คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 9
เราเคยหาคำตอบเรื่องประมาณนี้ เราอยากรู้ว่า แนวทางพุทธให้รับมือยังไง?
เราหาคลิปที่เคยฟังไม่เจอค่ะ ขอสรุปคร่าวๆ เท่าที่จำได้ คือ
ควรแยกเป็น 2 กรณีนะคะสำหรับชาวพุทธที่ประสงค์จะเดินตามแนวทางของพระพุทธองค์
ไม่ใช่ประสงค์จะทำตามใจตัวเองที่ถูกกระทบนะคะ
1. เมื่อมีใครมาตำหนิ/ด่าทอ ตัวเราหรือพระพุทธเจ้า หรือครูอาจารย์
หรือศาสนา หรือสิ่งต่างๆ ที่เรานับถือ
เราต้องมีสติระงับอารมณ์โกรธ อารมณ์ไม่พอใจ
ไม่ตอบโต้กลับด้วยอารมณ์
แล้วพิจารณาว่า สิ่งที่เขาตำหนินั้นเป็นเรื่องจริงหรือไม่?
หากไม่จริง ไม่ถูกต้อง หรือเขามีความเข้าใจผิด
และเรามีข้อมูลความรู้ที่ถูกต้อง + มีวาระโอกาสที่เหมาะสม
เราก็ทำการชี้แจงข้อมูล ด้วยใจที่เมตตา ไม่ตอบโต้ด้วยความโกรธเกลียด
หากพิจารณาแล้วว่า ไม่มีเหตุสมควรให้ต้องชี้แจง หรือไม่อยู่ในสภาะที่จะชี้แจงได้
ก็ให้เลี่ยงการกระทบกระทั่งไป
สมมติเหมือน มีคนบ้า คนเมา เขากำลังคุกรุ่นด้วยความเข้าใจผิด
คุกรุ่นด้วยอารมณ์ หรือขาดสติอย่างมาก
เราจะไปพูดคุย อธิบายอะไร เขาก็ไม่พร้อมที่จะใช้สติปัญญาพิจารณา
ก็เปล่าประโยชน์ เราก็เลี่ยงๆ ไปซะ
2. การที่คนเราไม่เชื่อในสิ่งใดที่คนอื่นเขาเชื่อกัน มันเป็นเรื่องไม่แปลก
คนเรามีจริตนิสัย มีความเชื่อที่หลากหลายมากๆ ๆๆๆๆ
แต่เราก็ควรหลีกเลี่ยงการที่จะทำอะไรก็ตาม
ไปกระทบกระทั่งกับความเชื่อของผู้อื่นโดยไม่จำเป็น
เพราะถึงแม้ พระพุทธเจ้าจะสอนให้ชาวพุทธให้อภัย เมตตาต่อผู้ที่คิดร้าย ต่อผู้ที่เข้าใจผิด
ก็ไม่ได้หมายความว่า ชาวพุทธทุกคน จะฝึกตนจนทำได้อย่างที่พระพุทธองค์สอนไว้ 100%
เพราะฉะนั้น ชาวพุทธหลายท่าน ก็ยังเลือกที่จะตอบโต้ความหยาบคายด้วยความหยาบคาย
ตอบโต้ความรุนแรงด้วยความรุนแรง ฯลฯ
ซึ่งแน่นอน มันก็ขัดกับคำสอนของพระพุทธองค์ แต่กิเลสก็มีข้ออ้างให้คนเราตอบสนองสิ่งที่ไม่พอใจ
ด้วยการตอบโต้แบบใช้อารมณ์นำหน้าอยู่บ่อยๆ
เราหาคลิปที่เคยฟังไม่เจอค่ะ ขอสรุปคร่าวๆ เท่าที่จำได้ คือ
ควรแยกเป็น 2 กรณีนะคะสำหรับชาวพุทธที่ประสงค์จะเดินตามแนวทางของพระพุทธองค์
ไม่ใช่ประสงค์จะทำตามใจตัวเองที่ถูกกระทบนะคะ
1. เมื่อมีใครมาตำหนิ/ด่าทอ ตัวเราหรือพระพุทธเจ้า หรือครูอาจารย์
หรือศาสนา หรือสิ่งต่างๆ ที่เรานับถือ
เราต้องมีสติระงับอารมณ์โกรธ อารมณ์ไม่พอใจ
ไม่ตอบโต้กลับด้วยอารมณ์
แล้วพิจารณาว่า สิ่งที่เขาตำหนินั้นเป็นเรื่องจริงหรือไม่?
