ผมและเพื่อนหลายคน โดนเจ้านายโกง ไม่จ่ายเงินเดือน

คือ ผมกับเพื่อน เป็นพนักงานบริษัท บริษัทนึงแล้วทีนี้ ผม(คนเดียว)ก็วางแผนว่าจะลาออก ก็เลยจะเคลียงานทุกอย่างแล้วก็แจ้งไปแล้วล่วงหน้า โดยกะว่าจะลาออกเดือนเมษายน ทุกอย่างมันเรียบร้อยหมดจนกระทั่งพบว่าสิ้นเดือน ไม่มีเงินเดือนเข้ามาในบัญชีตัวเองตามปกติ แล้วเขาก็มาขอให้ผมทำงานต่อให้อีกชิ้น โดยผมบอกว่า "ได้ แต่ผมไม่อยู่เพิ่มอีกเดือนนะ จะทำให้เสร็จครึ่งเดือนพฤษภาคม และให้ของที่ทำเพิ่มมามันแยกเป็นครึ่งเดือนในฐานะงานอิสระ" ซึ่งเขาก็ตกลงตามนั้น แล้วผมก็เลยเซ็นต์ลาออกของ เดือนเมษายนไป โดยที่ยังไม่ได้เงินเดือนเนือนนั้น แล้วไอ่ที่ตกลงเพิ่มมามันก็พูดปากเปล่า ไม่มีเอกสาร

ภายในครึ่งเดือน พฤษภาคมนั้น ผมก็จัดการทุกอย่างที่เขาขอเรียบร้อยและพร้อมส่งมอบ แต่เขาไม่มารับงานจากผม แล้วก็ติดต่อไม่ได้ แล้วทางบริษัทก็เงียบหายไปเป็นระยะเวลา 4 เดือน จนผมมาสืบทราบว่า นอกจากกรณีของผมแล้ว ยังมีอีกหลายคนทั้งที่ลาออกแล้ว และคนที่ยังทำงานอยู่ในบริษัทนั้น หลายคน โดนให้ทำงานฟรี โดยไม่ได้เงิน หรือบางคนก็ไม่ได้รับงานด้วย แต่ก็ไม่ได้รับเงินด้วย แต่บริษัทก็ไม่ได้มาจ้างออก ไล่ออก หรือเคลียร์ปัญหาแต่อย่างใด โดยผมคาดการณ์ว่า มันเป็นเพราะสถาณการณ์โควิด แล้วมันเขาไม่มีเงินสำรองจ่าย แต่เขาก็ไม่ควรจะเงียบหายไปแบบนี้

ผม(ที่ลาออกแล้วแต่ยังไม่ได้เงิน) กับเพื่อนกลุ่มหนึ่ง(ยังเป็นพนักงาน ทำงาน แต่ไม่ได้เงิน) ตัดสินใจไปฟ้องกรมแรงงานด้วยกัน เวลาเดียวกัน พร้อมกัน
อาจจะกรอกเอกสารกันคนละใบ แต่คือตอนที่ทางกรมแรงงานสรุปให้ มันเป็น สำนวนคดีเดียวกันแต่ด้วยชื่อคนหลายคน
 
แล้วเรื่องก็ผ่านไปอีกสองเดือน แต่ทีนี้ล่าสุดเมื่อเดือนก่อน ทางบริษัทเก่าของผม จู่ๆ ก็ต้องการเคลียปัญหาเรื่องเงินของผม แล้วให้ผมส่งมอบงานชิ้นนั้น ที่เขาไม่ได้รับ แล้วก็อยากขอให้แก้ไขให้ต่อให้อีกหน่อยนึง ซึ่งผมก็ต้องยอมใจ เพราะอยากได้เงิน แต่ก็พยายามจะขอเงื่อนไขเขาว่า ต้องจ่ายเงินที่เขาค้างผมทั้งหมดมาให้นะ ซึ่งผมก็จบทุกอย่างไปได้ด้วยดี แต่.... ผมมาทราบเอาว่า มันมีแค่กรณีของผมคนเดียวเท่านั้น เพื่อนคนอื่นเขาก็ยังไม่ได้ แล้วก็พยายามดำเนินคดีกันต่ออยู่ 
 
