XPG คว้าไลเซ่นส์ด้านสินทรัพย์ดิจิทัลครบ 4 พร้อมให้บริการครบวงจร Q1/65
ข่าวหุ้น-การเงิน Monday November 29, 2021 16:55 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)
นางสาววรางคณา อัครสถาพร ผู้จัดการใหญ่ บมจ.เอ็กซ์สปริง แคปปิตอล (XPG) กล่าวว่า หลังจากบริษัทได้ประกาศแผนธุรกิจเมื่อเดือนส.ค. 64 ที่ผ่านมา ในการก้าวสู่กลุ่มธุรกิจการเงินและหลักทรัพย์ในฐานะผู้ให้บริการทางการเงินครบวงจร และต่อยอดความเชี่ยวชาญทางการเงินปัจจุบันสู่บริการทางการเงินระบบดิจิทัล (Digital Financial Service) โดยชู 3 จุดแข็ง ได้แก่ พันธมิตร การเพิ่มทุนที่แข็งแกร่ง และการถือครองไลเซนส์ที่พร้อมให้บริการนักลงทุนแบบครบวงจร
โดยในส่วนการเพิ่มทุน เดิมเอ็กซ์สปริงมีเงินทุนจากสัดส่วนผู้ถือหุ้น 3,094 ล้านบาท และได้เพิ่มสัดส่วนการเพิ่มทุนอีก 7,111 ล้านบาท ทำให้บริษัทมีสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่งและมีสภาพคล่องทางการเงินสูงด้วยเงินทุนในมือกว่า 10,000 ล้านบาท พร้อมนำไปทุ่มพัฒนาธุรกิจในด้านต่างๆของบริษัท ซึ่งหนึ่งในธุรกิจหลักที่จะเน้นการพัฒนามากเป็นพิเศษเพื่อตอบโจทย์ตลาดเงินในปัจจุบันคือธุรกิจระบบดิจิทัล โดยมุ่งเน้นพัฒนาแพลตฟอร์มการลงทุนรูปแบบดิจิทัล และสร้างระบบนิเวศทางธุรกิจสำหรับบริการทางการเงิน โดยมีบริษัทในเครือเป็นผู้ที่ดูแลธุรกิจระบบดิจิทัลอยู่ คือ บริษัท เอ็กซ์สปริง ดิจิทัล จำกัด"
ภายหลังการเพิ่มทุน เอ็กซ์สปริงได้เดินหน้าตามแผนธุรกิจ "Transformation & Leap Forward" เต็มรูปแบบ ซึ่งหนึ่งในโครงการตามวิสัยทัศน์นี้คือการที่ เอ็กซ์สปริง ดิจิทัล ผ่านการรับรองเป็นผู้ให้บริการระบบเสนอขายโทเคนดิจิทัลในประเทศไทย (ICO Portal) และได้เสนอขาย "โทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุนสิริฮับ" (SiriHub Investment Token) ซึ่งเป็น Real Estate-backed ICO ตัวแรกของไทยที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) แก่สาธารณชนและทำยอดขายหมดจนประสบความสำเร็จอย่างสูง
ล่าสุดเอ็กซ์สปริง ดิจิทัล ยังได้รับเพิ่มอีก 4 ไลเซนส์แล้วอย่างเป็นทางการ ซึ่งพร้อมให้บริการในไตรมาส 1/65 ได้แก่ 1. นายหน้าซื้อขายคริปโทเคอร์เรนซี 2. นายหน้าซื้อขายโทเคนดิจิทัล 3. ผู้ค้าคริปโทเคอร์เรนซี และ 4. ผู้ค้าโทเคนดิจิทัล ทำให้บริษัทสามารถนำเสนอบริการทางการเงินและการลงทุนในระบบดิจิทัลแบบครบวงจร One-stop Service นักลงทุนสามารถทำธุรกรรมซื้อขายทั้งคริปโทเคอร์เรนซี และโทเคนดิจิทัล ได้ในเจ้าเดียว ครอบคลุมทั้งในตลาดแรกและตลาดรอง
"บริการแบบ One-stop Service ของเอ็กซ์สปริง ดิจิทัล เชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล ทั้งในไทยและต่างประเทศ มอบความสะดวกสบายให้นักลงทุนไม่ต้องยุ่งยากไปเปิดบัญชีกับ Exchange อื่น โดยหลังจากนี้ เราจะมีการพัฒนาแพลตฟอร์มดิจิทัลในรูปแบบต่าง ๆ ทั้งเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน เพื่อให้รองรับธุรกรรมการซื้อขายคริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลครบจบในจุดเดียว โดยใช้อินเตอร์เฟซที่ใช้ง่ายในแบบ User-friendly เพื่อให้นักลงทุนสามารถซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลได้อย่างสะดวกสบายจากทุกที่ตลอด 24 ชั่วโมง และสามารถ monitor พอร์ตของตัวเองได้อย่างง่ายดายไม่ว่าจะเป็นการซื้อขายในตลาดแรกหรือในตลาดรองของแพลตฟอร์มพันธมิตรของเอ็กซ์สปริง" นางสาววรางคณา กล่าว
