
เมื่อพูดถึงไทเกอร์ เป็นเรื่องปกติธรรมดาอยู่แล้วที่เราจะได้ยินข่าวคราวเกี่ยวกับตัวเขาน้อยมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ครั้งใหญ่ ที่ชานเมืองลอสแอนเจลีสเมื่อต้นปีที่ผ่านมา จนกระทั้งสองสามวันก่อนที่มีภาพปรากฏเป็นข่าวไปทั่ว เขาพร้อมด้วยแฟนสาวกำลังเดินกลับโรงแรมที่พักในดาวน์ทาวน์ของแอลเอ ในภาพล่าสุดนี้ ไทเกอร์สามารถเดินด้วยตัวเองโดยไม่ต้องมีไม้ค้ำช่วยพยุง แต่เท้าขวาที่ได้รับบาดเจ็บร้ายแรงยังคงมีผ้ายืดพันอยู่
นอกจากภาพนี้จะทำให้ทุกคน โดยเฉพาะแฟนของไทเกอร์ ได้กลับมาตื่นเต้นอีกครั้ง แต่คำถามที่ทุกคนอยากรู้ว่า
เมื่อไหร่เขาจะกลับคืนสังเวียนกอล์ฟได้อีกครั้ง และเขาจะยังมีโอกาสสานต่อภาระกิจเดียวที่เหลืออยู่ นั่นคือการ
ทำลายสถิติ 18 เมเจอร์ของแจ็คหรือไม่ ไทเกอร์ได้ชื่อว่าเป็นคนดังที่ทำตัวได้เงียบที่สุด ทิ้งร่องรอยทางดิจิตอล
ไว้น้อยที่สุด แต่ความลับไม่มีในโลก แม้เจ้าตัวจะเก็บตัวเงียบไม่ให้ข่าวใดๆ แต่ก็ไม่มีอะไรที่สื่อทำไม่ได้ ไม่ได้ทาง
ตรงก็ต้องหาเอาทางอ้อม และแล้วก็มีคำตอบจากบุคคลที่สาม ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของไทเกอร์เอง นั่นคือ จัสตินโธมัส
มาอัพเดทความคืบหน้าอาการของไทเกอร์
เครดิตภาพจาก Fox News ไทเกอร์ พร้อมแฟนสาว เอริกา เฮอร์แมน ขณะเดินกลับโรงแรมที่พักใน LA เมื่อคืนวัน
อาทิตย์ที่ 16 พ.ย ซึ่งเป็นภาพล่าสุดที่วูดส์สามารถเดินด้วยตัวเองโดยไม่ต้องใช้ไม้ค้ำ
ต้องบอกว่าสังคมของไทเกอร์นั้นค่อนข้างจะแคบ เขามีเพื่อนสนิทไม่มาก ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติที่โลกรับรู้มานานแล้ว
เมื่อครั้งสูญเสียพ่อในปี 2006 เจ้าตัวบอกว่าเขาได้สูญเสียเพื่อนที่ดีที่สุดไปแล้ว นอกจากโนทาห์ บีเกย์ เพื่อนสนิท
ที่เล่นกอล์ฟมาด้วยกันตั้งแต่วัยเด็ก ในบรรดาเพื่อนๆโปรในทัวร์ปัจจุบันซึ่งก็มีแค่จำนวนหยิบมือ เช่น รอรีย์ แมคอิลรอย
ริคกี้ ฟาวเลอร์ และ สตีฟ สตริกเกอร์ ซึ่งแม้จะได้ไปเยี่ยมไทเกอร์บ้าง แต่ก็ไม่เคยมีใครปริปากเอ่ยเกี่ยวกับอาการของ
ไทเกอร์เลย แต่ก็มีเพื่อนนักกอล์ฟอีกหนึ่งคน ที่สนิทกับครอบครัวไทเกอร์มากในระยะหลัง นั่นคือ จัสติน โธมัส เขาได้
