เมื่อซื้อรถมาสักคัน ช่วงแรก ๆ จะขับขี่อย่างไรก็สบายใจไปหมด แถมยังสามารถนำรถเข้าตรวจเช็กสมรรถนะกับศูนย์ได้โดยตรง แต่เมื่อเวลาผ่านไปสัก 3 ปีหรือ 5 ปี หากรถหมดประกันศูนย์ขึ้นมาควรทำอย่างไร ควรนำรถหมดประกันไปเช็กอะไรบ้างเพื่อให้มั่นใจในทุกครั้งที่ต้องขับขี่ สคบ. มีข้อมูลมาแนะนำ
1. ตรวจเช็กระบบเบรก เมื่อรถหมดประกัน ระบบแรกที่ควรเช็กคือระบบเบรก ซึ่งรวมไปถึงผ้าเบรก น้ำมันเบรก และปั๊มเบรก เพราะเกี่ยวข้องกับความปลอดภัยของเราโดยตรง นอกจากนี้ควรให้ช่างตรวจเช็กจานเบรกด้วยว่ามีรอยขูดขีดหรือบางลงจนส่งผลกระทบต่อการขับขี่หรือไม่
2. ตรวจเช็กระบบเกียร์ ระบบเกียร์คือระบบที่ช่วยส่งกำลังให้กับรถยนต์ เมื่อรถหมดประกันศูนย์เมื่อไรจึงควรเช็กว่าทำงานได้เต็มประสิทธิภาพหรือไม่ และใส่ใจระบบเกียร์ให้มากขึ้นด้วย ที่สำคัญอย่าลืมตรวจสอบน้ำมันเกียร์อยู่เสมอว่าอยู่ในระดับที่กำหนดไว้หรือไม่ หากพบสิ่งผิดปกติต้องรีบซ่อมแซมทันที
3. ตรวจเช็กระบบหม้อน้ำ ระบบหม้อน้ำคือระบบสำหรับระบายความร้อนของรถยนต์ เป็นระบบที่ต้องเช็กให้ดีและใส่ใจให้มาก ยิ่งรถที่วิ่งมาเกิน 100,000 กิโลเมตรหรือรถหมดประกันยิ่งต้องหมั่นตรวจเช็กหม้อน้ำอยู่เสมอ การเช็กประจำวันสามารถทำได้โดยเช็กว่าหม้อน้ำฝาปิดสนิทดีหรือไม่ มีรอยรั่วหรือเปล่า รวมถึงหมั่นเติมน้ำในหม้อน้ำด้วย ส่วนการนำเข้าอู่จะเป็นการเช็กน้ำยาหม้อน้ำ ระบบท่อต่อไปจนถึงพัดลมหม้อน้ำ หากส่วนใดส่วนหนึ่งมีความผิดปกติต้องรีบซ่อมแซมหรือเปลี่ยนใหม่ทันที
4. ระบบแบตเตอรี่ปกติแล้ว แบตเตอรี่แบบเติมน้ำกลั่นจะมีอายุการใช้งานเฉลี่ยไม่เกิน 2 ปี ดังนั้นเมื่อรถหมดประกันจึงต้องใส่ใจกับการเช็กแบตเตอรี่รถยนต์ให้มากขึ้น หมั่นเติมน้ำกลั่นและตรวจแรงดันไฟเสมอ หากแบตเสื่อมเมื่อไรก็ควรเปลี่ยนทันที
5. ยางรถยนต์ ปกติแล้วยางรถยนต์ของเรามีอายุการใช้งานอยู่ที่ 70,000-100,000 กิโลเมตร หากหมดประกันเมื่อไรอย่าลืมตรวจเช็กว่ายังมีดอกยางอยู่หรือไม่ และเนื้อยางมีรอยปริแตกหรือเปล่า หรือหากใช้งานมานานเกิน 3 ปี แม้ว่ายางรถภายนอกยังมีสภาพดีอยู่ก็ควรเปลี่ยนยางเช่นกัน
6. ระบบไส้กรองแอร์และไส้กรองอากาศ ระบบไส้กรองส่งผลต่อสุขอนามัยของผู้โดยสารและการทำงานของเครื่องยนต์ ดังนั้นอย่าลืมให้ความสำคัญและตรวจเช็กสภาพของไส้กรองด้วยว่าถึงเวลาต้องล้างทำความสะอาด หรือควรเปลี่ยนใหม่แล้วหรือยัง
7. ระบบอื่น ๆ อาทิ ระบบไฟส่องสว่าง สีตัวถัง หรือการทำงานของอุปกรณ์อำนวยความสะดวก เช่น ที่ปัดน้ำฝน แม้ว่าอาจไม่สำคัญเร่งด่วนเท่าระบบที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยหรือการทำงานของรถโดยตรง แต่เมื่อรถหมดประกันก็ควรตรวจเช็กระบบเหล่านี้ด้วยเช่นกัน
หากรถหมดประกันศูนย์เมื่อใด ให้นำรถไปตรวจเช็กระบบต่าง ๆ เหล่านี้ ก็จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ได้มากยิ่งขึ้น