หากไม่จริง ไม่ถูกต้อง หรือเขามีความเข้าใจผิด
และเรามีข้อมูลความรู้ที่ถูกต้อง + มีวาระโอกาสที่เหมาะสม
เราก็ทำการชี้แจงข้อมูล ด้วยใจที่เมตตา ไม่ตอบโต้ด้วยความโกรธเกลียด
หากพิจารณาแล้วว่า ไม่มีเหตุสมควรให้ต้องชี้แจง หรือไม่อยู่ในสภาะที่จะชี้แจงได้
ก็ให้เลี่ยงการกระทบกระทั่งไป
สมมติเหมือน มีคนบ้า คนเมา เขากำลังคุกรุ่นด้วยความเข้าใจผิด
คุกรุ่นด้วยอารมณ์ หรือขาดสติอย่างมาก
เราจะไปพูดคุย อธิบายอะไร เขาก็ไม่พร้อมที่จะใช้สติปัญญาพิจารณา
ก็เปล่าประโยชน์ เราก็เลี่ยงๆ ไปซะ
2. การที่คนเราไม่เชื่อในสิ่งใดที่คนอื่นเขาเชื่อกัน มันเป็นเรื่องไม่แปลก
คนเรามีจริตนิสัย มีความเชื่อที่หลากหลายมากๆ ๆๆๆๆ
แต่เราก็ควรหลีกเลี่ยงการที่จะทำอะไรก็ตาม
ไปกระทบกระทั่งกับความเชื่อของผู้อื่นโดยไม่จำเป็น
เพราะถึงแม้ พระพุทธเจ้าจะสอนให้ชาวพุทธให้อภัย เมตตาต่อผู้ที่คิดร้าย ต่อผู้ที่เข้าใจผิด
ก็ไม่ได้หมายความว่า ชาวพุทธทุกคน จะฝึกตนจนทำได้อย่างที่พระพุทธองค์สอนไว้ 100%
เพราะฉะนั้น ชาวพุทธหลายท่าน ก็ยังเลือกที่จะตอบโต้ความหยาบคายด้วยความหยาบคาย
ตอบโต้ความรุนแรงด้วยความรุนแรง ฯลฯ
ซึ่งแน่นอน มันก็ขัดกับคำสอนของพระพุทธองค์ แต่กิเลสก็มีข้ออ้างให้คนเราตอบสนองสิ่งที่ไม่พอใจ
ด้วยการตอบโต้แบบใช้อารมณ์นำหน้าอยู่บ่อยๆ
แสดงความคิดเห็น
สงสัยกรณีดราม่าของโตซิลลี่ฟูลและนัท นิสามณี
เมื่อ3-4ปีก่อนมีดราม่าของโต ซิลลี่ฟูลที่ออกมาพูดในเรื่องของ"ทำไมอิสลามจึงไม่มีวัตถุตัวแทนไว้กราบไหว้บูชา"ซึ่งมีการพาเพิงถึงพระพุทธรูปบ้านเรา(ซึ่งในพุทธกาลพระพุทธเจ้าก็ไม่เคยสั่งให้สร้างพระพุทธรูป) ถึงตอนนั้นโตจะออกมาขอโทษเป็นการใหญ่ ชาวพุทธไทยเราก็ยังด่ากันซะยับยู่ยี่ คุ้นๆว่าร้านเนื้อของโตเกือบเจ๊ง แต่ทำไมกรณีของนัท ชาวเน็ตถึงปกป้องกันเยอะทั้งยังมีคนออกด่าคนที่เห็นต่างหรือไม่ถูกใจ อยากถามว่ามันคนละมักกะโรนีตรงไหนครับ