สวัสดีครับ ขออนุญาตเกริ่นข้อมูลส่วนตัวนิดนึงครับ ผมอายุ 21 ปี น้ำหนัก 48 กก รูปร่างผอมเตี้ย ปัญหาของผมคือผมมีโรคประจำตัวหลายโรค จนไม่แน่ใจว่าตกลงผมเป็นอะไรกันแน่ หลักๆ มีอาการภูมิแพ้ กรดไหลย้อน หัวใจเต้นไวกว่าปกติ และแพนิค
เริ่มต้นเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ผมตื่นขึ้นมาแล้วเหนื่อยทุกครั้ง แม้จะนอนหลับสนิทเพียงพอ 8-9 ชั่วโมงแล้วก็ตาม วันไหนที่นอนแค่ 6 ชั่วโมงใจจะเต้นไวมากเหมือนจะหลุดออกมาเต้นตรงหน้า แต่ในตอนนั้นผมไม่สังเกตอะไรเลย เลยปล่อยผ่านไปจนกระทั่งปีก่อนช่วงเดือนกันยายน ผมสังเกตว่าทำอะไรจะเหนื่อยง่ายขึ้น เช่น เดินขึ้นบันไดชั้นสองปกติชิวมาก แต่ตอนนี้กลับเหนื่อยพอสมควร ใจเต้น 110-150 จนทำให้ผมได้ลองไปตรวจที่ รพ.แห่งแรก
- รพ.แห่งแรก ตรวจไทรอยด์ ค่าเกลือแร่ต่างๆ ค่าไต ปกติทุกอย่าง ตรวจยืนยันแล้วก็ยังปกติ
- หลังจากนั้นเลยไปหาคลินิคหมอด้านหัวใจ (แห่งแรก) หมอบอกว่าผมเป็นกรดไหลย้อน และลอง EKG เป็นครั้งแรกกราฟออกมาปกติ (ไม่มีอาการในตอนนั้น) ก็ได้ยา propanolol + กรดไหลย้อนมากินหลายเดือน อาการก็ดีขึ้น แต่พอยาหมดแล้วไม่ได้กินต่อเนื่องก็กลับมามีอาการ
- จนกระทั่งไปหาคลินิคอีกแห่งหนึ่ง หมอคลินิคที่สองบอกว่าเป็นเพราะฮอร์โมนเซโรโทนินเลยจัดยาให้หลายอย่างมากก็ดีขึ้น แต่หลังจากยาหมดในช่วงเดือนกว่าที่กิน ก็มีอาการกลับมา
- จนช่วงปิดเทอมได้กลับบ้าน เลยลองไปตรวจที่ รพ.ใกล้บ้านอีกครั้ง (แห่งที่สอง) ก็ตรวจเช่นเดิมคือค่าไทรอยด์ ยืนยันผลรอบที่สองก็ปกติ หัวใจเอ็กซเรย์แล้วไม่โต EKG ปกติ
- หลังจากนั้นก็ยังมีอาการ เลยได้ไปคลินิคหมอด้านหัวใจ (แห่งที่สาม) ที่ทำงานใน รพ.ศูนย์ประจำจังหวัด หมอแห่งที่สามก็รักษาอาการผมมาตั้งแต่ช่วงต้นปีมาจนถึงตอนนี้ เป็นระยะเวลาประมาณ 10 เดือนโดยเฉลี่ย หมอคลินิคแห่งนี้ให้ผมลอง EKG อีกรอบ ผลก็ออกมาปกติทุกอย่าง เคยให้ติดเครื่อง Holter 2 วัน หมอบอกว่าหัวใจปกติ อาจจะเกิดจากความเครียดด้วยเพราะส่วนตัวผมค่อนข้างเป็นคนย้ำคิดย้ำทำ คิดมาก เครียดไปก่อน หมอบอกอาการอาจจะมีจริงแต่น้อย ไม่เป็นอันตรายแค่สร้างความรำคาญ แต่ผมก็ยังไม่สบายใจอยู่ดี / หลังจากนั้นก็ได้รับยา Propanolol 10 mg กินเช้าเย็นอย่างเดียว ซึ่งหมอแนะนำให้ออกกำลังกายควบคู่ด้วย มันดีขึ้นมากทำให้อาการใจสั่นบางครั้งผมหายไป รวมถึงใจเต้นปกติมากขึ้น ไม่ไวแบบเมื่อก่อน อาการเหนื่อยง่ายหายไปเยอะมาก
