สวัสดีค่ะ เรามีโอกาสได้ไปดูภาพยนตร์ไทยเรื่อง อโยธยามหาละลวย ผลงานของผู้กำกับ ‘ภวัต พนังคศิริ’
ซึ่งเคยกำกับละครในตำนานที่สร้างกระแสฟีเวอร์จนฮอตฮิตติดลมบนไปทั่วประเทศมาแล้วอย่าง ‘บุพเพสันนิวาส’
บวกกับเรื่องนี้นำแสดงโดย เจมส์จิ และโบว์เมลดาด้วย เป็นดาราที่เราชอบอยู่แล้วทั้งคู่
เลยคาดหวังและตื่นเต้นเป็นพิเศษ วันนี้เลยจะมารีวิวให้เพื่อนๆได้ลองอ่านกันค่ะ
เราชอบที่พี่ใหม่ผู้กำกับให้สัมภาษณ์เรื่องนี้ว่าหนังเรื่องนี้จะแตกต่างจากหนังแนวนี้ที่เคยผ่านมาตรงที่ เรื่องอื่นๆ อาจเล่าเรื่องประวัติศาสตร์ การกู้ชาติ ศึกสงครามเป็นหลัก แต่เรื่องนี้จะพาคนดูเลี้ยวลดไปยังตรอกซอกซอยของอโยธยา เพื่อไปดูวิธีชีวิตของผู้คน วัยรุ่นในสมัยนั้นว่า เขาทำอะไรกัน เที่ยวกันที่ไหนบ้าง อย่างในหนัง เซตติ้งหลักของเรื่องก็จะเป็นโรงชำเราหรือโรงน้ำชาในสมัยก่อนที่จะมีหญิงสาวสวยๆ มาร่ายรำ ร้องเพลงให้ความสำราญกับคนที่เข้ามาเยี่ยมเยียนเป็นต้น หนังเปิดเรื่องมาด้วยการเล่าเรื่องราวปูพื้นประวัติศาสตร์เล็กน้อย จุดเริ่มต้นของเรื่องคือการฆ่ากวาดล้างตระกูลชาวญี่ปุ่น ‘ยามาดะ’ ซึ่งเหตุการณ์นี้ทำให้เด็กชายลูกครึ่งญี่ปุ่นคนนึงต้องเสียพ่อและแม่ไป...
เรื่องนี้เจ้าโบว์รับบทเป็น ‘ออสายสร้อย’ ซึ่งเป็นอี้จี (นางคณิกาชั้นสูงของโรงชำเราแห่งนั้น) เรียกง่ายๆ ว่าเป็นตัว Top ของที่นี่นั่นเองค่ะ แน่นอนต้องมีผู้ชายมาตามจีบและอยากได้ออสร้อยเป็นธรรมดา ส่วนเจมส์จิรับบทเป็น ‘เรียวสึ’ เด็กชายลูกครึ่งญี่ปุ่นที่ถูกหลวงปู่คอยเลี้ยงและสอนวิชาอาคมให้ พอโตเป็นหนุ่มเขามีหญิงสาวในดวงใจที่ตกหลุมรักตั้งแต่แรกเห็นจนไม่สามารถลืมได้ นางก็เลยหาแกงหลวงปู่ว่าอยากออกมาตามหาแม่ที่พรัดพรากจากกันไปตอนเด็ก อยากรู้ว่าแม่เป็นไงอยู่ดีมีสุขมั้ย ตีบทเศร้าตาใสแล้วหนึ่ง 555 หลวงปู่ก็เลยยอม แต่มีหนึ่งคนที่รู้ทันนั่นคือ‘ทอง’ (แสดงโดย เกรท สพล ค่ะ บทเด่นอยู่นะคะตัวละครนี้ ตัวละครนี้เหมือนเป็นแฝดที่คอยดูแลปกป้องและเรียกสติพระเอกค่ะ 55 ) แต่เรียวสึคือจริงๆแม่นางก็อยากเจอแหละ
แต่พ้อยหลักคือคิดถึงสาวมากกว่า 555
ตามไปตามมาดันไปเจอสองสหายสุดฮาคนนึงเป็นลูกครึ่งจีน คนนึงลูกครึ่งแขก เหล่าซือ นายจ๋ากันทั้งเรื่อง วายป่วงมากเวลาสองคนนี้อยู่ด้วยกัน เป็นสีสันที่น่ารักและฮาๆ อีกอย่างนึงของเรื่องนี้ค่ะ โบ๊ะบ๊ะกันดี สองคนนี้เป็นหัวโจกของโรงชำเรา ละนางก็ดันไปมีเรื่องกับอีกแก๊งซึ่งเป็นเหมือนมาเฟียของที่นี่ วิ่งหนีตายไปเจอเรียวสึจนได้รวมแก๊งกัน ตามจนมาเจอออสายสร้อยสาวในดวงใจที่กำลังโดนมาเฟียของอโยธยาระดับบิ๊กบอสซื้อตัวไป หลังจากนั้นก็นั่นแหละค่ะ ศึกชิงนางสิคะรออะไร หนีไปหนีมา ร่ายคาถา เสกมนตร์ ตามตัวอย่างที่ได้ดูกัน แต่แอบบอกก่อนว่ามีคดีพลิกอยู่5555 เพราะว่าเป็นหนังรักสายมู ใครมูใครก็ต้องไปดูเอาเอง นอกจากศึกชิงนางแล้วก็ยังมีปมแม่พระเอกที่ค่อยๆ คลี่คลาย ว่าตกลงยังไง
