
จำนวนการได้รับวัคซีนสะสม (28 ก.พ. - 5 ธ.ค. 2564)
รวม 95,437,744 โดส ใน 77 จังหวัด
ภาพรวมยอดฉีดวัคซีน วันที่ 5 ธันวาคม 2564
ยอดฉีดทั่วประเทศ 186,386 โดส
เข็มที่ 1 : 93,601 ราย
เข็มที่ 2 : 54,303 ราย
เข็มที่ 3 : 38,482 ราย
จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 1 สะสม : 49,223,323 ราย
จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 2 สะสม : 42,473,758 ราย
จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 3 สะสม : 3,740,663 ราย
แหล่งข้อมูล : MOPH-IC
https://web.facebook.com/informationcovid19/posts/460343178917345
ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ จะให้บริการวัคซีนเข็มที่ 1,2,3
เป็นชนิดวัคซีน ไฟเซอร์ เท่านั้น
• ผู้ที่จองคิวมาจากเครือข่ายมือถือ ทั้งเข็มที่ 1 และ 3
และผู้ที่มีนัด เข็มที่ 2 เดิมของศูนย์ฯ บางซื่อ
เข้ารับบริการที่ประตู 2,3,4 ตามเวลานัด
• สำหรับผู้ที่ไม่ได้จองคิวฉีดมา ที่ต้องการรับวัคซีน ในเข็มที่ 1,2,3
(เข็มที่ 1 ให้บริการ 2 วันสุดท้าย 6-7 ธ.ค. 64 เท่านั้น
เข็มที่ 3 ตรงตามเงื่อนไข
1. ฉีด Sinovac หรือ Sinopharm มาแล้ว 2 เข็ม
ยังไม่เคยได้รับเข็มที่ 3
2. ฉีด AstraZeneca ครบ 2 เข็ม ก่อนวันที่ 31 ก.ค. 64)
สามารถ walk in ลงทะเบียน ณ จุดฉีด เข้ารับบริการที่ประตู 1
เวลาให้บริการทุกประตู 9.00-16.30 น.
หมายเหตุ
1. ผู้ที่ต้องการวัคซีน AstraZeneca และ Sinovac โปรดติดต่อเจ้าหน้าที่จุดลงทะเบียน
2. วัคซีนโมเดอร์นา (Moderna) มีจำนวนจำกัดและจะให้บริการแก่ผู้มีประวัติแพ้วัคซีนชนิดอื่นและ/หรือเคยรับวัคซีนโมเดอร์น่าเข็มที่ 1 จากศูนย์ฯ บางซื่อมาก่อนเท่านั้น
ที่มา : CVC กลางบางซื่อ ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ
https://web.facebook.com/informationcovid19/posts/460262305592099
การดูแลสุขอนามัย และปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโควิดเป็นสิ่งสำคัญมาก
โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเด็ก ๆ ที่อาจจะดูแลตัวเองได้ไม่ดีเท่าผู้ใหญ่
วิธีที่จะช่วยป้องกันพวกเขาให้ห่างไกลจากการได้รับเชื้อ หนึ่งในนั้น คือ การสวมหน้ากาก
วันนี้มีแนวทางในการสวมหน้ากากอนามัยให้กับเด็ก เพื่อป้องการติดเชื้อโควิด-19
ซึ่งองค์การอนามัยโลก (WHO) และยูนิเซฟ (UNICEF) ได้ร่วมกันปรับปรุงขึ้น
จะเป็นอย่างไร ไปดูกันเลย
ที่มา : สสส. (สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ) : ThaiHealth
https://web.facebook.com/informationcovid19/posts/460290075589322
สถานการณ์โควิดต่างประเทศ
• แอฟริกาใต้ เผย โอไมครอนส่งผลกระทบรุนแรงต่อเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี เป็นกลุ่มผู้ป่วย อันดับ 2 รองจากกลุ่มอายุมากกว่า 60 ปี
