ว่าด้วยเรื่อง บัลลงดอร์
บัลลง ดอร์ 2021 ตกเป็นของ ลิโอเนล เมสซี่ โดยคะแนนโหวตมีดังนี้
อันดับ 1 ลิโอเนล เมสซี่ ได้คะแนนโหวตทั้งสิ้น 613 คะแนน
อันดับ 2 โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ที่ได้ 580 คะแนน
อันดับ 3 จอร์จินโญ่ ที่ได้ 460 คะแนน
เท่ากับว่า เมสซี่ ได้บัลลงดอร์ 7 สมัย เข้าไปแล้ว มากที่สุดในประวัติศาสตร์
บัลลงดอร์ สมัยที่ 7 ของ เมสซี่ มาพร้อมกับเสียงวิจารณ์ถึงความเหมาะสม เพราะมีความคิดเห็นอีกไม่น้อยที่มองว่า รางวัลนี้ควรตกเป็นของ เลวานดอฟสกี้ หรือ จอร์จินโญ่ มากกว่า
ซึ่งเอาจริงๆเรื่องนี้ถ้าถามว่าใครเหมาะสมกว่ากัน? ใครควรได้? ความคิดของคนเรามันไม่มีใครผิดหรือถูก มันขึ้นอยู่กับว่ามุมของแต่ละคนเป็นยังไงมากกว่า
ทีนี้เราจะมาเจาะประเด็นถึงมุมมองของแต่ละคนกัน ว่าทำไมแต่ละคนถึงมีความเหมาะสมที่ได้บัลลงดอร์?
คนที่ 1 มุมมองที่ 1
จอร์จินโญ่
จอจิญโญ่ คว้าแชมป์ ยูฟ่า ยูโรป้าลีก ในฤดูกาลแรกกับ เชลซี พร้อมกับติดทีมยอดเยี่ยม ในรายการนี้ด้วย หลังจากนั้นก็เป็นตัวจักรสำคัญในการพา เชลซี คว้าแชมป์ระดับยุโรปทั้ง ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก รวมไปถึง ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ เมื่อช่วงต้นซีซั่นที่ผ่านมา และก็ยังติดทีมยอดเยี่ยมประจำฤดูกาลของรายการ บิ๊กเอียร์ ด้วย
เท่านั้นยังไม่พอแข้งอิตาเลี่ยนเชื้อสายบราซิเลียน ยังได้รับเลือกเป็นผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำฤดูกาล 2020-21 จากการประกาศของสหพันธ์ฟุตบอลยุโรปหรือ ยูฟ่า ด้วยในขณะที่ผลงานในนามทีมชาติอิตาลีก็คือการคว้าแชมป์ยูโร 2020 และติดทีมยอดเยี่ยมในรายการดังกล่าว
คนที่ 2 มุมมองที่ 2
โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้
โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ เขาคือผู้เล่นที่เหมาะสมกับรางวัลนี้มากที่สุด เมื่อปีที่แล้ว (2020) ทว่าไม่มีการแจกรางวัล เพราะติดปัญหาเรื่องโควิดทำให้อดได้รางวัลอย่างน่าเสียดาย
บางทีเขาอาจได้ 'คะแนนสงสาร' จากบรรดาผู้สื่อข่าวที่มีสิทธิ์ลงคะแนนเสียงให้ในปีนี้...ก็เป็นได้
นับตั้งแต่เข้าสู่ปี 2021 เป็นต้นมา ไม่มีใครเทียบผลงานส่วนตัวของ เลวานดอฟสกี้ ได้เลย
