สวัสดีครับ ผมเพิ่งสมัครพันทิปเมื่อกี้นี้เพื่อมาตั้งกระทู้ถ้าแท็กผิดหรือทำตรงไหนไม่ถูกก็ขอโทษด้วยครับ
ออกตัวก่อนว่าที่จริงแล้วผมไม่รู้หรอกว่าโรคกลัวความรักกับกลัวผช.มันมีจริงมั้ย พอดีเอาเรื่องนี้ไปปรึกษาเพื่อนแล้วมันบอกว่าเธอน่าจะเป็น(เหมือนเจ้าตัวเองจะไม่รู้ว่าตัวเองเป็นด้วย)
เลยมาขอเพื่อนๆพี่ๆเผื่อมีใครเป็นอยู่/เคยเจอคล้ายแบบนี้จะให้ข้อมูล/คำแนะนำหรืออ่านเฉยๆก็ยินดีครับ(ยาวหน่อย)คิดซะว่าฟังผมระบายความอัดอั้นตันใจของคนๆนึงก็ได้ครับ
ขอใช้นามสมมุติแทนตัวคนที่ผมชอบว่าพี่เพ่ยแล้วกันนะครับ
พี่เพ่ยไม่ใช่สาวหวานเรียบร้อย เธอออกจะขี้เล่น ติสต์หน่อยๆด้วย มักฟังเพลงจากเทปคลาสเซ็ท ชอบดูสารคดี วาดรูป สนใจประวัติศาสตร์ อ่านวรรณกรรม สะสมของเก่าหายาก ทำของแฮนด์เมดใช้เองและที่สำคัญเธอเป็นคนใจดีครับ
เราเจอกันครั้งแรกตอนผมทำงาน7-11ส่วนเธอเป็นลูกค้าที่มาซื้อของประจำแต่ไม่ได้ซื้อของตัวเองนะ เธอมักจะซื้อขนมสัตว์ไปให้ไอตูบที่มานอนตากแอร์หน้าทางเข้า บางวันถ้าเธอเจอคุณลุงคนเก็บของเก่าขายมานั่งพักก็จะซื้อM100ให้ดื่มพร้อมนั่งคุยด้วยอย่างไม่มีท่าทีรังเกียจเหมือนคนบางจำพวกหรือจะเป็นตอนที่พี่เพ่ยกวักมือเรียกเด็กประถมที่ยืนต่อแถวคิดเงินแต่จู่ๆถูกผู้ใหญ่แซงคิวซะงั้น เธอก็สละที่ตัวเองให้เด็กแล้ววกกลับไปต่อแถวหลังสุดใหม่ ภาพความประทับใจพวกนี้แหละครับทำให้ผมเริ่มแอบชอบเธอขึ้นมา
แต่ทว่ารอยยิ้มที่ผมเห็นประจำของพี่เขามันเป็นแค่หน้ากาก ใครจะไปคิดว่าผู้หญิงยิ้มง่าย พูดเก่ง ดูเป็นคนที่สดใสร่าเริงเหมือนจะใช้ชีวิตสนุกสนานได้ตลอดเวลาแท้จริงโดดเดี่ยวมาก ทั้งที่ก็ใจดีกับคนอื่นๆแต่ทำไมถึงโดนทำร้ายแบบนั้นได้ ดูแล้วในใจเธอมีแต่ความเจ็บปวดจากความทรงจำในอดีตที่ไม่ดีเท่าไร