สำหรัยผลประกอบการของเอ็กซ์สปริง แคปปิตอล ครึ่งแรกของปี 64 ถือว่าน่าพอใจ โดยมีรายได้รวมส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมลงทุน 167 ล้านบาท สูงกว่ารายได้รวมส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมลงทุนของทั้งปี 63 ซึ่งอยู่ที่ 141 ล้านบาท โดยมีกำไรสุทธิฯ อยู่ที่ 65 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาถึง 791% ซึ่งนับเป็นสัญญาณบวกที่ชัดเจน บริษัทฯ จึงเชื่อมั่นว่าแผนธุรกิจที่แข็งแกร่งนี้ จะสามารถเพิ่มรายได้และผลกำไรของบริษัทได้อย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าจะมีรายได้เติบโตก้าวกระโดดได้ในปี 65
นอกจากนี้บริษัทยังมีพันธมิตรอีกหลายรายซึ่งถือเป็นฟันเฟืองสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจที่จะมีส่วนช่วยผลักดันให้กลุ่มเอ็กซ์สปริง แคปปิตอล สามารถบรรลุเป้าหมายการก้าวเป็นผู้นำการให้บริการทางการเงินและการลงทุนแบบครบวงจร ที่จะเปลี่ยนโลกธุรกิจการเงินการลงทุนเดิม ๆ สู่นวัตกรรมการเงินการลงทุน เชื่อมโยงโลกการเงินการลงทุนปัจจุบันและโลกบริการการเงินการลงทุนดิจิทัลอนาคตเข้าไว้ด้วยกัน ผ่านการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลขั้นสูง เพื่อให้ทุกคนมีโอกาสเข้าถึงโลกการเงินและการลงทุนได้สะดวกและง่ายดาย ควบคู่กับการวางรากฐานระบบนิเวศด้านสินทรัพย์ดิจิทัลที่แข็งแกร่งในประเทศไทย เพื่อผลักดันให้เมืองไทยเป็นเมืองต้นแบบของ Ecosystem ของสินทรัพย์ดิจิทัลระดับโลก
XPG คว้าไลเซ่นส์ด้านสินทรัพย์ดิจิทัลครบ 4 พร้อมให้บริการครบวงจร Q1/65
ข่าวหุ้น-การเงิน Monday November 29, 2021 16:55 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)
นางสาววรางคณา อัครสถาพร ผู้จัดการใหญ่ บมจ.เอ็กซ์สปริง แคปปิตอล (XPG) กล่าวว่า หลังจากบริษัทได้ประกาศแผนธุรกิจเมื่อเดือนส.ค. 64 ที่ผ่านมา ในการก้าวสู่กลุ่มธุรกิจการเงินและหลักทรัพย์ในฐานะผู้ให้บริการทางการเงินครบวงจร และต่อยอดความเชี่ยวชาญทางการเงินปัจจุบันสู่บริการทางการเงินระบบดิจิทัล (Digital Financial Service) โดยชู 3 จุดแข็ง ได้แก่ พันธมิตร การเพิ่มทุนที่แข็งแกร่ง และการถือครองไลเซนส์ที่พร้อมให้บริการนักลงทุนแบบครบวงจร
โดยในส่วนการเพิ่มทุน เดิมเอ็กซ์สปริงมีเงินทุนจากสัดส่วนผู้ถือหุ้น 3,094 ล้านบาท และได้เพิ่มสัดส่วนการเพิ่มทุนอีก 7,111 ล้านบาท ทำให้บริษัทมีสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่งและมีสภาพคล่องทางการเงินสูงด้วยเงินทุนในมือกว่า 10,000 ล้านบาท พร้อมนำไปทุ่มพัฒนาธุรกิจในด้านต่างๆของบริษัท ซึ่งหนึ่งในธุรกิจหลักที่จะเน้นการพัฒนามากเป็นพิเศษเพื่อตอบโจทย์ตลาดเงินในปัจจุบันคือธุรกิจระบบดิจิทัล โดยมุ่งเน้นพัฒนาแพลตฟอร์มการลงทุนรูปแบบดิจิทัล และสร้างระบบนิเวศทางธุรกิจสำหรับบริการทางการเงิน โดยมีบริษัทในเครือเป็นผู้ที่ดูแลธุรกิจระบบดิจิทัลอยู่ คือ บริษัท เอ็กซ์สปริง ดิจิทัล จำกัด"
