เมื่อวันที่28ได้มีโอกาสไปดูรอบพิเศษรอบเที่ยง ถึงแม้จะเขียนรีวิวช้าไป2วันเพราะวุ่นๆกันภารกิจส่วนตัวก็เถอะ ฮ่า
อยากจะบอกก่อนเลยว่า ภาคนี้ผมคาดหวังไว้สูงมาก เพราะเป็นภาคที่เดินเรื่องอยู่ในss1ซึ่งเป็นภาคนี้ผมชอบมากที่สุด แล้วผลที่ออกมาก็สมหวังอย่างมากครับแม้ไม่ได้อ่านนิยายมาก่อนก็ตาม
ปกติพอมีรอบพิเศษที่มีพากย์ไทยผมมักจะเลือกดูซับไทยแทนด้วยเหตุที่ว่า กลัวผิดหวัง(แต่ท้ายที่สุดก็มาตามดูพากย์ไทยในรอบปกติอยู่ดี ฮา) ผิดกับเรื่องนี้ครับ ผมยอมจ่ายตั๋วรอบพิเศษเพื่อพากย์ไทยเรื่องนี้เลยตั้งแต่ได้ยินว่าพี่เอกับพี่อ้อและทีมพากย์คนอื่นๆจะกลับมา ผมไม่ลังเลที่จะซื้อเลยครับ
เนื้อเรื่อง
“เรื่องราวในอีกมุมมองก่อนเราจะได้เจอกัน” ทำออกมาได้ครบรสชาติเก่าๆอย่างมากแต่ก็แอบแฝงไปด้วยความสดใหม่ ไม่เหมือนแค่เอางานเก่ามารีเมค ซึ่งแน่นอนว่าแฟนๆSAOที่ตามมาตั้งแต่สมัยทีมพากย์โรสอยู่คู่กับช่องการ์ตูนคลับ(หรือ แก็งการ์ตูนนะ ผมลืม ฮ่า)รู้สึกเต็มอิ่มหัวใจแน่ๆครับ รวมถึงตัวผมเองก็เช่นกันความรู้สึกที่เหมือนได้ย้อนกลับไปสมัยนั้นมันทำผมขนลุกทั้งตัวตั้งแต่ต้นยันจบเลย แม้บางฉากที่ตัวละคร “มิโตะ” เข้ามามีบทบาทอาจจะดูแปลกๆเมื่อเทียบกับไทม์ไลน์หลักแล้ว แต่ก็ไม่ถือว่ายัดเลยครับ ดูเป็นธรรมชาติมากๆในตัวบทของมิโตะและฉากสำคัญๆ และในภาคนี้เราจะได้รู้ว่าคิริโตะเปิ่นมาก ฮา ทุกคนในโรงหลุดขำกันหมดเลยรวมถึงผมด้วย แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีฉากเทพทรูนะ และอสึนะที่มีฉากเซอวิสค่อนข้างเยอะโดนส่วนตัวแล้วแอบคิดว่ามันเยอะไปหน่อย ฮา
ฉากสำคัญๆอย่างการสู้กับบอสหรือมอนทำออกมาได้ครบเรื่องเหมือนฉบับTV seriesดีครับ ไม่มีลดทอนหรือตัดฉาก แต่มีการเพิ่มฉาก “ขยี้”ด้วย(ไม่บอกว่าอะไร ไปดูเอาเองนะครับ ฮา)
บางคนอาจจะไม่ค่อยชอบตอนจบนักเพราะตอนจบต้องบอกว่า ไม่เหมือนฉบับTV seriesครับ แต่จะเป็นยังไงต้องไปรอดูเองนะครับ (ส่วนตัวชอบฉากจบแบบนี้ ไม่ติดขัดด้านเนื้อเรื่องเลย)
เพลงประกอบ/BGM
โฮ อยากจะบอกดังๆตอนเพลงSwordlandขึ้น ผมขนลุกพร้อมน้ำตาไหลเลยครับ อารมณ์ที่ไม่ได้รู้สึกกับSAOแบบนี้มานานมาก เหมือนได้กลับบ้านเลย ฮ่า แล้วยิ่งตอนจบมีเพลงขอเสด็จแม่LiSA เพลงที่มีชื่อ 往け
ลิงก์เพลง คือแบบน้ำตาไหลด้วยความปลื้มทั้งด้านเนื้อเรื่องและเพลงของเสด็จแม่เลยครับ ดีมากๆแนะนำให้ฟังกันเยอะๆครับ
ภาพ
เป็นการยกระดับลายเส้น CGI และแสงสีของภาคแรกได้ดีมากๆ ไม่มีจุดไหนอยากติเลย ทุกฉากเห็นได้ชัดว่าตั้งใจปั้นออกมาอยากจริงจัง