– เธอเคยโดนลูกพี่ลูกน้องที่เคารพเหมือนพี่ชายแท้ๆลวนลามขณะหลับ พี่คนนี้เดินทางจากกทม.มาตจว.ที่เธอทำงานอยู่แล้วไม่มีที่พัก ด้วยความไว้ใจเพราะสนิทมาตั้งแต่เด็กน้อยเลยยอมให้มาพักที่ห้องด้วยและเกิดเรื่องขึ้น หากคืนนั้นไม่มีคนข้างห้องมาช่วยก็ไม่รู้จะเกิดอะไรขึ้นอีกมั่ง ผมถามเธอว่าได้แจ้งความหรือบอกครอบครัวมั้ย เธอตอบว่าไม่กล้าครับ เนื่องจากแม่ของเขาเป็นน้องสาวของคุณย่าและเวลาพี่เพ่ยเดือดร้อนอะไรก็ได้ป้าเขาช่วยเหลือบ่อยๆ บ้านก็อยู่ติดกันเดินแค่สามก้าวก็ถึง คิดว่าขืนบอกไปคงมองหน้ากันไม่ติดโดยเฉพาะคุณย่ากับป้า แต่ไอเวรนั่นไม่ได้สำนึกในความผิดตัวเองเลยครับ มันยังลอยหน้าลอยตาถามหาเธอกับคนที่บ้านเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเป็นพี่เพ่ยเองที่เป็นฝ่ายกลัวและคอยหลบหน้ามันทั้งที่ไม่ได้ทำผิดอะไร
– เหตุการณ์สะเทือนใจต่อมาคือพี่เพ่ยเคยมีแฟนเก่าซึ่งเป็นแฟนคนแรก(และอาจเป็นคนสุดท้าย)ที่คบกันมาตั้งแต่สมัยเรียนจนทำงานก็วาดฝันไว้ว่าอนาคตจะแต่งงานสร้างครอบครัวด้วยกัน เธอกับแฟนเก่าอยู่จังหวัดเดียวกันแต่คนละอำเภอครับ วันนึงพี่เพ่ยจับได้ว่าแฟนแอบพาผญ.คนอื่นมานอนที่ห้อง ทั้งคู่ทะเลาะกันหนักด้วยความโกรธจึงบล็อกทุกช่องทางให้เขาติดต่อหาไม่ได้
ผ่านไปสักพักใหญ่ยังไม่พ้นวันเลย แม่ของแฟนโทรมาบอกว่าแฟนประสบอุบัติเหตุระหว่างขับรถมาง้อเธอ อาการผช.ค่อนข้างหนัก ครอบครัวเขากับพวกเพื่อนที่ไม่ได้รู้เรื่องจริงๆว่าทะเลาะอะไรกันพากันโทษว่าเธอขี้งอนเกินไปถ้ายอมอภัยให้ลูกเขาแต่แรกคงไม่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ตัวแฟนเองก็มองว่าพี่เพ่ยนั่นแหละทำให้เขาเกือบต้องตาย...พี่เพ่ยโทษตัวเองหนักมากจนเป็นซึมเศร้าถึงขั้นพยายามฆ่าตัวตายเพื่อชดใช้ความผิด (ส่วนตัวผมมองว่าเธอไม่ได้ทำผิดอะไร ไม่มีใครรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นล่วงหน้า ผช.ขับรถเร็วและประมาทเองแต่กลับโยนความผิดให้เธออย่างงี้ก็ได้เหรอ?)