ภายหลังการเพิ่มทุน เอ็กซ์สปริงได้เดินหน้าตามแผนธุรกิจ "Transformation & Leap Forward" เต็มรูปแบบ ซึ่งหนึ่งในโครงการตามวิสัยทัศน์นี้คือการที่ เอ็กซ์สปริง ดิจิทัล ผ่านการรับรองเป็นผู้ให้บริการระบบเสนอขายโทเคนดิจิทัลในประเทศไทย (ICO Portal) และได้เสนอขาย "โทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุนสิริฮับ" (SiriHub Investment Token) ซึ่งเป็น Real Estate-backed ICO ตัวแรกของไทยที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) แก่สาธารณชนและทำยอดขายหมดจนประสบความสำเร็จอย่างสูง
ล่าสุดเอ็กซ์สปริง ดิจิทัล ยังได้รับเพิ่มอีก 4 ไลเซนส์แล้วอย่างเป็นทางการ ซึ่งพร้อมให้บริการในไตรมาส 1/65 ได้แก่ 1. นายหน้าซื้อขายคริปโทเคอร์เรนซี 2. นายหน้าซื้อขายโทเคนดิจิทัล 3. ผู้ค้าคริปโทเคอร์เรนซี และ 4. ผู้ค้าโทเคนดิจิทัล ทำให้บริษัทสามารถนำเสนอบริการทางการเงินและการลงทุนในระบบดิจิทัลแบบครบวงจร One-stop Service นักลงทุนสามารถทำธุรกรรมซื้อขายทั้งคริปโทเคอร์เรนซี และโทเคนดิจิทัล ได้ในเจ้าเดียว ครอบคลุมทั้งในตลาดแรกและตลาดรอง
"บริการแบบ One-stop Service ของเอ็กซ์สปริง ดิจิทัล เชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล ทั้งในไทยและต่างประเทศ มอบความสะดวกสบายให้นักลงทุนไม่ต้องยุ่งยากไปเปิดบัญชีกับ Exchange อื่น โดยหลังจากนี้ เราจะมีการพัฒนาแพลตฟอร์มดิจิทัลในรูปแบบต่าง ๆ ทั้งเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน เพื่อให้รองรับธุรกรรมการซื้อขายคริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลครบจบในจุดเดียว โดยใช้อินเตอร์เฟซที่ใช้ง่ายในแบบ User-friendly เพื่อให้นักลงทุนสามารถซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลได้อย่างสะดวกสบายจากทุกที่ตลอด 24 ชั่วโมง และสามารถ monitor พอร์ตของตัวเองได้อย่างง่ายดายไม่ว่าจะเป็นการซื้อขายในตลาดแรกหรือในตลาดรองของแพลตฟอร์มพันธมิตรของเอ็กซ์สปริง" นางสาววรางคณา กล่าว
สำหรัยผลประกอบการของเอ็กซ์สปริง แคปปิตอล ครึ่งแรกของปี 64 ถือว่าน่าพอใจ โดยมีรายได้รวมส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมลงทุน 167 ล้านบาท สูงกว่ารายได้รวมส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมลงทุนของทั้งปี 63 ซึ่งอยู่ที่ 141 ล้านบาท โดยมีกำไรสุทธิฯ อยู่ที่ 65 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาถึง 791% ซึ่งนับเป็นสัญญาณบวกที่ชัดเจน บริษัทฯ จึงเชื่อมั่นว่าแผนธุรกิจที่แข็งแกร่งนี้ จะสามารถเพิ่มรายได้และผลกำไรของบริษัทได้อย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าจะมีรายได้เติบโตก้าวกระโดดได้ในปี 65
นอกจากนี้บริษัทยังมีพันธมิตรอีกหลายรายซึ่งถือเป็นฟันเฟืองสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจที่จะมีส่วนช่วยผลักดันให้กลุ่มเอ็กซ์สปริง แคปปิตอล สามารถบรรลุเป้าหมายการก้าวเป็นผู้นำการให้บริการทางการเงินและการลงทุนแบบครบวงจร ที่จะเปลี่ยนโลกธุรกิจการเงินการลงทุนเดิม ๆ สู่นวัตกรรมการเงินการลงทุน เชื่อมโยงโลกการเงินการลงทุนปัจจุบันและโลกบริการการเงินการลงทุนดิจิทัลอนาคตเข้าไว้ด้วยกัน ผ่านการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลขั้นสูง เพื่อให้ทุกคนมีโอกาสเข้าถึงโลกการเงินและการลงทุนได้สะดวกและง่ายดาย ควบคู่กับการวางรากฐานระบบนิเวศด้านสินทรัพย์ดิจิทัลที่แข็งแกร่งในประเทศไทย เพื่อผลักดันให้เมืองไทยเป็นเมืองต้นแบบของ Ecosystem ของสินทรัพย์ดิจิทัลระดับโลก