ภาคต่อโดยตรงของ Ghostbusters (เผยแพร่ ค.ศ. 1984) กับ Ghostbusters II (1989) อย่าง Ghostbusters: Afterlife เปิดตัวแรงสุดในอเมริกาตามฟอร์ม เก็บตังค์ไปเบาะๆ [44 ล้านดอลลาร์], แม้ยังด้อยกว่าที่ภาครีเมคพลังหญิง (Ghostbusters 2016) เคยทำไว้ (46 ล้าน) ก็ตาม
อันที่จริงถือว่า Afterlife ประสบความสำเร็จเกินคาดด้วยซ้ำ เพราะขนาดสตูดิโอต้นสังกัด ยังคิดว่าจะทำได้แค่ราว 30 ล้าน... นอกจากนี้คะแนนนิยมฝั่งผู้ชม ยังสูงอย่างที่เห็น, ไม่ได้โดนแฟนๆ หาว่าเส็งเคร็ง เหมือนหนังปี 2016
ส่วนเหตุผลที่ฝั่งนักวิจารณ์บอกว่าดี เกินครึ่งเพียงไม่มาก นั้นเพราะ Afterlife ขาดความเป็นเอกเทศและสดใหม่, จุดขายของภาพยนตร์ คือการอิงองค์ประกอบจากต้นฉบับ, จนหลายคนมองว่ามันไม่ยอมยืนหยัด ด้วยลำแข้งตัวเอง
อนึ่ง No Time to Die รายรับรวมทั่วโลก 734 ล้านแล้ว (แซงหน้า F9 ที่อยู่แถว 721 ล้าน) จึงกลายเป็นหนังทำเงินสูงสุดประจำปี 2021 ณ ปัจจุบัน, ส่วน Eternals สัปดาห์นี้เก็บเพิ่มได้ไม่เท่าไหร่
Ghostbusters: Afterlife เปิดตัวแรงกว่าที่สตูดิโอคาด, ส่วน No Time to Die กลายเป็นหนังทำเงินสูงสุดของปี ณ เวลานี้
อันที่จริงถือว่า Afterlife ประสบความสำเร็จเกินคาดด้วยซ้ำ เพราะขนาดสตูดิโอต้นสังกัด ยังคิดว่าจะทำได้แค่ราว 30 ล้าน... นอกจากนี้คะแนนนิยมฝั่งผู้ชม ยังสูงอย่างที่เห็น, ไม่ได้โดนแฟนๆ หาว่าเส็งเคร็ง เหมือนหนังปี 2016
ส่วนเหตุผลที่ฝั่งนักวิจารณ์บอกว่าดี เกินครึ่งเพียงไม่มาก นั้นเพราะ Afterlife ขาดความเป็นเอกเทศและสดใหม่, จุดขายของภาพยนตร์ คือการอิงองค์ประกอบจากต้นฉบับ, จนหลายคนมองว่ามันไม่ยอมยืนหยัด ด้วยลำแข้งตัวเอง
อนึ่ง No Time to Die รายรับรวมทั่วโลก 734 ล้านแล้ว (แซงหน้า F9 ที่อยู่แถว 721 ล้าน) จึงกลายเป็นหนังทำเงินสูงสุดประจำปี 2021 ณ ปัจจุบัน, ส่วน Eternals สัปดาห์นี้เก็บเพิ่มได้ไม่เท่าไหร่