เสียงพากย์ไทย
ไม่มีอะไรจะพูดครับ คือสุดยอดมาก ทีมพากย์ทุกคนพากย์ได้ดีอย่างมากครับ แต่ที่อดคิดถึงไม่ได้ที่สุดก็คงเสียงพี่เอและพี่อ้อ ที่รับบทพากย์เป็น คิริโตะ และ อาสึนะ นี้ละครับ งานดีย์มากๆ
โดยรวมถ้าบางคนที่ยังไม่ได้ดูและรอตัดสินใจ เชื่อผมไม่ต้องคิดเยอะเข้าไปดูเลยครับ คุณจะไม่ผิดหวังเลย(อันนี้แล้วแต่คนละกัน ฮ่า) ส่วนบางคนที่คิดว่ามันก็แค่ภาครีเมคหากินกับของเก่า ส่วนตัวก่อนเข้าโรงไปดูก็คิดเช่นนั้นครับ แต่ต้องบอกว่าผิดคาดมันดีกว่าคำนิยามนั้นมาก มันคือเส้นทางใหม่ เนื้อเรื่องอีกมุมที่คุณไม่เคยเห็น และการยกระดับงานภาพให้สวยงามมากยิ่งขึ้น คุ้มแก่การไปดูในโรงหนังเสียงชัดจอใหญ่สุดๆครับ
ติดตามเรื่องราวก่อนจะเป็น “ประกายแสงอาสึนะ” ได้ในวันที่ 9 ธันวาคมนี้ ในโรงภาพยนตร์ ระบบ IMAX และ ระบบ ปกติ
พิเศษ! จองตั๋วระบบ IMAX ล่วงหน้าก่อนใคร ทุก 2 ที่นั่งรับฟรี “Novel” ฉบับพิเศษ 1 เล่ม ที่ทำมาเพื่อภาคนี้โดยเฉพาะ ที่สำคัญจำนวนจำกัดนะครับ!
ส่วนตัวรอภาคต่อ Sword Art Online: Progressive - Scherzo of Deep Night กำหนดฉายโรงที่ญี่ปุ่น ภายในปี 2022 ครับ ยังตายไม่ได้!!
[CR] [ไม่มีสปอย] ความรู้สึกหลังดูsword art online:progressive “เรื่องราวในอีกมุมมองก่อนเราจะได้เจอกัน”กับพากย์ไทยที่คุ้นเคย
อยากจะบอกก่อนเลยว่า ภาคนี้ผมคาดหวังไว้สูงมาก เพราะเป็นภาคที่เดินเรื่องอยู่ในss1ซึ่งเป็นภาคนี้ผมชอบมากที่สุด แล้วผลที่ออกมาก็สมหวังอย่างมากครับแม้ไม่ได้อ่านนิยายมาก่อนก็ตาม
ปกติพอมีรอบพิเศษที่มีพากย์ไทยผมมักจะเลือกดูซับไทยแทนด้วยเหตุที่ว่า กลัวผิดหวัง(แต่ท้ายที่สุดก็มาตามดูพากย์ไทยในรอบปกติอยู่ดี ฮา) ผิดกับเรื่องนี้ครับ ผมยอมจ่ายตั๋วรอบพิเศษเพื่อพากย์ไทยเรื่องนี้เลยตั้งแต่ได้ยินว่าพี่เอกับพี่อ้อและทีมพากย์คนอื่นๆจะกลับมา ผมไม่ลังเลที่จะซื้อเลยครับ
เนื้อเรื่อง
“เรื่องราวในอีกมุมมองก่อนเราจะได้เจอกัน” ทำออกมาได้ครบรสชาติเก่าๆอย่างมากแต่ก็แอบแฝงไปด้วยความสดใหม่ ไม่เหมือนแค่เอางานเก่ามารีเมค ซึ่งแน่นอนว่าแฟนๆSAOที่ตามมาตั้งแต่สมัยทีมพากย์โรสอยู่คู่กับช่องการ์ตูนคลับ(หรือ แก็งการ์ตูนนะ ผมลืม ฮ่า)รู้สึกเต็มอิ่มหัวใจแน่ๆครับ รวมถึงตัวผมเองก็เช่นกันความรู้สึกที่เหมือนได้ย้อนกลับไปสมัยนั้นมันทำผมขนลุกทั้งตัวตั้งแต่ต้นยันจบเลย แม้บางฉากที่ตัวละคร “มิโตะ” เข้ามามีบทบาทอาจจะดูแปลกๆเมื่อเทียบกับไทม์ไลน์หลักแล้ว แต่ก็ไม่ถือว่ายัดเลยครับ ดูเป็นธรรมชาติมากๆในตัวบทของมิโตะและฉากสำคัญๆ และในภาคนี้เราจะได้รู้ว่าคิริโตะเปิ่นมาก ฮา ทุกคนในโรงหลุดขำกันหมดเลยรวมถึงผมด้วย แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีฉากเทพทรูนะ และอสึนะที่มีฉากเซอวิสค่อนข้างเยอะโดนส่วนตัวแล้วแอบคิดว่ามันเยอะไปหน่อย ฮา
