ขอแนะนำตัวก่อนนะคะ ตอนนี้ อายุ 22 ปี เป็นพนักงานบัญชีอยู่สำนักงานบัญชีแห่งหนึ่ง ค่ะ ทำงานตั้งแต่จบ ปวช. ตอนนั้นก็อายุ 18 ปี เริ่มแรกเป็นพนักงาน 7-11 ได้ 1 เดือน เงินเดือน 11,000 บาท ถ้าผ่านโปร แต่อยู่ไม่ถึง เงินเดือนสุดท้ายก็ไม่ได้รับเพราะออกเลย (เป็นการกระทำที่ไม่ค่อยโอเคเท่าไหร่ แนะนำไม่ควรลอกเลียนแบบ) งานต่อไปเป็น งานด้านสื่อการตลาด ทำได้อยู่ 2 เดือน ได้เงินเป็นรายวัน ไม่ได้ปรับเป็นเงินเดือน เลยตัดสินใจออก งานต่อไปเป็น พนักงานบัญชีอยู่บริษัทผลไม้แปรรูป ทำได้อยู่ 4 เดือน ก็ออก เพราะตัดสินใจมาทำงานที่สำนักงานบัญชี เพราะคิดว่าตรงกับสายงานที่เราเรียนจบมา และกำลังเรียนต่อ ปวส. บัญชี เลยคิดว่าถ้าทำควบคู่กันไปน่าจะโอเค เริ่มแรก เจ้าของก็พูดในเชิงสร้างอนาคตว่า มาทำที่นี่ 5 ปี ก็สามารถที่จะเป็นผู้สอบบัญชี จะไปเปิดเป็นของตัวเองก็ได้ ถ้าหากว่ามีความมุ่งมั่นมากพอ สร้างฝันสารพัด พูดโน้มน้าวใจเก่งมาก เราก็เชื่อเพราะเราเป็นคนมองโลกในแง่ดี เขาใช้คำว่าผู้บริหารฝึกหัด ซึ่งก็ดูเข้าท่าดี แต่พอเรายิ่งอยู่นาน ๆ ขึ้น มันไม่ใช่แบบนั้น เริ่มแรกมีเราคนเดียวในสำนักงานนี้ และก็มีพี่อีกคนหนึ่งที่อยู่อีกสำนักงานหนึ่ง แรก ๆ เราทำงาน 08.00 - 18.00 เพราะเป็นสำนักงานบัญชีที่พ่วงไปรษณีย์ด้วย แถมด้วยตำแหน่งแม่บ้าน บางวันเราอยู่เรทบ้างแต่ไม่ได้โอที เพราะไม่ได้ตอกเวลาทำงาน เราก็ไม่คิดอะไร เพราะคิดว่าหาความรู้ และประสบการณ์ แต่กลับบ้านดึก แม่ก็บ่น เพราะเป็นห่วง ช่วงแรก ๆ ทะเลาะกับแม่บ่อยมาก และตอนนั้นน้องเราจบ ม.ต้น พอดี อยู่ในช่วงปิดเทอม ทางเจ้าของเขาเลยให้มาทำ พาร์ทไทม์ ในฐานะเด็กฝึกงาน ตอนนั้นเขาบอกเราว่า จะให้น้องเราวันละ 300 เราก็ดีใจเอาไปบอกกับน้องเรา แม่เรา สรุปแล้วเงินเดือนออก ได้วันละ 165 ค่าแรงเด็กฝึกงาน เราก็บอกแม่ สรุปก็ทะเลาะกับแม่ ซึ่งเราก็โทษตัวเองว่าคงหูไม่ดีเอง
(เดี๋ยวจะมาต่อในตอนเย็นนะคะ)
ความสุขในปัจจุบัน VS ความมั่นคงในอนาคต
(เดี๋ยวจะมาต่อในตอนเย็นนะคะ)