– หลังจากเหตุกาณ์นั้นทั้งคู่ยังคบกันอยู่นะแม้ทางผู้ใหญ่จะไม่อยากให้ไปต่อ
เรื่องหมาๆที่แฟนเธอทำใส่(ไม่ได้มีแค่เรื่องผญ. มีนินทาลับหลัง ชอบพูดโกหก เอาเรื่องส่วนตัวหรือเรื่องบนเตียงไปเล่าให้เพื่อนฟังและเคยตบตีด้วย) เธอบอกว่าทำใจให้อภัยไม่ได้ก็จริงแต่ยอมให้โอกาสเพราะรักเขามากและรู้สึกผิดที่เป็นต้นเหตุทำให้เขาเกิดอุบัติเหตุด้วย แต่ตัวผช.ก็ไม่ได้รักษาโอกาสไว้กลับหนีหายไปกับกิ๊กทั้งที่ยังไม่บอกเลิกเธอเลย เธอว่าจริงๆไม่ได้เป็นคนหัวโบราณที่รับเรื่องเซ็กส์ก่อนแต่งไม่ได้แต่เพราะกลัวจะโดนทิ้งมากๆเลยหลุดพูดรั้งเผื่อเขาจะเปลี่ยนใจไปประมาณว่า
–ไหนว่ารักกันไง จะรับผิดชอบที่ได้กันแล้วและแต่งงานด้วยไม่ใช่เหรอ–
แต่กลับโดนเขาด่าว่า – ไม่เคยรักเธอเลยและจะจ่ายค่าเ_ดห* ให้แต่ขอให้เลิกติดต่อเขาอีก—
(ขออภัยที่คำค่อนข้างหยาบ แต่ตัวแฟนเก่าเขาพูดแบบนี้จริงๆ)
เธอว่าคำนั้นทำใจสลายแบบพังไม่เหลือซาก อยากตบมันมากแต่แขนขาไม่มีแรงเหมือนชาไปทั้งตัว พูดอะไรไม่ออกเลยแม้แต่น้ำตายังไม่ออกมาสักหยด ไม่คิดว่าคำๆนี้จะออกจากปากผช.ที่เคยบอกรักกันทุกวันเหมือนกับว่าตลอดเวลาที่คบกันมาเขามองเธอเป็นสิ่งของและผู้หญิงที่ใช้ร่างกายหากิน
• จากทั้งหมดที่เล่าตอนนี้พี่เพ่ยไม่กล้าเริ่มต้นใหม่กับใครและไม่ค่อยสนิทใจจะอยู่ใกล้เพศตรงข้าม อาการของเธอที่พอรู้จะประมาณนี้ครับ
- ไม่กล้ามองหน้าหรือสบตาเพราะจะรู้สึกประหม่า ยอมรับว่าก่อนผมจะรู้ว่าเธอเหนื่อยไรมาบ้างเคยคิดว่าเธอดูหยิ่ง โลกส่วนตัวสู๊งไม่ก็เป็นเฟมินิสต์
เวลาเธอมาสั่งกาแฟที่ร้านจะไม่มองหน้าคนรับออเดอร์ที่เป็นพนง.ชายเลยจะก้มหน้าไม่ก็มองข้ามหัวไปอะ คิดเงินก็จ่ายแต่กับแคชเชียร์ผญ.ตลอด
(คือเพื่อนในร้านรู้หมดว่าผมแอบชอบก็เลยช่วยให้มาคิดเงินเครื่องผมแต่เธอไม่ยอมมาจ่ายสักทียืนรอเครื่องผญ.อย่างเดียว)
- พูดคุยไปไหนกับผช.ได้ปกตินะแต่ต้องไม่ใช่สองต่อสองต้องมีผญ.อยู่ด้วย เธอจะรักษาระยะห่างและไม่ชอบให้โดนเนื้อตัวแม้แต่เพื่อนผช.ที่เคยสนิทกันมาก่อนเกิดเรื่องมาตอนนี้ก็เข้าใกล้มากไม่ได้เช่นกัน เธอจะรู้สึกอึดอัด ไม่สบายใจ
