สวัสดีค่ะเพื่อนๆ วันนี้เราจะมารีวิวการดูแลรักษาเล็บขบค่ะ
เราเริ่มเป็นเล็บขบเพราะตัดเล็บผิดวิธี เราตัดลงไปลึกมากๆ TT แล้วพอเล็บขึ้นมามันก็แทงเนื้อ ตอนแรกเราไม่เชื่อว่ามันจะไม่หายเราเลยพยายามรักษาเองอยู่นานมากๆๆๆ เราล้างแผลทาเบตาดีนทุกวัน มีหนองเราก็บีบออก แผลบวมขึ้นทุกๆวัน บางวันปวดมากเราแทบจะเดินไม่ได้เลย แต่เราก็อดทนเพราะคิดว่าการถอดเล็บมันน่ากลัวมาก แค่พูดคำว่าถอดเล็บก็สั่นแล้ว
เราล้างแผลเองพันแผลเองเป็นเดือนแต่เราก็ยังใจแข็งไม่ยอมไปหาหมอ หนองจะไหลเต็มผ้าก็อซยังไงเราก็คิดว่ามันจะต้องดีขึ้น จนอยู่มาวันนึงเราตื่นขึ้นมามีมีเลือดไหล เรายืนแปรงฟันอยู่รู้สึกเท้าเปียกๆเลยก้มดู โอ้มายก้อตตตต!! เลือด!!
(ในระหว่างที่รักษาเองเราหาข้อมูลตลอด ถึงเราจะไม่อยากถอดเล็บแค่ไหนเราก็หาข้อมูลตลอด เจ็บไหม ราคาเท่าไหร่ ทำที่ไหนได้บ้าง เราก็มีข้อมูลอยู่พอสมควร **ประกันสังคมสามารถใช้สิทธิ์ได้**)
พอเราเห็นเลือดเราเลยตัดสินใจไปโรงพยาบาล เรารู้แล้วว่าหนึ่งเดือนที่ผ่านมามันไม่ได้ช่วยให้เราดีขึ้นเลยT_T
พอไปถึงโรงพยาบาลประกันสังคมที่เราเลือก เราก็ไปที่เคาน์เตอร์ยื่นบัตรประชาชนแล้วบอกว่าเป็นเล็บขบค่ะ หลังจากซักประวัติ/วัดความดันเสร็จ พยาบาลก็ให้เราไปรอที่ห้องฉุกเฉิน เราก็พยายามผ่อนคลายหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเล่น แล้วซักพักคุณหมอก็มาดูแผลให้เรา ตอนนั้นเรายังหวังว่าน่าจะมีวิธีรักษาอาจจะไม่ต้องถอดเล็บก็ได้ แต่พอคุณหมอดูเท้าเราคุณหมอก็บอกว่าต้องถอดเล็บแล้วก็หันไปบอกพยาบาลให้มาบล็อกยาชาเลย โอ้มายก้อตตตตO_O วินาทีนั้นเราก็ทำอะไรไม่ได้แล้วได้แต่นอนนิ่งๆรอรับการรักษา
แล้วพยาบาลก็มาทำความสะอาดเท้าเราพร้อมกับฉีดยาชาที่นิ้วเท้า เจ็บมากกกกกกกก!!!! แต่แค่แปปเดียวก็ฉีดยาชาเสร็จค่ะ ขั้นตอนนี้เราอยากบอกทุกคนว่ากัดฟันเอาค่ะ แปปเดียว แปปเดียวจริงๆ พอฉีดยาชาเสร็จซักพักคุณหมอก็มาบีบแผลเราเพื่อเช็คว่ายาชาออฤทธิ์หรือยัง แล้วคุณหมอก็เริ่มทำการถอดเล็บตอนนี้เราก็นอนชิลล์ๆไม่รู้สึกอะไร แปปเดียวคุณหมอก็ทำเสร็จค่ะ แปปเดียวอีกแล้ว555555 ตอนนั้นเราก็คิดแล้วชั้นทนทรมานเป็นเดือนคืออะไร555555555555
แล้วพยาบาลก็ทำแผลให้ค่ะ ในระหว่างนั้นก็มีพยาบาลอีกคนเอาใบรับรองแพทย์และใบนัดมาให้ ใบนัดนี้คือใบนัดของหมอที่นัดเรามาดูแผลหลังจากถอดเล็บไปแล้ว1สัปดาห์ พยาบาลที่ทำแผลให้ก็จะบอกรายละเอียดการดูแลแผล ห้ามแผลโดนน้ำโดยเด็ดขาด และให้ไปล้างแผลที่โรงพยาบาลทุกวัน ซึ่งตรงนี้เราก็สามารถใช้สิทธิ์ประกันสังคมต่อได้ไม่เสียค่าใช้จ่ายอะไร