ออกมาให้สัมภาษณ์กับรายการพ๊อดแคสต์ที่ชื่อ No Laying Up เมื่อสัปดาห์ก่อนนี้ โดยในช่วงท้ายๆของการสัมภาษณ์
ที่ผู้ดำเนินรายการได้สอบถามถึงไทเกอร์ แม้เจ้าตัวจะค่อนข้างระมัดระวังในคำตอบ แต่คำพูดของจัสตินก็ถือเป็นแหล่ง
ข่าวโดยตรงคนแรกและคนเดียวในเวลานี้ ที่มีข้อมูลเผยสู่สาธารณะ
“ผมบอกได้ว่าผมไปที่บ้านเขาสัปดาห์ละสองหรือสามครั้งเป็นประจำอยู่แล้วหากผมอยู่บ้าน (ไม่ได้มีรายการแข่งกอล์ฟ)”
โธมัสกล่าว “ที่ไปค่อนข้างบ่อยเพราะผมมักจะเอาน้องหมาของผมไปเล่นกับหมาของเขา สำหรับไทเกอร์เขาสบายดี
โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาทุกอย่างในภาพรวม ผมคิดว่าเขาเป็นเช่นนั้นนะ กิจวัตรแต่ละวันของเขาดำเนินไปเหมือนกันทุก
วัน นับเป็นสิ่งที่ดีที่อย่างน้อยเขาทำได้ เขาได้ไปทัวร์นาเมนต์กอล์ฟของลูกชาย (ชาร์ลี) และไปชมแมทช์ซอคเกอร์ของ
ลูกสาว (แซม) เขาได้กลับมาทำหน้าที่พ่ออีกครั้ง ซึ่งนั่นเป็นสิ่งสำคัญที่สุด”
เครดิตภาพ Getty Images: ไทเกอร์และชาร์ลี วูดส์ ในรูปแบบ Father & Son ที่รายการ PNC Championship เมื่อปลาย
ปี 2020 ถือเป็นการเปิดตัวลูกชายครั้งแรก พร้อมสร้างความฮือฮา โดยนักวิเคราะห์กอล์ฟเห็นพ้องกันว่า นี่คือวงสวิงแห่ง
ความหวัง นอกจากบุคลิกและท่าทางที่ถอดแบบพ่อมาแทบไม่มีเพี้ยน บางท่านยังบอกว่าวงสวิงของเจ้าหนูชาร์ลีดูดีกว่า
วงของไทเกอร์เสียอีก
โธมัสกล่าวเสริมว่า ลักษณะนิสัยใจคอของไทเกอร์โดยส่วนใหญ่ยังคงเหมือนเดิม เขายังชอบพูดจาสนุกสนาน ชอบอำและ
ประชดประชัน ในส่วนนี้จึงไม่มีอะไรเปลี่ยน “ผมดีใจที่ยังเห็นเขาเป็นคนเดิมที่ร่าเริงและมีชีวิตชีวา” จัสตินกล่าวพร้อมหัวเราะ
ไทเกอร์ ขณะยืนดูลูกชาย ชาร์ลี ซ้อมไดรฟ โดยมีแฟนสาว เอริกา ยืนอยู่ข้างๆ
ในการสัมภาษณ์จัสตินครั้งนี้ มีหลายๆ เรื่องที่น่าสนใจ ทั้งผลงานที่ไม่ค่อยดีนักในปีนี้ เรื่องการพัฒนาด้านเมนทอล รวมไป
ถึงการได้แคดดี้คนใหม่ (จิม แมคเคย์ อดีตแคดดี้ของฟิล มิกเคลสัน) คริส โซโลมอน ผู้ดำเนินรายการ NLU กล่าวว่า แม้เขา
จะลังเลใจแต่ก็อดไม่ได้ที่จะขอล่วงไปถึงเรื่องอนาคตกอล์ฟของไทเกอร์ ซึ่งตัวเขาและผู้คนทั้งโลกต่างใคร่อยากรู้อยากเห็น
ว่า เอาจริงแล้ว ไทเกอร์ยังคิดถึงการคืนสนามแบบจริงจังหรือไม่?