ทางการแอฟริกาใต้ระบุว่า สถานการณ์ผู้ป่วยในกรุงโจฮันเนสเบิร์ก แอฟริกาใต้ มีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอย่างมากในทุกกลุ่มอายุ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี ที่เป็นกลุ่มที่มีจำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้น เป็นอันดับที่ 2 รองจากกลุ่มอายุมากกว่า 60 ปี ซึ่งแตกต่างจากการแพร่ระบาดของสายพันธุ์อื่น ที่กลุ่มผู้ป่วยเด็ก ไม่มีอาการรุนแรงและมีการติดเชื้อเพียงเล็กน้อย ทั้งนี้ สถานการณ์การแพร่ระบาดสายพันธุ์โอไมครอนได้แพร่กระจายไปยัง 38 ประเทศทั่วโลก ภายในเวลา 12 วัน นับตั้งแต่พบการแพร่ระบาดครั้งแรก เมื่อ 24 พ.ย.64 โดยเฉพาะสหราชอาณาจักร มีผู้ติดเชื้อยืนยัน 160 ราย แต่ยังไม่พบผู้เสียชีวิตจากสายพันธุ์ดังกล่าว
ที่มา : สำนักข่าวกรองแห่งชาติ
https://web.facebook.com/informationcovid19/posts/460307582254238
รายละเอียดผู้เสียชีวิตของประเทศไทย
วันจันทร์ที่ 6 ธันวาคม 2564 จำนวน 22 ราย
แหล่งข้อมูล : กระทรวงสาธารณสุข
https://web.facebook.com/informationcovid19/posts/460363108915352
Timeline ผู้ติดเชื้อโควิดสายพันธุ์ Omicron คนแรกในไทย
(ข้อมูลวันที่ 5 ธ.ค. 64)
- ชายอายุ 35 ปี สัญชาติอเมริกัน อยู่สเปน 1 ปี อาชีพนักธุรกิจ ไม่มีโรคประจำตัว (ติดเชื้อ ไม่มีอาการ)
- ได้รับวัคซีน J&J 1 เข็มจาก USA
- ผู้สัมผัสทั้งหมด โรงแรม (17 คน) พนักงานในสนามบิน (2 คน)
พฤศจิกายน
28 พ.ย. 64
-ตรวจ PCR ที่สเปน ผลไม่พบเชื้อ ไปทานข้าวกับเพื่อน (เพื่อนไม่มีอาการป่วย จนถึงปัจจุบัน)
29 พ.ย. 64
- บินจากสเปนไปดูไบ (EK142) พักที่ดูไบ 9 ชม. ไม่พูดคุยกับใคร ใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา
30 พ.ย. 64
- บินจากดูไบมากรุงเทพ ฯ (EK372) ลงจากเครื่อง (เที่ยงคืน) ไปเก็บตัวอย่างแบบ Drive thru ที่ รพ. คู่สัญญา และกลับเข้าโรงแรม (ผู้ป่วยเข้าโครงการ Test & Go)
ธันวาคม
1 ธ.ค. 64
- ได้รับแจ้งจาก รพ. ว่า ตรวจพบเชื้อโควิด
Ct : ORF=33.10 , N gene=30.71
3 ธ.ค. 64
- ส่งตัวอย่างเชื้อตรวจยืนยันที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์
ที่มา : กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข
https://web.facebook.com/informationcovid19/posts/460397268911936
“นายกฯ” มั่นใจสาธารณสุขไทยมีศักยภาพทั้งการเฝ้าระวัง ป้องกัน สามารถคัดกรองนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติต้องสงสัยติดเชื้อโอไมครอน รายแรกของไทย ยืนยันสายพันธุ์ที่ระบาดในไทยยังคงเป็นเดลตา
นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมได้รับทราบจากกระทรวงสาธารณสุขถึงการตรวจพบผู้ป่วยไวรัสโควิด-19 ต้องสงสัยติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์ “โอไมครอน” รายแรกของไทย เป็นการติดเชื้อจากนักท่องเที่ยวชาวอเมริกันที่เดินทางมาจากสเปน จากระบบ Test to Go ซึ่งถือว่าไทย เป็นอันดับที่ 47 ของโลก ที่พบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน หลังจากตรวจตัวอย่างพบความเข้ากันได้กับจีโนมของโอไมครอนสูงถึง 99.92% อย่างไรก็ตาม กระทรวงสาธารณสุขยังยืนยันว่า สายพันธุ์ส่วนใหญ่ที่พบขณะนี้ ในไทยยังเป็นสายพันธุ์เดลตา 65.97% สายพันธุ์อัลฟา 32.48% และสายพันธุ์เบตา 1.54% ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีจะร่วมกับกระทรวงสาธรณสุขและคณะแพทย์ และผู้ทรงคุณวุฒิ ที่ปรึกษา เพื่อติดตามพัฒนาการสถานการณ์โควิด-19 อย่างใกล้ชิด โดยขณะนี้ ยังไม่มีการเปลี่ยนแนวทางหรือนโยบาย ซึ่งทุกอย่างจะต้องมีการนำเข้าสู่ที่ประชุม ศบค. ในครั้งต่อไป
