[CR] [#Review] Venom : Let There be Carnage - ดร็อปจากภาคแรกไปเยอะ กลายเป็นเหมือนหนังคู่หูตำรวจที่งอนกันไปมา    


หลังจาก Venom หนัง Anti Hero ภาคแรกเปิดตัวอย่างสุดมันส์ แถมท้ายเครดิตยังพาเราไปคาดหวังกับ Carnage ตัวร้ายสุดโหดสีแดงที่ทำให้แฟนๆ ก็วาดฝันกันไปต่างๆ นาๆ รวมไปถึงการหวังจะได้เห็นจักรวาล MCU กับ Sony ไขว้กันไปมาอีกด้วย ส่วนตัวผมก็ให้ความคาดหวังกับการต่อสู้อันสุดโหดและมันส์ระหว่าง Venom กับ Carnage ที่อยากจะเห็นว่าตัวเอเลี่ยนที่มีทุกอย่างเหมือนกันแทบจะทั้งหมด ยกเว้นสีผิว จะสู้กันได้สนุกสุดมันส์แค่ไหน
   

เรื่องราวในภาคนี้ หลังจากเจ้าปรสิตต่างดาว เวน่อม (Venom) มาสิงอยู่ในร่างของ เอ็ดดี้ บร็อค ซึ่งทำชีวิตเขาวุ่นวายอย่างมากในภาคแรก แต่การกลับมาในภาคนี้นั้นเขาและเจ้า เวน่อม (Venom) จะต้องเผชิญกับความสยองจากปรสิตอวกาศอีกตน เข้ามาสิงร่างฆาตกรโรคจิต คลีตัส คาซาดี จะกลายเป็น คาร์เนจ วายรายตัวใหม่
   

หนังไม่ได้เกริ่นเรื่องราวก่อนหน้าในภาคที่แล้วเลย อาจจะต้องดูภาคแรกเพื่อทำความเข้าใจกับความสัมพันธ์ของตัวละครในแต่คนก่อน ซึ่งในฝั่งของ เอ็ดดี้ กับ เวน่อม ความสัมพันธ์เหมือนเรากำลังนั่งดูหนังคู่หูตำรวจปราบอธรรมอภิบาลคนที่ทะเลาะกันประจำแต่ก็รักและคอยช่วยเหลือกันปราบเหล่าร้ายอยู่ตลอด แต่กับทางฝั่งตัวร้ายอย่าง คลีตัส กลับมีมิติมากกว่า เพราะหนังไปเล่าถึงปูมหลัง และคู่รักของเขามากกว่าฝั่งพระเอกซะอีก
   

ภาคนี้หนังมาเป็นสูตรสำเร็จหนัง Superhero สมัยก่อนเลยคือ ง่ายๆ ออกมาปราบเหล่าร้าย สู้กันบ้านเรือนพัง แล้วก็มีจุดเปลี่ยนที่ทำให้ประายอธรรมได้ มิติเรื่องราวของหนังแทบไม่ได้มีอะไรซับซ้อน ออกมาสู้กันแล้วก็จบไป ซึ่งผมดูภาคนี้แล้วผมนึกถึงหนัง Spiderman ในภาคของ โทบี้ แม็คไกว์ร ที่เจอกับ เวน่อม ด้วยซ้ำ เพราะลักษณะฉากการต่อสู้ ฉาก เวอน่อม ปีนกำแพง มันทำให้นึกถึงจริงๆ
   

ตัว เวน่อม และ คาร์นาร์จ ที่หวังไว้ ถือว่าโอเคไม่ผิดหวังครับ ฉากต่อสู้ดูสนุก และมันส์สมการรอคอย เพียงแต่ว่า ทุกอย่างมันดูง่ายเกินไปนิด ถึงแม้ว่าพระเอกของเราจะมีพลาดพลั้งบ้าง แต่ไม่ร้ทำไมผมดูแล้วกลับไม่ค่อยลุ้นอะไรเท่าไหร่ เหมือนเราจะรู้อยู่แล้วว่า ธรรมะ ย่อมชนะ อธรรม ซึ่งอย่างที่ผมบอกไว้ตั้งแต่ต้นว่ามันคือสูตรสำเร็จที่ไม่ได้มีอะไรพลิกแพลงเลย
   

เหมือนกับภาคนี้ดร็อปลงจากภาคแรกอย่างเห็นได้ชัด กับความยาวหนังชั่วโมงครึ่ง สำหรับผมมันคือความบันเทิงเชิงกร่อยเล็กๆ เพียงแต่เราอยากรู้ว่าแล้วมันจะไปยังไงต่อ มันไม่เหมือนภาคแรกที่ทั้งสนุก มันส์ บทมีลูกล่อลูกชนมากกว่า และยังมีอะไรให้ลุ้นมากกว่านี้ แถมมุขตลกก็ขำได้เต็มปากมากกว่า ซึ่งดูเพลินๆ ดูได้ แต่อาจจะรู้สึกว่าภาคแรกดูลงตัวมากกว่า
   
แต่ขอเตือนไว้ว่า หนังจบแล้วนั่งรอดู End Credit ได้เลย เป็นสิ่งที่ wow กว่าตัวหนังมันเองทั้งเรื่องซะอีก ใครลุกก่อนถือว่าพลาดมาก ไม่บอกไปดูเองนะ ว่าคืออะไร

ชอบอ่านรีวิวหนัง แวะมาพูดคุยกันได้นะครับ >>> https://www.facebook.com/DooNangGunMai
ชื่อสินค้า:   Venom : Let There be Carnage
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่