“ผมไม่รู้ ไม่รู้จริงๆ ผมรู้แต่เพียงว่าเขาจะต้องพยายามลองมันแน่นอน” โธมัสตอบ “แต่ผมไม่เคยเห็นเขาลงแข่งกอล์ฟหาก
เขาเล่นได้ไม่ดี เขาไม่ใช่นักกอล์ฟที่แบบว่า เล่นที่สนามหลังบ้านแล้วตีสกอร์ 75 หรือ 76 แล้วจะมาบอกว่า โอเค ผมพร้อม
จะไปแข่งที่ออกัสตาในปีนี้ นั่นไม่ใช่ตัวเขาแน่นอน เขารู้ดีว่ามีโอกาสไม่น้อยว่ามัน (แชมป์เดอะมาสเตอร์เมื่อปี 2019) อาจ
เป็นโอกาสครั้งสุดท้ายของเขาแล้ว แต่ในขณะเดียวกันผมรู้ถึงความมุ่งมั่นที่เขามี และผมรู้ว่าอย่างไรเสียเขาจะต้องขอลอง
อีกครั้งอย่างแน่นอน”
“แน่นอนผมหวังว่าเขาจะต้องลอง แต่ในเวลาเดียวกัน อย่างที่ผมเคยพูดหลังเกิดอุบัติเหตุใหม่ๆ ตราบที่เขายังสามารถทำหน้า
ที่พ่อและมีชีวิตเป็นปกติได้อีกครั้ง นั้นคือภารกิจแรกของเขา ส่วนที่เหลือหากทำได้มากกว่านั้น ถือว่าเป็นกำไร” จัสตินกล่าว
โซโลมอนเห็นด้วยกับจัสตินที่ว่า หลังได้เห็นการคัมแบคอย่างยิ่งใหญ่ของไทเกอร์ในปี 2018-2019 เขาสัญญากับตัวเองว่าจะ
ไม่มีวันตัดไทเกอร์ออกจากโอกาสของการคว้าแชมป์ ไม่ว่าสถานการณ์ของไทเกอร์จะเป็นอย่างไร
แต่กระนั้น ทั้งเขาและโธมัสก็จะไม่สร้างความคาดหวังที่มากเกินเหตุผลและความเป็นจริง แม้กระทั้งหากในวันข้างหน้าที่เขา
กลับมารู้สึกดีอีกครั้ง ได้ไปร่วมแข่งรายการ Father-Son กับชาร์ลีอีก โธมัสกล่าวว่า แม้มันเป็นแค่โอกาสที่เขาจะได้แสดงบท
บาทคุณพ่อ ที่มีความสุขในทุกโมเมนต์กับลูกชายและเฝ้าดูศักยภาพของลูก และไปเป็นกำลังใจในทัวร์นาเมนต์ซอคเกอร์ที่
แซมลงแข่ง ได้เห็นความสามารถทางด้านกีฬาและความฉลาดในตัวลูกสาว และเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเธอ นั่นคือสิ่งที่ไทเกอร์
ต้องการทำ แต่จิตวิญญาณที่รักในการแข่งขันของเขา คงจะไม่ยอมให้เขาเป็นเพียงผู้ชมอยู่ข้างสนามโดยไม่คิดจะกระโดดเข้า
มาในสังเวียนอีกครั้ง ผมมั่นใจเช่นนั้น
เครดิตภาพ Instagram: จัสติน โธมัส แฟนสาว จิลเลียล วิสนิวสกี ที่เพิ่งหมั่นกันเมื่อเร็วๆนี้ และ แฟรงคลิน น้องหมาตัวโปรด
แม้การให้สัมภาษณ์ครั้งนี้ จะไม่ได้ลงลึกในรายละเอียดเกี่ยวกับอาการของไทเกอร์มากนัก ซึ่งก็เป็นมารยาทของทั้งเจ้าของ