เรียบร้อยแล้วเราก็เดินออกมารอรับยา ยาที่ได้มาก็จะเป็นยาแก้ปวดกับยาฆ่าเชื้อ ตอนที่อยู่โรงพยาบาลเรายังไม่ปวดแผลแต่พอกลับถึงบ้านเริ่มปวดเราก็กินยาแล้วก็นอนพัก วันต่อมาเราลางานนะคะ คุณหมอแนะนำให้พัก1วันค่ะ ไม่อยากให้เดินเยอะค่ะ
มาถึงการล้างแผลค่ะ วันแรกเราแทบไม่กล้ามองแผลเลย พยาบาลมือเบามากๆแผลติดผ้าก็อซก็ใช้นำเกลือเทใส่จนผ้าก็อซหลุดไม่เจ็บเลยค่ะ แล้วเราก็ไปล้างแผลทุกวันค่ะแผลก็เริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ แต่พอวันที่3 พยาบาลบอกแผลแห้งเร็วมาก เราก็เลยถามว่าพรุ่งนี้ต้องมาไหม พยาบาลบอกว่าแผลเริ่มแห้งแล้วมาวันเว้นวันก็ได้ ตอนนั้นเราดีใจมากไปล้างแผลทุกวันก็เหนื่อยนะคะ ยิ่งวัน2วันแรกปวดๆแผลด้วยทำให้ค่อนข้างเดินลำบาก
เราใช้ถุงคลุมกันน้ำของDr.Dressing นะคะเลยทำให้แผลเราไม่โดนน้ำเลย แผลหายไว อาบน้ำได้ปกติเลยค่ะ เราอยากแนะนำเพื่อนๆนะคะ ถ้าจะต้องถอดเล็บให้หาซื้อมาไว้เลย ในฐานะคนที่ถอดเล็บมาก่อนไอเทมนี้ควรมีอย่างยิ่งค่ะ
สุดท้ายนี้อยากบอกเพื่อนๆทุกคนนะคะ ถ้าเป็นเล็บขบไปหาหมอเถอะค่ะ ถอดเล็บไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด ถ้ามีประกันสังคมก็สามารถใช้สิทธิได้อย่าทนทรมานเลยค่ะ พอถอดเล็บแล้วอาทิตย์เดียวก็หาย เป็นกำลังใจให้ทุกคนนะคะ ^^
หมายเหตุ;
ถุงคลุมกันน้ำเราซื้อที่ร้าน Dr.Dressing ขายใน Shopee/Lazada/Facebook
โรงพยาบาลที่เราถอดเล็บ โรงพยาบาลบางประกอก8 เราใช้สิทธิ์ประกันสังคม แต่ถ้าไม่มี ราคาประมาณ 2,300บาท ค่าล้างแผล200บาท/ครั้ง
#ใครเคยถอดเล็บบ้างมาแชร์ประสบการณ์กันน้าาาาาาา <3
เล็บขบ(ถอดเล็บ) รีวิวตั้งแต่เริ่มเป็นยันรักษาหาย
เราเริ่มเป็นเล็บขบเพราะตัดเล็บผิดวิธี เราตัดลงไปลึกมากๆ TT แล้วพอเล็บขึ้นมามันก็แทงเนื้อ ตอนแรกเราไม่เชื่อว่ามันจะไม่หายเราเลยพยายามรักษาเองอยู่นานมากๆๆๆ เราล้างแผลทาเบตาดีนทุกวัน มีหนองเราก็บีบออก แผลบวมขึ้นทุกๆวัน บางวันปวดมากเราแทบจะเดินไม่ได้เลย แต่เราก็อดทนเพราะคิดว่าการถอดเล็บมันน่ากลัวมาก แค่พูดคำว่าถอดเล็บก็สั่นแล้ว
เราล้างแผลเองพันแผลเองเป็นเดือนแต่เราก็ยังใจแข็งไม่ยอมไปหาหมอ หนองจะไหลเต็มผ้าก็อซยังไงเราก็คิดว่ามันจะต้องดีขึ้น จนอยู่มาวันนึงเราตื่นขึ้นมามีมีเลือดไหล เรายืนแปรงฟันอยู่รู้สึกเท้าเปียกๆเลยก้มดู โอ้มายก้อตตตต!! เลือด!!