แม่พระเอกคือใคร มีชีวิตอยู่ไหม ตรงนี้ก็ต้องไปตามกันเอาเองในเรื่อง
สำหรับเราภาพรวมถือว่าดีนะคะ เป็นหนังแนวประวัติศาสตร์ที่ไม่ได้ดูยัดเยียดเนื้อหาของการเล่าเรื่องประวัติศาสตร์จนมากเกินไป เพราะก็เคยดูมาเยอะแล้วแนวนี้ แต่หนังเรื่องจะหยิบบางชิ้นส่วนของประวัติศาสตร์มาพูดถึงเป็นกิมมิค แล้วใส่น้ำหนักของเนื้อหาไปที่ความรักของเรียวสึ กับออสายสร้อย และคาถา อาคมซะมากกว่า เราแอบชอบที่หนังมีการใส่เทรนด์ฮิตของผู้ชายสมัยนั้นในการสักยันต์มาด้วย บางคนก็จะมียันต์เสือ ยันต์จิ้งจกคู่ ยันต์วานรต่างๆนาๆ ของขึ้นเข้าหน่อยก็มาสู้กัน แบบคนมีของมีคาถามาโชว์ ตรงนี้ก็ตื่นเต้นดีค่ะ บางยันต์ก็ไม่เคยได้ยินมาก่อน ถึงจะแอบคิดว่าน่าจะขยี้ความเป็นสายมูได้มากกว่านี้อีกนิด แต่ก็ไม่เป็นไรค่ะ จังหวะตัดต่อบางฉากตัดฉับไปหน่อยไม่ค่อยสมูธ แต่ก็ไม่ได้งงจนดูไม่รู้เรื่องนะคะ ภาพรวมโอเค
เป็นหนังโรแมนติกคอมเมดี้ ดูง่าย ดูเพลิน ตัวละครแต่ละตัวน่ารัก เป็นสีสันที่ดีของเรื่อง เคมีพระนางเลิศมาก
CG ตอนเปิดเรื่องที่เป็นอโยธยาในสมัยก่อนมีโล้สำเภา แม่น้ำอะไรงี้เราว่าทำได้ดีนะคะ
แต่ที่อยากชมหนักๆ เลยคือ เคมีพระนางค่ะ พี่ใหม่เลือกพระเอกนางเอกได้ปังมาก สดใหม่เพราะสองคนนี้ยังไม่เคยเจอกันมาก่อน
สำหรับเราที่ได้เข้าไปดูจอใหญ่ในโรง เวลาพระนางอยู่ด้วยกันดูน่ารัก เข้ากันได้ดีมากกก
ยิ่งฉากท้ายๆของเรื่องนี่เรารู้เลยว่า 'จิลดา' มาแน่ ฟิสิกส์ เคมี ชีวะมาหมด แบบโอ๊ยทำไมเข้ากันงี้
ผู้จัดละครไม่สนใจสองคนนี้บ้างหรอคะ ละครโรแมนติกสักเรื่องต้องมาแล้ว
มันแบบสมูธไปหมด ฉากกุ๊กกิ๊ก อย่างหอมแก้ม หอมคางอะไรงี้คือ น่ารักสุดค่ะ
อยากให้เอาคู่นี้ไปต่อยอดในละครต่อ อยากดูเจมส์โบว์ยาวๆ เราว่ามันได้มาก
มันดีมาก 10/10 ไม่หักนะคะ สำหรับเคมีความดีงามของพระนางเนี่ย
(ปล. ออสายสร้อยเธอมันรว้ายยย เธอมันทุ่มเท ความรักเธอมันยิ่งใหญ่มาก ตู้ม!!!! 5555)
สวยหล่อกันทั้งคู่ จิลดาาาาาาาา พวกเธอต้องไปเจอกันในละครให้ได้นะ T_T
สุดท้ายแล้วอยากชวนทุกคนไปดู 'อโยธยามหาละลวย' ที่โรงภาพยนตร์แบบถูกลิขสิทธิ์กันนะคะ
วันนี้แล้วทุกโรงภาพยนตร์ อุดหนุนหนังไทยกันค่ะ
เพราะผู้กำกับนักแสดงและทีมงานทุกคนตั้งใจกันมาก และก็ทำออกมาได้ดี เป็นกำลังใจให้ทีมงานทุกคน
หนังรักสายมูเป็นยังไง ใครมูใคร ใครโดนแกงกันแน่ในโรงภาพยนตร์มีคำตอบนะคะ ^^
เรื่องย่อ :