นายกรัฐมนตรีเชื่อมั่นระบบสาธารณสุขไทย มีกระบวนการการเฝ้าระวัง ตรวจสอบ และคัดกรองที่มีประสิทธิภาพและเข้มข้นสูง สามารถวินิจฉัยผู้ป่วยต้องสงสัยติดเชื้อโควิด-19 ได้อย่างรวดเร็ว ขอให้พี่น้องประชาชนตระหนักแต่อย่าได้ตระหนก โดยคณะแพทย์ไทยและทั่วโลกยังยืนยันการยึดหลักอนามัยส่วนบุคคลอย่างเคร่งครัด ด้วยมาตการการป้องกันการติดเชื้อแบบครอบจักรวาล Universal Prevention เป็นการป้องกันตนเองขั้นสูงสุดตลอดเวลาให้ปลอดภัยจากโควิด-19 ทั้งสวมหน้ากากอนามัยและหน้ากากผ้า รักษา เว้นระยะห่าง และหมั่นล้างมือให้สะอาด สามารถป้องกันโควิด-19 ได้ทุกสายพันธุ์
ที่มา : โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
https://web.facebook.com/informationcovid19/posts/460408982244098
แถลงความคืบหน้าสถานการณ์ โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)
ณ กระทรวงสาธารณสุข
วันที่ 6 ธันวาคม 2564
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
รวมสไลด์แถลงสถานการณ์โควิด-19 จาก ศบค.
วันจันทร์ที่ 6 ธันวาคม 2564
https://web.facebook.com/informationcovid19/posts/460361872248809
จำนวนการได้รับวัคซีนสะสม (28 ก.พ. - 5 ธ.ค. 2564)
รวม 95,437,744 โดส ใน 77 จังหวัด
ภาพรวมยอดฉีดวัคซีน วันที่ 5 ธันวาคม 2564
ยอดฉีดทั่วประเทศ 186,386 โดส
เข็มที่ 1 : 93,601 ราย
เข็มที่ 2 : 54,303 ราย
เข็มที่ 3 : 38,482 ราย
จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 1 สะสม : 49,223,323 ราย
จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 2 สะสม : 42,473,758 ราย
จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 3 สะสม : 3,740,663 ราย
แหล่งข้อมูล : MOPH-IC
https://web.facebook.com/informationcovid19/posts/460343178917345
ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ จะให้บริการวัคซีนเข็มที่ 1,2,3
เป็นชนิดวัคซีน ไฟเซอร์ เท่านั้น
• ผู้ที่จองคิวมาจากเครือข่ายมือถือ ทั้งเข็มที่ 1 และ 3
และผู้ที่มีนัด เข็มที่ 2 เดิมของศูนย์ฯ บางซื่อ
เข้ารับบริการที่ประตู 2,3,4 ตามเวลานัด
• สำหรับผู้ที่ไม่ได้จองคิวฉีดมา ที่ต้องการรับวัคซีน ในเข็มที่ 1,2,3
(เข็มที่ 1 ให้บริการ 2 วันสุดท้าย 6-7 ธ.ค. 64 เท่านั้น
เข็มที่ 3 ตรงตามเงื่อนไข
1. ฉีด Sinovac หรือ Sinopharm มาแล้ว 2 เข็ม
ยังไม่เคยได้รับเข็มที่ 3
2. ฉีด AstraZeneca ครบ 2 เข็ม ก่อนวันที่ 31 ก.ค. 64)
สามารถ walk in ลงทะเบียน ณ จุดฉีด เข้ารับบริการที่ประตู 1
เวลาให้บริการทุกประตู 9.00-16.30 น.