- จะบังเอิญหรือตั้งใจก็ตามถ้าเป็นผช.มาแตะเนื้อต้องตัวจะมีอาการตกใจ หายใจถี่ แบบสีหน้าไม่ดีไปเลย ผมเคยเดินๆอยู่แล้วแกว่งแขนไปชนมือเธอแค่เฉียดๆเอ๊ง เธอหยุดกึกรีบสะบัดมือหนีเอามือเดินกอดอกเลยครับ(ตอนนั้นกลัวโดนเหม็นขี้หน้ามาก ผมไม่ได้ตั้งใจแต๊ะอั๋งนะ😭)
- ฟังพวกข่าวประเภทข่มขืน ผัวซ้อมเมีย ทิ้งลูกเมียไรงี้ไม่ไหว จะเหม่อ เวียนหัว หวาดกลัว ครั้งนึงไปกินเตี๋ยวกัน(มีน้องสาวพี่เขาอยู่ด้วย) ร้านก็เปิดทีวีให้ลค.ดูปกติแหละแต่เป็นช่วงข่าวข่มขืนพอดี พี่เพ่ยก็มีอาการอย่างข้างบนครับขอบตาแดงๆเหมือนพยายามกลั้นน้ำตาไว้ไม่ให้ร้องไห้
- เกลียดคนที่เข้ามาจีบแบบรุกหนัก จู่ๆจะมาขอเบอร์ขอไลน์งี้จะหงุดหงิด รำคาญและชักสีหน้าใส่ทันที
- น้องสาวพี่เพ่ยบอกว่าเธอมองเรื่องจูบ เซ็กส์เป็นเรื่องไร้สาระไปแล้ว แบบดูหนังอยู่แล้วมีฉากเลิฟซีนโผล่มาก็จะหยีๆเบือนหน้าหนี
- เพื่อนสนิทส่วนใหญ่ก็มีแฟน บ้างก็แต่งงานมีลูกแล้วถึงจะยังชวนไปเที่ยวด้วยแต่เธอมักจะปฏิเสธว่าเกรงใจไม่อยากไปเป็นกขค.เพื่อน ถึงปากจะเอาแต่พูดว่าอยู่อย่างนี้ก็ดีอยู่แล้วแต่ใครดูก็รู้ครับว่าเธอเหงา
เพื่อนๆเลยพยายามเกลี้ยกล่อมบ่อยๆให้เธอลองเปิดใจคบคนใหม่ดูบ้างแต่พี่เพ่ยเลือกผลักใสทุกคนออกหมดเลยครับ
ผมเคยเนียนๆบอกเธอว่าผช.บนโลกไม่ได้เหมือนกันหมดทุกคน ถ้าไม่ลองเปิดใจเลยอาจพลาดโอกาสเจอคนดีๆก็ได้นะ
แต่เธอว่าเธอปลงแล้ว ไม่คิดจะแต่งงานด้วย
สำหรับเธอคสพ.มันยุ่งยากเกินไป เคยลองทำตามที่เพื่อนแนะนำแล้วแต่คุยกับใครได้ไม่เกินสองดือนสักคนเพราะกลัวไปก่อนล่วงหน้าว่าจะต้องเจ็บแบบเดิมแน่ๆเลยชิงหนีก่อนตลอดและด้วยคำพูดเลวๆของแฟนเก่านั่นทำให้เธอยิ่งมองไม่เห็นคุณค่าในตัวเอง คิดว่าตัวเองมีตำหนิไม่คู่ควรจะมีความรักดีๆ
และถึงเรื่องมันจะผ่านมานานแล้วแต่เธอสลัดความทรงจำร้ายๆออกจากหัวไม่ได้สักทีเหมือนสมองมันเอาแต่ฉายภาพซ้ำๆเองตลอดเวลาจนเหนื่อยเป็นแบบนี้คงคบกับใครไม่ได้ก็เลยเลือกอยู่คนเดียวดีกว่า