ภาพยนตร์รักสายมูสุดยิ่งใหญ่แห่งปี ชวนให้หลงใหลไปกับเรื่องราวที่เวทมนต์คาถา ก็มิอาจอยู่เหนือความรักของเขาทั้งสองได้
เรียวสึ (เจมส์ – จิรายุ ตั้งศรีสุข) ชายหนุ่มที่มีความเป็นมาคลุมเครือ เขาได้รับการเลี้ยงดูโดยหลวงตา ซึ่งสอนให้เขาได้เรียนรู้วิชาการต่อสู้ และเวทมนตร์คาถา เพื่อใช้ป้องกันตัวในวันข้างหน้า
ในวันที่เขาต้องการตามหาแม่ และตามหานางในดวงใจ ออสายสร้อย (โบว์-เมลดา สุศรี) หลวงตาได้มอบหมายให้ ทอง (เกรท-สพล อัศวมั่นคง) เดินทางไปพร้อมกันเพื่อคอยดูแลกันและกัน ระหว่างการเดินทางพวกเขา ตกกระไดพลอยโจนต้องช่วย 2 คู่หู อาซิม (ฟลุค-พงศกร วงศ์เพียร) และ จีนล้ง (โมสต์-วิศรุต หิมรัตน์) ที่ก่อเรื่องไว้ที่โรงชำเราชาย ที่นี่เองทำให้ เรียวสึ ได้พบกับ ออสร้อย อีกครั้ง
แต่ทว่า ด้วยความงามของ ออสร้อย เป็นที่ต้องตาของ ขวัญ (ภีม-ธนบดี ใจเย็น) ซึ่งเป็นบุตรชายของออกญาคชบาล ซึ่งเป็นผู้มีอำนาจมากที่สุดในอโยธยา ทำให้เรียวสึพยายามทำทุกทาง เพื่อชิงตัวออสร้อยคืนมา
วิทยายุทธที่ เรียวสึ สั่งสมมา อาจไม่เพียงพอ บางครั้งอาจต้องพึ่งพามนตร์คาถาที่เรียวสึเรียนรู้ทั้งชีวิต เพื่อจะ ช่วงชิงตัวและหัวใจออสร้อย กลับมาเป็นของเขาได้อีกครั้ง
ขอปิดท้ายและลาไปด้วยความสวยของแม่ออสายสร้อยของเราค่ะ สวยที่สุดดดดด
CR : IG : @TIPCHEER
++ รีวิวภาพยนตร์ อโยธยามหาละลวย หนังรักสายมูคอมเมดี้โบ๊ะบ๊ะจัดเต็ม เคมีเจมส์จิ-โบว์ ดีมาก ++
ภาพยนตร์รักสายมูสุดยิ่งใหญ่แห่งปี ชวนให้หลงใหลไปกับเรื่องราวที่เวทมนต์คาถา ก็มิอาจอยู่เหนือความรักของเขาทั้งสองได้
เรียวสึ (เจมส์ – จิรายุ ตั้งศรีสุข) ชายหนุ่มที่มีความเป็นมาคลุมเครือ เขาได้รับการเลี้ยงดูโดยหลวงตา ซึ่งสอนให้เขาได้เรียนรู้วิชาการต่อสู้ และเวทมนตร์คาถา เพื่อใช้ป้องกันตัวในวันข้างหน้า
ในวันที่เขาต้องการตามหาแม่ และตามหานางในดวงใจ ออสายสร้อย (โบว์-เมลดา สุศรี) หลวงตาได้มอบหมายให้ ทอง (เกรท-สพล อัศวมั่นคง) เดินทางไปพร้อมกันเพื่อคอยดูแลกันและกัน ระหว่างการเดินทางพวกเขา ตกกระไดพลอยโจนต้องช่วย 2 คู่หู อาซิม (ฟลุค-พงศกร วงศ์เพียร) และ จีนล้ง (โมสต์-วิศรุต หิมรัตน์) ที่ก่อเรื่องไว้ที่โรงชำเราชาย ที่นี่เองทำให้ เรียวสึ ได้พบกับ ออสร้อย อีกครั้ง
แต่ทว่า ด้วยความงามของ ออสร้อย เป็นที่ต้องตาของ ขวัญ (ภีม-ธนบดี ใจเย็น) ซึ่งเป็นบุตรชายของออกญาคชบาล ซึ่งเป็นผู้มีอำนาจมากที่สุดในอโยธยา ทำให้เรียวสึพยายามทำทุกทาง เพื่อชิงตัวออสร้อยคืนมา
วิทยายุทธที่ เรียวสึ สั่งสมมา อาจไม่เพียงพอ บางครั้งอาจต้องพึ่งพามนตร์คาถาที่เรียวสึเรียนรู้ทั้งชีวิต เพื่อจะ ช่วงชิงตัวและหัวใจออสร้อย กลับมาเป็นของเขาได้อีกครั้ง