กองหน้าชาว โปแลนด์ ทำประตูได้ 48 ประตูจาก 35 เกมใน บุนเดสลีกา และ แชมเปี้ยนส์ลีก หรือเท่ากับหนึ่งประตูทุกๆ 62 นาที โดย เออร์ลิง ฮาแลนด์ ผู้ที่ทำได้ประตูเป็นอันดับสองใน ยุโรป ยังมีจำนวนที่น้อยกว่าเขาถึง 17 ลูก พร้อมโค่นสถิติ 40 ประตูของ แกร์ด มุลเลอร์ ที่มีมาอย่างยาวนานในลีกสูงสุดของ เยอรมนี หลังทำประตูที่ 41 ของเขาในนาทีที่ 90 ของชัยชนะ 5-2 ต่อ เอาก์สบวร์ก 5-2
จริงอยู่ที่ บัลลงดอร์ เป็นรางวัลส่วนตัว แต่บ่อยครั้งความสำเร็จกับสโมสรก็มักจะถูกนำมาพิจารณาด้วย
นอกจากถาดแชมป์ บุนเดสลีกา แล้ว - เลวาน กับต้นสังกัดของเขากลับล้มเหลวในทัวร์นาเมนต์ที่ใหญ่กว่าอย่าง แชมเปี้ยนส์ลีก ที่ บาเยิร์น มิวนิค ตกรอบก่อนรองชนะเลิศ ส่วน ยูโร 2020 โปแลนด์ ก็ไม่ชนะเลยแม้แต่เกมเดียวในรอบแบ่งกลุ่ม ซึ่งก็น่าเสียดายเพราะเขายิงไปถึง 3 ประตู
ปัจจุบันเขาอายุ 33 แล้ว และมันคงอีกไม่นานกว่าฟอร์มของเขาจะค่อยๆถดถอยลงไปอย่างช้าๆ เพราะไม่มีอะไรที่ยั่งยืน เลวานดอฟสกี้ จะมีโอกาสสักอีกกี่ครั้งในการเข้าชิง บัลลงดอร์ เมื่อพิจารณาว่าทั้ง ฮาแลนด์ และ เอ็มบัปเป้ ต่างก็มาต่อคิวจ่อรออยู่แล้ว
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
คนที่ 3 และมุมมองสุดท้าย
ลิโอเนล เมสซี่
ลิโอเนล เมสซี่ แน่นอนขาคือหนึ่งในนักเตะที่เก่งที่สุดในประวัติศาสตร์อย่างไม่ต้องสงสัย สมดั่งฉายา G.O.A.T ที่ย่อมาจาก Greatest Of All Time แปลว่ายิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล
ถึงแม้ ลิโอเนล เมสซี่ จะอายุปาเข้าไป 34 แล้วแต่เรื่องฟอร์มการเล่นขอบอกเลยว่าพี่แกรักษาความคงเส้นคงวาได้ดีสุดๆ โดยในเวที ลา ลีกา สเปน พี่แกเล่นระเบิดสกอร์ไป 30 ประตู บวกกับกดไปอีก 9 แอสซิสต์จากการลงเล่น 35 นัด
อย่างไรก็ตามสถิติของ ลิโอเนล เมสซี่ ทั้งกับ บาร์เซโลน่า และ ทีมชาติอาร์เจนติน่า ดูเหมือนจะโหดยิ่งกว่าถ้านับแค่เพียงในช่วงปี 2021 เพราะ ลิโอเนล เมสซี่ พี่แกเล่นซัลโวไปทั้งหมด 33 ประตู ทำไปอีก 14 แอสซิสต์ และคว้า 24 แมน ออฟ เดอะ แมตช์
รางวัล แมน ออฟ เดอะ แมตช์ เป็นหนึ่งในเครื่องยืนยันการันตีว่าคุณนั้นคือผู้เล่นที่ดีที่สุดในสนามไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม ยิ่งคุณได้รับรางวัลนี้มากเท่าไหร่ก็นับเป็นการชี้ให้เห็นถึงภาพของการเป็นนักเตะที่ดีที่สุดแห่งปี และนั่นก็คือสิ่งที่เกิดขึ้นกับ ลิโอเนล เมสซี่ เขาคือผู้เล่นที่คว้ารางวัล แมน ออฟ เดอะ แมตช์ ได้มากที่สุดในฤดูกาล 2020-21
นอกจากนี้ ลิโอเนล เมสซี่ คือหนึ่งในผู้เล่นที่ดีที่สุดของลีกสเปน และเป็นดาวซัลโวของลีกสเปน