(ในระหว่างที่รักษาเองเราหาข้อมูลตลอด ถึงเราจะไม่อยากถอดเล็บแค่ไหนเราก็หาข้อมูลตลอด เจ็บไหม ราคาเท่าไหร่ ทำที่ไหนได้บ้าง เราก็มีข้อมูลอยู่พอสมควร **ประกันสังคมสามารถใช้สิทธิ์ได้**)
พอเราเห็นเลือดเราเลยตัดสินใจไปโรงพยาบาล เรารู้แล้วว่าหนึ่งเดือนที่ผ่านมามันไม่ได้ช่วยให้เราดีขึ้นเลยT_T
พอไปถึงโรงพยาบาลประกันสังคมที่เราเลือก เราก็ไปที่เคาน์เตอร์ยื่นบัตรประชาชนแล้วบอกว่าเป็นเล็บขบค่ะ หลังจากซักประวัติ/วัดความดันเสร็จ พยาบาลก็ให้เราไปรอที่ห้องฉุกเฉิน เราก็พยายามผ่อนคลายหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเล่น แล้วซักพักคุณหมอก็มาดูแผลให้เรา ตอนนั้นเรายังหวังว่าน่าจะมีวิธีรักษาอาจจะไม่ต้องถอดเล็บก็ได้ แต่พอคุณหมอดูเท้าเราคุณหมอก็บอกว่าต้องถอดเล็บแล้วก็หันไปบอกพยาบาลให้มาบล็อกยาชาเลย โอ้มายก้อตตตตO_O วินาทีนั้นเราก็ทำอะไรไม่ได้แล้วได้แต่นอนนิ่งๆรอรับการรักษา
แล้วพยาบาลก็มาทำความสะอาดเท้าเราพร้อมกับฉีดยาชาที่นิ้วเท้า เจ็บมากกกกกกกก!!!! แต่แค่แปปเดียวก็ฉีดยาชาเสร็จค่ะ ขั้นตอนนี้เราอยากบอกทุกคนว่ากัดฟันเอาค่ะ แปปเดียว แปปเดียวจริงๆ พอฉีดยาชาเสร็จซักพักคุณหมอก็มาบีบแผลเราเพื่อเช็คว่ายาชาออฤทธิ์หรือยัง แล้วคุณหมอก็เริ่มทำการถอดเล็บตอนนี้เราก็นอนชิลล์ๆไม่รู้สึกอะไร แปปเดียวคุณหมอก็ทำเสร็จค่ะ แปปเดียวอีกแล้ว555555 ตอนนั้นเราก็คิดแล้วชั้นทนทรมานเป็นเดือนคืออะไร555555555555
แล้วพยาบาลก็ทำแผลให้ค่ะ ในระหว่างนั้นก็มีพยาบาลอีกคนเอาใบรับรองแพทย์และใบนัดมาให้ ใบนัดนี้คือใบนัดของหมอที่นัดเรามาดูแผลหลังจากถอดเล็บไปแล้ว1สัปดาห์ พยาบาลที่ทำแผลให้ก็จะบอกรายละเอียดการดูแลแผล ห้ามแผลโดนน้ำโดยเด็ดขาด และให้ไปล้างแผลที่โรงพยาบาลทุกวัน ซึ่งตรงนี้เราก็สามารถใช้สิทธิ์ประกันสังคมต่อได้ไม่เสียค่าใช้จ่ายอะไร
เรียบร้อยแล้วเราก็เดินออกมารอรับยา ยาที่ได้มาก็จะเป็นยาแก้ปวดกับยาฆ่าเชื้อ ตอนที่อยู่โรงพยาบาลเรายังไม่ปวดแผลแต่พอกลับถึงบ้านเริ่มปวดเราก็กินยาแล้วก็นอนพัก วันต่อมาเราลางานนะคะ คุณหมอแนะนำให้พัก1วันค่ะ ไม่อยากให้เดินเยอะค่ะ
มาถึงการล้างแผลค่ะ วันแรกเราแทบไม่กล้ามองแผลเลย พยาบาลมือเบามากๆแผลติดผ้าก็อซก็ใช้นำเกลือเทใส่จนผ้าก็อซหลุดไม่เจ็บเลยค่ะ แล้วเราก็ไปล้างแผลทุกวันค่ะแผลก็เริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ แต่พอวันที่3 พยาบาลบอกแผลแห้งเร็วมาก เราก็เลยถามว่าพรุ่งนี้ต้องมาไหม พยาบาลบอกว่าแผลเริ่มแห้งแล้วมาวันเว้นวันก็ได้ ตอนนั้นเราดีใจมากไปล้างแผลทุกวันก็เหนื่อยนะคะ ยิ่งวัน2วันแรกปวดๆแผลด้วยทำให้ค่อนข้างเดินลำบาก
เราใช้ถุงคลุมกันน้ำของDr.Dressing นะคะเลยทำให้แผลเราไม่โดนน้ำเลย แผลหายไว อาบน้ำได้ปกติเลยค่ะ เราอยากแนะนำเพื่อนๆนะคะ ถ้าจะต้องถอดเล็บให้หาซื้อมาไว้เลย ในฐานะคนที่ถอดเล็บมาก่อนไอเทมนี้ควรมีอย่างยิ่งค่ะ
สุดท้ายนี้อยากบอกเพื่อนๆทุกคนนะคะ ถ้าเป็นเล็บขบไปหาหมอเถอะค่ะ ถอดเล็บไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด ถ้ามีประกันสังคมก็สามารถใช้สิทธิได้อย่าทนทรมานเลยค่ะ พอถอดเล็บแล้วอาทิตย์เดียวก็หาย เป็นกำลังใจให้ทุกคนนะคะ ^^
หมายเหตุ;
ถุงคลุมกันน้ำเราซื้อที่ร้าน Dr.Dressing ขายใน Shopee/Lazada/Facebook
โรงพยาบาลที่เราถอดเล็บ โรงพยาบาลบางประกอก8 เราใช้สิทธิ์ประกันสังคม แต่ถ้าไม่มี ราคาประมาณ 2,300บาท ค่าล้างแผล200บาท/ครั้ง
#ใครเคยถอดเล็บบ้างมาแชร์ประสบการณ์กันน้าาาาาาา <3