หมายเหตุ
1. ผู้ที่ต้องการวัคซีน AstraZeneca และ Sinovac โปรดติดต่อเจ้าหน้าที่จุดลงทะเบียน
2. วัคซีนโมเดอร์นา (Moderna) มีจำนวนจำกัดและจะให้บริการแก่ผู้มีประวัติแพ้วัคซีนชนิดอื่นและ/หรือเคยรับวัคซีนโมเดอร์น่าเข็มที่ 1 จากศูนย์ฯ บางซื่อมาก่อนเท่านั้น
ที่มา : CVC กลางบางซื่อ ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ
https://web.facebook.com/informationcovid19/posts/460262305592099
การดูแลสุขอนามัย และปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโควิดเป็นสิ่งสำคัญมาก
โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเด็ก ๆ ที่อาจจะดูแลตัวเองได้ไม่ดีเท่าผู้ใหญ่
วิธีที่จะช่วยป้องกันพวกเขาให้ห่างไกลจากการได้รับเชื้อ หนึ่งในนั้น คือ การสวมหน้ากาก
วันนี้มีแนวทางในการสวมหน้ากากอนามัยให้กับเด็ก เพื่อป้องการติดเชื้อโควิด-19
ซึ่งองค์การอนามัยโลก (WHO) และยูนิเซฟ (UNICEF) ได้ร่วมกันปรับปรุงขึ้น
จะเป็นอย่างไร ไปดูกันเลย
ที่มา : สสส. (สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ) : ThaiHealth
https://web.facebook.com/informationcovid19/posts/460290075589322
สถานการณ์โควิดต่างประเทศ
• แอฟริกาใต้ เผย โอไมครอนส่งผลกระทบรุนแรงต่อเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี เป็นกลุ่มผู้ป่วย อันดับ 2 รองจากกลุ่มอายุมากกว่า 60 ปี
ทางการแอฟริกาใต้ระบุว่า สถานการณ์ผู้ป่วยในกรุงโจฮันเนสเบิร์ก แอฟริกาใต้ มีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอย่างมากในทุกกลุ่มอายุ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี ที่เป็นกลุ่มที่มีจำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้น เป็นอันดับที่ 2 รองจากกลุ่มอายุมากกว่า 60 ปี ซึ่งแตกต่างจากการแพร่ระบาดของสายพันธุ์อื่น ที่กลุ่มผู้ป่วยเด็ก ไม่มีอาการรุนแรงและมีการติดเชื้อเพียงเล็กน้อย ทั้งนี้ สถานการณ์การแพร่ระบาดสายพันธุ์โอไมครอนได้แพร่กระจายไปยัง 38 ประเทศทั่วโลก ภายในเวลา 12 วัน นับตั้งแต่พบการแพร่ระบาดครั้งแรก เมื่อ 24 พ.ย.64 โดยเฉพาะสหราชอาณาจักร มีผู้ติดเชื้อยืนยัน 160 ราย แต่ยังไม่พบผู้เสียชีวิตจากสายพันธุ์ดังกล่าว
ที่มา : สำนักข่าวกรองแห่งชาติ
https://web.facebook.com/informationcovid19/posts/460307582254238
รายละเอียดผู้เสียชีวิตของประเทศไทย
วันจันทร์ที่ 6 ธันวาคม 2564 จำนวน 22 ราย
แหล่งข้อมูล : กระทรวงสาธารณสุข
https://web.facebook.com/informationcovid19/posts/460363108915352
Timeline ผู้ติดเชื้อโควิดสายพันธุ์ Omicron คนแรกในไทย
(ข้อมูลวันที่ 5 ธ.ค. 64)
- ชายอายุ 35 ปี สัญชาติอเมริกัน อยู่สเปน 1 ปี อาชีพนักธุรกิจ ไม่มีโรคประจำตัว (ติดเชื้อ ไม่มีอาการ)
- ได้รับวัคซีน J&J 1 เข็มจาก USA
- ผู้สัมผัสทั้งหมด โรงแรม (17 คน) พนักงานในสนามบิน (2 คน)