รายการในการซักถามและจัสตินเองที่ต้องระมัดระวังในคำตอบ แต่เชื่อว่าเมื่อมีภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหวของไทเกอร์ออก
มาขนาดนี้ อีกไม่นานจะต้องมีผู้เชี่ยวชาญด้านกายภาพ ออกมาวิเคราะห์ถึงความเป็นไปได้ของการกลับมาจับไม้กอล์ฟอีกครั้ง
ส่วนตัวผู้เขียนเองเคยมีหัวหน้าที่ต้องใช้ขาเทียมสูงถึงบริเวณเข่าในขาขวา แต่แกก็ยังสามารถตีกอล์ฟได้ แถมสกอร์ดีด้วย
(สกอร์ 40 +/- สำหรับเก้าหลุม) แม้จะตีลูกไม่ค่อยลอยนัก ในกรณีของไทเกอร์ อาจโชคดีหน่อยที่เป็นเฉพาะเท้าขวา
ที่น่าจะส่งผลต่อวงสวิงน้อยกว่าเท้าซ้าย แต่สุดท้ายก็อยู่ที่ผลการรักษาของแพทย์ ว่าจะทำให้เขากลับมาใกล้เคียงสภาพ
เดิมมากแค่ไหน
ตอนที่ไทเกอร์ผ่าตัดใหญ่ที่แผ่นหลังส่วนล่างในปี 2017 จนต้องพักยาวไปหลายเดือน นักวิเคราะห์กอล์ฟหลายคนบอกว่า
โอกาสกลับมาแข่งกอล์ฟอีกครั้งนั้นแทบจะไม่มี แต่ในปลายปีเดียวกันนั้น เจ้าตัวก็สามารถกลับมาลงสนามได้อีกครั้ง จนมา
คว้าชัยครั้งสำคัญได้ที่รายการ Tour Championship ในปี 2018 ก่อนจะมาระเบิดฟอร์มคว้าเมเจอร์ที่ 15 ที่ออกัสตา เนชั่นแนล
ในปีถัดมา
การปรากฏตัวต่อสาธารณะอย่างเป็นทางการครั้งต่อไปของไทเกอร์จะเป็นเมื่อไหร่ ไม่มีใครตอบได้ แต่ก็มีความเป็นไปได้มาก
ว่าจะเป็นที่รายการ Hero World Challenge ในเดือนหน้าที่เขาเป็นเจ้าภาพ ในขณะเดียวกัน โธมัสและน้องหมาของเขาจะยัง
คงเป็นแขกประจำของครอบครัววูดส์ และหวังว่าเราจะมีข่าวคราวใหม่ๆ ของไทเกอร์มาให้อัพเดทกันต่อไป
กว่า 40 ปีที่นักกอล์ฟคนนี้โลดเล่นในวงการกอล์ฟ ว่ากันว่า กว่าครึ่งหนึ่งของมูลค่าของอุตสาหกรรมกอล์ฟที่เติบโตขึ้นในกว่า
สองทศวรรษที่ผ่านมา ต้องยกให้เป็นเครดิตของไทเกอร์ ในสนามเขาได้สร้างความมหัศจรรย์ไว้มากมาย แต่ชีวิตนอกสนาม
เขาเหมือนพระเยซูที่ถูกตรึงด้วยไม้กางเขน เพื่อไถ่บาปให้กับมวลมนุษย์ทั้งโลก จะเป็นความเห็นแก่ตัวของแฟนกอล์ฟอย่าง
พวกเราเกินไปหรือไม่ ที่อยากจะให้เขา “คัมแบค” อีกครั้ง
คิดถึงผม….ไหม? อัพเดทอาการบาดเจ็บ และ โอกาสคัมแบคของไทเกอร์ วูดส์