แต่ยังไงก็ตามช่วงนี้ ผมก็ยังมีอาการตลอดไม่ว่าจะเป็นความรู้สึกเจ็บตรงหัวใจจี้ดๆ ครั้งนึงจนสะดุ้งแล้วหายไป หรือบางครั้งใจกลับมาเต้นไวบ้างแล้วมีอาการเหนื่อยหอบ บางครั้งก็มึนหัวเมื่อยคอ ชาตรงหน้าอก ใบหน้าและแขนขาบ่อยๆ (ไม่แน่ใจว่าเพราะแพนิค + นั่งเรียนออนไลน์ท่าเดิมนานๆ ทำให้เมื่อยบ่าจนร้าวไปหัวด้วยไหม รวมถึงมีอาการกรดไหลย้อนที่กำลังรักษาอยู่เป็นช่วงๆ) ไม่ก็มีอาการปวดตรงอกซ้ายแบบเมื่อยๆ แถวใต้รักแร้ซ้าย หรือราวนมซ้าย แต่ไม่มีอาการแน่นอกรุนแรง หรือรู้สึกเหมือนถูกเหยียบหน้าอกแต่อย่างใด แต่อาการทั้งหมดนี้ก็ทำให้ผมอดกังวลไม่ได้ เกือบทุกคืนที่ผมมีอาการหัวใจหรือแพนิคก่อนนอน มันทำให้ผมคิดมากว่าพรุ่งนี้ผมจะยังตื่นมาได้อีกไหม ผมไม่ได้มีอาการรุนแรงจริงๆ ใช่ไหม บางครั้งหลายอาการมาพร้อมกันทั้งกรดไหลย้อนที่มีลมเยอะทำให้ใจเต้นไวหรือรู้สึกแน่นอกได้ มาพร้อมกับแพนิค ทำให้ผมแทบบ้าเลย
จนช่วงนี้ใกล้สอบ ผมได้ออกกำลังกายสัปดาห์ละ 1-3 ครั้ง พอหลังออกกำลังกายแล้วนั่งพักก็มีอาการเลยลองวัด ekg ใน apple watch ก็ได้กราฟแบบนี้ แต่ไม่ทราบว่ามันจะบอกอะไรได้บ้างเพราะเพียง 1 lead / ผมรู้สึกจนปัญญากับการตรวจแล้ว เพราะ EKG อาการบางครั้งที่มีก็แค่ไม่กี่วิหรืออย่างมากไม่เกิน4นาที ทำให้ไป รพ.ก็ไม่ทันแล้ว กว่าจะไปถึงอาการก็หายไปเสียแล้ว
https://drive.google.com/drive/folders/10D1qWVnxUWQ-ZGqNPOlqcfCoYI7qNIeO
ปล.ขณะวัดไม่มีการขยับ หรือนิ้วเปียกเหงื่อ จับปกติเหมือนบ่อยครั้งที่ขณะมีอาการมากๆ มันจะไม่วัดให้หรือถ้าเป็นขณะวัดมันจะเริ่มนับที่ 30 วินาทีใหม่
สรุปแล้วผมควรทำยังไง ควรต้องตรวจอะไรเพิ่มอีกไหม หรือออกกำลังกายต่อไปให้มากขึ้นตามคำแนะนำของหมอที่ผมหาอยู่ ณ ปัจจุบัน
มีใครเคยมีอาการเหมือนผมบ้างครับ สามารถให้คำแนะนำการออกกำลังกาย หรือแบ่งปันประสบการณ์กับผมได้นะครับ อยากให้เต็มทีแล้ว
ผมเป็นโรคอะไรกันแน่ ?
- รพ.แห่งแรก ตรวจไทรอยด์ ค่าเกลือแร่ต่างๆ ค่าไต ปกติทุกอย่าง ตรวจยืนยันแล้วก็ยังปกติ
- หลังจากนั้นเลยไปหาคลินิคหมอด้านหัวใจ (แห่งแรก) หมอบอกว่าผมเป็นกรดไหลย้อน และลอง EKG เป็นครั้งแรกกราฟออกมาปกติ (ไม่มีอาการในตอนนั้น) ก็ได้ยา propanolol + กรดไหลย้อนมากินหลายเดือน อาการก็ดีขึ้น แต่พอยาหมดแล้วไม่ได้กินต่อเนื่องก็กลับมามีอาการ
- จนกระทั่งไปหาคลินิคอีกแห่งหนึ่ง หมอคลินิคที่สองบอกว่าเป็นเพราะฮอร์โมนเซโรโทนินเลยจัดยาให้หลายอย่างมากก็ดีขึ้น แต่หลังจากยาหมดในช่วงเดือนกว่าที่กิน ก็มีอาการกลับมา
- จนช่วงปิดเทอมได้กลับบ้าน เลยลองไปตรวจที่ รพ.ใกล้บ้านอีกครั้ง (แห่งที่สอง) ก็ตรวจเช่นเดิมคือค่าไทรอยด์ ยืนยันผลรอบที่สองก็ปกติ หัวใจเอ็กซเรย์แล้วไม่โต EKG ปกติ
