"กระต่ายเพ้อ"
(กลบทละลอกแก้วกระทบฝั่ง)
# ใจอาวรณ์ จิตอ่อนไหว เพราะใฝ่ฝัน
หมายปองจันทร์ เหมือนปันจิต หลงคิดเก้อ
ฉันคนแพ้ ชมแค่พ่าย กระต่ายเพ้อ
นัยน์ตาหมอง นั้นต้องเหม่อ เราเผลอคอย
# เพราะสิ้นรัก เพียงศักดิ์เรา มิเท่าแท้
ต่ำเพียงแคร่ ต้องแพ้เขา เมื่อเราสอย
หมายเคียงเจ้า หมายเงาจันทร์ จึ่งฝันลอย
บาปร้อนผ่าว บุญร้าวพลอย จำน้อยใจ
# ด้วยภักดี แดพี่ดิ้น มาสิ้นสิทธิ์
มุ่งใจพิศ หมองจิตพลั้ง มิยั้งได้
ไม่เจียมตน หมายจนต้อง หม่นหมองใจ
เหมือนโยนฟาง มาย่างไฟ จึ่งไหม้ดำ
# เสียดายเจ้า สุดเดาใจ ร้องไห้หวน
จึ่งยามใด เจ้าใยด่วน พี่ครวญคร่ำ
ขณะคิด ขนิษฐ์ขึ้ง คะนึงคำ
ที่จำได้ เธอใจดำ พี่ช้ำจินต์
# หวังสอยดาว หวามสาวเดือน ไม่เหมือนคิด
คนขาดสิทธิ์ แค่คิดซ่าน หวังพาลสิ้น
เพราะหมายจันทร์ เผลอมั่นใจ ว่าใกล้ตฤณ
ต่ำศักดิ์ด้อย ต้องสอยดิน ถวิลคอย
# เป็นเชิงกล เป็นชนเก่า ปราชญ์เขาคิด
เขียนภาษา คำภาษิต ประดิษฐ์ถ้อย
"ละลอกแก้ว กระทบฝั่ง" เล่ห์ฝังรอย
โบราณทำ บทเรียงถ้อย ร้อยกลกานท์ ฯ
"kru piak"
4 ธันวาคม 2564
กระต่ายเพ้อ (กลบทละลอกแก้วกระทบฝั่ง)