ฉากสำคัญๆอย่างการสู้กับบอสหรือมอนทำออกมาได้ครบเรื่องเหมือนฉบับTV seriesดีครับ ไม่มีลดทอนหรือตัดฉาก แต่มีการเพิ่มฉาก “ขยี้”ด้วย(ไม่บอกว่าอะไร ไปดูเอาเองนะครับ ฮา)
บางคนอาจจะไม่ค่อยชอบตอนจบนักเพราะตอนจบต้องบอกว่า ไม่เหมือนฉบับTV seriesครับ แต่จะเป็นยังไงต้องไปรอดูเองนะครับ (ส่วนตัวชอบฉากจบแบบนี้ ไม่ติดขัดด้านเนื้อเรื่องเลย)
เพลงประกอบ/BGM
โฮ อยากจะบอกดังๆตอนเพลงSwordlandขึ้น ผมขนลุกพร้อมน้ำตาไหลเลยครับ อารมณ์ที่ไม่ได้รู้สึกกับSAOแบบนี้มานานมาก เหมือนได้กลับบ้านเลย ฮ่า แล้วยิ่งตอนจบมีเพลงขอเสด็จแม่LiSA เพลงที่มีชื่อ 往け ลิงก์เพลง คือแบบน้ำตาไหลด้วยความปลื้มทั้งด้านเนื้อเรื่องและเพลงของเสด็จแม่เลยครับ ดีมากๆแนะนำให้ฟังกันเยอะๆครับ
ภาพ
เป็นการยกระดับลายเส้น CGI และแสงสีของภาคแรกได้ดีมากๆ ไม่มีจุดไหนอยากติเลย ทุกฉากเห็นได้ชัดว่าตั้งใจปั้นออกมาอยากจริงจัง
เสียงพากย์ไทย
ไม่มีอะไรจะพูดครับ คือสุดยอดมาก ทีมพากย์ทุกคนพากย์ได้ดีอย่างมากครับ แต่ที่อดคิดถึงไม่ได้ที่สุดก็คงเสียงพี่เอและพี่อ้อ ที่รับบทพากย์เป็น คิริโตะ และ อาสึนะ นี้ละครับ งานดีย์มากๆ
โดยรวมถ้าบางคนที่ยังไม่ได้ดูและรอตัดสินใจ เชื่อผมไม่ต้องคิดเยอะเข้าไปดูเลยครับ คุณจะไม่ผิดหวังเลย(อันนี้แล้วแต่คนละกัน ฮ่า) ส่วนบางคนที่คิดว่ามันก็แค่ภาครีเมคหากินกับของเก่า ส่วนตัวก่อนเข้าโรงไปดูก็คิดเช่นนั้นครับ แต่ต้องบอกว่าผิดคาดมันดีกว่าคำนิยามนั้นมาก มันคือเส้นทางใหม่ เนื้อเรื่องอีกมุมที่คุณไม่เคยเห็น และการยกระดับงานภาพให้สวยงามมากยิ่งขึ้น คุ้มแก่การไปดูในโรงหนังเสียงชัดจอใหญ่สุดๆครับ
ติดตามเรื่องราวก่อนจะเป็น “ประกายแสงอาสึนะ” ได้ในวันที่ 9 ธันวาคมนี้ ในโรงภาพยนตร์ ระบบ IMAX และ ระบบ ปกติ
พิเศษ! จองตั๋วระบบ IMAX ล่วงหน้าก่อนใคร ทุก 2 ที่นั่งรับฟรี “Novel” ฉบับพิเศษ 1 เล่ม ที่ทำมาเพื่อภาคนี้โดยเฉพาะ ที่สำคัญจำนวนจำกัดนะครับ!
ส่วนตัวรอภาคต่อ Sword Art Online: Progressive - Scherzo of Deep Night กำหนดฉายโรงที่ญี่ปุ่น ภายในปี 2022 ครับ ยังตายไม่ได้!!
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้