ปัจจัยอื่นๆ ที่ว่านั้นก็มีเรื่องของความสำเร็จเรื่องถ้วยแชมป์เกี่ยวข้องอยู่ด้วยซึ่ง ลิโอเนล เมสซี่ น่าจะได้คะแนนจากตรงนี้ไปเยอะจากการพา ทีมชาติอาร์เจนติน่า เถลิงบัลลังก์แชมป์ โคปา อเมริกา ได้สำเร็จนับเป็นถ้วยแชมป์ระดับเมเจอร์ครั้งแรกในรอบ 28 ปีหรือตั้งแต่ปี 1993
ก่อนหน้านี้ ลิโอเนล เมสซี่ ได้ลงสนามในทัวร์นาเมนต์ใหญ่รอบชิงชนะเลิศมาถึง 4 ครั้งแต่ก็ต้องอกหักชอกช้ำไปทั้งหมด จนกระทั่งปีนี้ฝันร้ายของเขาได้เลือนลางจางหายไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา เขาคือผู้เล่นที่ทำประตูได้มากที่สุดในทัวร์นาเมนต์ที่ 4 ประตู กดไปอีก 5 แอสซิสต์ มีอิทธิพลและสร้างอิมแพ็คได้มากมายดังนั้นมันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกที่รางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำทัวร์นาเมนต์จะตกเป็นของ ลิโอเนล เมสซี่ คนนี้
นอกจากได้แชมป์โคปา อเมริกา ลิโอเนล เมสซี่ ยังเป็นผู้เล่นคนแรกในประวัติศาสตร์วงการฟุตบอลที่ได้เป็น 1.ดาวซัลโว 2.ดาวแอสซิสต์ 3.แชมป์ทวีป พร้อมกันหมดทั้ง 3 อย่าง
จากที่ผมได้กล่าวไปข้างต้นทั้ง 3 มุมมอง เราจะเห็นได้ว่าแต่ละคนก็มีเหตุผลเป็นของตัวเองว่าทำไมพวกเขาถึงสมควรที่จะได้บัลลงดอร์
สุดท้ายนี้ในเมื่อผลลัพธ์มันออกมาแล้วเราก็ควรที่ยอมรับกับความเป็นจริง เราควรจะเคารพกับผลการตัดสิน มันไม่มีใครถูกใครผิดทั้งนั้น เรื่องนี้มันอยู่ที่มุมมองของแต่ละบุคคลจริงๆว่าเขาคิดเห็นกันอย่างไรครับ
ใครเหมาะสมที่จะได้บัลลงดอร์ 3 มุมมอง และ 3 บุคคล
บัลลง ดอร์ 2021 ตกเป็นของ ลิโอเนล เมสซี่ โดยคะแนนโหวตมีดังนี้
อันดับ 1 ลิโอเนล เมสซี่ ได้คะแนนโหวตทั้งสิ้น 613 คะแนน
อันดับ 2 โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ที่ได้ 580 คะแนน
อันดับ 3 จอร์จินโญ่ ที่ได้ 460 คะแนน
เท่ากับว่า เมสซี่ ได้บัลลงดอร์ 7 สมัย เข้าไปแล้ว มากที่สุดในประวัติศาสตร์
บัลลงดอร์ สมัยที่ 7 ของ เมสซี่ มาพร้อมกับเสียงวิจารณ์ถึงความเหมาะสม เพราะมีความคิดเห็นอีกไม่น้อยที่มองว่า รางวัลนี้ควรตกเป็นของ เลวานดอฟสกี้ หรือ จอร์จินโญ่ มากกว่า
ซึ่งเอาจริงๆเรื่องนี้ถ้าถามว่าใครเหมาะสมกว่ากัน? ใครควรได้? ความคิดของคนเรามันไม่มีใครผิดหรือถูก มันขึ้นอยู่กับว่ามุมของแต่ละคนเป็นยังไงมากกว่า
ทีนี้เราจะมาเจาะประเด็นถึงมุมมองของแต่ละคนกัน ว่าทำไมแต่ละคนถึงมีความเหมาะสมที่ได้บัลลงดอร์?
