เรื่องนี้สื่ออะไร แค่ผู้หญิงคนหนึ่งอยากมีแฟนหรอ ไม่น่าจะใช่  
แต่มันเหมือนแสดงให้เห็นความเลื่อมล้ำของคนในเมืองกับนอกเมือง ที่คนชนบทมักจะเชิดชูคนเมืองหลวง ว่าดูดี มีสง่า 
แค่พาตัวไปอยู่ในสังคมไกลๆที่ไม่ใช่บ้านตัวเอง เราก็จะหลุดพ้นจากคำว่าบ้านนอก  
แต่หนังนำเสนอในแบบคอมเมดี้ เลยทำให้คนดูสนุก และเข้าใจความต้องการของนางเอกได้  
ไม่ใช่แค่อยู่ดีๆฉันอยากมีผัว
 
ชอบความเรียลของบท ไม่ประดิษฐ์ คำพูดเข้าปากมาก นสด.รับส่งกันโบ๊ะบ๊ะ
บทส้มป่อยคือฉีกกฎทุกอย่างของความเป็นนางเอก และของผู้หญิงเหนือ
ไม่เคยเห็นนางเอกคนไหน เต้นได้รั่วขนาดนี้ กินลาบดิบ แอ๊วผู้ ซดเหล้า เมาท์ม้อยกับเพื่อน
ชีวิตจริงของคนชนบทก็ประมาณนี้
 
ด้วยเรื่องราวการดำเนินเรื่องไม่ได้สลับซับซ้อน คนภาคอื่นเข้าใจง่าย 
ถึงแม้จะเป็นสูตรสำเร็จว่าสุดท้ายจะลงเอยยังไง แต่หนังพาคนดูสนุกไปด้วยทุกฉาก
มีทั้งซีนที่ขำก๊าก แบบขำไม่ไหว แต่คนดูจะยิ้มตามแทบทุกซีน
และไม่น่าเชื่อว่าจะมีฉากที่ทำให้น้ำตาซีมด้วย
คิดว่าน่าจะเป็นความตั้งใจของผกก. ว่าถ้ามันปมเยอะ พลิกไปพลิกมา แล้วเป็นภาษาเหนืออีก
คนอาจจะงง พาลไม่เปิดใจดู เค้าเลยทำออกมาแบบย่อยง่าย
 
มุมกล้องสวยมาก ฉากกว้างๆที่ใช้โดรนถ่าย สวยทุกฉาก ได้เห็นธรรมชาติแบบอิ่มๆ  
สถานที่ท่องเที่ยวหลายที่ก็น่าตามรอยมาก
1.วัดพระธาตุหริภุญชัย (จขกท.เคยไปแล้ว แต่ก็อยากไปอีก)
2.วัดพระยืน
3.วัดที่ส้มป่อยเจอกับอ้ายแวนครั้งแรก ตอนกลางคืน เหมือนเป็นโบราณสถาน
4.อ่างเก็บน้ำ หรือบ่อคอกวัวก็ไม่รู้ ที่ส้มป่อยตามไปหาอ้ายแวน วิวสวยมาก
5.บ้านของปี๋ข้าวตอก ไม่รู้ว่าเป็นบ้านคนหรือสถานที่ใด ทรงบ้านสวยดี
 
เพลง บอกเลยว่าโดนทุกเพลง
1.ตั้งแต่เพลงโปรโมทเพลงแรก ‘ฮักได้ก่อ’
2.จนมาเพลง ‘อยากมีแฟนแล้ว’ เวอร์ชั่น ส้มมารี เพลงน่ารัก สนุก เข้ากับส้มป่อยมาก ชอบท่อนแร็ปคำเมือง 
3.เพลงที่ทำให้คนดูน้ำตาซึม ‘ไม่เคย’ เวอร์ชั่นไม้เมือง
4.เพลงที่คนดูถามถึงมากที่สุด ‘เวทมนตร์’
5.เพลงของอ้ายแซ้ป ‘มอบความฮัก’ 
6.เพลง ‘จั๊กกิ้มต๊กโต’ เพลงนี้ก็มันส์มาก ในฉากที่เหล่าคนทรงเต้นกัน แต่พึ่งมารู้ความจริงจากน้ำตาลว่า 
ตอนเล่นฉากนี้ ไม่ได้เปิดเพลงนาจา จินตนาการเอาล้วนๆ
7.เพลงตอนจบที่ผู้หญิงร้อง แนวโจ๊ะๆเหนือๆ ไม่รู้เพลงอะไร ไปเสิร์ชหาใน google/youtube ไม่เจอเลย 
(ร้องประมาณว่า ..คอยมาเนินนาน บ่มีวันพูก บ่มีวันวาน มีแค่สองเฮา..)
 