เมื่อพูดถึงไทเกอร์ เป็นเรื่องปกติธรรมดาอยู่แล้วที่เราจะได้ยินข่าวคราวเกี่ยวกับตัวเขาน้อยมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ครั้งใหญ่ ที่ชานเมืองลอสแอนเจลีสเมื่อต้นปีที่ผ่านมา จนกระทั้งสองสามวันก่อนที่มีภาพปรากฏเป็นข่าวไปทั่ว เขาพร้อมด้วยแฟนสาวกำลังเดินกลับโรงแรมที่พักในดาวน์ทาวน์ของแอลเอ ในภาพล่าสุดนี้ ไทเกอร์สามารถเดินด้วยตัวเองโดยไม่ต้องมีไม้ค้ำช่วยพยุง แต่เท้าขวาที่ได้รับบาดเจ็บร้ายแรงยังคงมีผ้ายืดพันอยู่
นอกจากภาพนี้จะทำให้ทุกคน โดยเฉพาะแฟนของไทเกอร์ ได้กลับมาตื่นเต้นอีกครั้ง แต่คำถามที่ทุกคนอยากรู้ว่า
เมื่อไหร่เขาจะกลับคืนสังเวียนกอล์ฟได้อีกครั้ง และเขาจะยังมีโอกาสสานต่อภาระกิจเดียวที่เหลืออยู่ นั่นคือการ
ทำลายสถิติ 18 เมเจอร์ของแจ็คหรือไม่ ไทเกอร์ได้ชื่อว่าเป็นคนดังที่ทำตัวได้เงียบที่สุด ทิ้งร่องรอยทางดิจิตอล
ไว้น้อยที่สุด แต่ความลับไม่มีในโลก แม้เจ้าตัวจะเก็บตัวเงียบไม่ให้ข่าวใดๆ แต่ก็ไม่มีอะไรที่สื่อทำไม่ได้ ไม่ได้ทาง
ตรงก็ต้องหาเอาทางอ้อม และแล้วก็มีคำตอบจากบุคคลที่สาม ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของไทเกอร์เอง นั่นคือ จัสตินโธมัส
มาอัพเดทความคืบหน้าอาการของไทเกอร์
เครดิตภาพจาก Fox News ไทเกอร์ พร้อมแฟนสาว เอริกา เฮอร์แมน ขณะเดินกลับโรงแรมที่พักใน LA เมื่อคืนวัน
อาทิตย์ที่ 16 พ.ย ซึ่งเป็นภาพล่าสุดที่วูดส์สามารถเดินด้วยตัวเองโดยไม่ต้องใช้ไม้ค้ำ
ต้องบอกว่าสังคมของไทเกอร์นั้นค่อนข้างจะแคบ เขามีเพื่อนสนิทไม่มาก ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติที่โลกรับรู้มานานแล้ว
เมื่อครั้งสูญเสียพ่อในปี 2006 เจ้าตัวบอกว่าเขาได้สูญเสียเพื่อนที่ดีที่สุดไปแล้ว นอกจากโนทาห์ บีเกย์ เพื่อนสนิท
ที่เล่นกอล์ฟมาด้วยกันตั้งแต่วัยเด็ก ในบรรดาเพื่อนๆโปรในทัวร์ปัจจุบันซึ่งก็มีแค่จำนวนหยิบมือ เช่น รอรีย์ แมคอิลรอย
ริคกี้ ฟาวเลอร์ และ สตีฟ สตริกเกอร์ ซึ่งแม้จะได้ไปเยี่ยมไทเกอร์บ้าง แต่ก็ไม่เคยมีใครปริปากเอ่ยเกี่ยวกับอาการของ
ไทเกอร์เลย แต่ก็มีเพื่อนนักกอล์ฟอีกหนึ่งคน ที่สนิทกับครอบครัวไทเกอร์มากในระยะหลัง นั่นคือ จัสติน โธมัส เขาได้
ออกมาให้สัมภาษณ์กับรายการพ๊อดแคสต์ที่ชื่อ No Laying Up เมื่อสัปดาห์ก่อนนี้ โดยในช่วงท้ายๆของการสัมภาษณ์