พอได้ฟังแบบนั้น จนถึงทุกวันนี้ผมเลยไม่กล้าสารภาพครส.ครับ เพราะกลัวว่าถ้าพูดออกไปพี่เพ่ยจะถอยหนีเหมือนที่ทำกับคนอื่นหรือเขาอาจรู้อยู่แล้วก็ได้ว่าผมชอบแต่คิดกับผมแค่น้องที่สนิท
แต่ถ้าสมมุติผมสารภาพไปแล้วจากที่เปิดใจถึงขั้นเล่าความลับให้ฟังเกิดปิดขึ้นมาความสนิทเราคงลดลงหรือแย่กว่านั้นผมอาจหมดโอกาสอยู่ใกล้ๆพี่เขาไปเลยก็ได้ จึงคิดว่าเก็บไว้ในใจต่อไปดีกว่า
แอบชอบผญ.ที่กลัวความรักและกลัวผู้ชาย
ออกตัวก่อนว่าที่จริงแล้วผมไม่รู้หรอกว่าโรคกลัวความรักกับกลัวผช.มันมีจริงมั้ย พอดีเอาเรื่องนี้ไปปรึกษาเพื่อนแล้วมันบอกว่าเธอน่าจะเป็น(เหมือนเจ้าตัวเองจะไม่รู้ว่าตัวเองเป็นด้วย)
เลยมาขอเพื่อนๆพี่ๆเผื่อมีใครเป็นอยู่/เคยเจอคล้ายแบบนี้จะให้ข้อมูล/คำแนะนำหรืออ่านเฉยๆก็ยินดีครับ(ยาวหน่อย)คิดซะว่าฟังผมระบายความอัดอั้นตันใจของคนๆนึงก็ได้ครับ
ขอใช้นามสมมุติแทนตัวคนที่ผมชอบว่าพี่เพ่ยแล้วกันนะครับ
พี่เพ่ยไม่ใช่สาวหวานเรียบร้อย เธอออกจะขี้เล่น ติสต์หน่อยๆด้วย มักฟังเพลงจากเทปคลาสเซ็ท ชอบดูสารคดี วาดรูป สนใจประวัติศาสตร์ อ่านวรรณกรรม สะสมของเก่าหายาก ทำของแฮนด์เมดใช้เองและที่สำคัญเธอเป็นคนใจดีครับ
เราเจอกันครั้งแรกตอนผมทำงาน7-11ส่วนเธอเป็นลูกค้าที่มาซื้อของประจำแต่ไม่ได้ซื้อของตัวเองนะ เธอมักจะซื้อขนมสัตว์ไปให้ไอตูบที่มานอนตากแอร์หน้าทางเข้า บางวันถ้าเธอเจอคุณลุงคนเก็บของเก่าขายมานั่งพักก็จะซื้อM100ให้ดื่มพร้อมนั่งคุยด้วยอย่างไม่มีท่าทีรังเกียจเหมือนคนบางจำพวกหรือจะเป็นตอนที่พี่เพ่ยกวักมือเรียกเด็กประถมที่ยืนต่อแถวคิดเงินแต่จู่ๆถูกผู้ใหญ่แซงคิวซะงั้น เธอก็สละที่ตัวเองให้เด็กแล้ววกกลับไปต่อแถวหลังสุดใหม่ ภาพความประทับใจพวกนี้แหละครับทำให้ผมเริ่มแอบชอบเธอขึ้นมา
แต่ทว่ารอยยิ้มที่ผมเห็นประจำของพี่เขามันเป็นแค่หน้ากาก ใครจะไปคิดว่าผู้หญิงยิ้มง่าย พูดเก่ง ดูเป็นคนที่สดใสร่าเริงเหมือนจะใช้ชีวิตสนุกสนานได้ตลอดเวลาแท้จริงโดดเดี่ยวมาก ทั้งที่ก็ใจดีกับคนอื่นๆแต่ทำไมถึงโดนทำร้ายแบบนั้นได้ ดูแล้วในใจเธอมีแต่ความเจ็บปวดจากความทรงจำในอดีตที่ไม่ดีเท่าไร