คนที่ 1 มุมมองที่ 1
จอร์จินโญ่
จอจิญโญ่ คว้าแชมป์ ยูฟ่า ยูโรป้าลีก ในฤดูกาลแรกกับ เชลซี พร้อมกับติดทีมยอดเยี่ยม ในรายการนี้ด้วย หลังจากนั้นก็เป็นตัวจักรสำคัญในการพา เชลซี คว้าแชมป์ระดับยุโรปทั้ง ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก รวมไปถึง ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ เมื่อช่วงต้นซีซั่นที่ผ่านมา และก็ยังติดทีมยอดเยี่ยมประจำฤดูกาลของรายการ บิ๊กเอียร์ ด้วย
เท่านั้นยังไม่พอแข้งอิตาเลี่ยนเชื้อสายบราซิเลียน ยังได้รับเลือกเป็นผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำฤดูกาล 2020-21 จากการประกาศของสหพันธ์ฟุตบอลยุโรปหรือ ยูฟ่า ด้วยในขณะที่ผลงานในนามทีมชาติอิตาลีก็คือการคว้าแชมป์ยูโร 2020 และติดทีมยอดเยี่ยมในรายการดังกล่าว
คนที่ 2 มุมมองที่ 2
โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้
โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ เขาคือผู้เล่นที่เหมาะสมกับรางวัลนี้มากที่สุด เมื่อปีที่แล้ว (2020) ทว่าไม่มีการแจกรางวัล เพราะติดปัญหาเรื่องโควิดทำให้อดได้รางวัลอย่างน่าเสียดาย
บางทีเขาอาจได้ 'คะแนนสงสาร' จากบรรดาผู้สื่อข่าวที่มีสิทธิ์ลงคะแนนเสียงให้ในปีนี้...ก็เป็นได้
นับตั้งแต่เข้าสู่ปี 2021 เป็นต้นมา ไม่มีใครเทียบผลงานส่วนตัวของ เลวานดอฟสกี้ ได้เลย
กองหน้าชาว โปแลนด์ ทำประตูได้ 48 ประตูจาก 35 เกมใน บุนเดสลีกา และ แชมเปี้ยนส์ลีก หรือเท่ากับหนึ่งประตูทุกๆ 62 นาที โดย เออร์ลิง ฮาแลนด์ ผู้ที่ทำได้ประตูเป็นอันดับสองใน ยุโรป ยังมีจำนวนที่น้อยกว่าเขาถึง 17 ลูก พร้อมโค่นสถิติ 40 ประตูของ แกร์ด มุลเลอร์ ที่มีมาอย่างยาวนานในลีกสูงสุดของ เยอรมนี หลังทำประตูที่ 41 ของเขาในนาทีที่ 90 ของชัยชนะ 5-2 ต่อ เอาก์สบวร์ก 5-2
จริงอยู่ที่ บัลลงดอร์ เป็นรางวัลส่วนตัว แต่บ่อยครั้งความสำเร็จกับสโมสรก็มักจะถูกนำมาพิจารณาด้วย
นอกจากถาดแชมป์ บุนเดสลีกา แล้ว - เลวาน กับต้นสังกัดของเขากลับล้มเหลวในทัวร์นาเมนต์ที่ใหญ่กว่าอย่าง แชมเปี้ยนส์ลีก ที่ บาเยิร์น มิวนิค ตกรอบก่อนรองชนะเลิศ ส่วน ยูโร 2020 โปแลนด์ ก็ไม่ชนะเลยแม้แต่เกมเดียวในรอบแบ่งกลุ่ม ซึ่งก็น่าเสียดายเพราะเขายิงไปถึง 3 ประตู
ปัจจุบันเขาอายุ 33 แล้ว และมันคงอีกไม่นานกว่าฟอร์มของเขาจะค่อยๆถดถอยลงไปอย่างช้าๆ เพราะไม่มีอะไรที่ยั่งยืน เลวานดอฟสกี้ จะมีโอกาสสักอีกกี่ครั้งในการเข้าชิง บัลลงดอร์ เมื่อพิจารณาว่าทั้ง ฮาแลนด์ และ เอ็มบัปเป้ ต่างก็มาต่อคิวจ่อรออยู่แล้ว
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
คนที่ 3 และมุมมองสุดท้าย
ลิโอเนล เมสซี่