ที่ผู้ดำเนินรายการได้สอบถามถึงไทเกอร์ แม้เจ้าตัวจะค่อนข้างระมัดระวังในคำตอบ แต่คำพูดของจัสตินก็ถือเป็นแหล่ง
ข่าวโดยตรงคนแรกและคนเดียวในเวลานี้ ที่มีข้อมูลเผยสู่สาธารณะ
“ผมบอกได้ว่าผมไปที่บ้านเขาสัปดาห์ละสองหรือสามครั้งเป็นประจำอยู่แล้วหากผมอยู่บ้าน (ไม่ได้มีรายการแข่งกอล์ฟ)”
โธมัสกล่าว “ที่ไปค่อนข้างบ่อยเพราะผมมักจะเอาน้องหมาของผมไปเล่นกับหมาของเขา สำหรับไทเกอร์เขาสบายดี
โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาทุกอย่างในภาพรวม ผมคิดว่าเขาเป็นเช่นนั้นนะ กิจวัตรแต่ละวันของเขาดำเนินไปเหมือนกันทุก
วัน นับเป็นสิ่งที่ดีที่อย่างน้อยเขาทำได้ เขาได้ไปทัวร์นาเมนต์กอล์ฟของลูกชาย (ชาร์ลี) และไปชมแมทช์ซอคเกอร์ของ
ลูกสาว (แซม) เขาได้กลับมาทำหน้าที่พ่ออีกครั้ง ซึ่งนั่นเป็นสิ่งสำคัญที่สุด”
เครดิตภาพ Getty Images: ไทเกอร์และชาร์ลี วูดส์ ในรูปแบบ Father & Son ที่รายการ PNC Championship เมื่อปลาย
ปี 2020 ถือเป็นการเปิดตัวลูกชายครั้งแรก พร้อมสร้างความฮือฮา โดยนักวิเคราะห์กอล์ฟเห็นพ้องกันว่า นี่คือวงสวิงแห่ง
ความหวัง นอกจากบุคลิกและท่าทางที่ถอดแบบพ่อมาแทบไม่มีเพี้ยน บางท่านยังบอกว่าวงสวิงของเจ้าหนูชาร์ลีดูดีกว่า
วงของไทเกอร์เสียอีก
โธมัสกล่าวเสริมว่า ลักษณะนิสัยใจคอของไทเกอร์โดยส่วนใหญ่ยังคงเหมือนเดิม เขายังชอบพูดจาสนุกสนาน ชอบอำและ
ประชดประชัน ในส่วนนี้จึงไม่มีอะไรเปลี่ยน “ผมดีใจที่ยังเห็นเขาเป็นคนเดิมที่ร่าเริงและมีชีวิตชีวา” จัสตินกล่าวพร้อมหัวเราะ
ไทเกอร์ ขณะยืนดูลูกชาย ชาร์ลี ซ้อมไดรฟ โดยมีแฟนสาว เอริกา ยืนอยู่ข้างๆ
ในการสัมภาษณ์จัสตินครั้งนี้ มีหลายๆ เรื่องที่น่าสนใจ ทั้งผลงานที่ไม่ค่อยดีนักในปีนี้ เรื่องการพัฒนาด้านเมนทอล รวมไป
ถึงการได้แคดดี้คนใหม่ (จิม แมคเคย์ อดีตแคดดี้ของฟิล มิกเคลสัน) คริส โซโลมอน ผู้ดำเนินรายการ NLU กล่าวว่า แม้เขา
จะลังเลใจแต่ก็อดไม่ได้ที่จะขอล่วงไปถึงเรื่องอนาคตกอล์ฟของไทเกอร์ ซึ่งตัวเขาและผู้คนทั้งโลกต่างใคร่อยากรู้อยากเห็น
ว่า เอาจริงแล้ว ไทเกอร์ยังคิดถึงการคืนสนามแบบจริงจังหรือไม่?