**************************************
แหล่งข้อมูล : www.tlt.co.th
เมื่อรถหมดประกันศูนย์ ต้องเช็กอะไรบ้าง
1. ตรวจเช็กระบบเบรก เมื่อรถหมดประกัน ระบบแรกที่ควรเช็กคือระบบเบรก ซึ่งรวมไปถึงผ้าเบรก น้ำมันเบรก และปั๊มเบรก เพราะเกี่ยวข้องกับความปลอดภัยของเราโดยตรง นอกจากนี้ควรให้ช่างตรวจเช็กจานเบรกด้วยว่ามีรอยขูดขีดหรือบางลงจนส่งผลกระทบต่อการขับขี่หรือไม่
2. ตรวจเช็กระบบเกียร์ ระบบเกียร์คือระบบที่ช่วยส่งกำลังให้กับรถยนต์ เมื่อรถหมดประกันศูนย์เมื่อไรจึงควรเช็กว่าทำงานได้เต็มประสิทธิภาพหรือไม่ และใส่ใจระบบเกียร์ให้มากขึ้นด้วย ที่สำคัญอย่าลืมตรวจสอบน้ำมันเกียร์อยู่เสมอว่าอยู่ในระดับที่กำหนดไว้หรือไม่ หากพบสิ่งผิดปกติต้องรีบซ่อมแซมทันที
3. ตรวจเช็กระบบหม้อน้ำ ระบบหม้อน้ำคือระบบสำหรับระบายความร้อนของรถยนต์ เป็นระบบที่ต้องเช็กให้ดีและใส่ใจให้มาก ยิ่งรถที่วิ่งมาเกิน 100,000 กิโลเมตรหรือรถหมดประกันยิ่งต้องหมั่นตรวจเช็กหม้อน้ำอยู่เสมอ การเช็กประจำวันสามารถทำได้โดยเช็กว่าหม้อน้ำฝาปิดสนิทดีหรือไม่ มีรอยรั่วหรือเปล่า รวมถึงหมั่นเติมน้ำในหม้อน้ำด้วย ส่วนการนำเข้าอู่จะเป็นการเช็กน้ำยาหม้อน้ำ ระบบท่อต่อไปจนถึงพัดลมหม้อน้ำ หากส่วนใดส่วนหนึ่งมีความผิดปกติต้องรีบซ่อมแซมหรือเปลี่ยนใหม่ทันที
4. ระบบแบตเตอรี่ปกติแล้ว แบตเตอรี่แบบเติมน้ำกลั่นจะมีอายุการใช้งานเฉลี่ยไม่เกิน 2 ปี ดังนั้นเมื่อรถหมดประกันจึงต้องใส่ใจกับการเช็กแบตเตอรี่รถยนต์ให้มากขึ้น หมั่นเติมน้ำกลั่นและตรวจแรงดันไฟเสมอ หากแบตเสื่อมเมื่อไรก็ควรเปลี่ยนทันที
5. ยางรถยนต์ ปกติแล้วยางรถยนต์ของเรามีอายุการใช้งานอยู่ที่ 70,000-100,000 กิโลเมตร หากหมดประกันเมื่อไรอย่าลืมตรวจเช็กว่ายังมีดอกยางอยู่หรือไม่ และเนื้อยางมีรอยปริแตกหรือเปล่า หรือหากใช้งานมานานเกิน 3 ปี แม้ว่ายางรถภายนอกยังมีสภาพดีอยู่ก็ควรเปลี่ยนยางเช่นกัน
6. ระบบไส้กรองแอร์และไส้กรองอากาศ ระบบไส้กรองส่งผลต่อสุขอนามัยของผู้โดยสารและการทำงานของเครื่องยนต์ ดังนั้นอย่าลืมให้ความสำคัญและตรวจเช็กสภาพของไส้กรองด้วยว่าถึงเวลาต้องล้างทำความสะอาด หรือควรเปลี่ยนใหม่แล้วหรือยัง
7. ระบบอื่น ๆ อาทิ ระบบไฟส่องสว่าง สีตัวถัง หรือการทำงานของอุปกรณ์อำนวยความสะดวก เช่น ที่ปัดน้ำฝน แม้ว่าอาจไม่สำคัญเร่งด่วนเท่าระบบที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยหรือการทำงานของรถโดยตรง แต่เมื่อรถหมดประกันก็ควรตรวจเช็กระบบเหล่านี้ด้วยเช่นกัน
หากรถหมดประกันศูนย์เมื่อใด ให้นำรถไปตรวจเช็กระบบต่าง ๆ เหล่านี้ ก็จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ได้มากยิ่งขึ้น
**************************************
แหล่งข้อมูล : www.tlt.co.th