พฤศจิกายน
28 พ.ย. 64
-ตรวจ PCR ที่สเปน ผลไม่พบเชื้อ ไปทานข้าวกับเพื่อน (เพื่อนไม่มีอาการป่วย จนถึงปัจจุบัน)
29 พ.ย. 64
- บินจากสเปนไปดูไบ (EK142) พักที่ดูไบ 9 ชม. ไม่พูดคุยกับใคร ใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา
30 พ.ย. 64
- บินจากดูไบมากรุงเทพ ฯ (EK372) ลงจากเครื่อง (เที่ยงคืน) ไปเก็บตัวอย่างแบบ Drive thru ที่ รพ. คู่สัญญา และกลับเข้าโรงแรม (ผู้ป่วยเข้าโครงการ Test & Go)
ธันวาคม
1 ธ.ค. 64
- ได้รับแจ้งจาก รพ. ว่า ตรวจพบเชื้อโควิด
Ct : ORF=33.10 , N gene=30.71
3 ธ.ค. 64
- ส่งตัวอย่างเชื้อตรวจยืนยันที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์
ที่มา : กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข
https://web.facebook.com/informationcovid19/posts/460397268911936
“นายกฯ” มั่นใจสาธารณสุขไทยมีศักยภาพทั้งการเฝ้าระวัง ป้องกัน สามารถคัดกรองนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติต้องสงสัยติดเชื้อโอไมครอน รายแรกของไทย ยืนยันสายพันธุ์ที่ระบาดในไทยยังคงเป็นเดลตา
นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมได้รับทราบจากกระทรวงสาธารณสุขถึงการตรวจพบผู้ป่วยไวรัสโควิด-19 ต้องสงสัยติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์ “โอไมครอน” รายแรกของไทย เป็นการติดเชื้อจากนักท่องเที่ยวชาวอเมริกันที่เดินทางมาจากสเปน จากระบบ Test to Go ซึ่งถือว่าไทย เป็นอันดับที่ 47 ของโลก ที่พบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน หลังจากตรวจตัวอย่างพบความเข้ากันได้กับจีโนมของโอไมครอนสูงถึง 99.92% อย่างไรก็ตาม กระทรวงสาธารณสุขยังยืนยันว่า สายพันธุ์ส่วนใหญ่ที่พบขณะนี้ ในไทยยังเป็นสายพันธุ์เดลตา 65.97% สายพันธุ์อัลฟา 32.48% และสายพันธุ์เบตา 1.54% ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีจะร่วมกับกระทรวงสาธรณสุขและคณะแพทย์ และผู้ทรงคุณวุฒิ ที่ปรึกษา เพื่อติดตามพัฒนาการสถานการณ์โควิด-19 อย่างใกล้ชิด โดยขณะนี้ ยังไม่มีการเปลี่ยนแนวทางหรือนโยบาย ซึ่งทุกอย่างจะต้องมีการนำเข้าสู่ที่ประชุม ศบค. ในครั้งต่อไป
นายกรัฐมนตรีเชื่อมั่นระบบสาธารณสุขไทย มีกระบวนการการเฝ้าระวัง ตรวจสอบ และคัดกรองที่มีประสิทธิภาพและเข้มข้นสูง สามารถวินิจฉัยผู้ป่วยต้องสงสัยติดเชื้อโควิด-19 ได้อย่างรวดเร็ว ขอให้พี่น้องประชาชนตระหนักแต่อย่าได้ตระหนก โดยคณะแพทย์ไทยและทั่วโลกยังยืนยันการยึดหลักอนามัยส่วนบุคคลอย่างเคร่งครัด ด้วยมาตการการป้องกันการติดเชื้อแบบครอบจักรวาล Universal Prevention เป็นการป้องกันตนเองขั้นสูงสุดตลอดเวลาให้ปลอดภัยจากโควิด-19 ทั้งสวมหน้ากากอนามัยและหน้ากากผ้า รักษา เว้นระยะห่าง และหมั่นล้างมือให้สะอาด สามารถป้องกันโควิด-19 ได้ทุกสายพันธุ์