- หลังจากนั้นก็ยังมีอาการ เลยได้ไปคลินิคหมอด้านหัวใจ (แห่งที่สาม) ที่ทำงานใน รพ.ศูนย์ประจำจังหวัด หมอแห่งที่สามก็รักษาอาการผมมาตั้งแต่ช่วงต้นปีมาจนถึงตอนนี้ เป็นระยะเวลาประมาณ 10 เดือนโดยเฉลี่ย หมอคลินิคแห่งนี้ให้ผมลอง EKG อีกรอบ ผลก็ออกมาปกติทุกอย่าง เคยให้ติดเครื่อง Holter 2 วัน หมอบอกว่าหัวใจปกติ อาจจะเกิดจากความเครียดด้วยเพราะส่วนตัวผมค่อนข้างเป็นคนย้ำคิดย้ำทำ คิดมาก เครียดไปก่อน หมอบอกอาการอาจจะมีจริงแต่น้อย ไม่เป็นอันตรายแค่สร้างความรำคาญ แต่ผมก็ยังไม่สบายใจอยู่ดี / หลังจากนั้นก็ได้รับยา Propanolol 10 mg กินเช้าเย็นอย่างเดียว ซึ่งหมอแนะนำให้ออกกำลังกายควบคู่ด้วย มันดีขึ้นมากทำให้อาการใจสั่นบางครั้งผมหายไป รวมถึงใจเต้นปกติมากขึ้น ไม่ไวแบบเมื่อก่อน อาการเหนื่อยง่ายหายไปเยอะมาก
แต่ยังไงก็ตามช่วงนี้ ผมก็ยังมีอาการตลอดไม่ว่าจะเป็นความรู้สึกเจ็บตรงหัวใจจี้ดๆ ครั้งนึงจนสะดุ้งแล้วหายไป หรือบางครั้งใจกลับมาเต้นไวบ้างแล้วมีอาการเหนื่อยหอบ บางครั้งก็มึนหัวเมื่อยคอ ชาตรงหน้าอก ใบหน้าและแขนขาบ่อยๆ (ไม่แน่ใจว่าเพราะแพนิค + นั่งเรียนออนไลน์ท่าเดิมนานๆ ทำให้เมื่อยบ่าจนร้าวไปหัวด้วยไหม รวมถึงมีอาการกรดไหลย้อนที่กำลังรักษาอยู่เป็นช่วงๆ) ไม่ก็มีอาการปวดตรงอกซ้ายแบบเมื่อยๆ แถวใต้รักแร้ซ้าย หรือราวนมซ้าย แต่ไม่มีอาการแน่นอกรุนแรง หรือรู้สึกเหมือนถูกเหยียบหน้าอกแต่อย่างใด แต่อาการทั้งหมดนี้ก็ทำให้ผมอดกังวลไม่ได้ เกือบทุกคืนที่ผมมีอาการหัวใจหรือแพนิคก่อนนอน มันทำให้ผมคิดมากว่าพรุ่งนี้ผมจะยังตื่นมาได้อีกไหม ผมไม่ได้มีอาการรุนแรงจริงๆ ใช่ไหม บางครั้งหลายอาการมาพร้อมกันทั้งกรดไหลย้อนที่มีลมเยอะทำให้ใจเต้นไวหรือรู้สึกแน่นอกได้ มาพร้อมกับแพนิค ทำให้ผมแทบบ้าเลย
จนช่วงนี้ใกล้สอบ ผมได้ออกกำลังกายสัปดาห์ละ 1-3 ครั้ง พอหลังออกกำลังกายแล้วนั่งพักก็มีอาการเลยลองวัด ekg ใน apple watch ก็ได้กราฟแบบนี้ แต่ไม่ทราบว่ามันจะบอกอะไรได้บ้างเพราะเพียง 1 lead / ผมรู้สึกจนปัญญากับการตรวจแล้ว เพราะ EKG อาการบางครั้งที่มีก็แค่ไม่กี่วิหรืออย่างมากไม่เกิน4นาที ทำให้ไป รพ.ก็ไม่ทันแล้ว กว่าจะไปถึงอาการก็หายไปเสียแล้ว
https://drive.google.com/drive/folders/10D1qWVnxUWQ-ZGqNPOlqcfCoYI7qNIeO
ปล.ขณะวัดไม่มีการขยับ หรือนิ้วเปียกเหงื่อ จับปกติเหมือนบ่อยครั้งที่ขณะมีอาการมากๆ มันจะไม่วัดให้หรือถ้าเป็นขณะวัดมันจะเริ่มนับที่ 30 วินาทีใหม่
สรุปแล้วผมควรทำยังไง ควรต้องตรวจอะไรเพิ่มอีกไหม หรือออกกำลังกายต่อไปให้มากขึ้นตามคำแนะนำของหมอที่ผมหาอยู่ ณ ปัจจุบัน
มีใครเคยมีอาการเหมือนผมบ้างครับ สามารถให้คำแนะนำการออกกำลังกาย หรือแบ่งปันประสบการณ์กับผมได้นะครับ อยากให้เต็มทีแล้ว