– เธอเคยโดนลูกพี่ลูกน้องที่เคารพเหมือนพี่ชายแท้ๆลวนลามขณะหลับ พี่คนนี้เดินทางจากกทม.มาตจว.ที่เธอทำงานอยู่แล้วไม่มีที่พัก ด้วยความไว้ใจเพราะสนิทมาตั้งแต่เด็กน้อยเลยยอมให้มาพักที่ห้องด้วยและเกิดเรื่องขึ้น หากคืนนั้นไม่มีคนข้างห้องมาช่วยก็ไม่รู้จะเกิดอะไรขึ้นอีกมั่ง ผมถามเธอว่าได้แจ้งความหรือบอกครอบครัวมั้ย เธอตอบว่าไม่กล้าครับ เนื่องจากแม่ของเขาเป็นน้องสาวของคุณย่าและเวลาพี่เพ่ยเดือดร้อนอะไรก็ได้ป้าเขาช่วยเหลือบ่อยๆ บ้านก็อยู่ติดกันเดินแค่สามก้าวก็ถึง คิดว่าขืนบอกไปคงมองหน้ากันไม่ติดโดยเฉพาะคุณย่ากับป้า แต่ไอเวรนั่นไม่ได้สำนึกในความผิดตัวเองเลยครับ มันยังลอยหน้าลอยตาถามหาเธอกับคนที่บ้านเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเป็นพี่เพ่ยเองที่เป็นฝ่ายกลัวและคอยหลบหน้ามันทั้งที่ไม่ได้ทำผิดอะไร
– เหตุการณ์สะเทือนใจต่อมาคือพี่เพ่ยเคยมีแฟนเก่าซึ่งเป็นแฟนคนแรก(และอาจเป็นคนสุดท้าย)ที่คบกันมาตั้งแต่สมัยเรียนจนทำงานก็วาดฝันไว้ว่าอนาคตจะแต่งงานสร้างครอบครัวด้วยกัน เธอกับแฟนเก่าอยู่จังหวัดเดียวกันแต่คนละอำเภอครับ วันนึงพี่เพ่ยจับได้ว่าแฟนแอบพาผญ.คนอื่นมานอนที่ห้อง ทั้งคู่ทะเลาะกันหนักด้วยความโกรธจึงบล็อกทุกช่องทางให้เขาติดต่อหาไม่ได้
ผ่านไปสักพักใหญ่ยังไม่พ้นวันเลย แม่ของแฟนโทรมาบอกว่าแฟนประสบอุบัติเหตุระหว่างขับรถมาง้อเธอ อาการผช.ค่อนข้างหนัก ครอบครัวเขากับพวกเพื่อนที่ไม่ได้รู้เรื่องจริงๆว่าทะเลาะอะไรกันพากันโทษว่าเธอขี้งอนเกินไปถ้ายอมอภัยให้ลูกเขาแต่แรกคงไม่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ตัวแฟนเองก็มองว่าพี่เพ่ยนั่นแหละทำให้เขาเกือบต้องตาย...พี่เพ่ยโทษตัวเองหนักมากจนเป็นซึมเศร้าถึงขั้นพยายามฆ่าตัวตายเพื่อชดใช้ความผิด (ส่วนตัวผมมองว่าเธอไม่ได้ทำผิดอะไร ไม่มีใครรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นล่วงหน้า ผช.ขับรถเร็วและประมาทเองแต่กลับโยนความผิดให้เธออย่างงี้ก็ได้เหรอ?)