ที่มา : โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
https://web.facebook.com/informationcovid19/posts/460408982244098
แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
การเมือง
รัฐบาล
กระทรวงสาธารณสุข
วัคซีน (Vaccine)
โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 (COVID-19)
🇹🇭มาลาริน💛6ธ.ค.โควิดไทยขาลง ไทยไม่ติดTop10โลก ป่วย4,000คน หายป่วย6,450คน เสียชีวิต22คน/โควิด76จว./ไทยพบโอมิครอนรายแรก
https://www.sanook.com/news/8484698/
https://travel.trueid.net/detail/EpwDxDy0Jd17
https://www.bangkokbiznews.com/news/975827
ไทยพบผู้ติดเชื้อโควิด “โอไมครอน” รายแรก เป็นชาวอเมริกัน เดินทางมาจากสเปน
สธ.พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์“โอไมครอน” เป็นรายแรกในไทย เข้าผ่านระบบ Test & Go ระบุเป็นชาวอเมริกัน เดินทางมาจากสเปน
วันนี้ (6 ธ.ค.) ที่กระทรวงสาธารณสุข นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวว่า ในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา ยอมรับว่า มีสื่อบางแขนงหรือมีข่าวลือ ที่ทำให้ประชาชนตื่นตระหนกและสับสน ตนขอทำความเข้าใจ ทั้งนี้ รอการตรวจสอบเรื่องการกลายพันธุ์มาตรวจทุกสัปดาห์ ข้อมูล 27 พ.ย.- 3 ธ.ค. ยังเป็นเชื้อ Delta เกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ โดยตรวจ 800 ตัวอย่างพบ Alpha 1 ราย ที่เหลือเป็นเดลตาทั้งหมด ถ้าดูภาพรวมแนวโน้มของประเทศไทยก็ยังเป็น 99.7% ตั้งแต่เราเปิดประเทศเป็นต้นมามีการเฝ้าระวังคนที่มีผลตรวจเป็นบวก 3 ช่องทางต่างๆ รวมคล้ายๆ กัน จะเป็นเชื้อ Delta ส่วนใหญ่มี Alpha โผล่มานิดหน่อย 1-2 ราย
ขอย้ำว่า กระบวนการได้มาถึงสายพันธุ์ แต่ตรวจเชื้อในแต่ละวันนั้น ไม่สามารถบอกสายพันธุ์ได้ จำเป็นจะต้องส่งในรายที่เข้ากับเงื่อนไขที่อาจจะทำให้เจอสายพันธุ์ใหม่ๆ เช่น เป็นคลัสเตอร์ อยู่บนบริเวณชายแดน หรือเดินทางมาจากต่างประเทศ ทั้งนี้ การตรวจสายพันธุ์มีอยู่ 3 ระดับตรวจง่ายสุด คือ rt-pcr โดยตรวจตำแหน่งยีนเฉพาะซึ่งจะต้องพัฒนาน้ำยาเฉพาะซึ่งภายใน 1-2 วันก็จบ หากสงสัยสายพันธุ์ใหม่จะต้องมีการพิสูจน์อย่างแน่ชัดคือการตรวจรหัสพันธุกรรมบางส่วน ถ้าจะสมบูรณ์ที่สุด คือ ตรวจสายพันธุกรรม ทั้งตัวซึ่งไวรัสมีอยู่ประมาณ 30,000 ตำแหน่ง สำหรับโอไมครอน มีการใช้การเทียบตัวอย่างตรวจไม่พบตำแหน่ง K 417N และ L452R เท่ากับเป็นการติดเชื้อโอไมครอน
ทั้งนี้ มีตัวอย่างที่ส่งมาจาก Test & Go เมื่อเย็นวันศุกร์ที่ผ่านมา ตรวจพบเบื้องต้นสรุป ณ ขณะนั้นว่าอาจจะเป็นเชื้อโอไมครอน ซึ่งแจ้งทางกรมควบคุมโรคในการสอบสวนโรคแล้ว ถือเป็นรายแรกของประเทศ ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบเพิ่มเติมว่าเป็นเชื้อโอไมครอนจริงหรือไม่