แล้วผมก็ยังไม่ได้ไปอัพเดท เรื่องราวกับทางกรมแรงงานเลยว่า เรื่องเงินของผม(คนเดียว)มันจบแล้ว
เพราะด้วยความไม่สะดวกอะไรหลายๆ อย่างจากโควิด จากการทำงาน ทั้งการเดินทาง แล้วปัญหาครอบครัว ผมมีความเข้าใจอยู่ก่อนว่า 
"มันเป็นสำนวนความเดียวกัน เป็นคดีเดียวกันที่ฟ้องด้วยกันหลายคน ถ้ามันจะปิดคดีได้ มันก็ต่อเมื่อทุกคนได้รับการจัดการปัญหาแล้ว"
ผมเลยถือคิดเอาเองว่า ผมจะไปยกเลิกไม่ได้

ทั้งนี้ในตอนนี้ผมเห็นว่าพวกเขากำลังต่อสู้ ในคดีความกันอยู่ แล้วผมก็อยากเห็นเรื่องนี้มันถูกแก้ไขอย่างถูกต้อง
ก็เลยอยากมีชื่อ ทิ้งเอาไว้ในสำนวนนั้นว่า เป็นผู้เกี่ยวข้องกับปัญหาแบบนี้ แล้วก็อาจจะเป็นพยานให้กับเพื่อนได้ และถ้าเขาเรียกตัวผมไปแล้วต้องการคำให้การ โดยผมเตรียมตัวไว้ก่อนจะตั้งโพสต์นี้ ว่าจะตอบตามจริงอยู่แล้วว่า "ของผมมันจบแล้ว เพียงแต่ผมไม่คิดว่าผมจะไปขอยกเลิกได้ เพราะมันเป็นสำนวนพร้อมกับคนหลายคน"

จนกระทั่งก่อนผมตั้งโพสต์นี้ได้ไม่นาน ทางบริษัทเก่าผม เขาโทรมาคะยั้นคะยอ โดยบอกผมว่า "เรื่องของเรามันจบแล้วใช่ไหม ถ้าจบแล้วไปถอนเรื่องหรือยัง ทำไมไม่ทำให้จบ" จริงๆ แล้วคำพูดที่เขาพูดกับผมมันค่อนข้างจะมีน้ำเสียงและอารมณ์ร่วม แล้วเขาก็ขู่ว่า ถ้าอยากให้ของผมจบก็ไปถอนซะ ไม่งั้นอาจจะมีเรื่องฟ้องกลับ หรือเกิดเรื่องแย่ๆ กับผมได้
 
ผมจึงอยากมาขอถามทุกท่านที่มีความรู้ว่า
1. "ผมสามารถปล่อยไปแบบนั้น ไม่ถอน แล้วอยู่แบบนั้นแม้ ของผมโดนเคลียไปแล้ว ได้ไหม เพราะยังมีเพื่อนผมยังไม่ได้"
2. "ถ้าผมทำตามข้อ 1. ด้านบนนั้นได้ มันจะมีความเสี่ยงอะไรมาถึงผมบ้างไหม"
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 1
การยื่นคำร้องกับพนักงานตรวจแรงงาน มีระยะเวลารวมรวมข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานเพื่อออกคำสั่งวินิฉัยสิทธิของลูกจ้างภายใน 60 วัน (หรือหากจำเป็นอาจขยายระยะเวลาได้อีก 30 วัน)
และแม้ลูกจ้างจะรวมกลุ่มกันร้องเป็นสำนวนเดียวกัน หากคนใดได้รับเงินแล้วหรือประสงค์จะยุติคำร้อง ก็สามารถถอนคำร้องเป็นรายบุคคลได้
หรือหากพนักงานตรวจแรงงานมีคำสั่งวินิจฉัยสิทธิ ก็สามารถสั่งเป็นรายบุคคลว่าลูกจ้างคนใดได้เงินอะไร จำนวนเท่าไร หรือลูกจ้างคนใดไม่มีสิทธิได้รับเงิน ไม่จำเพาะต้องเหมือนกันทุกคนเสียเมื่อไร

แต่การถอนร้องนั้น ต้องดูด้วยว่าคดีอยู่ในระยะใด
เพราะจากคุณบอกว่า “แล้วเรื่องก็ผ่านไปอีกสองเดือน” ก็เลยยังไม่แน่ชัดว่าขณะนี้คดีอยู่ในระยะใดแล้ว
แบ่งอย่างนี้แล้วกัน