ลิโอเนล เมสซี่ แน่นอนขาคือหนึ่งในนักเตะที่เก่งที่สุดในประวัติศาสตร์อย่างไม่ต้องสงสัย สมดั่งฉายา G.O.A.T ที่ย่อมาจาก Greatest Of All Time แปลว่ายิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล
ถึงแม้ ลิโอเนล เมสซี่ จะอายุปาเข้าไป 34 แล้วแต่เรื่องฟอร์มการเล่นขอบอกเลยว่าพี่แกรักษาความคงเส้นคงวาได้ดีสุดๆ โดยในเวที ลา ลีกา สเปน พี่แกเล่นระเบิดสกอร์ไป 30 ประตู บวกกับกดไปอีก 9 แอสซิสต์จากการลงเล่น 35 นัด
อย่างไรก็ตามสถิติของ ลิโอเนล เมสซี่ ทั้งกับ บาร์เซโลน่า และ ทีมชาติอาร์เจนติน่า ดูเหมือนจะโหดยิ่งกว่าถ้านับแค่เพียงในช่วงปี 2021 เพราะ ลิโอเนล เมสซี่ พี่แกเล่นซัลโวไปทั้งหมด 33 ประตู ทำไปอีก 14 แอสซิสต์ และคว้า 24 แมน ออฟ เดอะ แมตช์
รางวัล แมน ออฟ เดอะ แมตช์ เป็นหนึ่งในเครื่องยืนยันการันตีว่าคุณนั้นคือผู้เล่นที่ดีที่สุดในสนามไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม ยิ่งคุณได้รับรางวัลนี้มากเท่าไหร่ก็นับเป็นการชี้ให้เห็นถึงภาพของการเป็นนักเตะที่ดีที่สุดแห่งปี และนั่นก็คือสิ่งที่เกิดขึ้นกับ ลิโอเนล เมสซี่ เขาคือผู้เล่นที่คว้ารางวัล แมน ออฟ เดอะ แมตช์ ได้มากที่สุดในฤดูกาล 2020-21
นอกจากนี้ ลิโอเนล เมสซี่ คือหนึ่งในผู้เล่นที่ดีที่สุดของลีกสเปน และเป็นดาวซัลโวของลีกสเปน
ปัจจัยอื่นๆ ที่ว่านั้นก็มีเรื่องของความสำเร็จเรื่องถ้วยแชมป์เกี่ยวข้องอยู่ด้วยซึ่ง ลิโอเนล เมสซี่ น่าจะได้คะแนนจากตรงนี้ไปเยอะจากการพา ทีมชาติอาร์เจนติน่า เถลิงบัลลังก์แชมป์ โคปา อเมริกา ได้สำเร็จนับเป็นถ้วยแชมป์ระดับเมเจอร์ครั้งแรกในรอบ 28 ปีหรือตั้งแต่ปี 1993
ก่อนหน้านี้ ลิโอเนล เมสซี่ ได้ลงสนามในทัวร์นาเมนต์ใหญ่รอบชิงชนะเลิศมาถึง 4 ครั้งแต่ก็ต้องอกหักชอกช้ำไปทั้งหมด จนกระทั่งปีนี้ฝันร้ายของเขาได้เลือนลางจางหายไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา เขาคือผู้เล่นที่ทำประตูได้มากที่สุดในทัวร์นาเมนต์ที่ 4 ประตู กดไปอีก 5 แอสซิสต์ มีอิทธิพลและสร้างอิมแพ็คได้มากมายดังนั้นมันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกที่รางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำทัวร์นาเมนต์จะตกเป็นของ ลิโอเนล เมสซี่ คนนี้
นอกจากได้แชมป์โคปา อเมริกา ลิโอเนล เมสซี่ ยังเป็นผู้เล่นคนแรกในประวัติศาสตร์วงการฟุตบอลที่ได้เป็น 1.ดาวซัลโว 2.ดาวแอสซิสต์ 3.แชมป์ทวีป พร้อมกันหมดทั้ง 3 อย่าง
จากที่ผมได้กล่าวไปข้างต้นทั้ง 3 มุมมอง เราจะเห็นได้ว่าแต่ละคนก็มีเหตุผลเป็นของตัวเองว่าทำไมพวกเขาถึงสมควรที่จะได้บัลลงดอร์
สุดท้ายนี้ในเมื่อผลลัพธ์มันออกมาแล้วเราก็ควรที่ยอมรับกับความเป็นจริง เราควรจะเคารพกับผลการตัดสิน มันไม่มีใครถูกใครผิดทั้งนั้น เรื่องนี้มันอยู่ที่มุมมองของแต่ละบุคคลจริงๆว่าเขาคิดเห็นกันอย่างไรครับ