– หลังจากเหตุกาณ์นั้นทั้งคู่ยังคบกันอยู่นะแม้ทางผู้ใหญ่จะไม่อยากให้ไปต่อ
เรื่องหมาๆที่แฟนเธอทำใส่(ไม่ได้มีแค่เรื่องผญ. มีนินทาลับหลัง ชอบพูดโกหก เอาเรื่องส่วนตัวหรือเรื่องบนเตียงไปเล่าให้เพื่อนฟังและเคยตบตีด้วย) เธอบอกว่าทำใจให้อภัยไม่ได้ก็จริงแต่ยอมให้โอกาสเพราะรักเขามากและรู้สึกผิดที่เป็นต้นเหตุทำให้เขาเกิดอุบัติเหตุด้วย แต่ตัวผช.ก็ไม่ได้รักษาโอกาสไว้กลับหนีหายไปกับกิ๊กทั้งที่ยังไม่บอกเลิกเธอเลย เธอว่าจริงๆไม่ได้เป็นคนหัวโบราณที่รับเรื่องเซ็กส์ก่อนแต่งไม่ได้แต่เพราะกลัวจะโดนทิ้งมากๆเลยหลุดพูดรั้งเผื่อเขาจะเปลี่ยนใจไปประมาณว่า
–ไหนว่ารักกันไง จะรับผิดชอบที่ได้กันแล้วและแต่งงานด้วยไม่ใช่เหรอ–
แต่กลับโดนเขาด่าว่า – ไม่เคยรักเธอเลยและจะจ่ายค่าเ_ดห* ให้แต่ขอให้เลิกติดต่อเขาอีก—
(ขออภัยที่คำค่อนข้างหยาบ แต่ตัวแฟนเก่าเขาพูดแบบนี้จริงๆ)
เธอว่าคำนั้นทำใจสลายแบบพังไม่เหลือซาก อยากตบมันมากแต่แขนขาไม่มีแรงเหมือนชาไปทั้งตัว พูดอะไรไม่ออกเลยแม้แต่น้ำตายังไม่ออกมาสักหยด ไม่คิดว่าคำๆนี้จะออกจากปากผช.ที่เคยบอกรักกันทุกวันเหมือนกับว่าตลอดเวลาที่คบกันมาเขามองเธอเป็นสิ่งของและผู้หญิงที่ใช้ร่างกายหากิน
• จากทั้งหมดที่เล่าตอนนี้พี่เพ่ยไม่กล้าเริ่มต้นใหม่กับใครและไม่ค่อยสนิทใจจะอยู่ใกล้เพศตรงข้าม อาการของเธอที่พอรู้จะประมาณนี้ครับ
- ไม่กล้ามองหน้าหรือสบตาเพราะจะรู้สึกประหม่า ยอมรับว่าก่อนผมจะรู้ว่าเธอเหนื่อยไรมาบ้างเคยคิดว่าเธอดูหยิ่ง โลกส่วนตัวสู๊งไม่ก็เป็นเฟมินิสต์
เวลาเธอมาสั่งกาแฟที่ร้านจะไม่มองหน้าคนรับออเดอร์ที่เป็นพนง.ชายเลยจะก้มหน้าไม่ก็มองข้ามหัวไปอะ คิดเงินก็จ่ายแต่กับแคชเชียร์ผญ.ตลอด
(คือเพื่อนในร้านรู้หมดว่าผมแอบชอบก็เลยช่วยให้มาคิดเงินเครื่องผมแต่เธอไม่ยอมมาจ่ายสักทียืนรอเครื่องผญ.อย่างเดียว)
- พูดคุยไปไหนกับผช.ได้ปกตินะแต่ต้องไม่ใช่สองต่อสองต้องมีผญ.อยู่ด้วย เธอจะรักษาระยะห่างและไม่ชอบให้โดนเนื้อตัวแม้แต่เพื่อนผช.ที่เคยสนิทกันมาก่อนเกิดเรื่องมาตอนนี้ก็เข้าใกล้มากไม่ได้เช่นกัน เธอจะรู้สึกอึดอัด ไม่สบายใจ
