ถ้าชีวิตไม่ได้มีหนี้สินอะไรเลย ไม่ฟุ้งเฟ้อด้วย มีบ้าน มีรถ มีที่ดิน มีเงินเก็บ ครบแล้ว ไม่เดือดร้อนอะไร
ถ้าตอนนี้เป็นมนุษย์เงินเดือนอยู่ การงานก็กลางๆ แล้วมีเงินลงทุนแยกอีก 1 ก้อน (ไม่รวมกับเงินเก็บ) ธุรกิจที่จะไปทำ ขายได้แน่นอน ทำมากได้มาก ทำน้อยได้น้อย ก็คงมีเหนื่อยบ้างถ้าอยากเติบโต คงต้องมุ่งมั่น เอาจริง (ซึ่งทำพร้อมกับงานประจำไม่ได้)
เพื่อนๆจะเลือกอะไรครับ
1. ก็เป็นมนุษย์เงินเดือนต่อไป สบายดี ไม่กดดัน ไม่ต้องดิ้นรนมาก ไม่อยากเหนื่อยกาย กลัวเจ๊ง เคยแต่ทำงานตามหน้าที่ แล้วรับเงินเดือน วันหยุดก็ไปเที่ยว สมบัติที่มีเก็บไว้แบบนั้นก่อน เพราะไม่เดือดร้อน บริษัทเจ๊ง หรือโดนไล่ออก ค่อยคิดเรื่องธุรกิจ
2. ลาออกไปทำธุรกิจ เพราะทำตอนแก่ก็คงไม่มีเรี่ยวแรงแล้ว ความคิดความอ่านก็คงช้าลง ซึ่งทุนที่มีก็ไม่ต้องกู้มาจากไหน วางแผนอดออมจนมีครบแบบทุกวันนี้ได้ ความคิดความอ่านการบริหารก็คงไม่กระจอกหรอก คงไม่ผลาญเงินแบบสิ้นคิดเหมือนได้เงินจากการถูกหวย หรือได้ฟรีมาแน่ๆ เพราะสุดท้ายบริษัทคงไม่จ้างเราจนตาย
เพื่อนๆเลือกอะไรกันครับ
ถ้าเลือกได้ อยากเป็นมนุษย์เงินเดือน หรือ ทำธุรกิจ ของตัวเอง
ถ้าตอนนี้เป็นมนุษย์เงินเดือนอยู่ การงานก็กลางๆ แล้วมีเงินลงทุนแยกอีก 1 ก้อน (ไม่รวมกับเงินเก็บ) ธุรกิจที่จะไปทำ ขายได้แน่นอน ทำมากได้มาก ทำน้อยได้น้อย ก็คงมีเหนื่อยบ้างถ้าอยากเติบโต คงต้องมุ่งมั่น เอาจริง (ซึ่งทำพร้อมกับงานประจำไม่ได้)
เพื่อนๆจะเลือกอะไรครับ
1. ก็เป็นมนุษย์เงินเดือนต่อไป สบายดี ไม่กดดัน ไม่ต้องดิ้นรนมาก ไม่อยากเหนื่อยกาย กลัวเจ๊ง เคยแต่ทำงานตามหน้าที่ แล้วรับเงินเดือน วันหยุดก็ไปเที่ยว สมบัติที่มีเก็บไว้แบบนั้นก่อน เพราะไม่เดือดร้อน บริษัทเจ๊ง หรือโดนไล่ออก ค่อยคิดเรื่องธุรกิจ
2. ลาออกไปทำธุรกิจ เพราะทำตอนแก่ก็คงไม่มีเรี่ยวแรงแล้ว ความคิดความอ่านก็คงช้าลง ซึ่งทุนที่มีก็ไม่ต้องกู้มาจากไหน วางแผนอดออมจนมีครบแบบทุกวันนี้ได้ ความคิดความอ่านการบริหารก็คงไม่กระจอกหรอก คงไม่ผลาญเงินแบบสิ้นคิดเหมือนได้เงินจากการถูกหวย หรือได้ฟรีมาแน่ๆ เพราะสุดท้ายบริษัทคงไม่จ้างเราจนตาย
เพื่อนๆเลือกอะไรกันครับ