เบื้องต้นรายนี้ เป็นผู้ชายชาวอเมริกัน แต่เดินทางมาจากประเทศสเปน พบเบื้องต้นพบว่าว่า มีการหายไปของตำแหน่ง K 417N และ L452R ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบเพิ่มเติม ย้ำว่า นี่เป็นการตรวจเจอในกลุ่ม Test & Go ที่ต้องตรวจ RT-PCR ดังนั้นนี่เป็นมาตรการสำคัญ ขอประชาชนอย่ากังวล
https://mgronline.com/qol/detail/9640000120680
โควิด-19 ยอดผู้เสียชีวิตต่ำสุดรอบ 6 เดือน - หมอ ยง ระบุ โควิด-19 ของไทยอยู่ในช่วงขาลงอย่างช้าๆ
ศบค.รายงานผู้ติดเชื้อโควิด-19 วันนี้ 4,000 คน ทำให้ยอดผู้ป่วยสะสมตั้งแต่เดือนเมษายนรวมกว่า 2.11 ล้านคน รักษาหายกว่า 2.027 ล้านคน และยังรักษาอยู่ 69,010 คน ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตล่าสุด 22 คน เป็นจำนวนน้อยที่สุด ในรอบ 6 เดือน นับตั้งแต่วันที่ 18 มิถุนายนที่ผ่านมา
ศาสตราจารย์นายแพทย์ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ว่า โควิด-19 การระบาดในประเทศไทยอยู่ในขาลงแบบช้าๆ แต่จะให้โรคนี้หมดไปคงเป็นไปไม่ได้ ถึงมีผู้ป่วย แต่ถ้าอาการไม่รุนแรง หรือไม่เสียชีวิต มีผู้ป่วยเป็นหลักพัน แต่ไม่มีผู้เสียชีวิต หรือมีผู้เสียชีวิตเป็นหลักหน่วยต้นๆ ก็คงต้องยอมรับได้
ในทุกปี ไทยมีผู้เสียชีวิตจากไข้หวัดใหญ่ ปีละ 100-200 คน จะเป็นในผู้ที่มีโรคประจำตัว ผู้สูงอายุ เด็กเล็ก คนอ้วน สตรีตั้งครรภ์ ในทำนองเดียวกันต่อไปโควิด 19 ถ้าทุกคนมีภูมิต้านทานหมด แต่ก็จะยังพบโรคนี้ตามฤดูกาล โดยเฉพาะฤดูเดียวกับการพบไข้หวัดใหญ่ จะเป็นฤดูฝน ช่วงเดือนมิถุนายนถึงกันยายน หรือ ช่วงนักเรียนเปิดเทอมแรก และจะพบอีกระยะหนึ่ง ในฤดูหนาวประมาณ มกราคมถึงมีนาคม หรือช่วงนักเรียนเปิดเทอมที่ 2 ของทุกปี เด็กทุกคนที่เกิดมาจนถึงอายุ 9 ขวบ แทบจะไม่มีใครเลยที่ไม่เคยเป็นไข้หวัดใหญ่ และเราก็เสริมการฉีดวัคซีนให้กับกลุ่มเสี่ยง เพื่อลดอัตราการเสียชีวิต
ในอนาคต ถ้าทุกคนมีภูมิต้านทาน ต่อไวรัส covid-19 ไม่ว่าจะเกิดจากการติดเชื้อ หรือจากการได้รับวัคซีน เป็นส่วนใหญ่ หรือเกือบทั้งหมด ภูมิต้านทานดังกล่าวก็จะสามารถลดความรุนแรงของโรคลง โรคนี้ก็จะเป็นโรคตามฤดูกาล และจะมีอุบัติการณ์สูงในช่วงเดียวกับโรคไข้หวัดใหญ่ ต่อไป
ดังนั้น ทุกคนจะต้องเสริมสร้างภูมิต้านทานของตัวเอง การฉีดวัคซีนโควิด-19 มีประโยชน์มากกว่าความเสี่ยงติดเชื้อ จึงขอให้ทุกคนได้รับวัคซีนโควิด-19 ตามกำหนด
https://news.ch7.com/detail/534426
ติดตามข่าวโควิดไทยขาลงอย่างช้าๆ จำนวนติดเชื้อลดลง
เสียชีวิตลดลง คนรักษาตัวในโรงพยาบาลน้อยลง
ส่วนคนหายป่วยเพิ่ม ฉีดวัคซีนได้95 ล้านโดส ใกล้100ล้านโดส ถือว่าไม่ผิดเป้าหมายมากนักค่ะ
พบคนป่วยโคมิครอน รายแรกที่เข้าประเทศมา ต้องตรวจเพิ่มเติมอีกว่าใช่แน่นอนหรือไม่ ยังรับมือได้อยู่ค่ะ
ใกล้จะสิ้นปี ขึ้นปีใหม่แล้ว ขอให้ไทยผ่านพ้นอุปสรรคทั้งปวง ให้ได้สนุกสนานในแห่งความสุขขึ้นปีใหม่ค่ะ
ระมัดระวังอย่าการ์ดตกนะคะ