- จะบังเอิญหรือตั้งใจก็ตามถ้าเป็นผช.มาแตะเนื้อต้องตัวจะมีอาการตกใจ หายใจถี่ แบบสีหน้าไม่ดีไปเลย ผมเคยเดินๆอยู่แล้วแกว่งแขนไปชนมือเธอแค่เฉียดๆเอ๊ง เธอหยุดกึกรีบสะบัดมือหนีเอามือเดินกอดอกเลยครับ(ตอนนั้นกลัวโดนเหม็นขี้หน้ามาก ผมไม่ได้ตั้งใจแต๊ะอั๋งนะ😭)
- ฟังพวกข่าวประเภทข่มขืน ผัวซ้อมเมีย ทิ้งลูกเมียไรงี้ไม่ไหว จะเหม่อ เวียนหัว หวาดกลัว ครั้งนึงไปกินเตี๋ยวกัน(มีน้องสาวพี่เขาอยู่ด้วย) ร้านก็เปิดทีวีให้ลค.ดูปกติแหละแต่เป็นช่วงข่าวข่มขืนพอดี พี่เพ่ยก็มีอาการอย่างข้างบนครับขอบตาแดงๆเหมือนพยายามกลั้นน้ำตาไว้ไม่ให้ร้องไห้
- เกลียดคนที่เข้ามาจีบแบบรุกหนัก จู่ๆจะมาขอเบอร์ขอไลน์งี้จะหงุดหงิด รำคาญและชักสีหน้าใส่ทันที
- น้องสาวพี่เพ่ยบอกว่าเธอมองเรื่องจูบ เซ็กส์เป็นเรื่องไร้สาระไปแล้ว แบบดูหนังอยู่แล้วมีฉากเลิฟซีนโผล่มาก็จะหยีๆเบือนหน้าหนี
- เพื่อนสนิทส่วนใหญ่ก็มีแฟน บ้างก็แต่งงานมีลูกแล้วถึงจะยังชวนไปเที่ยวด้วยแต่เธอมักจะปฏิเสธว่าเกรงใจไม่อยากไปเป็นกขค.เพื่อน ถึงปากจะเอาแต่พูดว่าอยู่อย่างนี้ก็ดีอยู่แล้วแต่ใครดูก็รู้ครับว่าเธอเหงา
เพื่อนๆเลยพยายามเกลี้ยกล่อมบ่อยๆให้เธอลองเปิดใจคบคนใหม่ดูบ้างแต่พี่เพ่ยเลือกผลักใสทุกคนออกหมดเลยครับ
ผมเคยเนียนๆบอกเธอว่าผช.บนโลกไม่ได้เหมือนกันหมดทุกคน ถ้าไม่ลองเปิดใจเลยอาจพลาดโอกาสเจอคนดีๆก็ได้นะ
แต่เธอว่าเธอปลงแล้ว ไม่คิดจะแต่งงานด้วย
สำหรับเธอคสพ.มันยุ่งยากเกินไป เคยลองทำตามที่เพื่อนแนะนำแล้วแต่คุยกับใครได้ไม่เกินสองดือนสักคนเพราะกลัวไปก่อนล่วงหน้าว่าจะต้องเจ็บแบบเดิมแน่ๆเลยชิงหนีก่อนตลอดและด้วยคำพูดเลวๆของแฟนเก่านั่นทำให้เธอยิ่งมองไม่เห็นคุณค่าในตัวเอง คิดว่าตัวเองมีตำหนิไม่คู่ควรจะมีความรักดีๆ
และถึงเรื่องมันจะผ่านมานานแล้วแต่เธอสลัดความทรงจำร้ายๆออกจากหัวไม่ได้สักทีเหมือนสมองมันเอาแต่ฉายภาพซ้ำๆเองตลอดเวลาจนเหนื่อยเป็นแบบนี้คงคบกับใครไม่ได้ก็เลยเลือกอยู่คนเดียวดีกว่า
พอได้ฟังแบบนั้น จนถึงทุกวันนี้ผมเลยไม่กล้าสารภาพครส.ครับ เพราะกลัวว่าถ้าพูดออกไปพี่เพ่ยจะถอยหนีเหมือนที่ทำกับคนอื่นหรือเขาอาจรู้อยู่แล้วก็ได้ว่าผมชอบแต่คิดกับผมแค่น้องที่สนิท
แต่ถ้าสมมุติผมสารภาพไปแล้วจากที่เปิดใจถึงขั้นเล่าความลับให้ฟังเกิดปิดขึ้นมาความสนิทเราคงลดลงหรือแย่กว่านั้นผมอาจหมดโอกาสอยู่ใกล้ๆพี่เขาไปเลยก็ได้ จึงคิดว่าเก็บไว้ในใจต่อไปดีกว่า