ประทับใจเรื่องนี้หลายฉาก ขอเลือกฉากที่สื่อให้เห็นความเป็นตัวตนของส้มป่อยแล้วกัน 
คือฉากกินลาบกินเหล้า คนเราจะแอ็คเป็นแบบไหนก็ได้ 
แต่สุดท้ายมันก็หนีความเป็นตัวเองไม่ได้ 
แล้วคนที่เห็นตัวตนของเราแล้วรับเราได้ คนนั้นแหล่ะคือคนที่จะอยู่กับเรา เคียงข้างเราไปตลอดชีวิต
 
ขอตินิดหนึ่ง  คหสต.นะคะ
คิดว่าความรักของส้มป่อยกับแซ้ป มันยังไม่ถึงจุดที่ทำให้2คนนี้รักกันมาก
ถึงขนาดต้องตัดใจ ต้องเสียน้ำตา ต้องเลือก คือมันดูผิวเผินเกินไป
แซ้ปอ่ะชอบส้มป่อยตั้งแต่เห็นครั้งแรกแล้ว
แต่ส้มป่อยชอบอ้ายแวนอยู่ดีๆ แค่สถานการณ์เดียวกลับเปลี่ยนใจมาชอบแซ้ป
แต่ด้วยบทที่สนุก และน้ำตาลกับตี๋ตี๋เล่นได้น่ารักมาก ก็เลยลืมๆไป
 
น้องส้มป่อย คนสำคัญของเรื่อง 
หนังเรื่องแรกของน้ำตาลก็ได้รับบทนำและเด่นมาก บอกเลยว่า น้ำตาลสุดยอดจริงๆ
เรื่องภาษาหายห่วง น้ำตาลคนเหนืออยู่แล้ว 
แล้วผกก.ก็อยากได้เหนือแบบห้วนๆ ฟังสนุก 
น้ำตาลเวลาพูดเหนือจะมีเสน่ห์มาก แล้วน้องก็ชอบอู้เหนือเวลาคุยกับแฟนคลับ หรือไลฟ์สด ก็จะได้ยินตลอด

ความน่ารักของส้มป่อย อันนี้จขกท.ไม่ได้มโนไปเองแน่ 
เพราะทุกคนที่ไปดูพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เรื่องนี้น้ำตาลเล่นได้น่ารักมาก 
มันไม่ใช่น่ารักแบบใสๆหรือสวยจัดแบบในละคร 
แต่เป็นความน่ารักแบบเป็นธรรมชาติ 
น่ารักแบบผู้หญิงธรรมดาๆที่ไม่ต้องแต่งเติมอะไรมากมาย 
ไม่ต้องใส่เสื้อผ้าราคาแพง 
ยิ่งไว้ผมหน้าม้ายิ่งน่ารัก (น้ำตาลบอกว่าตั้งใจไว้หน้าม้าเพื่อเล่นเรื่องนี้เลย)

บทคอมเมดี้ทุกคนรู้อยู่แล้วว่าน้ำตาลไม่เป็นสองรองใคร 
บทดราม่ายิ่งไว้ใจน้ำตาลได้ เรื่องไหนเรื่องนั้น น้ำตาเป็นสายอ่ะว่าง่ายๆ 
แต่จะเอาแบบไม่มีน้ำตาก็ได้ ตาก็จะแดงๆ สื่ออารมณ์ทางสายตาได้ดีมาก

บอกเลยว่าน้ำตาลเล่นเรื่องนี้ไม่ห่วงสวยไม่ห่วงลุคนางเอกเลย 
ฉากกินเหล้า เมาแล้วเต้น คือเรียลมาก เค้าเรียกว่าอะไร เสียงสร้อยหรอ เวลากินเหล้าเสร็จมันจะมีเสียง ‘อ้ากกก’ 
น้องทำการบ้านมาดี ศึกษาบท เล่นจนเราลบภาพจำของผู้หญิงเหนือที่ตะต่อนย่อนไปเลย
 
จขกท.หวังว่าคนที่เข้าไปดูส้มป่อย จะชื่นชอบบทบาทนี้ของน้ำตาล และอยากให้ติดตามน้ำตาลไปอีกเรื่อยๆ 
 
ขอขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนะคะ เป็นกระทู้แรก มีอะไรขาดตกบกพร่องต้องขออภัยด้วย 


ขอบคุณรูปจากไอจี meanminmeal