“ผมไม่รู้ ไม่รู้จริงๆ ผมรู้แต่เพียงว่าเขาจะต้องพยายามลองมันแน่นอน” โธมัสตอบ “แต่ผมไม่เคยเห็นเขาลงแข่งกอล์ฟหาก
เขาเล่นได้ไม่ดี เขาไม่ใช่นักกอล์ฟที่แบบว่า เล่นที่สนามหลังบ้านแล้วตีสกอร์ 75 หรือ 76 แล้วจะมาบอกว่า โอเค ผมพร้อม
จะไปแข่งที่ออกัสตาในปีนี้ นั่นไม่ใช่ตัวเขาแน่นอน เขารู้ดีว่ามีโอกาสไม่น้อยว่ามัน (แชมป์เดอะมาสเตอร์เมื่อปี 2019) อาจ
เป็นโอกาสครั้งสุดท้ายของเขาแล้ว แต่ในขณะเดียวกันผมรู้ถึงความมุ่งมั่นที่เขามี และผมรู้ว่าอย่างไรเสียเขาจะต้องขอลอง
อีกครั้งอย่างแน่นอน”
“แน่นอนผมหวังว่าเขาจะต้องลอง แต่ในเวลาเดียวกัน อย่างที่ผมเคยพูดหลังเกิดอุบัติเหตุใหม่ๆ ตราบที่เขายังสามารถทำหน้า
ที่พ่อและมีชีวิตเป็นปกติได้อีกครั้ง นั้นคือภารกิจแรกของเขา ส่วนที่เหลือหากทำได้มากกว่านั้น ถือว่าเป็นกำไร” จัสตินกล่าว
โซโลมอนเห็นด้วยกับจัสตินที่ว่า หลังได้เห็นการคัมแบคอย่างยิ่งใหญ่ของไทเกอร์ในปี 2018-2019 เขาสัญญากับตัวเองว่าจะ
ไม่มีวันตัดไทเกอร์ออกจากโอกาสของการคว้าแชมป์ ไม่ว่าสถานการณ์ของไทเกอร์จะเป็นอย่างไร
แต่กระนั้น ทั้งเขาและโธมัสก็จะไม่สร้างความคาดหวังที่มากเกินเหตุผลและความเป็นจริง แม้กระทั้งหากในวันข้างหน้าที่เขา
กลับมารู้สึกดีอีกครั้ง ได้ไปร่วมแข่งรายการ Father-Son กับชาร์ลีอีก โธมัสกล่าวว่า แม้มันเป็นแค่โอกาสที่เขาจะได้แสดงบท
บาทคุณพ่อ ที่มีความสุขในทุกโมเมนต์กับลูกชายและเฝ้าดูศักยภาพของลูก และไปเป็นกำลังใจในทัวร์นาเมนต์ซอคเกอร์ที่
แซมลงแข่ง ได้เห็นความสามารถทางด้านกีฬาและความฉลาดในตัวลูกสาว และเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเธอ นั่นคือสิ่งที่ไทเกอร์
ต้องการทำ แต่จิตวิญญาณที่รักในการแข่งขันของเขา คงจะไม่ยอมให้เขาเป็นเพียงผู้ชมอยู่ข้างสนามโดยไม่คิดจะกระโดดเข้า
มาในสังเวียนอีกครั้ง ผมมั่นใจเช่นนั้น
เครดิตภาพ Instagram: จัสติน โธมัส แฟนสาว จิลเลียล วิสนิวสกี ที่เพิ่งหมั่นกันเมื่อเร็วๆนี้ และ แฟรงคลิน น้องหมาตัวโปรด
