ตอนปี 2014 ที่ท่านรองแอกเกอร์เล่นฤดูกาลสุดท้ายให้ลิเวอร์พูล ก็มีความตึงๆกับร๊อดเจอร์สอย่างสัมผัสได้ แม้จะไม่มีข่าวอะไรออกมาเป็นชิ้นเป็นอันก็ตาม แต่แฟนบอลก็สัมผัสได้ว่าคนที่ BR แต่งตั้งเป็นรองกัปตัน ไม่ใช่ตัวเลือกแรกในแบ๊คโฟร์

จากวันนั้นจนวันนี้ แอกเกอร์ก็กลับบ้านไปเล่นให้ Brøndby ในเดนมาร์ก และแขวนสตั๊ดไปในปี 2016 พร้อมคำส่งท้ายว่าคงไม่กลับมาอะไรกับวงการฟุตบอลอีกแล้ว

แต่ปีนี้ แอกเกอร์ก็คืนคำพูดตัวเอง ท่ามกลางความช๊อคเว่อวังปนปลาบปลื้มของแฟนคลับ (อันได้แก่ชั้นคนเดียว) แอกเกอร์ให้สัมภาษณ์กับเจมส์ เพียร์ซว่า … มันไม่มีอะไรมาแทนที่รสชาติของชัยชนะในสนามได้ ท่านรองเลยกลับมาคุมทีม HB Koge ในลีกรอง ดิวิชั่น 1 เดนมาร์ก

ความแซ่บลืมของบทสัมภาษณ์นี้ ก็คือการยืนยันจุดแตกหักกับ BR ว่าจริงมากจ้าาาาาาา แอกเกอร์นั่งสงสัยมานานว่า ฤดูกาลสุดท้าย เขาได้ลงเล่น 20 นัด ชนะ 17 ถึงจะเสียบอลเยอะก็ตาม แต่เขาก็ดูจะโดนเมินเฉย มองผ่าน เกิดอะไรขึ้น? เขาก็เลยไปถาม BR ว่าขอคำอธิบายหน่อย ว่าเขาต้องทำยังไง

BR บอกว่า “ไม่มีไรนะ อย่าคิดมาก” แล้วก็ทำเหมือนเดิม มองข้ามหัวไปเสียอย่างนั้น

ช่วงปิดฤดูกาล เขาได้ข้อเสนอจากบาร์เซโลน่า แอกเกอร์เล่าว่า สโมสรตกลงกันเรียบร้อยแล้ว เหลือแค่รอลายเซ็นของแอกเกอร์ ระหว่างที่เขามองสัญญาตรงหน้า —- สโมสรก็บอกว่า “แมนซิยื่นมาแพงกว่า ถ้าบาร์ซ่าไม่สู้ เราจะขายคุณให้แมนซิ”

บ้าป่ะ นั่นคู่แข่งลิเวอร์พูลนะ … แอกเกอร์คิด

ด้วยความเกรี้ยวกราดและโมโหมากที่ไม่มีใครให้เกียรติเขา และไม่ให้เกียรติสโมสร แอกเกอร์เลยลุกขึ้นมาจัดการให้ตัวเองได้ย้ายกลับเดนมาร์กในราคา 3 ล้านปอนด์ เพราะมันคือการย้ายทีมที่ “ถูกต้อง” กว่าการไปเล่นให้คู่แข่งลิเวอร์พูล

หลังจากเวลาผ่านไป BR ไปคุมเลสเตอร์ แคสเปอร์ ชไมเคิลจัดอีเวนต์นึงที่แอกเกอร์มีโอกาสได้ไปร่วม แอกเกอร์ก็เดินไปทัก BR เพื่อเคลียร์ความรู้สึก

BR ก็ทักทาย บอกว่า ไว้จะกลับมาคุยด้วย

และแน่นอน เขาก็ไม่กลับมาคุย

// แปลและใส่ไข่โดย ด้อมน้องแดน