กรณีที่ 1 ถ้าอยู่ในระยะ 60 วัน นับแต่วันที่ลูกจ้างยื่นคำร้อง และพนักงานตรวจแรงงานยังไม่ได้ออกคำสั่งวินิจฉัยสิทธิของลูกจ้าง
           - หากคุณประสงค์จะถอนคำร้องเป็นรายบุคคลในระยะเวลานี้ก็ได้ ส่วนใครที่ไม่ได้ถอน ก็ปล่อยให้พนักงานตรวจแรงานดำเนินการต่อไป ซึ่งการถอนคำร้องก็ไม่ได้ยากเย็นอะไร ส่งอีเมลไปแจ้งพนักงานตรวจแรงงานยังได้เลย
           - หากคุณได้รับเงินตามคำร้องแล้วไม่ถอนคำร้อง แต่นายจ้างนำพยานหลักฐานไปแสดงว่าได้จ่ายเงินให้คุณแล้ว พนักงานตรวจแรงงานก็สามารถออกคำสั่งว่าเฉพาะคุณคนเดียวที่ไม่มีสิทธิได้รับเงินตามคำร้องอีก เพราะได้รับเงินจากนายจ้างแล้ว

กรณีที่ 2 ถ้าไม่มีการถอนคำร้องภายใน 60 วัน และพนักงานตรวจแรงงานออกคำสั่งให้นายจ้างจ่ายเงินแล้ว แต่ยังอยู่ในระยะเวลา 30 วันนับแต่วันที่นายจ้างได้รับคำสั่ง
           - คุณจะถอนคำร้องไม่ได้แล้ว เพราะการถอนคำร้องต้องดำเนินการก่อนพนักงานตรวจแรงงานมีคำสั่ง  แต่ถ้าคุณก็สามารถแจ้งพนักงานตรวจแรงงานว่าได้รับเงินเรียบร้อยแล้ว
           - หรือถ้านายจ้างจ่ายเงินให้คุณในระยะ 30 วัน นับแต่วันที่นายจ้างได้รับคำสั่ง นายจ้างก็สามารถแสดงพยานหลักฐานให้ต่อพนักงานตรวจแรงงานได้ว่าได้ปฏิบัติตามคำสั่งในส่วนของคุณแล้ว
           - หรือถ้านายจ้างจ่ายเงินให้คุณตั้งแต่ก่อนพนักงานตรวจแรงงานจะออกคำสั่ง แล้วทั้งคุณทั้งนายจ้างไม่มีใครแจ้งให้พนักงานตรวจแรงงานทราบเลย จึงได้มีคำสั่งให้นายจ้างจ่ายเงินให้คุณซ้ำอีก หากนายจ้างไม่พอใจคำสั่ง ก็สามารถนำคำสั่งพนักงานตรวจแรงงานนั้นไปร้องเพิกถอนได้ ซึ่งจะร้องเพิกถอนคำสั่งทั้งฉบับหรือเพิกถอนเฉพาะส่วนก็ได้
ถึงเวลานั้นแหละ ศาลจะมีคำสั่งเรียกลูกจ้างที่เกี่ยวข้องเข้าไปเป็นจำเลยร่วมในคดี หรือนายจ้างอาจร้องลูกจ้างเป็นจำเลยตั้งแต่แรกเลยก็ได้

กรณีที่ 3 ถ้าพ้นกำหนดระยะเวลา 30 วัน ที่นายจ้างต้องปฏิบัติตามคำสั่ง และไม่มีการร้องเพิกถอนคำสั่ง คำสั่งพนักงานตรวจแรงงานจึงเป็นที่สุด นายจ้างจะถูกดำเนินคดีอาญา
           - คุณก็สามารถยืนยันกับพนักงานตรวจแรงงานได้ว่านายจ้างจ่ายเงินให้คุณแล้ว
           - หรือหากนิติกรเรียกนายจ้างไปรับทราบข้อกล่าวหา นายจ้างจะแสดงพยานหลักฐานว่าได้จ่ายเงินให้คุณแล้วในชั้นนิติกรก็ได้เช่นกัน

เพราะฉะนั้น ถ้าไม่ลำบากอะไรก็ควรติดต่อพนักงานตรวจแรงงานน่าจะดีกว่า
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่