แม้การให้สัมภาษณ์ครั้งนี้ จะไม่ได้ลงลึกในรายละเอียดเกี่ยวกับอาการของไทเกอร์มากนัก ซึ่งก็เป็นมารยาทของทั้งเจ้าของ
รายการในการซักถามและจัสตินเองที่ต้องระมัดระวังในคำตอบ แต่เชื่อว่าเมื่อมีภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหวของไทเกอร์ออก
มาขนาดนี้ อีกไม่นานจะต้องมีผู้เชี่ยวชาญด้านกายภาพ ออกมาวิเคราะห์ถึงความเป็นไปได้ของการกลับมาจับไม้กอล์ฟอีกครั้ง
ส่วนตัวผู้เขียนเองเคยมีหัวหน้าที่ต้องใช้ขาเทียมสูงถึงบริเวณเข่าในขาขวา แต่แกก็ยังสามารถตีกอล์ฟได้ แถมสกอร์ดีด้วย
(สกอร์ 40 +/- สำหรับเก้าหลุม) แม้จะตีลูกไม่ค่อยลอยนัก ในกรณีของไทเกอร์ อาจโชคดีหน่อยที่เป็นเฉพาะเท้าขวา
ที่น่าจะส่งผลต่อวงสวิงน้อยกว่าเท้าซ้าย แต่สุดท้ายก็อยู่ที่ผลการรักษาของแพทย์ ว่าจะทำให้เขากลับมาใกล้เคียงสภาพ
เดิมมากแค่ไหน
ตอนที่ไทเกอร์ผ่าตัดใหญ่ที่แผ่นหลังส่วนล่างในปี 2017 จนต้องพักยาวไปหลายเดือน นักวิเคราะห์กอล์ฟหลายคนบอกว่า
โอกาสกลับมาแข่งกอล์ฟอีกครั้งนั้นแทบจะไม่มี แต่ในปลายปีเดียวกันนั้น เจ้าตัวก็สามารถกลับมาลงสนามได้อีกครั้ง จนมา
คว้าชัยครั้งสำคัญได้ที่รายการ Tour Championship ในปี 2018 ก่อนจะมาระเบิดฟอร์มคว้าเมเจอร์ที่ 15 ที่ออกัสตา เนชั่นแนล
ในปีถัดมา
การปรากฏตัวต่อสาธารณะอย่างเป็นทางการครั้งต่อไปของไทเกอร์จะเป็นเมื่อไหร่ ไม่มีใครตอบได้ แต่ก็มีความเป็นไปได้มาก
ว่าจะเป็นที่รายการ Hero World Challenge ในเดือนหน้าที่เขาเป็นเจ้าภาพ ในขณะเดียวกัน โธมัสและน้องหมาของเขาจะยัง
คงเป็นแขกประจำของครอบครัววูดส์ และหวังว่าเราจะมีข่าวคราวใหม่ๆ ของไทเกอร์มาให้อัพเดทกันต่อไป
กว่า 40 ปีที่นักกอล์ฟคนนี้โลดเล่นในวงการกอล์ฟ ว่ากันว่า กว่าครึ่งหนึ่งของมูลค่าของอุตสาหกรรมกอล์ฟที่เติบโตขึ้นในกว่า
สองทศวรรษที่ผ่านมา ต้องยกให้เป็นเครดิตของไทเกอร์ ในสนามเขาได้สร้างความมหัศจรรย์ไว้มากมาย แต่ชีวิตนอกสนาม
เขาเหมือนพระเยซูที่ถูกตรึงด้วยไม้กางเขน เพื่อไถ่บาปให้กับมวลมนุษย์ทั้งโลก จะเป็นความเห็นแก่ตัวของแฟนกอล์ฟอย่าง
พวกเราเกินไปหรือไม่ ที่อยากจะให้เขา “คัมแบค” อีกครั้ง